ข้อมูลตัวหนาที่ปรับแต่ง ข้อความวันที่ 17/1/2025 นี้
คือหลังจากตำรวจสรุปสำนวนเพื่อส่งฟ้องอัยการเกือบสามปีแล้วนะครับ
-จากเท่าที่ติดตามมา ทางฝั่งตำรวจการสรุปคดี และฝั่งพยานที่ใกลชิดที่สุด แซนบอกว่า
แตงโมตกน้ำแล้วมีการจับ (การเกาะ) ที่บริเวณกาบซ้ายของเรือ สปีดโบ๊ท ไม่ใช่ดีดตัวออกจากเรือ
จะย้ำนิดนะครับว่าข้อมูลตรงนี้อาจสำคัญกับสิ่งที่มีแพทย์เขียนด้านล่างนี้ที่ไม่หนานะครับ
................................................................................................................................
เห็นเพื่อนส่งมา ข้อมูลดีครับ (เขียนจากแพทย์) สื่อควรนำเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากกว่าไปทาง series หรือ drama story นะครับ หมอดู หมอเดาอะไรเลิกเหอะครับ..... เสพกันมาหนึ่งอาทิตย์แล้วกรณีแตงโม ภัทรธิดา (นิดา) ตอนแรก Focus ถูกจุดกันแล้วเรื่อง ฉี่หรือไม่ฉี่จริง แต่.... ช่วงแรกนิติเวชยืนยันว่า หูรูดกระเพาะปัสสาวะ คลายตัวและเน่าเปื่อย ทําให้ไม่สามารถตรวจหาปัสสาวะได้ ต่อมามาสงสัยกันเรื่องรอยบาดแผลที่ต้นขาขวาด้านในว่าเกิดจากอะไร วันนี้ยืนยันแล้วว่า นิติเวชยืนยันว่าเกิดจากใบพัดเรือ และเกิดหลังจากตกเรือไปแล้ว สังคมสงสัยอีกว่า เกิดขึ้นได้อย่างไรแน่ใจหรือใบพัดเรือ?
บทความนี้ คิดว่าผู้เขียนน่าจะเขียนเอาจากเรื่องที่ คุณแซนออกรายการโหนกระแส หนุ่มกรรชัยแล้วพูดว่า โมไปนั่งฉี่ท้ายเรือจริง แล้วพลัดไปทางซ้ายของกราบเรือสปีดโบ๊ทด้านหลัง และคนในเรือยังส่งไลน์ และให้การคุยไปยังเพื่อนๆ ทั้งส่งไลน์และคุยโทรศัพท์ว่า "โมฉี่ท้ายเรือ"
แหล่งที่มา Facebook: ทันตแพทย์สม สุจิรา...... (Post เมื่อ7/3/2565)
“วิเคราะห์กรณีตกเรือ”
....เท่าที่อ่านข่าวมา ยังไม่มีการวิเคราะห์ในเชิงวิทยาศาสตร์ คิดว่า น่าจะมีประโยชน์สำหรับคดี....
ตามธรรมชาติของ “ของไหล” ไม่ว่าจะเป็นน้ำหรืออากาศ ถ้าวิ่งเร็วขึ้น ความดันจะตก เราจึงใช้ความรู้นี้มาสร้างปีกเครื่องบิน (ดูรูปประกอบบทความ) เช่นเดียวกับใต้ท้องเรือที่โค้งคล้ายปีกเครื่องบิน โมเลกุลน้ำจะวิ่งเร็วที่สุด ความดันใต้ท้องเรือจะน้อยกว่าด้านข้างเรือ จากรูป พยานบนเรือบอกว่า ตอนคุณแตงโมตกน้ำไป ยังมีสติจับขอบเรือได้ในทันที ( ตรงศรชี้ ) คุณแตงโมจบจากโรงเรียนเพ็ญสมิทธ์ ซึ่งมีสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานโอลิมปิก และเน้นให้นักเรียนในโรงเรียนทุกคนว่ายน้ำเป็น ดังนั้น เรื่องตกใจจนขาดสติ เพราะตกน้ำ ไม่เกิดขึ้นแน่นอน
ปัญหาคือ ขณะที่คุณแตงโมตกน้ำ เรือยังแล่นอยู่ ความดันใต้ท้องเรือลดลง ทำให้เกิดแรงผลักจากน้ำรอบๆเรือเข้าไปทางใต้ท้องเรือ ( หรือจะบอกว่า มีแรงดูดจากใต้ท้องเรือก็ได้ ) ทำให้ร่างกายส่วนล่างทั้งหมด ถูกดูดเข้าไปที่ใต้ท้องเรือ แม้ว่ามือจะจับกราบเรือไว้ได้ก็ตาม และเมื่อเรือแล่นไปข้างหน้า ส่วนขาของคุณแตงโมจะลู่ตามน้ำ ค่อนไปทางด้านหลัง ซึ่งบริเวณนั้นตรงกับใบพัดเรือพอดี
>>> นี่คือเหตุผลว่า ทำไมมีบาดแผลขนาดใหญ่ที่ต้นขา
คนส่วนใหญ่มักคิดว่า ถ้าจับกราบเรือ เอวและขา ควรจะเบี่ยงออกจากตัวเรือ เหมือนกับที่เราจับขอบสระว่ายน้ำ ถ้าเป็นเรือที่จอดอยู่นิ่งๆจะเป็นเช่นนั้น แต่ถ้าเรือวิ่งอยู่ ร่างกายส่วนล่างจะงอเข้าใต้ท้องเรือทันที เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าคนขับดับเครื่องทันทีที่รู้ว่า มีคนตกน้ำ แต่มันคงเกิดขึ้นเร็วมาก ประกอบกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ทำให้การตัดสินใจช้าลงไป 5-10 วินาที หลังจากที่ขาถูกใบพัด ก็ร่วงลงสู่พื้นน้ำอย่างรวดเร็ว ทำให้แม้จะวนเรือกลับมาหา ก็ไม่เจออะไร
มองในกรณีความดันน้ำ ถ้าตกเรือ แล้วว่ายน้ำเป็น หรือใส่ชูชีพอยู่ ควรว่ายออกห่างจากเรือสักสองสามเมตร รอให้คนขับดับเครื่องและโยนห่วงยางลงมา การจับกราบเรือ แม้จะด้านหน้าก็อันตราย เพราะถ้ามือหลุดจากกราบเรือ ร่างกายจะถูกดูดเข้าใต้ท้องเรือทันที และถ้าเรือกำลังวิ่งอยู่ ก็จะตรงไปยังใบพัดอย่างรวดเร็ว จากที่ดูรูป เรือแบบนี้อันตรายมาก การเปิดส่วนท้ายให้แบนราบ ขนานไปพื้นน้ำ แม้จะทำให้ฟินเวลานั่ง แต่โอกาสตกน้ำ ก็สูงมากเช่นกัน ควรออกกฎหมายห้ามเปิดท้ายเรือในทุกกรณี (ลองนึกภาพรถปิคอัพ เปิดด้านท้ายใครจะกล้านั่ง แต่สำหรับเรือเห็นนั่ง่กันสนุกสนาน)
และควรนำความรู้นี้ มาบังคับใช้กับชายหาดต่างๆ ที่มีเรือสปีดโบ๊ตหรือเจ็ตสกี วิ่งไปมาอย่างน่าหวาดเสียว เพราะถ้าเฉียดเข้ามาในระดับหนึ่งเมตร ร่างของคนที่ว่ายน้ำอยู่บริเวณนั้น จะถูกดูดเข้าไปทันที โดยเฉพาะในเด็กตัวเล็ก จะหลุดเข้าไปที่ใบพัดง่ายมาก ไม่เฉพาะน้ำ ลมก็เช่นเดียวกัน บางครั้งเรานึกว่า ยืนอยู่ริมถนนห่างจากรถหลายเมตร แต่ถ้ามีสิบล้อที่วิ่งเร็วๆเข้ามา ลมด้านข้างรถสิบล้อจะไหลเร็วกว่า ทำให้ความดันตก ดูดคนที่ยืนอยู่ริมถนนเข้าไปใต้ล้อได้ นักแข่งรถ หรือนักปั่นจักรยานจะรู้เรื่องนี้ดี ถ้าขับตามหลังรถที่กำลังวิ่งเร็วๆ ลมท้ายรถคันหน้าที่ไหลเร็วมากๆ จะดูดจักรยาน หรือรถที่วิ่งตามท้าย ติดไปด้วย ส่วนเรื่องทำไมถึงตกน้ำ ตกเพราะอะไร ตกเองหรือมีใครผลัก เรือกระชากไหม เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นเป็นอย่างไร คนขับเรือเป็นใคร ดื่มแอลกอฮอล์ไปขนาดไหน ขอให้เป็นเรื่องของตำรวจ ที่จะหาความจริง
.............................................................................................................................................................................
ข้างล่างเส้นประนี้เป็นความเห็นของผู้ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมานะครับ ขออนุญาตแสดงความคิดเห็น และเรื่องรูปภาพบาดแผลคุณแตงโม
ไม่ขอนำมาลงในเว็บนี้นะครับกลัวกระทู้ปลิว คิดว่าบางคนอาจผ่านตามาบ้างครับ
จากบทความนี้จะเห็นได้ว่า บาดแผลระดับนี้ นี่คือจุดตายเลย เสียเลือดมากเผลอๆช็อคในน้ำ ต่อให้ว่ายน้ำเก่งยังไงก็ลำบาก รอดยาก
ส่วนที่ว่า ฉี่ยังไง บอดี้สูท พี่หนุ่มกรรชัยถาม แซนคุณแน่ใจนะว่าเขาฉี่ "ร้อยเปอร์เซ็นต์คะ" คือความคิดถ้าออกมาแบบนี้นะ ถ้านิติเวชชันสูตรแล้ว ตรงกับร่องรอยใบพัดเรือสปีดโบ๊ทจริง อะไรจริง แล้วแซนคือพยานที่ใกล้ชิดที่สุด ตอนก่อนที่แตงโมจะพลัดตก เพื่อนที่เป็นทนายบอก พยานรายนี้ซักยังไงก็ซักไม่แตก เพราะเห็นเหตุการณ์ใกล้ชิดคนเดียว ก่อนพลัดตกน้ำ ไม่มีคนอื่นเห็น มิหน้าละข่าวออกมาว่า ตำรวจเรียกสอบหลายชั่วโมง หลายรอบ แซนให้การเหมือนเดิม แถมในที่ประชุมตำรวจที่ทำคดีชี้แจงเมื่อวันที่ 8/3/2565 ว่าเราโทรไปแล้วเปิดลำโพงSpeaker ให้คณะกรรมการฟังถึงจังหวะเหตุการณ์ตอนตก เหตุการณ์เรือกระตุกจากการเปลี่ยนความเร็ว หลักฐาน GPS การเปลี่นความเร็ว ตรงนี้มาคิดถ้าคดีขึ้นศาล ฝ่ายจำเลย เอาจุดตรงนี้สู้ได้เลย สู้คือ คุณกระทำตนไปฉี่ท้ายเรือจริง คุณเองก็ประมาท และทางตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคหนึ่ง ชี้แจงมาแล้วว่า เบิร์ตที่อยู่บนเรือยอมรับว่า เขาไม่มีประสบการณ์ขับเรือ ขับเรือไม่เป็น และมาขับ ส่วนพยานบนเรือหลังจากสอบเค้นก็ให้การว่าเหมือนเรือเกิดจังหวะการกระตุก
ข้างล่างนี้ไทยรัฐทำคลิปมาเป็นไม่รู้เรียกถูกไหม Infographic ที่อธิบายให้เข้าใจง่ายพอสมควร 3 นาที เข้ากับสิ่งที่ทันตแพทย์ท่านนี้เขียนมา
วิเคราะห์การเสียชีวิตของแตงโม กรณีบาดแผลที่ถูกใบพัดเรือ
คือหลังจากตำรวจสรุปสำนวนเพื่อส่งฟ้องอัยการเกือบสามปีแล้วนะครับ
-จากเท่าที่ติดตามมา ทางฝั่งตำรวจการสรุปคดี และฝั่งพยานที่ใกลชิดที่สุด แซนบอกว่า
แตงโมตกน้ำแล้วมีการจับ (การเกาะ) ที่บริเวณกาบซ้ายของเรือ สปีดโบ๊ท ไม่ใช่ดีดตัวออกจากเรือ
จะย้ำนิดนะครับว่าข้อมูลตรงนี้อาจสำคัญกับสิ่งที่มีแพทย์เขียนด้านล่างนี้ที่ไม่หนานะครับ
................................................................................................................................
เห็นเพื่อนส่งมา ข้อมูลดีครับ (เขียนจากแพทย์) สื่อควรนำเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากกว่าไปทาง series หรือ drama story นะครับ หมอดู หมอเดาอะไรเลิกเหอะครับ..... เสพกันมาหนึ่งอาทิตย์แล้วกรณีแตงโม ภัทรธิดา (นิดา) ตอนแรก Focus ถูกจุดกันแล้วเรื่อง ฉี่หรือไม่ฉี่จริง แต่.... ช่วงแรกนิติเวชยืนยันว่า หูรูดกระเพาะปัสสาวะ คลายตัวและเน่าเปื่อย ทําให้ไม่สามารถตรวจหาปัสสาวะได้ ต่อมามาสงสัยกันเรื่องรอยบาดแผลที่ต้นขาขวาด้านในว่าเกิดจากอะไร วันนี้ยืนยันแล้วว่า นิติเวชยืนยันว่าเกิดจากใบพัดเรือ และเกิดหลังจากตกเรือไปแล้ว สังคมสงสัยอีกว่า เกิดขึ้นได้อย่างไรแน่ใจหรือใบพัดเรือ?
บทความนี้ คิดว่าผู้เขียนน่าจะเขียนเอาจากเรื่องที่ คุณแซนออกรายการโหนกระแส หนุ่มกรรชัยแล้วพูดว่า โมไปนั่งฉี่ท้ายเรือจริง แล้วพลัดไปทางซ้ายของกราบเรือสปีดโบ๊ทด้านหลัง และคนในเรือยังส่งไลน์ และให้การคุยไปยังเพื่อนๆ ทั้งส่งไลน์และคุยโทรศัพท์ว่า "โมฉี่ท้ายเรือ"
แหล่งที่มา Facebook: ทันตแพทย์สม สุจิรา...... (Post เมื่อ7/3/2565)
“วิเคราะห์กรณีตกเรือ”
....เท่าที่อ่านข่าวมา ยังไม่มีการวิเคราะห์ในเชิงวิทยาศาสตร์ คิดว่า น่าจะมีประโยชน์สำหรับคดี....
ตามธรรมชาติของ “ของไหล” ไม่ว่าจะเป็นน้ำหรืออากาศ ถ้าวิ่งเร็วขึ้น ความดันจะตก เราจึงใช้ความรู้นี้มาสร้างปีกเครื่องบิน (ดูรูปประกอบบทความ) เช่นเดียวกับใต้ท้องเรือที่โค้งคล้ายปีกเครื่องบิน โมเลกุลน้ำจะวิ่งเร็วที่สุด ความดันใต้ท้องเรือจะน้อยกว่าด้านข้างเรือ จากรูป พยานบนเรือบอกว่า ตอนคุณแตงโมตกน้ำไป ยังมีสติจับขอบเรือได้ในทันที ( ตรงศรชี้ ) คุณแตงโมจบจากโรงเรียนเพ็ญสมิทธ์ ซึ่งมีสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานโอลิมปิก และเน้นให้นักเรียนในโรงเรียนทุกคนว่ายน้ำเป็น ดังนั้น เรื่องตกใจจนขาดสติ เพราะตกน้ำ ไม่เกิดขึ้นแน่นอน
ปัญหาคือ ขณะที่คุณแตงโมตกน้ำ เรือยังแล่นอยู่ ความดันใต้ท้องเรือลดลง ทำให้เกิดแรงผลักจากน้ำรอบๆเรือเข้าไปทางใต้ท้องเรือ ( หรือจะบอกว่า มีแรงดูดจากใต้ท้องเรือก็ได้ ) ทำให้ร่างกายส่วนล่างทั้งหมด ถูกดูดเข้าไปที่ใต้ท้องเรือ แม้ว่ามือจะจับกราบเรือไว้ได้ก็ตาม และเมื่อเรือแล่นไปข้างหน้า ส่วนขาของคุณแตงโมจะลู่ตามน้ำ ค่อนไปทางด้านหลัง ซึ่งบริเวณนั้นตรงกับใบพัดเรือพอดี
>>> นี่คือเหตุผลว่า ทำไมมีบาดแผลขนาดใหญ่ที่ต้นขา
คนส่วนใหญ่มักคิดว่า ถ้าจับกราบเรือ เอวและขา ควรจะเบี่ยงออกจากตัวเรือ เหมือนกับที่เราจับขอบสระว่ายน้ำ ถ้าเป็นเรือที่จอดอยู่นิ่งๆจะเป็นเช่นนั้น แต่ถ้าเรือวิ่งอยู่ ร่างกายส่วนล่างจะงอเข้าใต้ท้องเรือทันที เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าคนขับดับเครื่องทันทีที่รู้ว่า มีคนตกน้ำ แต่มันคงเกิดขึ้นเร็วมาก ประกอบกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ทำให้การตัดสินใจช้าลงไป 5-10 วินาที หลังจากที่ขาถูกใบพัด ก็ร่วงลงสู่พื้นน้ำอย่างรวดเร็ว ทำให้แม้จะวนเรือกลับมาหา ก็ไม่เจออะไร
มองในกรณีความดันน้ำ ถ้าตกเรือ แล้วว่ายน้ำเป็น หรือใส่ชูชีพอยู่ ควรว่ายออกห่างจากเรือสักสองสามเมตร รอให้คนขับดับเครื่องและโยนห่วงยางลงมา การจับกราบเรือ แม้จะด้านหน้าก็อันตราย เพราะถ้ามือหลุดจากกราบเรือ ร่างกายจะถูกดูดเข้าใต้ท้องเรือทันที และถ้าเรือกำลังวิ่งอยู่ ก็จะตรงไปยังใบพัดอย่างรวดเร็ว จากที่ดูรูป เรือแบบนี้อันตรายมาก การเปิดส่วนท้ายให้แบนราบ ขนานไปพื้นน้ำ แม้จะทำให้ฟินเวลานั่ง แต่โอกาสตกน้ำ ก็สูงมากเช่นกัน ควรออกกฎหมายห้ามเปิดท้ายเรือในทุกกรณี (ลองนึกภาพรถปิคอัพ เปิดด้านท้ายใครจะกล้านั่ง แต่สำหรับเรือเห็นนั่ง่กันสนุกสนาน)
และควรนำความรู้นี้ มาบังคับใช้กับชายหาดต่างๆ ที่มีเรือสปีดโบ๊ตหรือเจ็ตสกี วิ่งไปมาอย่างน่าหวาดเสียว เพราะถ้าเฉียดเข้ามาในระดับหนึ่งเมตร ร่างของคนที่ว่ายน้ำอยู่บริเวณนั้น จะถูกดูดเข้าไปทันที โดยเฉพาะในเด็กตัวเล็ก จะหลุดเข้าไปที่ใบพัดง่ายมาก ไม่เฉพาะน้ำ ลมก็เช่นเดียวกัน บางครั้งเรานึกว่า ยืนอยู่ริมถนนห่างจากรถหลายเมตร แต่ถ้ามีสิบล้อที่วิ่งเร็วๆเข้ามา ลมด้านข้างรถสิบล้อจะไหลเร็วกว่า ทำให้ความดันตก ดูดคนที่ยืนอยู่ริมถนนเข้าไปใต้ล้อได้ นักแข่งรถ หรือนักปั่นจักรยานจะรู้เรื่องนี้ดี ถ้าขับตามหลังรถที่กำลังวิ่งเร็วๆ ลมท้ายรถคันหน้าที่ไหลเร็วมากๆ จะดูดจักรยาน หรือรถที่วิ่งตามท้าย ติดไปด้วย ส่วนเรื่องทำไมถึงตกน้ำ ตกเพราะอะไร ตกเองหรือมีใครผลัก เรือกระชากไหม เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นเป็นอย่างไร คนขับเรือเป็นใคร ดื่มแอลกอฮอล์ไปขนาดไหน ขอให้เป็นเรื่องของตำรวจ ที่จะหาความจริง
.............................................................................................................................................................................
ข้างล่างเส้นประนี้เป็นความเห็นของผู้ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมานะครับ ขออนุญาตแสดงความคิดเห็น และเรื่องรูปภาพบาดแผลคุณแตงโม
ไม่ขอนำมาลงในเว็บนี้นะครับกลัวกระทู้ปลิว คิดว่าบางคนอาจผ่านตามาบ้างครับ
จากบทความนี้จะเห็นได้ว่า บาดแผลระดับนี้ นี่คือจุดตายเลย เสียเลือดมากเผลอๆช็อคในน้ำ ต่อให้ว่ายน้ำเก่งยังไงก็ลำบาก รอดยาก
ส่วนที่ว่า ฉี่ยังไง บอดี้สูท พี่หนุ่มกรรชัยถาม แซนคุณแน่ใจนะว่าเขาฉี่ "ร้อยเปอร์เซ็นต์คะ" คือความคิดถ้าออกมาแบบนี้นะ ถ้านิติเวชชันสูตรแล้ว ตรงกับร่องรอยใบพัดเรือสปีดโบ๊ทจริง อะไรจริง แล้วแซนคือพยานที่ใกล้ชิดที่สุด ตอนก่อนที่แตงโมจะพลัดตก เพื่อนที่เป็นทนายบอก พยานรายนี้ซักยังไงก็ซักไม่แตก เพราะเห็นเหตุการณ์ใกล้ชิดคนเดียว ก่อนพลัดตกน้ำ ไม่มีคนอื่นเห็น มิหน้าละข่าวออกมาว่า ตำรวจเรียกสอบหลายชั่วโมง หลายรอบ แซนให้การเหมือนเดิม แถมในที่ประชุมตำรวจที่ทำคดีชี้แจงเมื่อวันที่ 8/3/2565 ว่าเราโทรไปแล้วเปิดลำโพงSpeaker ให้คณะกรรมการฟังถึงจังหวะเหตุการณ์ตอนตก เหตุการณ์เรือกระตุกจากการเปลี่ยนความเร็ว หลักฐาน GPS การเปลี่นความเร็ว ตรงนี้มาคิดถ้าคดีขึ้นศาล ฝ่ายจำเลย เอาจุดตรงนี้สู้ได้เลย สู้คือ คุณกระทำตนไปฉี่ท้ายเรือจริง คุณเองก็ประมาท และทางตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคหนึ่ง ชี้แจงมาแล้วว่า เบิร์ตที่อยู่บนเรือยอมรับว่า เขาไม่มีประสบการณ์ขับเรือ ขับเรือไม่เป็น และมาขับ ส่วนพยานบนเรือหลังจากสอบเค้นก็ให้การว่าเหมือนเรือเกิดจังหวะการกระตุก
ข้างล่างนี้ไทยรัฐทำคลิปมาเป็นไม่รู้เรียกถูกไหม Infographic ที่อธิบายให้เข้าใจง่ายพอสมควร 3 นาที เข้ากับสิ่งที่ทันตแพทย์ท่านนี้เขียนมา