แชร์เป็นประสบการณ์จากการเข้าช่วยเหลือคนตกน้ำในกรณีต่างๆ ตกเอง ฆ่าตัวตาย สติไม่ดี /การพบศพลอยน้ำ / รู้ว่ามีคนสูญหาย

1. เอากรณีแรกก่อนนะครับ คือ การรู้ว่ามีคนเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ และมีคนสูญหาย

เรือหางยาวเล็กถูกเรือเดินสมุทรบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์มากลับลำบริเวณท่าเรือข้ามฟากพุ้ยใบจักรสร้างคลื่นทำให้เรือหางยาวเล็กล่ม มีคนขับ 1 คน ผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้ทำการช่วยเหลือจนรอดชีวิต ผู้โดยสาร 1 คน (สงวนชื่อ) มีอาชีพเป็นรปภ.ที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย สูญหาย

เหตุเกิดเมื่อช่วงประมาณ 1 ทุ่มโดยประมาณของวันที่ 24 มีนาคม 2562

คลิปข่าว

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิปเปรียบเทียบเมื่อเรือเดินสมุทรมากลับลำแล้วไม่พ้น จะมีการเร่งเครื่องเดินหน้าพุ้ยใบจักรสร้างคลื่นน้ำวนน้ำดูดมหาศาล (คลิปนี้เหตุเกิดที่การท่าเรือแห่งประเทศไทยต้นปีนี้ 2565)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิปเหตุผลทำไมผมต้องถ่ายคลิปเวลาเรือเดินสมุทรมากลับลำ เพราะเคยมีเรือเดินสมุทรมากลับลำแล้วถูกลมกลางแม่น้ำตีมา รวมถึงในอดีตเคยมีเรือชนสันเขื่อนและชนกุฎิพระที่อยู่ริมน้ำพัง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
วันนั้นผมยืนถ่ายคลิปวีดีโอเรือเดินสมุทรมากลับลำเพื่อไว้ใช้เป็นหลักฐานเผื่อเกิดอุบัติเหตุกลับลำไม่พ้นและเฉี่ยวชนเรือที่จอดเทียบท่าอยู่หลายลำหรือชนท่าเทียบเรือให้ได้รับความเสียหาย มารู้ภายหลังว่ามีเรือหางยาวเล็กล่ม เมื่อได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อผมขอความช่วยเหลือ "พี่หนุ่มช่วยด้วย" และผมเห็นหัวคนผลุบโผล่ขึ้นมาอยู่ตรงหน้า (คนขับเรือ) พอดีมีเรือหางเล็กอีกสองลำที่กำลังมาส่งผู้โดยสารวิ่งเข้ามา ผมจึงตะโกนให้เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งสามารถทำการช่วยเหลือชีวิตได้ 1 คน คือ คนขับเรือที่ถูกแรงคลื่นดูดซัดวนเป็นวงกลมจนหมดแรงต้องไปเกาะเสา

จากการสอบถามพบว่ายังมีผู้โดยสารอีกหนึ่งคนที่ลงเรือ ผมจึงทำการสอบถามว่าผู้โดยสารถูกช่วยขึ้นมาแล้วหรือยัง จากหลายๆ ปากบอกเล่าว่าช่วยขึ้นมาแล้ว แต่ผมยังไม่เห็นตัว ตอนนั้นผมต้องรีบขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปส่งแฟนขึ้นรถไฟที่หัวลำโพงให้ทันรอบ 2-3 ทุ่ม เมื่อทราบคร่าวๆ ว่ามีคนถูกช่วยหมดแล้วผมก็ไปส่งแฟนแล้วกลับมา

แต่ผมก็พยายามทำการสอบถามคนขับเรือที่อยู่ในเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือว่ารู้จักหรือรู้ตัวผู้โดยสารคนนั้นหรือไม่ สอบถามไปสอบถามมาไม่มีใครตอบได้ ผมโทรหาคนขับเรือที่ถูกช่วยชีวิตแต่ได้กลับบ้านไปแล้วให้มาช่วยยืนยัน คนขับเรือบอกว่ามีแต่คนบอกว่าถูกช่วยขึ้นมาแล้ว ผมจึงเปิดกล้องวงจรปิดเช็คเพื่อดูรูปพรรณสัณฐาน และสอบถามผู้โดยสารที่สัญจรไปมาว่ามีใครพอจะรู้จักบ้างทางหนึ่ง และให้คนขับเรือไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สน.บางคอแหลมเพื่อติดตามหาและดำเนินคดีเอาผิดกับเรือเดินสมุทรลำต้นเหตุ

ในที่สุดชาวเรือคนขับเรือซึ่งเป็นลูกน้องที่ทราบอุบัติเหตุดังกล่าวต่างทะยอยเดินทางมาที่ท่าเพื่อทำการช่วยเหลือในการกู้เรือที่จม และมีหนึ่งในนั้นรู้จักกับผู้โดยสารคนนี้ จึงมีการประสานติดต่อกับญาติและทำการสอบถามว่า ผู้โดยสารท่านนี้กลับบ้านไปหรือยัง ถูกช่วยเหลือขึ้นมาหรือไม่ คำตอบที่ได้รับคือ ผู้โดยสารท่านนี้ยังไม่ได้กลับบ้าน ผมจึงให้ญาติไปแจ้งความที่สน.บางคอแหลม (เหตุการในลำน้ำเจ้าพระยาพื้นที่กรุงเทพมหานครอยู่ในความรับผิดชอบของสน.บางคอแหลม)

เมื่อร้อยเวรสน.บางคอแหลมมาถึง มีลูกน้องคนขับเรือผมคนหนึ่งเคยประสบเหตุการณ์เรือเดินสมุทรวิ่งเร็วจนทำให้เรือล่ม แล้วตามเอาเรื่องกัปตันเรือเพื่อให้ชดใช้ค่าเสียมาแนะนำ รวมถึงมีการตรวจสอบหาพิกัดว่าเรือลำดังกล่าวแล่นไปที่ไหนหรือจอดอยู่ที่ไหน ในไม่ช้าผมก็ได้ข่าวจากชาวเรือที่เป็นลูกน้องว่าพบเรือเดินสมุทรลำนี้ไปจอดอยู่ที่ท่าใหม่ (ท่าตู้คอนเทนเนอร์ของการท่าเรือแห่งประเทศไทยที่ท่าเรือคลองเตย) ยังไม่ได้แล่นออกอ่าวไทย

ผมจึงพาร้อยเวรญาติผู้สูญหาย คนขับเรือที่ถูกซัดล่ม พากันลงเรือหางยาวของผมเดินทางไปยังเรือเดินสมุทรที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุ มีการพูดคุยอธิบายกับกัปตันเรือ (ส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนพูดเพราะต้องพูดสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ ร้อยเวรก็ไม่ค่อยสันทัด) มีการเชิญเอเย่นต์เรือ มีการเชิญจนท.จากกรมเจ้าท่า และมีการเชิญนำร่อง Pilot มาสอบสวนหาข้อเท็จจริง

ชุดข้อมูลที่ได้ตรงกันคือ เรือเดินสมุทรที่กลับลำถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวจนท้ายเรือจะมาชนกับทางท่าเรือและสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ จึงมีการให้เดินเครื่องเพื่อที่จะบังคับให้เเรือไปข้างหน้า ส่วนเรือหางยาวเล็กที่จอดตั้งแต่ต้น และเป็นว่า ท้ายเรือกำลังพุ่งจะมาชนบริเวณ จึงปล่อยเรือให้ไหลตามกระแสน้ำเพื่อที่จะหลบหนีจากท้ายเรือเดินสมุทร แต่เรือหางยาวเล็กก็ยังไม่รอดพ้นจากการเดินเครื่องทำให้ใบจักรพุ้ยคลื่นใหญ่จนเป็นสาเหตุให้เรือล่ม

เอเยนต์เรือแสดงความรับผิดชอบติดต่อประสานงานกับบริษัทประกันเพื่อให้มาตกลงกับผู้เสียหายและญาติผู้สูญหาย (ภายหลังเป็นคดีความมีการขึ้นศาล มีการตัดสินให้ชดใช้ค่าเสียหาย เรื่องคดีจึงจบลง)

เช้าวันรุ่งขึ้น ในช่วงที่น้ำลง ผมลองลงน้ำไปควานๆ หา ไม่พบร่างคน แต่พบจักรยานที่ผู้โดยสารใช้เป็นยานพาหนะติดตัวลงเรือไปด้วยถูกแรงคลื่นน้ำวนซัดปลิวจากจุดเรือล่มห่างมาประมาณ 200-300 เมตร (ขนาดจักรยานเป็นเหล็ก)


และช่วงก่อนประมาณหนึ่งทุ่มตรงซึ่งนับเป็น 24 ชม.พอดี ผมก็ขับเรือหางยาวพร้อมด้วยญาตินับสิบชีวิตพร้อมส่องไฟฉายสปอร์ตไลต์ที่ติดเรือไปตามริมลำน้ำเจ้าพระยาจากจุดเกิดเหตุในรัศมี+- 5 กิโลเมตรทั้งซ้ายและขวา เป็นระยะเวลาไปจนเกือบจะเที่ยงคืนถึงตีหนึ่ง จนญาติผู้สูญหายทำการขอบอกขอบใจและขอตัวกลับบ้านก่อน เพราะเกิดอาการเพลียตั้งแต่มานั่งเฝ้ารอดูสังเกตการณ์ตั้งแต่ช่วงเย็น

ช่วงเวลาตี 5 กว่าๆ ในค่ำคืนนั้นเอง ร่างของผู้เสียชีวิตลอยขึ้นมาข้างเรือเดินสมุทรลำที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยมีลูกเรือลำดังกล่าวเป็นผู้พบเห็นและแจ้งให้ทางรปภ.ของการท่าเรือทราบ เมื่อชาวเรือทราบก็มีการแจ้งบอกมาทางผม ผมซึ่งรู้จักหัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัยของการท่าเรือจึงเดินทางไปดูและติดต่อญาติให้ไปตรวจสอบ ผลปรากฎเป็นผู้โดยสารที่ประสบเหตุคนดังกล่าว

หลายๆ คน ไม่ว่ารปภ.หรือคนที่ทราบเรื่องดังกล่าว ต่างขนลุกไปตามๆ กัน ในเรื่องที่ศพไปลอยโผล่ข้างเรือลำที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเสมือนการไปชี้หาตัวฆาตกร จุดที่เรือเดินสมุทรจอดอยู่ อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1.5-2 ก.ม.


เรื่องทั้งหมดตัวผมเองซึ่งไม่ได้เป็นเพื่อน เป็นญาติหรือเป็นผู้เสียหายโดยตรง แต่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์กลับเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการติดตามหาและเป็นผู้แนะนำขั้นตอนในการดำเนินการต่างๆ ตั้งแต่ต้นไปจนจบ รวมถึงไปร่วมงานศพด้วย

ความสำคัญของเรื่องนี้เรื่องหนึ่งคือ การติดต่อไปทางญาติผู้สูญหายให้ได้เร็วที่สุด เพื่อทำการเช็คว่าผู้สูญหายได้กลับบ้านหรือติดต่อไปหรือไม่ เพราะเป็นช่องทางที่สำคัญในการทำให้รู้ว่าผู้สูญหายปลอดภัยแล้วหรือยังสูญหายอยู่

การที่ไม่ติดต่อญาติผู้เสียหาย เพราะไม่ใช่ผู้ที่จะทำการช่วยเหลือได้ มันไม่เม้คเซ้นท์ด้วยประการทั้งปวงสำหรับผมเลย และถ้ายิ่งผมเป็นเพื่อนและอยู่ในเหตุการณ์ ผมจะไม่มีวันทิ้งเพื่อน ผมจะตามหาจนสุดแรงเกิดอย่างแน่นอน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่