ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็อุเบกขาเจโตวิมุติอันบุคคลเจริญแล้วอย่างไร มีอะไรเป็นคติ มีอะไรเป็นอย่างยิ่ง มีอะไรเป็นผล มีอะไรเป็นที่สุด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสติสัมโพชฌงค์ ฯลฯ
ย่อมเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์ อันสหรคตด้วยอุเบกขาอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ
ถ้าเธอหวังอยู่ว่า เราพึงมีความสำคัญว่าปฏิกูลในสิ่งไม่ปฏิกูลอยู่ เธอก็ย่อมมีความสำคัญว่าปฏิกูลในสิ่งไม่ปฏิกูลนั้นอยู่
ถ้าหวังอยู่ว่าเราพึงมีความสำคัญว่าไม่ปฏิกูลในสิ่งปฏิกูลอยู่ ก็ย่อมมีความสำคัญว่าไม่ปฏิกูลในสิ่งปฏิกูลนั้นอยู่
ถ้าหวังอยู่ว่า เราพึงมีความสำคัญว่าปฏิกูลในสิ่งไม่ปฏิกูลและสิ่งปฏิกูลอยู่ ก็ย่อมมีความสำคัญว่าปฏิกูลในสิ่งที่ไม่ปฏิกูลและสิ่งปฏิกูลนั้นอยู่
ถ้าหวังอยู่ว่า เราพึงมีความสำคัญว่าไม่ปฏิกูลในสิ่งปฏิกูลและไม่ปฏิกูลอยู่ ก็ย่อมมีความสำคัญว่าไม่ปฏิกูลในสิ่งปฏิกูลและในสิ่งไม่ปฏิกูลนั้นอยู่
ถ้าหวังอยู่ว่า เราพึงแยกสิ่งไม่ปฏิกูลและปฏิกูลทั้งสองนั้นออกเสียแล้ว วางเฉย มีสติสัมปชัญญะอยู่ก็ย่อมวางเฉย มีสติสัมปชัญญะในสิ่งทั้งสองนั้นอยู่ หรืออีกอย่างหนึ่ง เพราะล่วงวิญญาณัญจายตนะเสียโดยประการทั้งปวง เธอคำนึงอยู่ว่า อะไรนิดหนึ่งไม่มี ย่อมบรรลุอากิญจัญญายตนะอยู่
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เรากล่าวอุเบกขาเจโตวิมุติว่า มีอากิญจัญญายตนะเป็นอย่างยิ่ง เพราะภิกษุนั้นยังไม่แทงตลอดวิมุติอันยวดยิ่งในธรรมวินัยนี้ ปัญญาของเธอจึงเป็นโลกีย์.
ที่มา.
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=19&A=3328&Z=3470
[๖๐๐] กถํ ภาวิตา จ ภิกฺขเว อุเปกฺขาเจโตวิมุตฺติ กึคติกา
โหติ กิมฺปรมา กิมฺผลา กิมฺปริโยสานา ฯ อิธ ภิกฺขเว ภิกฺขุ
อุเปกฺขาสหคตํ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ ฯเปฯ อุเปกฺขาสหคตํ
อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ
โวสฺสคฺคปริณามึ ฯ โส สเจ อากงฺขติ อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสญฺญี
วิหเรยฺยนฺติ ปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติ สเจ อากงฺขติ ปฏิกูเล
อปฺปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺติ อปฺปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติ สเจ
อากงฺขติ อปฺปฏิกูเล จ ปฏิกูเล จ ปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺติ
ปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติ สเจ อากงฺขติ ปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูเล จ
อปฺปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺติ อปฺปฏิกูลสญฺญ ตตฺถ วิหรติ สเจ
อากงฺขติ อปฺปฏิกูลญฺจ ปฏิกูลญฺจ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก
วิหเรยฺยํ สโต สมฺปชาโนติ อุเปกฺขโก ตตฺถ วิหรติ สโต สมฺปชาโน
สพฺพโส วา ปน วิญฺญาณญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม นตฺถิ กิญฺจีติ
อากิญฺจญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ฯ อากิญฺจญฺญายตนปรมาหํ
ภิกฺขเว อุเปกฺขาเจโตวิมุตฺตึ วทามิ ฯ อิธ ปญฺญสฺส ภิกฺขุโน
อุตฺตริวิมุตฺตึ อปฺปฏิวิชฺฌโตติ ฯ
คลิก.
https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=19&item=573&items=28
🙏🙏🙏
ความคิดส่วนตัว ส่งถึง ผู้อ่านทุกท่านจงเจริญในธรรม เจริญภาวนาสู่มรรคผลพระนิพพาน ด้วยดี
🙏🙏🙏
พระไตรปิฏกเถรวาทไทยสอนอุเบกขาเจโตวิมุติอันบุคคลเจริญแล้วมีอะไรเป็นคติ มีอะไรเป็นอย่างยิ่ง มีอะไรเป็นผล มีอะไรเป็นที่สุด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็อุเบกขาเจโตวิมุติอันบุคคลเจริญแล้วอย่างไร มีอะไรเป็นคติ มีอะไรเป็นอย่างยิ่ง มีอะไรเป็นผล มีอะไรเป็นที่สุด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสติสัมโพชฌงค์ ฯลฯ
ย่อมเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์ อันสหรคตด้วยอุเบกขาอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ
ถ้าเธอหวังอยู่ว่า เราพึงมีความสำคัญว่าปฏิกูลในสิ่งไม่ปฏิกูลอยู่ เธอก็ย่อมมีความสำคัญว่าปฏิกูลในสิ่งไม่ปฏิกูลนั้นอยู่
ถ้าหวังอยู่ว่าเราพึงมีความสำคัญว่าไม่ปฏิกูลในสิ่งปฏิกูลอยู่ ก็ย่อมมีความสำคัญว่าไม่ปฏิกูลในสิ่งปฏิกูลนั้นอยู่
ถ้าหวังอยู่ว่า เราพึงมีความสำคัญว่าปฏิกูลในสิ่งไม่ปฏิกูลและสิ่งปฏิกูลอยู่ ก็ย่อมมีความสำคัญว่าปฏิกูลในสิ่งที่ไม่ปฏิกูลและสิ่งปฏิกูลนั้นอยู่
ถ้าหวังอยู่ว่า เราพึงมีความสำคัญว่าไม่ปฏิกูลในสิ่งปฏิกูลและไม่ปฏิกูลอยู่ ก็ย่อมมีความสำคัญว่าไม่ปฏิกูลในสิ่งปฏิกูลและในสิ่งไม่ปฏิกูลนั้นอยู่
ถ้าหวังอยู่ว่า เราพึงแยกสิ่งไม่ปฏิกูลและปฏิกูลทั้งสองนั้นออกเสียแล้ว วางเฉย มีสติสัมปชัญญะอยู่ก็ย่อมวางเฉย มีสติสัมปชัญญะในสิ่งทั้งสองนั้นอยู่ หรืออีกอย่างหนึ่ง เพราะล่วงวิญญาณัญจายตนะเสียโดยประการทั้งปวง เธอคำนึงอยู่ว่า อะไรนิดหนึ่งไม่มี ย่อมบรรลุอากิญจัญญายตนะอยู่
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เรากล่าวอุเบกขาเจโตวิมุติว่า มีอากิญจัญญายตนะเป็นอย่างยิ่ง เพราะภิกษุนั้นยังไม่แทงตลอดวิมุติอันยวดยิ่งในธรรมวินัยนี้ ปัญญาของเธอจึงเป็นโลกีย์.
ที่มา. https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=19&A=3328&Z=3470
[๖๐๐] กถํ ภาวิตา จ ภิกฺขเว อุเปกฺขาเจโตวิมุตฺติ กึคติกา
โหติ กิมฺปรมา กิมฺผลา กิมฺปริโยสานา ฯ อิธ ภิกฺขเว ภิกฺขุ
อุเปกฺขาสหคตํ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ ฯเปฯ อุเปกฺขาสหคตํ
อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ
โวสฺสคฺคปริณามึ ฯ โส สเจ อากงฺขติ อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสญฺญี
วิหเรยฺยนฺติ ปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติ สเจ อากงฺขติ ปฏิกูเล
อปฺปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺติ อปฺปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติ สเจ
อากงฺขติ อปฺปฏิกูเล จ ปฏิกูเล จ ปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺติ
ปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติ สเจ อากงฺขติ ปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูเล จ
อปฺปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺติ อปฺปฏิกูลสญฺญ ตตฺถ วิหรติ สเจ
อากงฺขติ อปฺปฏิกูลญฺจ ปฏิกูลญฺจ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก
วิหเรยฺยํ สโต สมฺปชาโนติ อุเปกฺขโก ตตฺถ วิหรติ สโต สมฺปชาโน
สพฺพโส วา ปน วิญฺญาณญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม นตฺถิ กิญฺจีติ
อากิญฺจญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ฯ อากิญฺจญฺญายตนปรมาหํ
ภิกฺขเว อุเปกฺขาเจโตวิมุตฺตึ วทามิ ฯ อิธ ปญฺญสฺส ภิกฺขุโน
อุตฺตริวิมุตฺตึ อปฺปฏิวิชฺฌโตติ ฯ
คลิก. https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=19&item=573&items=28
🙏🙏🙏
ความคิดส่วนตัว ส่งถึง ผู้อ่านทุกท่านจงเจริญในธรรม เจริญภาวนาสู่มรรคผลพระนิพพาน ด้วยดี
🙏🙏🙏