ด้านหลังสมาคมประวัติศาสตร์ Onondaga ในเมือง Syracuse รัฐนิวยอร์ก ในห้องเล็กๆ ที่มีแสงสลัวๆ บนถนน Montgomery มีหนึ่งในสมบัติล้ำค่าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นคือนกอินทรีที่ใช้ตกแต่งหรือประดับประดาในสมัยสงครามกลางเมือง ซึ่งทำขึ้นจากผมที่ได้รับการสนับสนุนจากนักการเมืองชั้นนำและภริยา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประธานาธิบดี Abraham Lincoln และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง Lady Mary Todd Lincoln

สิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกระแสร่วมสมัยของการประดิษฐ์ของที่ระลึกโดยใช้เส้นผมของมนุษย์ เกิดขึ้นเพื่อต้องการระดมเงินทุนสำหรับคณะกรรมาธิการสุขาภิบาลสหรัฐฯ (US Sanitary Commission) หน่วยงานอาสาสมัครที่ทำงานด้านสุขภาพของทหารสหภาพแรงงานในช่วงสงคราม ในความพยายามนี้ พวกเขาได้ไปขอเส้นผมของประธานาธิบดี Lincoln ให้มากที่สุดเท่าที่จะได้ ขณะที่ Lincoln เองก็แจ้งคำขอไปยังสมาชิกรัฐสภาคนอื่นๆ และนักการเมืองที่โดดเด่นจำนวนมากพร้อมทั้งภรรยาของพวกเขา ซึ่งทุกคนให้การตอบรับในเชิงบวก โดยบริจาคผมให้กับช่างอัญมณีแห่ง Brooklyn 2 คนคือ Champney และ Spies เพื่อสานสัญลักษณ์ประจำชาติออกมา

สิ่งเชิดหน้าชูตาขนาดใหญ่และแปลกประหลาดนี้มีชื่อว่า "Hairy Eagle" เป็นนกอินทรีย์ American กางปีกเกาะอยู่บนลูกโลกครึ่งลูก ล้อมรอบด้วยดอกไม้นานาพรรณ โดยหัวของนกอินทรีทำมาจากผมของ Lincoln ที่คอเป็นผมของรองประธานาธิบดี Hannibal Hamlin ที่เรียงอยู่หลังนกอินทรีจากผมของ William Henry Seward เลขาธิการแห่งรัฐ ที่จงอยปากเป็นผมของอัยการสูงสุด Edward Bates และปีกทำจากผมของวุฒิสมาชิกอีกหลายคน ส่วนผมของเหล่าภรรยาก็ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างการจัดวางลวดลายแบบ "floral" ที่ล้อมนกอินทรีและลูกโลก โดยทั้งหมดถูกผนึกไว้ใต้กระจกที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 ฟุต

ความงดงามของมันกลายเป็นสิ่งดึงดูดใจในทันทีเมื่อเปิดตัวที่งาน Metropolitan Sanitary Fair ที่จัดขึ้นเพื่อระดมทุนเพื่อประโยชน์ของทหารสหภาพ โดยจัดขึ้นเป็นเวลา 3 สัปดาห์ในเดือนเมษายน 1864 เป้าหมายคือการระดมทุน 1,000 ดอลลาร์ เมื่อปิดงาน "Hairy Eagle" จะถูกมอบให้แก่ Lincoln เป็นที่ระลึก
งาน Metropolitan Fair นั้นเป็นหนึ่งในงานการกุศลมากมายที่จัดขึ้นในเมืองใหญ่ทางตอนเหนือระหว่างปี 1863 และ 1865 ทุกคนมีเป้าหมายในการระดมทุนให้กับคณะกรรมการสุขาภิบาล ซึ่งอาสาสมัครได้เข้าตรวจโรงพยาบาลทหารและรวบรวมเงินบริจาคเสื้อผ้า ผ้าห่ม อาหาร และเวชภัณฑ์ สำหรับบุคลากรทางทหาร พยาบาล และทหารที่ได้รับบาดเจ็บหรือทุพพลภาพ งานแสดงสินค้าในนิวยอร์กนี้แตกต่างจากงานอื่นๆ เนื่องจากเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดที่จัดขึ้นในช่วงสงคราม โดยสามารถระดมทุนได้ 1.1 ล้านดอลลาร์ในท้ายที่สุดเพื่อช่วยเหลือทหารที่ป่วยและบาดเจ็บ

จุดเด่นของงานอีเวนต์มีตั้งแต่ สถานที่ท่องเที่ยว การประมูล การจับฉลาก และอีกมากมาย ผู้เข้าชมยังสามารถชมการจัดดอกไม้อันตระการตาใน "วิหารแห่งพืชพรรณ" (Temple of Flora) ชมการแสดงเต้นรำโดยคณะนักแสดงชาวอเมริกันพื้นเมืองของงาน เพลิดเพลินกับอาหารดัตช์ที่ครัว Knickerbocker (ห้องอาหารอาณานิคมดัตช์ขนาดใหญ่ที่จัดขึ้นในงาน) และซื้อ Plymouth Rock เป็นที่ระลึกสักชิ้น แต่ความมหัศจรรย์ของการผสมผสานนี้ถูกบดบังด้วย Hairy Eagle ที่มีชื่อเสียงที่อยู่ใกล้กับวิหารดอกไม้ ทำให้ในช่วงเวลานั้น มีผู้คนนับหมื่นมาเยี่ยมชม Hairy Eagle โดยทุกคนสามารถเซ็นชื่อในสมุดเยี่ยมชมขนาดเล็กที่อยู่ข้างใต้มันเมื่อชำระเงินหนึ่งดอลลาร์แล้ว

ไม่มีข้อมูลว่างานนี้บรรลุเป้าหมาย $1,000 และ 1,000 ลายเซ็นหรือไม่ แต่รายงานของงานที่รวบรวมไว้ 3 ปีต่อมาระบุว่า หนังสือเล่มนี้ได้รับความนิยมอย่างมากจนมีการรวบรวมลายเซ็นได้ถึง 400 ลายเซ็นและ $400 ภายในสามวันแรกของงาน และในช่วงเวลาของงาน Metropolitan Fair ในปี 1864 นั้น ไม่มีของที่ระลึกผมหรือลายเซ็นต์หรือเสื้อผ้าของใครก็ตาม ที่เป็นที่ปรารถนามากไปกว่าของ Lincoln ประธานาธิบดีที่ค้ำจุนสหรัฐอเมริกาตลอด 3 ปีของสงคราม แนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไปอีกนานแม้หลังจากการลอบสังหารเขาในเดือนเม.ย. 1865

ในขณะที่ผมของ Lincoln เป็นที่มาของความอยากรู้มาโดยตลอด แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานที่มีอยู่บ่งชี้ว่า Lincoln บริจาคผมของเขาให้ผู้ใดอีก แต่ในปี 1905 มีการอ้างว่าประธานาธิบดี Theodore Roosevelt สวมแหวนล็อกที่มีผมของ Lincoln ในระหว่างการเข้ารับตำแหน่งครั้งที่ 2 (แต่ผมถูกนำออกตามคำร้องขอของ John Hay เลขาของ Lincoln ระหว่างการชันสูตรพลิกศพของ Lincoln ในปี 1965 โดย Hay มอบของขวัญให้ Roosevelt ด้วยเครื่องประดับนี้) และเมื่อปี 2020 ยังมีการประมูลผมของเขาซึ่งได้รับเงินมากถึง 81,000 ดอลลาร์
 
แม้ "Hairy Eagle" มีขึ้นเพื่อมอบให้ Lincoln เป็นของขวัญหลังจากงานสิ้นสุดลง แต่สิ่งประดิษฐ์ไม่เคยมาถึงทำเนียบขาว กลับถูกแขวนไว้ที่หน้าต่างร้าน Champney & Smitten ในบรู๊คลินและนำไปจัดแสดงที่งานอื่นเป็นเวลาหลายปีก่อนที่จะหายไปในอีกหลายสิบปี จนในปี 1920  Ida ภรรยาของ F.T. Champney ได้บริจาคนกอินทรีตัวนี้ให้กับสมาคมประวัติศาสตร์ Onondaga ซึ่งมันยังคงอยู่ที่นี่นับตั้งแต่นั้นมา
 
ประวัติศาสตร์อันโดดเด่นชิ้นนี้ได้ถูกแสดงต่อสาธารณะเพียงสามครั้งเท่านั้นในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา แม้มันยังคงเป็นของที่ระลึกจากสงครามกลางเมืองที่ไม่รู้จักโดยทั่วไปแต่แท้จริงแล้วมันเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ โดย Thomas H.Hunter ภัณฑารักษ์ของ OHA บอกว่าเขาไม่เคยให้องค์กรอื่นยืม "Hairy Eagle" ไป แม้จะเคยมีคนร้องขอให้ถอดผมบางส่วนของประธานาธิบดีออกจากรูปปั้นเพื่อตรวจดีเอ็นเอ แต่สมาคมประวัติศาสตร์จะไม่ต้องการอย่างนั้น
 
อย่างไรก็ตาม ด้านหลังของ Hairy Eagle ถูกปิดด้วยปูนปลาสเตอร์อย่างผนึกแน่น จึงแน่ใจได้ว่ายังไม่เคยมีการตรวจสอบมัน ซึ่งถ้าเปิดตอนนี้ กระบวนการเสื่อมสภาพจะถูกเร่งแบบทวีคูณ ดังนั้น สมาคมประวัติศาสตร์ Onondaga จะแสดง Hairy Eagle เฉพาะในโอกาสพิเศษที่หายากเท่านั้น เพื่อไม่ให้ "Hairy Eagle" โดนแสงบ่อยเกินไป โดยครั้งสุดท้ายที่จัดแสดงคือเดือนกุมภาพันธ์ 2019 เพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบ 210 ปีของการเกิดของ Lincoln
 
สำหรับสิ่งประดิษฐ์อันวิจิตรที่ทำจากเส้นผมมนุษย์ทั้งชิ้นนี้ อาจฟังดูแปลกและไม่น่าภิรมย์นักสำหรับผู้สังเกตการณ์ร่วมสมัย แต่ในศตวรรษที่ 19 การทำเครื่องประดับผมเพื่อประดับตกแต่งบ้านหรือใช้เป็นเครื่องประดับถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา รวมถึงพระธาตุที่มักใช้เป็นเครื่องเตือนใจถึงคนที่คุณรักที่เสียชีวิต
ไปแล้ว ซึ่งพิพิธภัณฑ์และสมาคมประวัติศาสตร์ทั่วสหรัฐอเมริกาได้จัดแสดงสิ่งตกแต่งที่ทำจากผมเช่น เข็มกลัด แหวน ปิ่นและงานศิลปะอื่นๆ ให้ผู้เข้าชมต้องทึ่งอยู่เสมอ