ประติมากรรมนกอินทรีที่น่าทึ่งถูกค้นพบที่วิหารของ Aztec




พบรูปปั้นนูนต่ำของนกอินทรีสีทองใกล้เชิงเขา Templo Mayor
(ภาพ: © Mirsa Islas)


เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2021 นักโบราณคดีจากสถาบันมานุษยวิทยาและประวัติศาสตร์แห่งชาติ (INAH) ของเม็กซิโกประกาศว่า ค้นพบประติมากรรม Aztec ที่โดดเด่นในวิหารโบราณแห่งหนึ่งในเม็กซิโก อายุ 600 ปี ซึ่งเป็นรูปปั้นนูนของนกอินทรีทองที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบ โดยมีขนาด 41.7 นิ้วคูณ 27.6 นิ้ว (106 x 70 เซนติเมตร) 

นกอินทรีถูกแกะสลักลงบนพื้นของโครงสร้างที่ทางเดินของวิหาร Templo Mayor ซึ่งเป็นวิหารรูปทรงพีระมิดอันเป็นสัญลักษณ์ ซึ่งสร้างขึ้นที่ใจกลางเมือง Tenochtitlán เมืองหลวงเก่าของ Aztec และปัจจุบันอยู่ในเม็กซิโกซิตี  โดยนกอินทรีถูกแกะสลักบน " red tezontle " ซึ่งเป็นหินภูเขาไฟที่มีรูพรุนและออกซิไดซ์สูง ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในการก่อสร้างทั้งในเม็กซิโกยุคโบราณและยุคใหม่

ศิลปินได้สร้างรูปปั้นนูนซึ่งเป็นรูปสลักที่มีภาพนูนขึ้นมาจากพื้นหินในช่วงกลางศตวรรษที่ 15 ในรัชสมัยของ Moctezuma I  โดยนักโบราณคดีจาก INAH ค้นพบรูปสลักนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของฤดูกาลที่เก้าของโครงการขุดค้นอย่างต่อเนื่องของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ Templo Mayor 

Templo Mayor หรือที่เรียกว่า Great Temple เป็นโครงสร้างรูปทรงพีระมิดขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง Tenochtitlán และเป็นหัวใจสำคัญของศาสนาและวัฒนธรรม Aztec โดยที่ยอดสุดของภูเขามีวิหารสองแห่งที่อุทิศให้กับ Huitzilopochtli (เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์และสงคราม และยังเป็นผู้อุปถัมภ์ของเมือง)  และ Tlāloc วิเทพเจ้าแห่งฝน ซึ่งวิหารแห่งนี้เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้าง 78 ชิ้นที่ประกอบขึ้นเป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ของ Tenochitlán ในอดีต (เมืองหลวงของจักรวรรดิ Aztec ที่เจริญรุ่งเรืองสูงสุดในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15)

ส่วนหนึ่งของไซต์ขุดค้นที่วิหาร Templo Mayor ในเม็กซิโกซิตี้ (Cr.ภาพ Shutterstock)


Itzcoatl ผู้นำชาว Aztec ซึ่งครองราชย์ระหว่างปี 1427 - 1440 ได้สร้างพระวิหารขึ้นครั้งแรกเมื่อต้นศตวรรษที่ 15 และผู้ปกครองคนต่อมา Moctezuma I (ซึ่งครองราชย์ตั้งแต่ปี 1440 -1469) และ Ahuítzotl (ซึ่งครองราชย์ตั้งแต่ปี 1486 -1502) ซึ่งทั้งสองมีส่วนสำคัญในการสร้างวิหาร โดยส่วนใหญ่จะสร้างทับโครงสร้างเดิมก่อนหน้านี้ 
 
ซึ่งรูปปั้นนูนนกอินทรีนี้ถูกแกะสลักไว้บนพื้นของโครงสร้างหลังหนึ่งที่อยู่ถัดจากวิหาร Templo Mayor และถูกปิดทับด้วยอีกชั้นหนึ่งที่สร้างไว้ด้านบน
ในรัชสมัยของ Ahuítzotl โดย Rodolfo Aguilar Tapia นักโบราณคดีของ INAH ซึ่งเป็นผู้นำการค้นพบกล่าวว่า นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้มันมีสภาพที่ดี
 
ปัจจุบัน รูปปั้นนกอินทรีที่โดดเด่นตั้งอยู่ใต้จุดตัดของถนนสองสายในเม็กซิโกซิตี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อตอนที่มันถูกสร้างขึ้น โครงสร้างนี้จะอยู่ที่ฐานของทางลาดด้านใต้ของวิหาร Templo Mayor  โดยจะอยู่บนแกนกลางซึ่งเป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่างโบสถ์ของ Huitzilopochtli ของ Templo Mayor ส่วนรูปปั้นยักษ์ของเทพธิดา Coyolxauhqui น้องสาวของเขาอยู่ด้านล่าง

นกอินทรีทอง (Aquila chrysaetos ) หรือที่เรียกว่า "itzcuauhtli" (หรือ " obsidian eagle " ในภาษา Nahuatl ของชนพื้นเมืองในภาคกลางของเม็กซิโก) ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญในวัฒนธรรม Aztec  เป็นสิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ์ในความคิดของชาว Aztec ซึ่งเชื่อกันว่ามีอยู่จริง ในตอนกำเนิดของดวงอาทิตย์
และเป็นสัญลักษณ์ของหนึ่งในคำสั่งของนักรบชั้นยอดในวัฒนธรรม Aztec 
 
และในวัฒนธรรม Aztec นั้น ชายหนุ่มจะได้รับการสอนเกี่ยวกับอาวุธและสงครามจนอายุ 17 เมื่อฝึกฝนอย่างที่ดีที่สุดก็จะก้าวหน้าไปเป็น “นักรบนกอินทรี”
และได้รับความนับถืออย่างสูงส่งในสังคม 

รูปปั้นนูนของนกอินทรีสีทองใกล้เชิงเขา Templo Mayor
(ภาพ: © Mirsa Islas)

Caroline Dodds Pennock นักประวัติศาสตร์ Aztec จากมหาวิทยาลัย University of Sheffield ในอังกฤษให้ความเห็นว่า นกมักจะถูกเชื่อมโยงกับเทพเจ้า Huitzilopochtli และการวางตำแหน่งของรูปปั้นนูนอาจสะท้อนตำนานที่สำคัญเกี่ยวกับเทพเจ้า  โดยในประวัติศาสตร์ตามตำนานของชาว Aztec  เทพเจ้า Huitzilopochtli ได้เอาชนะ Coyolxauhqui น้องสาวของเขา และโยนเธอลงจากภูเขา

ซึ่งประวัติศาสตร์นี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผ่านการสังเวยมนุษย์ที่ Templo Mayor ด้วยการโยนที่ศพของเหยื่อลงไปตามขั้นบันได และนกอินทรีที่วิหาร Templo Mayor ที่ถูกแกะสลักไว้ใกล้กับรูปปั้นของ Coyolxauhqui อาจเป็นการอ้างอิงถึงเรื่องราวของเทพทั้งสองนี้ รวมถึงการเสียสละของมนุษย์ที่แท้จริงจากการถูกสังเวย 

สำหรับรูปปั้นนูนที่ค้นพบใหม่นี้มีลักษณะคล้ายกันกับรูปนกอินทรีทองใน Codex Borgia ซึ่งเป็นต้นฉบับของชาว Aztec ที่มีชื่อเสียงซึ่งมีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 16  เพียงแต่ขนของรูปปั้นนูนใหม่มีลักษณะเหมือนมีดบูชายัญมากกว่า



Tenochtitlán: ประวัติศาสตร์ของ Aztec Capital
เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิ Aztec ที่เจริญรุ่งเรืองสูงสุดในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 จนกระทั่งถูกยึดครองโดยชาวสเปนในปี1521

สิ่งที่เหลืออยู่ของวัฒนธรรม Aztec ที่เมือง Tenochtitlán Cr.ภาพ Omar Chatriwala / Getty
Borgia Codex 
หนังสือโบราณที่สร้างขึ้นในเม็กซิโกในยุคก่อนการมาถึงของสเปน ประกอบด้วยภาพสองด้าน 39 หน้า
แต่ละหน้าประกอบด้วยรูปภาพและภาพวาด  ซึ่งนักบวชพื้นเมืองมักใช้ในการทำนายวัฏจักรของเวลาและโชคชะตา
ถือเป็นหนึ่งในเอกสารที่สำคัญที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ ในยุคก่อนสเปนทั้งในเชิงประวัติศาสตร์และเชิงศิลปะ
นกอินทรีนั้น ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ในเม็กซิโกโบราณ แต่สัญลักษณ์นี้ยังเป็นตำนานครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของอเมริกาใต้ ตั้งแต่บราซิลทางตะวันออก ไปจนถึงเอกวาดอร์ทางตะวันตก และเปรูทางตอนใต้ รวมทั้งอยู่ในเทพนิยายที่มีแร้งด้วย โดยตามที่องค์กร  Pachamama Alliance  ได้พูดถึง
“ The Eagle and the Condor” ที่เป็นคำทำนายของชาวอินคาโบราณ ที่พูดถึงสังคมมนุษย์ที่แยกออกเป็นสองเส้นทางที่แตกต่างกัน

นั่นคือ Eagle และ Condor ซึ่งหมายถึงเส้นทางของแร้งเป็นเส้นทางแห่งหัวใจสัญชาตญาณของผู้หญิง ส่วนเส้นทางของนกอินทรี เป็นเส้นทางของจิตใจที่อุตสาหะของผู้ชาย และคำทำนายของ “ The Eagle and the Condor”

ครั้งหนึ่ง นกอินทรีทองเคยอยู่อย่างแพร่หลายทั่วซีกโลกเหนือ แต่พวกมันได้หายไปจากหลายๆ พื้นที่ซึ่งมนุษย์ได้เข้ามาอาศัยอยู่ แม้ว่ามีการทำลายล้างในบางขอบเขตที่อยู่ของมัน หลายๆ สายพันธุ์ยังคงพบได้ทั่วไปพอสมควร ในปัจจุบันมีการขยายออกที่กว้างขวางในทวีปยูเรเชีย อเมริกาเหนือ และในส่วนของแอฟริกาเหนือ

พวกมันคือนกอินทรีที่มีประชากรหนาแน่นน้อยที่สุดและใหญ่ที่สุดใน 5 สายพันธุ์ของวงศ์เหยี่ยวและอินทรี ที่ปรากฏทั้งในเขตชีวภาพพาลีอาร์กติก และเขตชีวภาพนีอาร์กติก (อเมริกาเหนือ)  โดยนกอินทรีทองเป็นนกประจำชาติของประเทศเม็กซิโกอย่างเป็นทางการ และประเทศอียิปต์อย่างไม่เป็นทางการ นอกจากนี้ยังเป็นสัตว์ประจำชาติอีก 2 ประเทศคือ แอลเบเนีย และเยอรมนี


นกอินทรีทอง (golden eagle, ชื่อวิทยาศาสตร์: Aquila chrysaetos)
 




(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่