เปิดบ้านเอาชนะลีดส์ไป 6 ประตูต่อ 0
ด้วยสถิติ(อย่างโหด) ยิง 23 เข้ากรอบ 15 ได้ 6 ประตู และได้ประตูจากการเตะมุม(อีกแล้ว) 1 ประตู จาก 4 ครั้ง
ส่วนลีดส์ โอกาสยิง 3 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ไม่มีประตูและเตะมุม 0 ครั้ง
ดูจากการเปลี่ยนตัวของลิเวอร์พูลในครึ่งหลัง ไม่ได้พักมาเน่กับซาล่าห์เลยแถมยังต้องใช้พลังเทพของโอริกี้เบิกร่องประตูที่ 5 อีกด้วย
นัดนี้ช่วงแรกโดนลีดส์บีบกองกลางให้เล่นยาก (กองกลางของลีดส์เหนือกว่าเล็กน้อย) ลิเวอร์พูลแก้ด้วยการให้หน้าลงมาล้วงลูกตั้งแต่กลางสนาม ทั้งมาเน่ ซาล่าห์และดิอาซ สลับกันลงมาล้วงบอล ทำเกมขึ้นไป ทำให้การประกบตัวของลีดส์สับสนนำมาซึ่งประตูขึ้นนำ และใช้การทะลุทะลวงของเซ็นเตอร์ ทำเกมขึ้นไปให้กองหน้า(ติอาโก้สลับลงมายืนต่ำกว่าเดิม) และมาติปชิ่งบอล 2 จังหวะกับซาล่าห์ ทำให้ขึ้นนำ 2 ประตูตั้งแต่นาทีที่ 30
ประตูแรกโชคช่วยนิดๆ ได้จุดโทษในนาทีที่ 15 จากการเปิดบอลของโรเบิร์ตสันไปโดนมือกองหลังของลีดส์
ประตูที่ 2 จากมาติปนาทีที่ 30 ทำชิ่ง 1-2 กับซาล่าห์
ประตูที่ 3 จากจุดโทษ มาเน่โดนกดหลังและขัดขานิดหน่อย ซาล่าห์สังหารเข้าไปนาทีที่ 35
และครึ่งแรกน่าจะได้ขึ้นนำ 5 ลูกจากฟาบินโญ่ซัดเหน่งๆ แต่ไม่เข้ากรอบและซาล่าห์ชิบข้ามหัวผู้รักษาประตูไปแล้วแต่กองหลังวิ่งมาสกัดออกทัน
ครึ่งหลังมาทำได้อีก 3 ประตูจากมาเน่ 2 ลูกและฟานไดค์นาทีทดเจ็บ
หรือปีนี้แชมป์ EPL จะต้องวัดกันที่ลูกได้เสีย
ด้วยสถิติ(อย่างโหด) ยิง 23 เข้ากรอบ 15 ได้ 6 ประตู และได้ประตูจากการเตะมุม(อีกแล้ว) 1 ประตู จาก 4 ครั้ง
ส่วนลีดส์ โอกาสยิง 3 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ไม่มีประตูและเตะมุม 0 ครั้ง
ดูจากการเปลี่ยนตัวของลิเวอร์พูลในครึ่งหลัง ไม่ได้พักมาเน่กับซาล่าห์เลยแถมยังต้องใช้พลังเทพของโอริกี้เบิกร่องประตูที่ 5 อีกด้วย
นัดนี้ช่วงแรกโดนลีดส์บีบกองกลางให้เล่นยาก (กองกลางของลีดส์เหนือกว่าเล็กน้อย) ลิเวอร์พูลแก้ด้วยการให้หน้าลงมาล้วงลูกตั้งแต่กลางสนาม ทั้งมาเน่ ซาล่าห์และดิอาซ สลับกันลงมาล้วงบอล ทำเกมขึ้นไป ทำให้การประกบตัวของลีดส์สับสนนำมาซึ่งประตูขึ้นนำ และใช้การทะลุทะลวงของเซ็นเตอร์ ทำเกมขึ้นไปให้กองหน้า(ติอาโก้สลับลงมายืนต่ำกว่าเดิม) และมาติปชิ่งบอล 2 จังหวะกับซาล่าห์ ทำให้ขึ้นนำ 2 ประตูตั้งแต่นาทีที่ 30
ประตูแรกโชคช่วยนิดๆ ได้จุดโทษในนาทีที่ 15 จากการเปิดบอลของโรเบิร์ตสันไปโดนมือกองหลังของลีดส์
ประตูที่ 2 จากมาติปนาทีที่ 30 ทำชิ่ง 1-2 กับซาล่าห์
ประตูที่ 3 จากจุดโทษ มาเน่โดนกดหลังและขัดขานิดหน่อย ซาล่าห์สังหารเข้าไปนาทีที่ 35
และครึ่งแรกน่าจะได้ขึ้นนำ 5 ลูกจากฟาบินโญ่ซัดเหน่งๆ แต่ไม่เข้ากรอบและซาล่าห์ชิบข้ามหัวผู้รักษาประตูไปแล้วแต่กองหลังวิ่งมาสกัดออกทัน
ครึ่งหลังมาทำได้อีก 3 ประตูจากมาเน่ 2 ลูกและฟานไดค์นาทีทดเจ็บ