อสัญญีพรหม หรือพรหมลูกฟัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=3856.0
เข้าใจกันมาว่ามีแต่รูป ไม่มีจิต
แต่ความจริงมีจิต แต่จิตสังขารดับอยู่
จิตที่ดับอยู่เรียกสมมุติว่า "จิตแท้"*
เหมือนคนเข้านิโรธสมาบัติ
สิ่งภายนอกหรือภายในกายเป็นอย่างไร หรือเวลาจะยาวนานเท่าใดก็ไม่รับรู้
ข้อดีคือ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานนับล้านๆ ปี
ไม่รู้สึกถึงเวลาอันยาวนาน
หากอธิษฐานก่อนตายไปเป็นอสัญญีพรหม
และขอให้ได้เกิดทันพระพุทธเจ้าองค์ถัดไป
ผู้นั้นจะรู้สึกว่าหลับแล้วตื่นขึ้นใหม่(เกิดใหม่)ในชาติที่ตั้งเป้าหมายไว้ คล้ายเดินทางข้ามเวลาไปในอนาคต ไม่รู้สึกถึงเวลาที่ยาวนาน ไม่รู้สึกว่าต้องรอ ต้องเกิดใหม่อีกหลายครั้ง
ปล. ผู้ที่เข้านิโรธสมาบัติก็จะรู้สึกแบบเดียวกัน
คือรู้สึกว่าหลับตา แล้วออกจากสมาธิทันที
แต่ความจริงเวลาผ่านไปแล้ว 7 ว้น เป็นต้น
* จิตแท้ ในนิโรธสมาบัติ คือจิตสังขารดับ
คนละความหมาย
กับจิตแท้ทางนิกายมหายาน ที่รู้สึกตัว มีความสว่าง (น่าจะจิตในฌาน2หรือ4)
ดังนั้น ทั้งนิโรธสมาบัติ และอสัญญีพรหม
อาจใช้เป็นเครื่องมือข้ามเวลาไปอนาคต
ปล.2
วัตถุประสงค์กระทู้นี้ไม่ต้องการชวนใครไปเป็นอสัญญีพรหม แต่เพื่อให้เห็นตามจริง
เพื่อขจัดความกลัวของผู้ทำฌานทำสมาธิ
แล้วกลัวว่าจะพลาดไปเกิดเป็นอสัญญีพรหม
ที่น่ากลัวหรือน่าเบื่อหน่ายน่าจะเป็นอรูปพรหม
ไม่รับรู้กายเลย (มีรูปแต่ไม่ปรากฏ)
พระพุทธเจ้าก็ไม่อาจสอนให้รู้
ท่านกล่าวว่า
"โอหนอ น่าเสียดายอาจารย์ทั้งสอง
จากความดีเสียแล้ว"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://sites.google.com/site/zzxzzx23tyutyu57/home/tha-nxala-rdab-skab-than-xuthk-dabs
แต่รับรู้แต่ภายในจิต แถมยังไม่มีสุขไม่มีทุกข์
อยู่แต่กับว่างว่าง(ฌาน5)
โหว่งๆ(ฌาน6)
หรือมืดๆ (ฌาน7)
หรือติดๆดับๆ(ฌาน8) คล้ายคนง่วงจะหลับก็ไม่หลับจะตื่นก็ไม่ตื่น
เป็นเวลายาวนานมากๆ
จนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นตนเป็นพระเจ้า
สร้างอาณาจักรอยู่ในนิมิตนั้น
(ถ้ามีนิมิตนะครับ)
อสัญญีพรหม ไม่น่ากลัว แต่ช่วยเดินทางข้ามเวลาได้
อสัญญีพรหม หรือพรหมลูกฟัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เข้าใจกันมาว่ามีแต่รูป ไม่มีจิต
แต่ความจริงมีจิต แต่จิตสังขารดับอยู่
จิตที่ดับอยู่เรียกสมมุติว่า "จิตแท้"*
เหมือนคนเข้านิโรธสมาบัติ
สิ่งภายนอกหรือภายในกายเป็นอย่างไร หรือเวลาจะยาวนานเท่าใดก็ไม่รับรู้
ข้อดีคือ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานนับล้านๆ ปี
ไม่รู้สึกถึงเวลาอันยาวนาน
หากอธิษฐานก่อนตายไปเป็นอสัญญีพรหม
และขอให้ได้เกิดทันพระพุทธเจ้าองค์ถัดไป
ผู้นั้นจะรู้สึกว่าหลับแล้วตื่นขึ้นใหม่(เกิดใหม่)ในชาติที่ตั้งเป้าหมายไว้ คล้ายเดินทางข้ามเวลาไปในอนาคต ไม่รู้สึกถึงเวลาที่ยาวนาน ไม่รู้สึกว่าต้องรอ ต้องเกิดใหม่อีกหลายครั้ง
ปล. ผู้ที่เข้านิโรธสมาบัติก็จะรู้สึกแบบเดียวกัน
คือรู้สึกว่าหลับตา แล้วออกจากสมาธิทันที
แต่ความจริงเวลาผ่านไปแล้ว 7 ว้น เป็นต้น
* จิตแท้ ในนิโรธสมาบัติ คือจิตสังขารดับ
คนละความหมาย
กับจิตแท้ทางนิกายมหายาน ที่รู้สึกตัว มีความสว่าง (น่าจะจิตในฌาน2หรือ4)
ดังนั้น ทั้งนิโรธสมาบัติ และอสัญญีพรหม
อาจใช้เป็นเครื่องมือข้ามเวลาไปอนาคต
ปล.2
วัตถุประสงค์กระทู้นี้ไม่ต้องการชวนใครไปเป็นอสัญญีพรหม แต่เพื่อให้เห็นตามจริง
เพื่อขจัดความกลัวของผู้ทำฌานทำสมาธิ
แล้วกลัวว่าจะพลาดไปเกิดเป็นอสัญญีพรหม
ที่น่ากลัวหรือน่าเบื่อหน่ายน่าจะเป็นอรูปพรหม
ไม่รับรู้กายเลย (มีรูปแต่ไม่ปรากฏ)
พระพุทธเจ้าก็ไม่อาจสอนให้รู้
ท่านกล่าวว่า
"โอหนอ น่าเสียดายอาจารย์ทั้งสอง จากความดีเสียแล้ว"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่รับรู้แต่ภายในจิต แถมยังไม่มีสุขไม่มีทุกข์
อยู่แต่กับว่างว่าง(ฌาน5)
โหว่งๆ(ฌาน6)
หรือมืดๆ (ฌาน7)
หรือติดๆดับๆ(ฌาน8) คล้ายคนง่วงจะหลับก็ไม่หลับจะตื่นก็ไม่ตื่น
เป็นเวลายาวนานมากๆ
จนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นตนเป็นพระเจ้า
สร้างอาณาจักรอยู่ในนิมิตนั้น
(ถ้ามีนิมิตนะครับ)