สวัสดีครับ ผมนายA มีเพื่อนชื่อ นายบีB เรื่องมันเกิดมานานแล้วเราสองคนเป็นเด็กต่างจังหวัดฐานะปานกลาง รู้จักตั้งแต่สมัย เรียนประถม. ผมกับนายBเราสองคนสนิทกันมาก ช่วยกันเรียนและเตะฟุตบอล เทคควันโดด้วยกันตอนเย็นของทุกๆวัน จนเวลาผ่านไปจนถึงช่วงที่ต้องเตรียมสอบเข้า มอ.1 เราสองคนตกลงใจกันว่าจะสอบเข้าโรงเรียนดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ผมกับนายบีเกรดดีมาตลอด 3.xx แต่เพื่อนผมคนนี้มันมีทัศนคติแปลกๆ และโลกสวยเกินไป มันเป็นยังไงหน่ะหรอครับ.....ผมจะเล่าให้ฟัง
A: เห้ยเพื่อน อีกสองเดือนจะสอบแล้ว กุกลัวจังเลยหว่ะ ว่าจะสอบไม่ติดเอาไงดีวะ
เจอแต่เด็กเทพๆในกรุงเทพ
B:จะกลัวอะไรกันนักกันหนา? สอบไม่ติดก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย กุไม่สนว่าใครจะเก่งแค่ไหน
A:แล้วจะทำไงวะ
B:ก็ลองสอบไปก่อนสิวะ ผลเป็นไงค่อยว่ากัน
เพื่อนๆคิดว่าผมกับนายB จะเป็นยังไงครับลองเดาดูสิครับ....
เฉลย ผมกับสอบติดโรงเรียนชื่อดัง ในกรุงเทพดั่งที่ตั้งใจ แต่นายBกับสอบไม่ติดเนื่องจากเป็นเพราะว่าอ่านหนังสือไม่ทัน มัวแต่ประมาท และพยายามในช่วงแค่ก่อนสอบเท่านั้น แต่ผมเตรียมตัวมาอย่างหนักตลอดสองเดือนเพราะกลัวว่าจะสู้คนอื่นไม่ได้เป็นแรงผลักดัน ทำให้ผมตั้งใจเพราะว่าผมไม่ได้คิดแค่จะลองสอบไปเหมือนนาย Bแล้วไปหวังโชคดาบหน้าโดยมีทัศนคติแค่ว่าก็กุทำเต็มที่แล้ว....(เต็มที่ปลอมๆสิวะ555)
นี่ไงครับเป็นผลของการมองโลกสวยแล้วพยายามหลอกตัวเองว่าไม่เป็นไร คราวหน้าเอาใหม่ ผมเลยบอกกับนายB ว่าอย่าแค่คิดลองสอบสิวะ นายดูความสามารถตัวเองในตอนนี้เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นและสร้างแรงผลักดันขึ้นหน่อยยสิ!! เพราะการมีแค่ทัศนคติหวังโชคมันทำให้คนเราทำอะไรไม่เต็มที่และไม่พัฒนา
พอตอนสอบเข้า มอ4(โรงเรียนชื่อดังอีกละ) ผมเลยบอกนายBอย่างนึง.....ว่า
A:เห้ยถ้าเองทำได้แค่นี้ก็อย่าไปสอบเลย มันสู้คนอื่นไม่ได้หรอกพยายามหน่อย
B:นี่
กับชีวิตกู จริงๆ จะสนทำไมวะว่าจะติดไม่ติด
A:แต่การที่คิดแบบนี้ทำให้ไม่พยายามนะเว้ย
B:กูพยายามแล้วเต็มที่แล้ว เด็กเก่งๆคนอื่นๆก็คงเจอแบบกุหล่ะ
A:แล้วกุจะคอยดู
สรุปมันไม่ติดเช่นเดิมและก็อยู่โรงเรียนเดิมต่อไปอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน ครับ เมื่อไหร่เพื่อนผมจะเลิกทัศนคติแบบนี้สักที
ถึงผมจะไม่ใช่เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับนาย Bแต่ผมก็พยายามพร่ำบอกมันตลอด ฉุดมันขึ้นมาผมคิดว่าเพื่อนที่ดีควรจะบอกสิ่งที่ผิดที่ถูกให้เพื่อนไม่ใช่หรอครับ
ผมควรทำยังไงกับเพื่อนคนนี้ดีครับ
เพื่อนผมโลกสวยทำไงดีครับ
A: เห้ยเพื่อน อีกสองเดือนจะสอบแล้ว กุกลัวจังเลยหว่ะ ว่าจะสอบไม่ติดเอาไงดีวะเจอแต่เด็กเทพๆในกรุงเทพ
B:จะกลัวอะไรกันนักกันหนา? สอบไม่ติดก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย กุไม่สนว่าใครจะเก่งแค่ไหน
A:แล้วจะทำไงวะ
B:ก็ลองสอบไปก่อนสิวะ ผลเป็นไงค่อยว่ากัน
เพื่อนๆคิดว่าผมกับนายB จะเป็นยังไงครับลองเดาดูสิครับ....
เฉลย ผมกับสอบติดโรงเรียนชื่อดัง ในกรุงเทพดั่งที่ตั้งใจ แต่นายBกับสอบไม่ติดเนื่องจากเป็นเพราะว่าอ่านหนังสือไม่ทัน มัวแต่ประมาท และพยายามในช่วงแค่ก่อนสอบเท่านั้น แต่ผมเตรียมตัวมาอย่างหนักตลอดสองเดือนเพราะกลัวว่าจะสู้คนอื่นไม่ได้เป็นแรงผลักดัน ทำให้ผมตั้งใจเพราะว่าผมไม่ได้คิดแค่จะลองสอบไปเหมือนนาย Bแล้วไปหวังโชคดาบหน้าโดยมีทัศนคติแค่ว่าก็กุทำเต็มที่แล้ว....(เต็มที่ปลอมๆสิวะ555)
นี่ไงครับเป็นผลของการมองโลกสวยแล้วพยายามหลอกตัวเองว่าไม่เป็นไร คราวหน้าเอาใหม่ ผมเลยบอกกับนายB ว่าอย่าแค่คิดลองสอบสิวะ นายดูความสามารถตัวเองในตอนนี้เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นและสร้างแรงผลักดันขึ้นหน่อยยสิ!! เพราะการมีแค่ทัศนคติหวังโชคมันทำให้คนเราทำอะไรไม่เต็มที่และไม่พัฒนา
พอตอนสอบเข้า มอ4(โรงเรียนชื่อดังอีกละ) ผมเลยบอกนายBอย่างนึง.....ว่า
A:เห้ยถ้าเองทำได้แค่นี้ก็อย่าไปสอบเลย มันสู้คนอื่นไม่ได้หรอกพยายามหน่อย
B:นี่กับชีวิตกู จริงๆ จะสนทำไมวะว่าจะติดไม่ติด
A:แต่การที่คิดแบบนี้ทำให้ไม่พยายามนะเว้ย
B:กูพยายามแล้วเต็มที่แล้ว เด็กเก่งๆคนอื่นๆก็คงเจอแบบกุหล่ะ
A:แล้วกุจะคอยดู
สรุปมันไม่ติดเช่นเดิมและก็อยู่โรงเรียนเดิมต่อไปอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน ครับ เมื่อไหร่เพื่อนผมจะเลิกทัศนคติแบบนี้สักที
ถึงผมจะไม่ใช่เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับนาย Bแต่ผมก็พยายามพร่ำบอกมันตลอด ฉุดมันขึ้นมาผมคิดว่าเพื่อนที่ดีควรจะบอกสิ่งที่ผิดที่ถูกให้เพื่อนไม่ใช่หรอครับ
ผมควรทำยังไงกับเพื่อนคนนี้ดีครับ