เพื่อนผมมีผีเป็นเมีย....






เพื่อนผมมีผีเป็นเมีย
โดย... ล. วิลิศมาหรา

ผมเป็นคนต่างจังหวัด สมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยมฯปลาย ผมต้องย้ายตามพ่อกับแม่ไปเรียนหนังสือต่อที่กรุงเทพ ทิ้งปู่กับย่าไว้ที่บ้านสวนในต่างจังหวัด  ต่างจังหวัดในยุคนั้นยังไม่ค่อยมีความเจริญมากนัก โดยเฉพาะสวนผลไม้ที่เป็นบ้านของปู่ พื้นที่สวนมีมากกว่าสามสิบไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์อยู่มาก ที่ดินในตอนนั้นมีการจับจองและเข้าทำประโยชน์โดยยังไม่หลักฐานทางที่ดิน 

ปู่ผมมีคนเฝ้าสวนอยู่ครอบครัวหนึ่ง อยู่มานานมากจนคุ้นเคยกันกับครอบครัวของพวกเราดี แกชื่อลุงสมควร มีลูกชายโทนอายุไล่เลี่ยกับผมคนหนึ่งชื่อไพบูลย์ ซึ่งเวลาผมตามปู่ไปที่สวนก็มักจะไปวิ่งเล่นกับไพบูลย์เพื่อนผมนี่แหละ

สวนมะม่วงของปู่ปลูกผลหมากรากไม้เอาไว้หลายอย่าง ไม่ได้ปลูกเฉพาะมะม่วงเท่านั้น มีทั้งมะพร้าว ฝรั่ง และมีดงกล้วยอยู่หนาแน่นทางด้านที่ติดกับลำห้วย อีกด้านของสวนติดกับภูเขา เรียกว่ามีธรรมชาติที่สวยงามอยู่ล้อมรอบเลยทีเดียว ถนนหนทางแถวบ้านปู่สมัยนั้นยังเป็นถนนดินลูกรัง ผิวถนนก็เป็นหลุมเป็นบ่อยังกะโลกพระจันทร์ ทางเข้าสวนปู่ผมยังมีลักษณะเป็นทางเกวียน

พอเข้าสวนมาเกือบถึงลำห้วย ปู่ปลูกบ้านหลังคามุงแฝกไว้ให้คนสวนอาศัยอยู่สองหลัง ตั้งอยู่ห่างกันพอสมควร หลังหนึ่งสร้างอยู่ริมลำธารสายเล็ก มีท่าน้ำเป็นแผ่นไม้สองแผ่นยื่นเข้าไปในลำธารประมาณสองเมตร บรรยากาศเหมาะเป็นบ้านพักตากอากาศดีทีเดียว

พอเรียนจบมหาวิทยาลัย ผมได้งานทำที่กรุงเทพ ทุกปีที่ผมมีโอกาสกลับมาเยี่ยมปู่ ผมก็มักจะแวะเข้าไปเยี่ยมครอบครัวของลุงสมควรในสวนด้วย เอาของฝากจากกรุงเทพไปฝากแกกับลูก และมักเข้ามานอนเล่นบ้านหลังที่อยู่ติดกับลำธาร

แต่สองปีที่ผ่านมานี้ เนื่องจากสถานการณ์โรคโควิดที่กำลังระบาด ผมจึงไม่ได้กลับมาเยี่ยมปู่กับย่าเหมือนทุกปี แม้แต่เมื่อรู้ว่าลุงสมควรตายไป ก็ไม่ได้กลับมาร่วมงานศพแก ปีนี้เมื่อสถานการณ์ของโรคคลี่คลายลง ผมจึงมีโอกาสกลับไปบ้านปู่อีกครั้ง พักนอนที่บ้านปู่คืนหนึ่ง พอวันรุ่งขึ้นผมก็ขอตัวเข้าไปนอนในสวน ผมสะพายเป้บรรจุเสื้อผ้ากับของใช้ส่วนตัว ขี่จักรยานเข้าไป พอไปถึงก็เห็นไพบูลย์ในชุดทำสวนเดินออกมาจากดงกล้วยที่ปลูกอยู่หลายกลุ่มตามแนวริมลำธาร

 “อ้าว ชัย มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ” มันเห็นผมก็ร้องทักอย่างดีใจ 

 “มาถึงเมื่อวานแล้ว วันนี้ว่าจะมานอนที่บ้านริมลำธาร เสียใจเรื่องลุงด้วยนะ ตอนลุงเสีย ฉันออกจากกรุงเทพมาไม่ได้ เลยไม่ได้มางานลุง”  

 “ไม่เป็นไรหรอก คิดว่าพ่อฉันคงเข้าใจเอ็งอยู่ ว่าแต่คืนนี้จะนอนค้างที่นี่เหรอ” ไพบูลย์ถามย้ำผมอีกที

“ใช่...จะมานอนฟังเสียงน้ำไหลเสียหน่อย อยู่กรุงเทพหาบรรยากาศแบบนี้หายากเต็มที เหมือนมาชาร์ตแบตเตอร์รี่ก่อนกลับไปลุยงานต่อ” 

“มาคราวนี้จะมาอยู่นานมั้ย”

“สักอาทิตย์หนึ่ง ฉันลางานได้เท่านี้เอง”

ไพบูลย์พยักหน้ารับรู้ ผมสังเกตเห็นมันมีท่าทางแปลก ๆ สีหน้าแม้จะแสดงออกว่าดีใจที่ได้เจอผม แต่แววตามันดูเลื่อนลอยชอบกล เหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ ใบหน้าหมองคล้ำ ท่าทางไม่ค่อยสดชื่น รูปร่างก็ดูซูบผอมลงจนผิดตา

“งั้นเดี๋ยวฉันจะไปปิ้งปลามาให้กินเป็นมื้อเที่ยง ตอนเย็นจะทำต้มโคล้งไก่เป็นกับแกล้มให้ เหล้าที่พ่อหมักไว้ยังเหลืออีกไห”

“ฉันไม่ขัดศรัทธาแก คืนนี้เรามานอนคุยกันนะบูลย์ ไม่ได้เจอกันตั้งสองปี คิดถึงแกเหมือนกันว่ะ” 

ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไร เพราะมัวแต่ดีใจที่ได้เจอเพื่อนเก่าที่เคยวิ่งเล่นกันมาตั้งแต่ยังเล็ก วันนั้นผมกับไพบูลย์ช่วยกันทำความสะอาดบ้านหลังที่ติดกับลำธาร ที่ตอนนี้ก็ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ จากนั้นจึงไปเดินดูต้นไม้ในสวน ส่วนไพบูลย์แยกไปทำอาหารที่บ้านอีกหลัง ตกบ่ายก็ชวนกันลงเล่นน้ำในลำธารที่ไม่ลึกมากนัก รำลึกถึงสมัยตอนยังเป็นเด็ก จนเวลาใกล้ค่ำ เราสองคนก็ตั้งวงก๊งเหล้ากันตรงแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้านที่ผมจะนอนพัก ห่างจากลำธารไปไม่มากนัก หน้าบ้านหันไปทางลำธาร สายน้ำในลำธารไหลเอื่อย ๆ ช่วงที่ไหลผ่านโขดหินน้ำจะแตกเป็นฟองเสียงดังซ่า ๆ น่าฟัง ข้าวร้อน ๆ กินกับต้มโคล้งไก่ฝีมือทำกับข้าวของไพบูลย์ อร่อยจนลืมอิ่ม 

(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ตื่นเช้าขึ้นมาพอล้างหน้าล้างตาเสร็จ ผมก็เดินไปเรียกไพบูลย์ที่บ้านอีกหลัง หวังจะถามมันถึงเรื่องผู้หญิงที่ผมเห็นเมื่อคืน เรียกอยู่นานมันก็ไม่ยอมมาเปิดประตูสักที ผมเลยเดินขึ้นไปดูบนบ้าน ไปเคาะประตูห้องเรียก แต่ทันทีที่มือผมแตะบานประตู มันก็เปิดออกทันที เหมือนไม่ได้ใส่กลอนไว้ข้างใน พอผมมองเข้าไปก็เห็นไพบูลย์นอนนิ่งอยู่กลางที่นอน ผมรู้สึกแปลก ๆ กับอาการนอนนิ่งไม่ไหวติงของมัน จึงเดินเข้าไปจับตัวมันดู ทันใดนั้นผมก็ต้องตกใจ ร้องอุทานออกมา เพราะปรากฏว่าตัวของไพบูลย์เย็นเฉียบและแข็งกระด้าง หน้าซีดเหมือนตุ๊กตายาง...ไพบูลย์เพื่อนผมไม่หายใจ มันตายไปเสียแล้ว

ผมแทบกระโจนลงจากบ้าน คว้ารถจักรยานปั่นกลับไปแจ้งข่าวร้ายที่บ้านปู่ทันที ไม่นานคนก็พากันมาที่บ้านสวนเต็มไปหมด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผลการตรวจศพพบว่าไพบูลย์นอนไหลตาย หรือนอนหลับตายไป ตำรวจบอกว่าน่าจะตายมาตั้งแต่ประมาณหลังเที่ยงคืน ซึ่งคงเป็นเวลาหลังเลิกดื่มกับผมไปแล้ว

เมื่อถูกตำรวจเรียก ผมก็เล่าให้เขาฟังตามความเป็นจริงทุกอย่าง ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่กับไพบูลย์ก่อนตาย ผมเล่าว่าเจอผู้หญิงคนนั้นลงเล่นน้ำตอนกลางดึก ก่อนเธอจะเดินหายเข้าไปในดงกล้วยริมลำธาร หลังเธอเห็นผมออกมายืนมอง ทุกคนฟังแล้วต่างพากันทำหน้าสงสัย เหมือนไม่อยากจะเชื่อ ใครจะคิดยังไงผมไม่รู้...รู้แต่ว่าผมพูดความจริง ในความคิดของผม เธอคนนั้นต้องมีส่วนทำให้เพื่อนผมตาย นึกถึงคำพูดของไพบูลย์ที่ว่า

'ผีบางประเภทก็น่ารัก รู้จักมาอยู่เป็นเพื่อนคน ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คนคิด หรืออย่างที่เห็นในหนัง อาจทำให้คนหลงรักผีเข้าให้ด้วยก็ได้เหมือนกัน'

นึกขึ้นมาทีไรก็ขนลุกซู่ทุกครั้งไป เธอคนนั้นทำให้เพื่อนผมหายเหงา แต่ก็มาเอาชีวิตของไพบูลย์ไปด้วยหรือเปล่า

เรื่องการตายของไพบูลย์นั้น ผมพ้นข้อสงสัยของตำรวจไป เพราะสาเหตุการตายมันชัดเจนอยู่แล้ว ไพบูลย์ไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย และผลการพิสูจน์ศพก็คือมันหัวใจวายตายไปเอง ส่วนผู้หญิงคนดังกล่าวไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่าเธอเป็นใคร อยู่ที่ไหน รูปร่างลักษณะของเธอที่ผมบอกก็ไม่เคยมีใครรู้จัก และในสวนของปู่ก็ไม่มีบ้านของใครปลูกอยู่อีก

ผลสรุปการตายของไพบูลย์จะออกมาอย่างไรก็ตาม ใจผมสรุปไปแล้วว่าผู้หญิงที่ผมเห็นจะต้องเกี่ยวข้องกับการตายของไพบูลย์ และเป็นความเกี่ยวข้องที่ไม่ธรรมดา ผมคิดว่าเพื่อนผมมีเมียเป็นผีครับ!

จบ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่