ผมคบกับแฟนที่เป็นผู้ชายด้วยกัน เกือบจะครบ1ปีแล้วช่วงแรกความสัมพันธ์ดีมาก และเริ่มย้ายมาอยู่คอนโดด้วยกัน พอคบกันไปสักระยะหนึ่งเริ่มมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องยืมครั้งละ1-2พัน ซึ่งก็ได้คืนตลอดในช่วงสิ้นเดือน(เงินเดือนออก) พอมาพักหลังมันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆกลายเป็นว่ายืมทุกเดือนเลยเหมือนผมต้องมีเงินสำรองให้แฟนยืมทุกเดือน เดือนละประมาณ3-4พันบาท ที่ผมให้แฟนยืมเพราะว่าผมเห็นใจเขาฐานะทางบ้านเขาไม่ดีและแฟนไม่มีที่ให้พึ่งนอกจากตัวผมเพราะเขาไม่ได้อยู่กับครอบครัว ที่มีครอบครัวคอยซัพพอร์ต แฟนผมทำงานบริษัทเงินเดือนไม่ได้มากมาย ผมเข้าใจว่าเงินเขาไม่พอใช้ ช่วงหลังๆ3-4เดือนมานี้เวลาไปกินอะไรผมจะเป็นฝ่ายออกให้ตลอดเพราะผมอยากให้แฟนได้กินของดีๆเหมือนที่ผมได้กินไปเที่ยวด้วยกันผมก็เป็นฝ่ายที่จ่ายมากกว่า บวกกับต้องมีเงินสำรองให้แฟนยืมทุกๆเดือนด้วยเพราะแฟนผมบอกว่าเขาต้องจ่ายค่าบลาๆ เงินเดือนจึงไม่พอ ช่วงแรกๆก็ให้ได้แบบไม่ได้คิดอะไรพอมาช่วง
หลังๆผมเริ่มเครียด แล้วล่าสุดแฟนขอยืมเงินเกือบ6หมื่นเพื่อไปจ่ายหนี้บลาๆ ผมก็พึ่งรู้เหมือนกันว่าเขามีหนี้ขนาดนี้เลยหรอ ผมรู้สึกแย่และเครียดพอสมควร ผมจึงปฏิเสธไปไม่ให้ยืมโดยให้เหตุผลว่าเราก็ต้องใช้เงินเหมือนกันเงินมากขนาดนั้นเรายังไม่กล้าใช้ซื้อความสุขให้ตัวเองเลยทั้งๆที่เราก็อยากจะซื้อนู้นนี่ให้ตัวเองบ้าง (ผมเป็นคนประหยัดครับและแฟนผมรู้ว่าผมมีเงินเยอะมากและมีครอบครัวคอยสนับสนุนเรื่องเงินอย่างเต็มที่แต่ผมไม่เคยใช้เงินเกินตัวเลย) พอผมปฏิเสธไม่ให้ยืมไปเขาก็งอลผมโกรธผมแล้วเขาพูดว่าอยากให้ผมโตแล้วมองความสัมพันธ์แบบที่ผู้ใหญ่เขาคบกันมันต้องช่วยเหลือกัน ผมก็ช่วยได้เท่าที่ผมไหวผมผิดหรอครับ ผมควรทำยังไงต่อดีครับ
ปล.ผมอยู่กับแฟนผมมีความสุขมากครับผมจึงพยายามทำให้ความรักของเราไปให้ได้นานที่สุด แต่ตอนนี้ผมเริ่มคิดแล้วว่าเขาคบกับผมเพราะเรื่องเงินหรือป่าว