แนะนำตัวก่อนนะครับ

ผม อายุ 30 ปี จบอาชีพสายเฉพาะ แต่ปัจจุบันเป็นพนักงานบริษัท เอกชน รายได้ 100k+ บาท ที่บ้านค่อนข้างมีฐานะ มีคอนโด มีรถยนต์ที่บ้านเตรียมไว้ให้หมด ไม่มีภาระหนี้สินใดๆ 

แฟน เพศเดียวกัน อายุเท่ากัน จบ ป.ตรี พนักงานบริษัทเอกชน(คนละที่) รายได้ 75k บาท ที่บ้านทำธุรกิจ หลัง ๆ มีปัญหาทำให้ต้องหยิบยืมเงินแฟนบ่อยๆ แฟนมีน้องสาว 1 คน ไม่ยอมทำงาน มีหนี้สินต้องผ่อนคอนโด

แฟนเข้ามาจีบก่อน ช่วงแรกตอนคุยๆ กันไม่มีปัญหาใดๆ เนื่องจากรายได้สูงทั้งคู่ เที่ยวแพงได้ ทานอาหารแพงได้ liftstyle ไปด้วยกันได้ 

แต่พอตกลงเป็นแฟนกัน ได้มาทราบภายหลังว่าแฟนมีหนี้บัตรเครดิต และ บัตรกดเงินสด ร่วมหลายแสนบาท จากการที่แฟนใช้เงินเกินตัว (ซื้อของแบรนเนม เข้าคลินิกเสริมความงามบ่อยๆ) แฟนให้พ่อของแฟนยืมเงินไปหมุนทำธุรกิจ แฟนส่งเงินบางส่วนไปให้น้องสาวใช้

เนื่องจากตอนนั้นแฟนกำลังจะติดเครดิตบูโร แฟนจึงได้ขอยืมเงินของผมไป 500,000 บาท เพื่อนำไปใช้หนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ในตอนแรกผมไม่เห็นด้วย แต่เนื่องจากแฟนพูดกดดันบวกกับความสงสารของผม จึงให้แฟนยืมไป

แฟนหลังจากได้ยืมเงินไป ไม่ทราบว่าให้ทางบ้านหยิบยืมเพิ่มเติมหรือไม่ แต่แฟนก็ดูใช้เงินลดลงอยู่บ้าง เงินที่หยิบยืมก็ค่อยๆ ทยอยคืนมาทีละเล็กๆน้อยๆ ปัจจุบันยังใช้หนี้ได้ไม่ถึง 1/4

เนื่องจากแฟนประหยัดมากขึ้นทำให้ lifestyle ของพวกเราเริ่มต่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น ไม่สามารถทานอาหารราคาแพงได้ ไม่สามารถทำกิจกรรมราคาแพงได้ ล่าสุดผมต้องไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียว สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมหมดรักแฟนไปเรื่อยๆ เพราะผมไม่เห็นภาพความสัมพันธ์ระยะยาวของพวกเราอีกต่อไป และผมอยู่คนเดียวแล้วมีความสุขมากกว่า

นอกจากเรื่องปิดบังภาระหนี้สิน (ไม่ทราบว่าจงใจหรือไม่) ก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องอื่นอีก และไม่ได้มีปัญหาเรื่องชู้หรือมือที่สาม

ผมอยากเลิกกับแฟนและยังอยากได้เงินคืนอยู่(ทยอยจ่ายได้) มีวิธีพูดแบบไหนบ้างที่จะทำให้แตกหักน้อยที่สุดบ้างครับ? ขอบคุณครับ