.......
แผลงองศาดาริกาผัน จากค่ำคืนอัน
สว่างพลันเปลี่ยนเป็นมืดหม่น
สองราส่องหล้าแสงหล่น สองลาแสงลง
เพียงสัมพันธ์ดอกไม้เพลิง
ดอกไม้กระดาษสาระเริง ดอกไม้ละลาย
หนึ่งหยดเทียนไขกระเซ็น
เรือกระดาษไขไกลลางเล็น เราไกลรางเลือน
ก่อนได้ไขกุญแจต่างใจ
ต้องหักต้องห่างถึงไหน ถึงจะไปจาก
วงโคจรภาพจำ
ภาพสีน้ำมันเปื้อนน้ำ ฝนพรำฝนผ่าน
หลงฤดูกาลน้ำตา
เรขรอยลายร้าวฤๅรา ให้เธอรู้ว่า
ฤๅรารอยร้าวเรขลาย
ตวัดพู่กันอย่างเดิม มิอาจเลือนหาย
ใต้กายจิตจำฝังใจ
กล้วยไม้ผละจากแจกัน อันไม่จีรัง
แต่กายจิตยังฝังจำ
ฝังภาพเธอสุดปลายถ้ำ แห่งมโนสำ
นึก
คงนึกถึงความรู้สึก ที่ยังลึกซึ้ง
ถ้ำช่างตื้นเขินเหลือเกิน
สุดท้ายสุดทางดำเนิน สุดแท้พบเผิน
พรรณผิวกำพร้าเพียงนั้น
เราแค่หลงเข้าพบกัน ในวันที่ฟ้า
วาดรุ้งลวงตาวูบเดียว
แก่นจันทน์อันหอมกรุ่นเกี่ยว กระหวัดเกลียว
กายหยาบที่ห่างแก่นใจ
เมฆาคงรูปเพียงไหน ครู่ลมเคลื่อนไป
เสมอหรือนิรันดร์ลักขณา
เบิกโสตนัยน์ซึ่งนาสา ว่าถึงเวลา
ยอมรับในความเปลี่ยนแปลง
ตวัดพู่กันด้ามเดิม วาดเขียนด้วยแรง
กำหนดปลดเปลื้องพันธนา
เรขรอยเรียวรุ้งหลบฟ้า ให้เธอรู้ว่า
ฉันลืมเธอแล้วหรือยัง...
.......
20220222100
ให้เธอรู้ว่า