สวัสดีค่ะ เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่ออยากจะบอกเล่าถึงเรื่องราวของแฟนเก่าเราที่เพิ่งเลิกรากันไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
เริ่มเลยนะคะ เราของเรียกผู้ชายคนนั้นว่า อ. แล้วกันนะคะ เราคบกับ อ.มา 4 ปีเต็ม ที่บ้านทั้ง2ฝ่ายรับรู้ เราเจอกันในที่ทำงาน อ. มาบรรจุใหม่เป็นข้าราชการ เราเป็นลูกจ้าง หลังคบกันอ.ทำงานได้ไม่ถึงปีก็ลาออกจากราชการเพราะเหตุผลส่วนตัวและเขาไม่ลักษณะงานที่เขาทำอยู่ (ปล.เราห้ามไม่ได้ อ. ไม่ฟังใครทั้งนั้น กระทั่งพ่อแม่) ซึ่งเราก็ลาออกตามมาระยะเวลาไล่เลี่ยกัน เรา 2 คนหันมาค้าขายด้วยเงินที่ อ.ยืมเพื่อนมา 10,000 บาท (ปล.เราคืนเพื่อนเขาไปทั้งหมดแล้ว เงินเราทั้งหมด) และเงินเขาเองประมาณ 15,000 บาท มาลงทุนค้าขายซึ่งตอนนั้นเราเช่าห้องแถวและขายของหน้าร้าน เขาก็พักอยู่ที่นั้น ส่วนเราไปๆมาๆ (ลืมบอกไปเรามีลูกติด 1 คนนะคะ) ทำได้ไม่นานก็ไปไม่รอดเนื่องด้วยไม่มีประสบการณ์ เราจึงหันมาทำงานประจำแทนมาเป็นครูธุรการเงินเดือน9,000บาท ต้องย้ายมาเช่าห้องอยู่ใกล้โรงเรียนให้เพื่อให้ อ.อยู่ ส่วนเราไปๆมาๆเหมือนเดิม ทำได้ไม่นานเราเริ่มแบกภาระไม่ไหวเพราะเขาก็ไม่ได้ทำงาน อาศัยเงินจากทางบ้านที่ส่งให้เดือนละประมาณ 4,000 บาท เราจึงลาออกไปทำงานบริษัทแห่งหนึ่งที่ต่างจังหวัดที่เงินเดือนเยอะกว่า สวัสดิการดีกว่า ซึ่งตอนนั้น อ.ก็ไปอาศัยอยู่บ้านเพื่อนของเขาประมาณ 4 เดือน (เขามีปัญหากับที่บ้าน และไม่กลับบ้านเลยนานหลายปีมากแล้วตั้งแต่ก่อนมารู้จักกับเราอีก) พอเราฝึกงานผ่านเราก็มาเช่าหออยู่ใกล้ที่ทำงาน และเขาก็ย้ายมาอยู่ด้วย ช่วงนั้นโควิดเริ่มระบาดแล้ว ที่ทำงานงานเราเลยให้พัก กินนอน อยู่ที่ทำงานเลย เราเลยไม่ได้อยู่ด้วยกัน เราเจอกันแค่เดือนละครั้ง หลังโควิดระบาดหนักขึ้น บริษัทเลยย้ายพนักงานไปทำงานที่อื่นในเดือนกันยายน 2563 เราเลยไม่ได้เจอกันอีกเลย ประมาณปีกว่าๆ จนถึงพ.ย. 2564 เราทะเลาะกัน เขาเลยกลับไปอยู่ที่บ้านของเขา และเราก็ได้ขนของออกจากหอกลับมาไว้ที่บ้านเพราะเราอยากลดค่าใช้จ่ายลง เนื่องด้วยเขาก็กลับไปอยู่ที่บ้านแล้ว จะเดินทางไปๆมาๆก็ลำบากด้วยสถานการณ์โควิดตอนนี้ เราก็เบาใจแล้วเปราะหนึ่งว่าเขาได้กลับไปอยู่กับครอบครัวแล้วและช่วงเดือนธ.ค.2564 เขาได้ไปสอบข้าราชการท้องถิ่น และเขาสอบติด ตอนนี้เพิ่งสอบสัมภาษณ์ไปเมื่อ 28 มค.2565 ที่ผ่านมาและเขาบอกเลิกเรา เมื่อวันที่ 6 ก.พ. เราขอเท้าความก่อนว่าตลอดเวลาเขาอยู่ที่ห้องที่เราเช่าไว้ เราจ่ายค่าห้องค่าน้ำไฟให้ทั้งหมด ส่วนค่ากินทางบ้านเขาให้เดือนละประมาณ4000บาทได้เราไม่แน่ใจเราไม่เคยถาม ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆจิปาถะในห้องเราจ่ายตลอด ของใช้ส่วนตัว ขนมนมเนย เวลาอ่านหนังสือเตรียมสอบเราซื้อให้ กับข้าวเราก็สั่งมาให้เอาไปส่งที่หอรถมอเตอร์ไซค์เราก็ให้ใช้ บางเดือนเราก็ช่วยเป็นเงินสด 500-1000 /เดือน บ้างถ้าเดือนไหนไม่ได้ซื้อของให้ เราดูแล ช่วยเหลือเขามาตลอดระยะ 4 ปีที่คบกันมา เคี่ยวเข็นให้อ่านหนังสือสอบ ช่วยทำข้อสอบเราทำงานเลิกหกโมงเย็นต้องรอทำข้อสอบกับอ.จนถึง3-4ทุ่ม วันหยุดเราก็ช่วยติวหนังสือ เอาง่ายๆคือเราช่วยทุกอย่างที่ช่วยได้ เวลาอยู่ด้วยกันเราทำหมด งานบ้านงานเรือน อ. แทบไม่ต้องหยิบจับอะไรเลย เคนบอกให้เขาช่วย แต่เขาไม่ทำ เขาเป็นคนที่ขี้เกียจมากๆๆๆๆๆ วันๆอยู่ห้องไม่ทำอะไรเลย กิน นอน เกมส์ หนัง น้ำไม่อาบบางครั้งนานลากยาวเกือบ10 วัน ห้องรกมาก นานๆเก็บที เรื่องนี้เราปล่อยผ่านเพราะเราไม่ได้อยู่ด้วย อ.เป็นคนปากร้ายมาก ทำอะไรไม่ถูกใจด่า ขึ้น-กู ตลอด เรามีหน้าที่ต้องทำตามอย่างเดียว เขาชี้นกต้องเป็นนก ชี้ไม้ต้องเป็นไม้ ความคิดเขาถูกต้องเสมอถึงแม้ว่ามันจะผิด เขาก็จะไม่ยอมรับ ความคิดเขาต้องถูกต้องเสมอ เข้าเรื่องที่เขาบอกเลิกเราเลยแล้วกันนะคะ เรื่องมีอยู่ว่าก่อนหน้านี้เคยคุยกันว่าเราจะกลับบ้านเดือนก.พ. เราจะไปหาอ.ที่บ้านหลังจากที่ อ.กลับมาจากชม.ที่ไปสอบสัมภาษณ์ อ.ก็มาบอกขอยุติความสัมพันธ์ บอกเราว่าเหตุผลคือรักเราไม่พอ ขอโทษกับทุกอย่างที่เคยทำไม่ดีไว้ เราถามว่ามีคนใหม่ใช่ไหม อ.ตอบว่าไม่มี อยู่ดีๆมาบอกเลยเราไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่ได้ทะเลาะ คุยกันดีๆ แต่หลังมานี้เราสังเกตุได้ อ. เปลี่ยนไป ตอบแชทช้า อ้างว่านอน โทรไม่ค่อยรับ อ้างไม่อยากคุยเจ็บคอ หลังๆมาตั้งค่าการโทรเป็น private ทั้งในTelegram , line เรารู้สึกสงสัยแล้ว แต่เรายังเชื่อใจ จากนั้นอ.ก็หายไปเลย ไม่มีคำตอบใดๆจากผู้ชายคนนี้ พิมพ์ไปอ่านแต่ไม่ตอบ อ.บล็อกการติดต่อเราทุกช่องทาง เราทนกับความรู้สึกค้างคาแบบนี้ไม่ไหว ตามนิสัยผู้หญิง เราก็ไปสืบเสาะหามาจนรู้ความจริง ว่าอ.คุยกับผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อเล่น น. (2พยางค์) เป็นเพื่อนเก่าเรียนประถม/มัธยมโรงเรียนเดียวกันมา เพิ่งคุยได้ อาทิตย์กว่าๆ ( ข้อดีอ.มีอย่างหนึ่ง อ.เป็นคนพูดดี รู้จักพูดเอาใจคน เป็นคนพูดเพราะคำพูดสวยหรู แต่ถ้ารู้จักจริงๆคำพูดเหล่านั้นคือคำพูดจอมปลอม เอาไว้หลอกคนอื่นก็เท่านั้น ถ้าได้คบแล้วกลายเป็นคนละคน ) ไม่รู้ว่าไปพูดอีท่าไหน หลอกขายฝันอะไรไปบ้าง ผู้หญิงถึงหลงหัวปรักหัวปรำ ตอนที่เรารู้เราเสียใจมาก เราแค้นมากๆไม่คิดว่าอ.จะทำกับเราได้ลงคอ สอบติดแล้วเราหมดประโยชน์แล้วเฉดหัวเราทิ้งทันที แบบไม่ใยดีไม่สนใจเราเลยนะ เราแค้นมากๆ
ต้องมีคนสงสัยใช่ไหมว่า ที่ผ่านเราทนทำไม ที่ผ่านมาเรายอมรับว่าเรารักและสงสาร อ.มาก หลังจากที่ค้าขายแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ อ.ก็ไม่มีที่ไปที่ไหนเลย เพราะไม่เข้าบ้าน ก็มีแต่บ้านเพื่อนที่สามารถไปอยู่ได้ อ.ก็อยู่กับเรามาตลอด หลังๆมาอ.หลีกเลี่ยงที่จะติดต่อกับเพื่อนๆ หลีกเลี่ยงที่จะติดต่อกับทุกคน ชีวิต อ.มีแค่เราอ่ะ เพื่อนๆเขาทักมาหาเราตลอดว่าอ.ไปไหน อ.ไม่เล่นโซเซียลอะไรเลย โทรศัพท์ตั้งค่าโหมดเครื่องบินตลอด ไม่มีใครติดต่ออ.ได้เลย เราติดต่ดอ.ได้ 2 ทางคือ ไลน์กับเทเรแกรม ตลอดระยะเวลาปีกว่าอ.ไม่ติดต่อใครเลย อยู่ห้องคนเดียว พูดคนเดียว โลกส่วนตัวสูงมาก ปล่อยเนื้อปล่อยตัว และเริ่มป่วยบ่อย เพราะไม่ได้ออกำลังกายเลย ไม่ออกไปไหนเลย เดินไกลสุดคือขึ้นลงบันไดมาเอาข้าว กรอกน้ำ หรือซักผ้าข้างล่างหอพัก แค่นั้น เราก็เป็นห่วงอยู่คนเดียว เป็นไข้ไม่สบายขึ้นมาอยู่คนเดียวไม่มีคนดูแล เราซื้ออาอาหารเสิรมบำรุงร่างกาย บำรุงสมองให้ทาน เราทำทุอย่างให้แล้วจริงๆ อ.เริ่มเป็นคนชอบย้ำคิดย้ำทำ เป็นคนคิดมาก คิดเยอะ เพราะตกงานมานาน แต่ก็ได้แค่คิดนะ ไม่เคยลงมือทำอะไร เราพยายามจะหางานให้ทำ เช่น งานพาสไทม์ อยู่ห้องว่างๆสามารถทำได้ ก็ไม่เอา ไม่ทำ ทั้งๆที่จริงอ.สามารถไปขับแพนด้า หรือแกรปได้นะ เพราะรถมอเตอร์ไซค์เราก็มี ถ้าคนมันจะทำอ่ะเนาะ มันทำได้ทั้งนั้นแหละ แต่นี้คือไม่ดิ้นรนอะไรเลย อาศัยแค่เงินที่ทางบ้านส่งมาให้ บางครั้งกินข้าววันละมื้อ เราก็สงสาร ซื้อมาม่า โจ๊ก นม ขนม ส่งไปให้ตลอด เราสงสาร เราไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไรเราช่วยได้เราช่วยเหลือมาตลอด เรามองไม่เห็นอนาคตร่วมกันแหละ แต่เราหวังว่าถ้าอ.สอบติดได้งานทำ เขาอาจจะปรับปรุงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นได้ เขาเหลือเราเป็นที่พึ่งสุดท้ายแล้ว ถ้าเราทิ้งเขาไปตอนนี้อีก เขาจะอยู่ยังไง เขาจะไปที่ไหน จนกระทั่งสอบเสร็จ อ.เริ่มเล่นเฟส เล่นแชทเริ่มกลับไปติดต่อกับเพื่อนๆ และได้ไปคุยกับเพื่อนเก่าคนนี้และสานความสัมพันธ์แอบคบซ้อนเรื่อยมาจนวันที่เราบอกจะกลับบ้าน จะไปหาเขาบอกปฏิเสธ อ้างโควิดเยอะ กลัวเอาโควิดไปติดคนที่บ้านเราจะลำบาก วันนั้นเขารีบส่งของเราที่บ้านเขาทั้งหมดมาให้ และหลังส่งของให้เราเขาก็ขอยุติความสัมพันธ์กับเราทันที เขากลัวเราไปหาที่บ้าน คือถ้าเราไปความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้นก็ต้องจบ บางคนมองบอกว่าดีแล้วที่อ.บอกเร็วแบบนี้ดีกว่าโดนหลอกคบซ้อนมีโลก2ใบไปเรื่อยๆเราจะเจ็บกว่านี้ แต่เราไม่คิดแบบนั้น อ.คงมองแล้วว่าตัวเองต้องสอบได้อันดับต้นๆและได้บรรจุเร็วๆนี้ อ.เลยรีบทิ้งเรา เพราะเราไปอยู่กับอ.ไม่ได้ เรามีงาน มีภาระครอบครัว มีลูกมีพ่อแม่ ต้องดูแลไง ยังไงเราก็ลาออกจากงานมาอยู่กับอ.มาดูแลเขาไม่ได้ กับอีกคนที่พร้อมกว่า พร้อมที่จะออกจากงานมาอยู่กับอ. คนอย่างอ.อย่างที่เล่ามาข้างต้น ขี้เ้กียจมาก อ.ต้องการคนมาดูแล เหมือนครั้งที่เราเจออ.ครั้งแรก อ.เลิกกับแฟนแล้วมาคบเรา เพราะเราทำงานด้วยกัน เราช่วยเหลือเรื่องงาน เราดูแลทุกอย่างให้อ.ได้ เพราะเราอยู่ใกล้ อ.เลยมาคบกับเรา ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เราเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนอ.แต่ละคนฟัง ทุกคนบอกเลยว่า กะไว้แล้ว มันต้องเป็นแบบนี้ ประวัติศาสตร์มันต้องซ้ำรอยแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่เราเป็นคนที่อยู่กับอ.ได้นานที่สุด นานกว่าใครๆ เพราะอ.ยังไม่มีที่ไปไง ตอนนี้มีช่องทางไปแล้วก็ทิ้งเหมือนทุกคนที่ผ่านมา เราอึ้ง เราดูโง่มาก เราไม่เคยรู้มาก่อนเลย
เรานั่งทบทวนอะไรหลายๆอย่างและตอนนี้เราเข้มแข็งมากขึ้นแล้ว เรามองย้อนไปเราไม่มีอะไรให้ต้องเสียดายในตัวผู้ชายคนนี้เลย อยู่ไปก็มองไม่เห็นอนาคตเลย อ.เข้ากับใครไม่ได้ยิ่งพ่อแม่ญาติพี่น้องเราไม่ต้องพูดถึง และที่สำคัญอ.เป็นคนขี้เกียจมาก ไม่คิดสร้างเนื้อสร้างตัวสร้างอนาคต เป็นคนมีความคิดดี คิดดีด้วย แต่ไม่เคยลงมือทำอะไรสักอย่าง มีความรู้แค่ในตำรา รู้ทุกเรื่องรู้ดีหมด แต่ไม่เคยทำ มีเพื่อนคนหนึ่งเคยเตือนสติเราไว้ว่า เธอไม่มีอะไรให้ต้องเสียดายผู้ชายคนนี้เลย ลองคิดทบทวนดูเวลาเธอทำผิดพลาด ล้มเหลว เขาคอยประครองดึงเธอขึ้นมาไหม ที่ผ่านเขาเคยทำอะไรเพื่อเธอบ้าง นอกจากคำด่าทอ ติเตียน ซ้ำเติม เวลาเธอมีปัญหาเขาคอยช่วยเหลือเธอไหม เขาสนใจความรู้สึกเธอหรือปล่าว เวลาทะเลาะกันคอยแต่จะขุดขุ้ยเรื่องผิดพลาดเก่าๆมาต่อว่าซ้ำเติม จำเอาไว้ เสียใจได้แต่อย่าเสียดาย ถ้าคิดถึงความสัมพันธุ์เก่าๆขึ้นมา ให้อ่านข้อความนี้ เตือนสติตัวเอง เราไม่ได้เสียคนดีไป เราเสียคนที่ไม่รู้จักพอไปต่างหาก อ.ควรจะเป็นฝ่ายที่เสียใจ ที่เสียคนดีๆอย่างเธอไป อย่าเดินวนเหมือนนาฬิกา แต่จงเดินไปข้างหน้าอย่างปฎิทิน จำเอาไว้
เรานั่งทบทวนเรื่องราวทั้งหมดแล้ว เราได้ข้อคิดจากประสบการณ์ราคาแพงครั้งนี้ว่า เราไม่ควรรักใครมากกว่าตัวเอง รักต้องอยู่ในความพอดี ใช้สมองให้เยอะๆกว่าหัวใจ ไม่ใช่ว่าทุกความรักความซื่อสัยต์ภักดี เราจะได้รับทุกสิ่งที่เราให้ไปตอบแทนกลับมาเสมอไป อย่าเอาใจลงไปทั้งใจเพียงเพราะคิดว่าทำแบบไหนจะได้แบบนั้น มันไม่เป็นแบบนั้น100% มันใช่ไม่ได้กับทุกคน
ฝากถึงผู้ชายชื่อเล่น อ. (พยางค์เดียว) คนภาคเหนือ จังหวัดขึ้นต้นด้วย น. (พยางค์เดียว)
เริ่มเลยนะคะ เราของเรียกผู้ชายคนนั้นว่า อ. แล้วกันนะคะ เราคบกับ อ.มา 4 ปีเต็ม ที่บ้านทั้ง2ฝ่ายรับรู้ เราเจอกันในที่ทำงาน อ. มาบรรจุใหม่เป็นข้าราชการ เราเป็นลูกจ้าง หลังคบกันอ.ทำงานได้ไม่ถึงปีก็ลาออกจากราชการเพราะเหตุผลส่วนตัวและเขาไม่ลักษณะงานที่เขาทำอยู่ (ปล.เราห้ามไม่ได้ อ. ไม่ฟังใครทั้งนั้น กระทั่งพ่อแม่) ซึ่งเราก็ลาออกตามมาระยะเวลาไล่เลี่ยกัน เรา 2 คนหันมาค้าขายด้วยเงินที่ อ.ยืมเพื่อนมา 10,000 บาท (ปล.เราคืนเพื่อนเขาไปทั้งหมดแล้ว เงินเราทั้งหมด) และเงินเขาเองประมาณ 15,000 บาท มาลงทุนค้าขายซึ่งตอนนั้นเราเช่าห้องแถวและขายของหน้าร้าน เขาก็พักอยู่ที่นั้น ส่วนเราไปๆมาๆ (ลืมบอกไปเรามีลูกติด 1 คนนะคะ) ทำได้ไม่นานก็ไปไม่รอดเนื่องด้วยไม่มีประสบการณ์ เราจึงหันมาทำงานประจำแทนมาเป็นครูธุรการเงินเดือน9,000บาท ต้องย้ายมาเช่าห้องอยู่ใกล้โรงเรียนให้เพื่อให้ อ.อยู่ ส่วนเราไปๆมาๆเหมือนเดิม ทำได้ไม่นานเราเริ่มแบกภาระไม่ไหวเพราะเขาก็ไม่ได้ทำงาน อาศัยเงินจากทางบ้านที่ส่งให้เดือนละประมาณ 4,000 บาท เราจึงลาออกไปทำงานบริษัทแห่งหนึ่งที่ต่างจังหวัดที่เงินเดือนเยอะกว่า สวัสดิการดีกว่า ซึ่งตอนนั้น อ.ก็ไปอาศัยอยู่บ้านเพื่อนของเขาประมาณ 4 เดือน (เขามีปัญหากับที่บ้าน และไม่กลับบ้านเลยนานหลายปีมากแล้วตั้งแต่ก่อนมารู้จักกับเราอีก) พอเราฝึกงานผ่านเราก็มาเช่าหออยู่ใกล้ที่ทำงาน และเขาก็ย้ายมาอยู่ด้วย ช่วงนั้นโควิดเริ่มระบาดแล้ว ที่ทำงานงานเราเลยให้พัก กินนอน อยู่ที่ทำงานเลย เราเลยไม่ได้อยู่ด้วยกัน เราเจอกันแค่เดือนละครั้ง หลังโควิดระบาดหนักขึ้น บริษัทเลยย้ายพนักงานไปทำงานที่อื่นในเดือนกันยายน 2563 เราเลยไม่ได้เจอกันอีกเลย ประมาณปีกว่าๆ จนถึงพ.ย. 2564 เราทะเลาะกัน เขาเลยกลับไปอยู่ที่บ้านของเขา และเราก็ได้ขนของออกจากหอกลับมาไว้ที่บ้านเพราะเราอยากลดค่าใช้จ่ายลง เนื่องด้วยเขาก็กลับไปอยู่ที่บ้านแล้ว จะเดินทางไปๆมาๆก็ลำบากด้วยสถานการณ์โควิดตอนนี้ เราก็เบาใจแล้วเปราะหนึ่งว่าเขาได้กลับไปอยู่กับครอบครัวแล้วและช่วงเดือนธ.ค.2564 เขาได้ไปสอบข้าราชการท้องถิ่น และเขาสอบติด ตอนนี้เพิ่งสอบสัมภาษณ์ไปเมื่อ 28 มค.2565 ที่ผ่านมาและเขาบอกเลิกเรา เมื่อวันที่ 6 ก.พ. เราขอเท้าความก่อนว่าตลอดเวลาเขาอยู่ที่ห้องที่เราเช่าไว้ เราจ่ายค่าห้องค่าน้ำไฟให้ทั้งหมด ส่วนค่ากินทางบ้านเขาให้เดือนละประมาณ4000บาทได้เราไม่แน่ใจเราไม่เคยถาม ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆจิปาถะในห้องเราจ่ายตลอด ของใช้ส่วนตัว ขนมนมเนย เวลาอ่านหนังสือเตรียมสอบเราซื้อให้ กับข้าวเราก็สั่งมาให้เอาไปส่งที่หอรถมอเตอร์ไซค์เราก็ให้ใช้ บางเดือนเราก็ช่วยเป็นเงินสด 500-1000 /เดือน บ้างถ้าเดือนไหนไม่ได้ซื้อของให้ เราดูแล ช่วยเหลือเขามาตลอดระยะ 4 ปีที่คบกันมา เคี่ยวเข็นให้อ่านหนังสือสอบ ช่วยทำข้อสอบเราทำงานเลิกหกโมงเย็นต้องรอทำข้อสอบกับอ.จนถึง3-4ทุ่ม วันหยุดเราก็ช่วยติวหนังสือ เอาง่ายๆคือเราช่วยทุกอย่างที่ช่วยได้ เวลาอยู่ด้วยกันเราทำหมด งานบ้านงานเรือน อ. แทบไม่ต้องหยิบจับอะไรเลย เคนบอกให้เขาช่วย แต่เขาไม่ทำ เขาเป็นคนที่ขี้เกียจมากๆๆๆๆๆ วันๆอยู่ห้องไม่ทำอะไรเลย กิน นอน เกมส์ หนัง น้ำไม่อาบบางครั้งนานลากยาวเกือบ10 วัน ห้องรกมาก นานๆเก็บที เรื่องนี้เราปล่อยผ่านเพราะเราไม่ได้อยู่ด้วย อ.เป็นคนปากร้ายมาก ทำอะไรไม่ถูกใจด่า ขึ้น-กู ตลอด เรามีหน้าที่ต้องทำตามอย่างเดียว เขาชี้นกต้องเป็นนก ชี้ไม้ต้องเป็นไม้ ความคิดเขาถูกต้องเสมอถึงแม้ว่ามันจะผิด เขาก็จะไม่ยอมรับ ความคิดเขาต้องถูกต้องเสมอ เข้าเรื่องที่เขาบอกเลิกเราเลยแล้วกันนะคะ เรื่องมีอยู่ว่าก่อนหน้านี้เคยคุยกันว่าเราจะกลับบ้านเดือนก.พ. เราจะไปหาอ.ที่บ้านหลังจากที่ อ.กลับมาจากชม.ที่ไปสอบสัมภาษณ์ อ.ก็มาบอกขอยุติความสัมพันธ์ บอกเราว่าเหตุผลคือรักเราไม่พอ ขอโทษกับทุกอย่างที่เคยทำไม่ดีไว้ เราถามว่ามีคนใหม่ใช่ไหม อ.ตอบว่าไม่มี อยู่ดีๆมาบอกเลยเราไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่ได้ทะเลาะ คุยกันดีๆ แต่หลังมานี้เราสังเกตุได้ อ. เปลี่ยนไป ตอบแชทช้า อ้างว่านอน โทรไม่ค่อยรับ อ้างไม่อยากคุยเจ็บคอ หลังๆมาตั้งค่าการโทรเป็น private ทั้งในTelegram , line เรารู้สึกสงสัยแล้ว แต่เรายังเชื่อใจ จากนั้นอ.ก็หายไปเลย ไม่มีคำตอบใดๆจากผู้ชายคนนี้ พิมพ์ไปอ่านแต่ไม่ตอบ อ.บล็อกการติดต่อเราทุกช่องทาง เราทนกับความรู้สึกค้างคาแบบนี้ไม่ไหว ตามนิสัยผู้หญิง เราก็ไปสืบเสาะหามาจนรู้ความจริง ว่าอ.คุยกับผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อเล่น น. (2พยางค์) เป็นเพื่อนเก่าเรียนประถม/มัธยมโรงเรียนเดียวกันมา เพิ่งคุยได้ อาทิตย์กว่าๆ ( ข้อดีอ.มีอย่างหนึ่ง อ.เป็นคนพูดดี รู้จักพูดเอาใจคน เป็นคนพูดเพราะคำพูดสวยหรู แต่ถ้ารู้จักจริงๆคำพูดเหล่านั้นคือคำพูดจอมปลอม เอาไว้หลอกคนอื่นก็เท่านั้น ถ้าได้คบแล้วกลายเป็นคนละคน ) ไม่รู้ว่าไปพูดอีท่าไหน หลอกขายฝันอะไรไปบ้าง ผู้หญิงถึงหลงหัวปรักหัวปรำ ตอนที่เรารู้เราเสียใจมาก เราแค้นมากๆไม่คิดว่าอ.จะทำกับเราได้ลงคอ สอบติดแล้วเราหมดประโยชน์แล้วเฉดหัวเราทิ้งทันที แบบไม่ใยดีไม่สนใจเราเลยนะ เราแค้นมากๆ
ต้องมีคนสงสัยใช่ไหมว่า ที่ผ่านเราทนทำไม ที่ผ่านมาเรายอมรับว่าเรารักและสงสาร อ.มาก หลังจากที่ค้าขายแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ อ.ก็ไม่มีที่ไปที่ไหนเลย เพราะไม่เข้าบ้าน ก็มีแต่บ้านเพื่อนที่สามารถไปอยู่ได้ อ.ก็อยู่กับเรามาตลอด หลังๆมาอ.หลีกเลี่ยงที่จะติดต่อกับเพื่อนๆ หลีกเลี่ยงที่จะติดต่อกับทุกคน ชีวิต อ.มีแค่เราอ่ะ เพื่อนๆเขาทักมาหาเราตลอดว่าอ.ไปไหน อ.ไม่เล่นโซเซียลอะไรเลย โทรศัพท์ตั้งค่าโหมดเครื่องบินตลอด ไม่มีใครติดต่ออ.ได้เลย เราติดต่ดอ.ได้ 2 ทางคือ ไลน์กับเทเรแกรม ตลอดระยะเวลาปีกว่าอ.ไม่ติดต่อใครเลย อยู่ห้องคนเดียว พูดคนเดียว โลกส่วนตัวสูงมาก ปล่อยเนื้อปล่อยตัว และเริ่มป่วยบ่อย เพราะไม่ได้ออกำลังกายเลย ไม่ออกไปไหนเลย เดินไกลสุดคือขึ้นลงบันไดมาเอาข้าว กรอกน้ำ หรือซักผ้าข้างล่างหอพัก แค่นั้น เราก็เป็นห่วงอยู่คนเดียว เป็นไข้ไม่สบายขึ้นมาอยู่คนเดียวไม่มีคนดูแล เราซื้ออาอาหารเสิรมบำรุงร่างกาย บำรุงสมองให้ทาน เราทำทุอย่างให้แล้วจริงๆ อ.เริ่มเป็นคนชอบย้ำคิดย้ำทำ เป็นคนคิดมาก คิดเยอะ เพราะตกงานมานาน แต่ก็ได้แค่คิดนะ ไม่เคยลงมือทำอะไร เราพยายามจะหางานให้ทำ เช่น งานพาสไทม์ อยู่ห้องว่างๆสามารถทำได้ ก็ไม่เอา ไม่ทำ ทั้งๆที่จริงอ.สามารถไปขับแพนด้า หรือแกรปได้นะ เพราะรถมอเตอร์ไซค์เราก็มี ถ้าคนมันจะทำอ่ะเนาะ มันทำได้ทั้งนั้นแหละ แต่นี้คือไม่ดิ้นรนอะไรเลย อาศัยแค่เงินที่ทางบ้านส่งมาให้ บางครั้งกินข้าววันละมื้อ เราก็สงสาร ซื้อมาม่า โจ๊ก นม ขนม ส่งไปให้ตลอด เราสงสาร เราไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไรเราช่วยได้เราช่วยเหลือมาตลอด เรามองไม่เห็นอนาคตร่วมกันแหละ แต่เราหวังว่าถ้าอ.สอบติดได้งานทำ เขาอาจจะปรับปรุงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นได้ เขาเหลือเราเป็นที่พึ่งสุดท้ายแล้ว ถ้าเราทิ้งเขาไปตอนนี้อีก เขาจะอยู่ยังไง เขาจะไปที่ไหน จนกระทั่งสอบเสร็จ อ.เริ่มเล่นเฟส เล่นแชทเริ่มกลับไปติดต่อกับเพื่อนๆ และได้ไปคุยกับเพื่อนเก่าคนนี้และสานความสัมพันธ์แอบคบซ้อนเรื่อยมาจนวันที่เราบอกจะกลับบ้าน จะไปหาเขาบอกปฏิเสธ อ้างโควิดเยอะ กลัวเอาโควิดไปติดคนที่บ้านเราจะลำบาก วันนั้นเขารีบส่งของเราที่บ้านเขาทั้งหมดมาให้ และหลังส่งของให้เราเขาก็ขอยุติความสัมพันธ์กับเราทันที เขากลัวเราไปหาที่บ้าน คือถ้าเราไปความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้นก็ต้องจบ บางคนมองบอกว่าดีแล้วที่อ.บอกเร็วแบบนี้ดีกว่าโดนหลอกคบซ้อนมีโลก2ใบไปเรื่อยๆเราจะเจ็บกว่านี้ แต่เราไม่คิดแบบนั้น อ.คงมองแล้วว่าตัวเองต้องสอบได้อันดับต้นๆและได้บรรจุเร็วๆนี้ อ.เลยรีบทิ้งเรา เพราะเราไปอยู่กับอ.ไม่ได้ เรามีงาน มีภาระครอบครัว มีลูกมีพ่อแม่ ต้องดูแลไง ยังไงเราก็ลาออกจากงานมาอยู่กับอ.มาดูแลเขาไม่ได้ กับอีกคนที่พร้อมกว่า พร้อมที่จะออกจากงานมาอยู่กับอ. คนอย่างอ.อย่างที่เล่ามาข้างต้น ขี้เ้กียจมาก อ.ต้องการคนมาดูแล เหมือนครั้งที่เราเจออ.ครั้งแรก อ.เลิกกับแฟนแล้วมาคบเรา เพราะเราทำงานด้วยกัน เราช่วยเหลือเรื่องงาน เราดูแลทุกอย่างให้อ.ได้ เพราะเราอยู่ใกล้ อ.เลยมาคบกับเรา ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เราเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนอ.แต่ละคนฟัง ทุกคนบอกเลยว่า กะไว้แล้ว มันต้องเป็นแบบนี้ ประวัติศาสตร์มันต้องซ้ำรอยแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่เราเป็นคนที่อยู่กับอ.ได้นานที่สุด นานกว่าใครๆ เพราะอ.ยังไม่มีที่ไปไง ตอนนี้มีช่องทางไปแล้วก็ทิ้งเหมือนทุกคนที่ผ่านมา เราอึ้ง เราดูโง่มาก เราไม่เคยรู้มาก่อนเลย
เรานั่งทบทวนอะไรหลายๆอย่างและตอนนี้เราเข้มแข็งมากขึ้นแล้ว เรามองย้อนไปเราไม่มีอะไรให้ต้องเสียดายในตัวผู้ชายคนนี้เลย อยู่ไปก็มองไม่เห็นอนาคตเลย อ.เข้ากับใครไม่ได้ยิ่งพ่อแม่ญาติพี่น้องเราไม่ต้องพูดถึง และที่สำคัญอ.เป็นคนขี้เกียจมาก ไม่คิดสร้างเนื้อสร้างตัวสร้างอนาคต เป็นคนมีความคิดดี คิดดีด้วย แต่ไม่เคยลงมือทำอะไรสักอย่าง มีความรู้แค่ในตำรา รู้ทุกเรื่องรู้ดีหมด แต่ไม่เคยทำ มีเพื่อนคนหนึ่งเคยเตือนสติเราไว้ว่า เธอไม่มีอะไรให้ต้องเสียดายผู้ชายคนนี้เลย ลองคิดทบทวนดูเวลาเธอทำผิดพลาด ล้มเหลว เขาคอยประครองดึงเธอขึ้นมาไหม ที่ผ่านเขาเคยทำอะไรเพื่อเธอบ้าง นอกจากคำด่าทอ ติเตียน ซ้ำเติม เวลาเธอมีปัญหาเขาคอยช่วยเหลือเธอไหม เขาสนใจความรู้สึกเธอหรือปล่าว เวลาทะเลาะกันคอยแต่จะขุดขุ้ยเรื่องผิดพลาดเก่าๆมาต่อว่าซ้ำเติม จำเอาไว้ เสียใจได้แต่อย่าเสียดาย ถ้าคิดถึงความสัมพันธุ์เก่าๆขึ้นมา ให้อ่านข้อความนี้ เตือนสติตัวเอง เราไม่ได้เสียคนดีไป เราเสียคนที่ไม่รู้จักพอไปต่างหาก อ.ควรจะเป็นฝ่ายที่เสียใจ ที่เสียคนดีๆอย่างเธอไป อย่าเดินวนเหมือนนาฬิกา แต่จงเดินไปข้างหน้าอย่างปฎิทิน จำเอาไว้
เรานั่งทบทวนเรื่องราวทั้งหมดแล้ว เราได้ข้อคิดจากประสบการณ์ราคาแพงครั้งนี้ว่า เราไม่ควรรักใครมากกว่าตัวเอง รักต้องอยู่ในความพอดี ใช้สมองให้เยอะๆกว่าหัวใจ ไม่ใช่ว่าทุกความรักความซื่อสัยต์ภักดี เราจะได้รับทุกสิ่งที่เราให้ไปตอบแทนกลับมาเสมอไป อย่าเอาใจลงไปทั้งใจเพียงเพราะคิดว่าทำแบบไหนจะได้แบบนั้น มันไม่เป็นแบบนั้น100% มันใช่ไม่ได้กับทุกคน