ก่อนอื่นขอโทษด้วยนะคะ ล็อนอินใหม่เอี่ยมมาเลย 😅 กลัวคนรู้จักมาเจอ แล้วก็กลัวแฟนมาเจอด้วย
หลังจากที่ศึกษาหาข้อมูลบวกกับคิดมาซักพักใหญ่ๆ แต่ก็ยังคิดไม่ตกว่าจะเอาไงต่อกับความสัมพันธ์นี้ดี จะไปต่อดีไหม ตัวเราเองหรือคนรอบตัวก็ไม่มีใครป่วยเป็นโรคนี้ อยากได้คำปรึกษาค่ะ
ก่อนอื่นขอเล่ารายละเอียดเพิ่มเติมก่อนนะคะ
เรากับแฟนคบกันมาครึ่งปีแล้วค่ะ ความสัมพันธ์ปกติราบรื่นดี ไม่หวือหวา เราทั้งคู่เป็นคนติดบ้าน แฟนจะหนักหน่อยเพราะเป็น Introvert (แบบสุดๆ) ปัจจุบันยังไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่มีเจอกันบ้าง คอลไลน์, วีดีโอทุกวัน เค้าก็ดูเป็นหนุ่มเนิร์ดขี้อายที่น่ารัก และหื่นบ้างบางเวลา 😂
ประเด็นมีอยู่ว่า...
เนื่องจากวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา อยู่ๆแฟนก็เกริ่นๆเรื่องแต่งงาน (อายุเกือบเข้าเลข 3 ทั้งคู่) ซึ่งมันก็น่าดีใจอยู่หรอก แต่เค้าดันบอกเราว่า เค้าป่วยเป็นซึมเศร้า (Major Depression Disorder) มานานมากแล้วเนี่ยสิ และน่าจะเป็นตั้งแต่เด็กๆ (ประมาณ 10-12 ขวบ) ซึ่งมันก็คือเรื้อรังมานาน 15 ปีกว่าแล้ว โดยสาเหตุหลักเลยน่าจะมาจากการสูญเสียบุคคลในครอบครัว รวมถึงการหย่าร้างของพ่อแม่, ถูกพ่อทำร้ายร่างกาย เนื่องจากพ่อเป็น Bipolar เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย พ่อนอกใจแม่ นอกจากนี้ยังมีปัญหาทางการเงิน ทำให้แฟนต้องส่งเสียตัวเองเรียนตั้งแต่วัยรุ่น รวมถึงการเป็น introvert ทำให้เค้าเข้ากับใครไม่ค่อยได้ เค้าจึงไม่มีเพื่อนเลยซักคน... อาจจะมีเพื่อนจากโลกออนไลน์บ้าง แต่ในชีวิตจริงไม่มี 😓 ที่ทำงานไม่ต้องพูดถึง
แฟนเล่าว่า...สมัยเรียนมหาลัยปี 1 คือช่วงแรกที่อาการออกหนักมาก จากคนที่เคยเรียนเก่ง กลับกลายเป็นคนนอนติดเตียง ไม่ทำอะไรเลยทั้งวัน เอาแต่นอนอยู่หอคนเดียว เพื่อนไม่มีและไม่ออกไปเจอผู้คน หนักเข้าคือไม่เข้าสอบ จนสุดท้ายถูกรีไทร์ ทั้งที่ก่อนหน้าแทบจะเป็นท็อปห้องมาตลอด หลังจากนั้นก็ต่อสู้กับโรคมาเรื่อยๆ จนอายุ 24 ก็กลับไปเรียนมหาลัยอีกครั้ง แต่รอบนี้ได้รับการรักษาแล้ว การรักษาก็ทั่วๆไป หาหมอ, กินยา ทำจิตบำบัด มันก็ดีขึ้นระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีอาการบ้างในบางวัน และอาการกลับมากำเริบช่วงโควิดที่ผ่านมา รอบนี้เป็นหนัก ดรอปเรียนเป็นปีๆ เอาแต่นอนเก็บตัวอยู่ในบ้าน และเค้าสารภาพว่าคิดจะฆ่าตัวตายอยู่หลายครั้ง
ปัจจุบันอาการน่าจะพอสงบลงบ้าง แต่เท่าที่เราพอสังเกตได้คือ บางครั้งเค้าดูแปลกๆ เช่น บางวันจะหายไปเลย ไม่อ่านไลน์ โทรไปไม่รับ หลังจากนั้นซักพักเค้าก็จะบอกว่าเมื่อกี้อยู่ในโหมดไม่อยากพูด เพราะอะไรก็ตาม บางครั้งเครียดจากงาน หรือบางครั้งแค่ขี้เกียจพูด ไอเราก็นึกว่าเป็นเพราะ introvert 😅 และที่สำคัญคือเค้าชอบด้อยค่าตัวเองค่ะ ตัดพ้อแบบทำไมเราถึงเลือกเค้า ทำไมเลือกคนที่เสียเวลาหลายปีจมอยู่กับโรคซึมเศร้า เราเลยคิดว่าเค้าน่าจะยังไม่หาย และถึงแม้ว่าจะกินยาอยู่ แต่ดูเหมือนบางครั้งยาก็ช่วยเค้าได้ไม่ดีพอ
หลังจากที่เรารู้ว่าเค้าเป็น เราก็ศึกษาเยอะมากค่ะ ทั้งตามกระทู้, youtube ต่างๆ เราพอเข้าใจว่าตัวโรคมันเป็นยังไง พอเป็นแล้วจะรู้สึกยังไง แต่เราก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าไปต่อมันจะรอดไหม ตัวเราเองมาจากครอบครัวที่อบอุ่น ถึงแม้ว่าเราจะพยายามเข้าใจเค้า แต่ลึกๆแล้วเราก็ไม่รู้ว่าเราจะช่วยเค้าได้จริงๆรึเปล่า
เรายังไม่กล้าบอกพ่อแม่เราเลยค่ะ ยิ่งถ้าเค้ารู้ว่าพ่อแฟนเป็น Bipolar ด้วยนี่ น่าจะเป็นเรื่องพอสมควร เพราะมันน่าจะมีปัจจัยทางด้านกรรมพันธุ์มาเกี่ยวข้องด้วย ส่วนตัวดูแล้วเราคิดว่าแฟนคงไม่หายขาดจากโรคแล้วแหละค่ะ คงได้แค่ประคับประคอง เพื่อนๆเริ่มเตือนว่าให้คิดดีๆว่าจะเอาไงต่อ เพราะบางทีถ้าเอาตัวเองไปอยู่กับคนป่วย เราอาจจะป่วยตามไปด้วย เรารักแฟนนะคะ แล้วก็สงสารเค้า แต่เราก็ต้องรักตัวเองด้วย 😭
ใครมีประสบการณ์หรือคำแนะนำมั้ยคะ ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกไปต่อไหม ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของทุกๆคนเลยนะคะ
เมื่อแฟนเป็นโรคซึมเศร้า…ควรไปต่อหรือพอแค่นี้
หลังจากที่ศึกษาหาข้อมูลบวกกับคิดมาซักพักใหญ่ๆ แต่ก็ยังคิดไม่ตกว่าจะเอาไงต่อกับความสัมพันธ์นี้ดี จะไปต่อดีไหม ตัวเราเองหรือคนรอบตัวก็ไม่มีใครป่วยเป็นโรคนี้ อยากได้คำปรึกษาค่ะ
ก่อนอื่นขอเล่ารายละเอียดเพิ่มเติมก่อนนะคะ
เรากับแฟนคบกันมาครึ่งปีแล้วค่ะ ความสัมพันธ์ปกติราบรื่นดี ไม่หวือหวา เราทั้งคู่เป็นคนติดบ้าน แฟนจะหนักหน่อยเพราะเป็น Introvert (แบบสุดๆ) ปัจจุบันยังไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่มีเจอกันบ้าง คอลไลน์, วีดีโอทุกวัน เค้าก็ดูเป็นหนุ่มเนิร์ดขี้อายที่น่ารัก และหื่นบ้างบางเวลา 😂
ประเด็นมีอยู่ว่า...
เนื่องจากวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา อยู่ๆแฟนก็เกริ่นๆเรื่องแต่งงาน (อายุเกือบเข้าเลข 3 ทั้งคู่) ซึ่งมันก็น่าดีใจอยู่หรอก แต่เค้าดันบอกเราว่า เค้าป่วยเป็นซึมเศร้า (Major Depression Disorder) มานานมากแล้วเนี่ยสิ และน่าจะเป็นตั้งแต่เด็กๆ (ประมาณ 10-12 ขวบ) ซึ่งมันก็คือเรื้อรังมานาน 15 ปีกว่าแล้ว โดยสาเหตุหลักเลยน่าจะมาจากการสูญเสียบุคคลในครอบครัว รวมถึงการหย่าร้างของพ่อแม่, ถูกพ่อทำร้ายร่างกาย เนื่องจากพ่อเป็น Bipolar เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย พ่อนอกใจแม่ นอกจากนี้ยังมีปัญหาทางการเงิน ทำให้แฟนต้องส่งเสียตัวเองเรียนตั้งแต่วัยรุ่น รวมถึงการเป็น introvert ทำให้เค้าเข้ากับใครไม่ค่อยได้ เค้าจึงไม่มีเพื่อนเลยซักคน... อาจจะมีเพื่อนจากโลกออนไลน์บ้าง แต่ในชีวิตจริงไม่มี 😓 ที่ทำงานไม่ต้องพูดถึง
แฟนเล่าว่า...สมัยเรียนมหาลัยปี 1 คือช่วงแรกที่อาการออกหนักมาก จากคนที่เคยเรียนเก่ง กลับกลายเป็นคนนอนติดเตียง ไม่ทำอะไรเลยทั้งวัน เอาแต่นอนอยู่หอคนเดียว เพื่อนไม่มีและไม่ออกไปเจอผู้คน หนักเข้าคือไม่เข้าสอบ จนสุดท้ายถูกรีไทร์ ทั้งที่ก่อนหน้าแทบจะเป็นท็อปห้องมาตลอด หลังจากนั้นก็ต่อสู้กับโรคมาเรื่อยๆ จนอายุ 24 ก็กลับไปเรียนมหาลัยอีกครั้ง แต่รอบนี้ได้รับการรักษาแล้ว การรักษาก็ทั่วๆไป หาหมอ, กินยา ทำจิตบำบัด มันก็ดีขึ้นระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีอาการบ้างในบางวัน และอาการกลับมากำเริบช่วงโควิดที่ผ่านมา รอบนี้เป็นหนัก ดรอปเรียนเป็นปีๆ เอาแต่นอนเก็บตัวอยู่ในบ้าน และเค้าสารภาพว่าคิดจะฆ่าตัวตายอยู่หลายครั้ง
ปัจจุบันอาการน่าจะพอสงบลงบ้าง แต่เท่าที่เราพอสังเกตได้คือ บางครั้งเค้าดูแปลกๆ เช่น บางวันจะหายไปเลย ไม่อ่านไลน์ โทรไปไม่รับ หลังจากนั้นซักพักเค้าก็จะบอกว่าเมื่อกี้อยู่ในโหมดไม่อยากพูด เพราะอะไรก็ตาม บางครั้งเครียดจากงาน หรือบางครั้งแค่ขี้เกียจพูด ไอเราก็นึกว่าเป็นเพราะ introvert 😅 และที่สำคัญคือเค้าชอบด้อยค่าตัวเองค่ะ ตัดพ้อแบบทำไมเราถึงเลือกเค้า ทำไมเลือกคนที่เสียเวลาหลายปีจมอยู่กับโรคซึมเศร้า เราเลยคิดว่าเค้าน่าจะยังไม่หาย และถึงแม้ว่าจะกินยาอยู่ แต่ดูเหมือนบางครั้งยาก็ช่วยเค้าได้ไม่ดีพอ
หลังจากที่เรารู้ว่าเค้าเป็น เราก็ศึกษาเยอะมากค่ะ ทั้งตามกระทู้, youtube ต่างๆ เราพอเข้าใจว่าตัวโรคมันเป็นยังไง พอเป็นแล้วจะรู้สึกยังไง แต่เราก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าไปต่อมันจะรอดไหม ตัวเราเองมาจากครอบครัวที่อบอุ่น ถึงแม้ว่าเราจะพยายามเข้าใจเค้า แต่ลึกๆแล้วเราก็ไม่รู้ว่าเราจะช่วยเค้าได้จริงๆรึเปล่า
เรายังไม่กล้าบอกพ่อแม่เราเลยค่ะ ยิ่งถ้าเค้ารู้ว่าพ่อแฟนเป็น Bipolar ด้วยนี่ น่าจะเป็นเรื่องพอสมควร เพราะมันน่าจะมีปัจจัยทางด้านกรรมพันธุ์มาเกี่ยวข้องด้วย ส่วนตัวดูแล้วเราคิดว่าแฟนคงไม่หายขาดจากโรคแล้วแหละค่ะ คงได้แค่ประคับประคอง เพื่อนๆเริ่มเตือนว่าให้คิดดีๆว่าจะเอาไงต่อ เพราะบางทีถ้าเอาตัวเองไปอยู่กับคนป่วย เราอาจจะป่วยตามไปด้วย เรารักแฟนนะคะ แล้วก็สงสารเค้า แต่เราก็ต้องรักตัวเองด้วย 😭
ใครมีประสบการณ์หรือคำแนะนำมั้ยคะ ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกไปต่อไหม ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของทุกๆคนเลยนะคะ