เมื่อแฟนพาญาติ(ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นผู้หญิงมาอยู่ในบ้าน)

เราคบกับแฟนมา6ปี เคยอยู่ห้องเช่ากันมา3-4ปี อยู่ด้วยกันตั้งแต่ไม่มีอะไร จนตอนนี้เก็บเงินซื้อบ้านซื้อรถ บ้านเป็นชื่อเรา เรากู้คนเดียวจ่ายคนเดียว รวมทั้งค่าน้ำไฟเน็ตของใช้ในบ้าน ส่วนรถเราซื้อกันก่อนมีบ้าน โดยหารกันคนละครึ่ง เพราะเราเห็นว่าแฟนเรามีลูกที่ต้องส่งเสียจึงไม่รบกวนเงินจากเขา และเรามีแพลนจะแต่งงานกันประมาณเดือนเมษา65 …แต่อยู่มาวันหนึ่งเดือนพฤศจิกายน64 น้าชายแฟนได้พาหลายสาวตจวมาอยู่ด้วย เหตุผลคือหลานสาวอยากมาทำงานหาเงิน (ประวัติโดยย่อ ของหลานสาวคือเคยอายุ35แต่งงานมีลูกสองคน และหนีสามีมา)  เดือนแรกพักอยู่กินที่บ้านน้าชาย เรื่องความเป็นอยู่อันนี้เราไม่ทราบมาอยู่กินแบบไหน…แต่พอเดือนที่สองนางลาออกจากงานบอกว่าทำไม่ไหว น้าชายเลยของให้แฟนเราซึ่งเป็นหลานช่วยหางานให้
ตัวเราก็คิดแค่ให้หางานให้อย่างเดียว และข้อแม้ในการหางานของนางคือ ของานที่ไม่หนัก ไม่ต้องยื่นไม่ต้องอยู่ในไลน์ (แต่วุฒิที่เขามีมันค่อนข้างเลือกยาก) อ่ะเราก็หาให้ เสร็จได้งานเบาสมใจ … แต่ยังไม่มีที่พัก แฟนเราเลยมาขอร้องเราให้เขาอาศัยอยู่ด้วยไปก่อน เราเลยตกลง
…และด้วยความที่บ้านเราอยู่ในหมู่บ้านที่ลึกมาก เวลานางไปทำงานแฟนเราต้องทำหน้าที่ขับรถมอไซต์ออกมาส่ง รอบแรกเป็นเรา รอบสองคือแฟนเราแวะไปส่งนางก่อนไปทำงาน  ส่วนเวลาเลิกงาน เราลงรถรับส่งเสร็จเราต้องนั่งวินเข้าบ้านเองเป็นประจำทุกวัน ยกเว้นวันฝนตกหนักๆมากๆๆๆๆแฟนเราถึงจะออกมารับ  แต่กับนางแฟนเราต้องออกไปรับถึงหน้าบริษัท ให้เหตุผลว่าไม่มีรถรับส่ง ไม่อยากขึ้นรถตู้ประจำทางและไม่อยากเสียเงินนั่งวิน …และเราก้อทำแบบนี้มา1เดือน จนเราเริ่มหงุดหงิดว่าที่เราแฟนไม่เคยไปรับเลย ทำไมกะบน้องสาวถึงดูแลดีจัง ทั้งที่ไม่ใช่น้องสาวแท้ๆด้วยซ้ำ  และหลังจากนั้น แฟนเรากับเราจึงพากันตระเวนหารถมอไซต์มือสองมาให้นางโดยการออกเงินซื้อให้ก่อนในราคาเกือบ2หมื่นบาท
….ถึงตอนนี้สถานการณในบ้านเริ่มตึงๆ และอยู่มาวันหนึ่งในขณะที่เรากำลังกินข้าวกัน แฟนเรากำลังวิดิโอคอลกับลูกชาย(ลูกกับเมียเก่า)อยู่ดีๆนางก็ขอคุยด้วย และลามไปถึงขั้นคุยกันกับเมียเก่าแฟนเราต่อหน้าเราและในตอนที่เรากำลังกินข้าว…ตอนนี้เราไม่พอใจนะ เรารู้สึกว่าเขาไม่มีมารยาท ไม่ให้เกียรติเราเลย เราเลยสะกิดแฟนเราให้วางสายก่อนได้มั้ย ถ้าอยากคุย ค่อยไปคุยกันที่อื่น … และดูเหมือนนางจะไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องที่เกิดเลย…และเวลาที่เราจะกินข้าว เราเป็นคนทำกับข้าวให้นางกินตลอดทุกมื้อ และนางก็ติชมทุกมื้อเช่น อันนี้กินแล้วอ้วนมากนะ อันนี้มันมากกินแล้วไม่ดี อันนี้หวาน อันนี้เค็ม บราๆๆๆๆ นางพูดแบบนี้ทุกมื้อที่กินข้าวกัน จนเราทนไม่ไหวไลน์ไปบอกแฟนว่า ต่อไปนี้ฉันจะไม่นั่งกินข้าวกับญาติคุณอีก!  …และพอจบจากเรื่องนี้เราเลยเริ่มไม่อยากเจอหน้านาง…และนางก็ยังคงอยู่ที่บ้านต่อเป็นเดือนที่2-3 แบบฟรีๆ โดยที่ไม่เสียเงินสักบาททั้งค่าอยู่ค่ากินค่าน้ำค่าไฟ ข้าวของเครื่องใช้ และมีอยู่ช่วงหนึ่งนางหยิบของๆเราไปใช้โดยไม่ขออนุญาติเราก่อน  และเรากับแฟนเริ่มทะเลาะกันกับแฟนมากขึ้นเพราะเรื่องของนาง เช่นการไม่รักษาความสะอาดบ้านช่วยกัน ทำเครื่องกรองน้ำพัง ของใช้ที่บ้านหมดแล้วไม่ยอมบอกเช่นผงซักฟอก นางใช้หมดแล้วไม่บอกชอบให้เราไปเจอเอง ตอนที่เราจะซักผ้าทุกครั้ง! และนางเริ่มไม่เกรงใจเรา เวลานางต้องการอะไรใช้ของอะไรในบ้าน นางจะเอาจะทำตามใจ จนเราได้เอ่ยปากกับแฟนว่า เฝตอนนี้เราไม่มีเงินจะเลี้ยงเขาแล้วนะ เราให้เขาอยู่ดีกินดี นอนห้องแอร์สบายๆ เขาไม่เคยจ่ายอะไรสักบาท ของในตู้เย็นไม่เคยซื้อมาเติมสักครั้ง ! จนถึงเดือนที่4นางให้เงินแฟนเรา1000฿บอกว่าช่วยค่าอยู่ค่ากิน เราไม่พอใจนะ เราไม่ได้อยากได้เงินแต่เราอยากให้นางออกไปจากบ้านเรา แฟนเราเลยขอเวลาอีก2เดือนให่เขาเก็บเงินหาห้องใหม่ …เราเลยให้เขาย้ายไปนอนห้องเล็กที่ไม่มีแอร์…ผ่านไป1สัปดาห์ แฟนเราติดแอร์ห้องเล็กที่เพิ่มเลยจ้า…
และตอนนี้เราเริ่มสงสัยแล้วว่า…แฟนเราดูแลกันดีจัง ดีมากกว่าดูแลเราอีกแล้วพอพูดถึงนางทีไร ก็ต้องทะเลาะกันประจำ และเรากำลังจะแต่งงานกันนะ มันอดคิดไม่ได้จริงๆ… แต่ในบ้านเรามีกล้องวงจรปิดด้วยนะ และนางชอบใส่ผ้าถุงผืนเดียวเดินรอบบ้านประจำ  ขนาดเราเป็นเจ้าบ้านยังไม่เคยทำแบบนี้ เลยสักครั้ง
แฟนเราให้เหตุผลว่าสงสารเขามาตัวคนเดียว เราเลยซัดกลับไปทันทีว่า “นางมาที่นี้ตอนอายุ35ปี แต่ฉันมาที่นี้ตอนอายุ18จบมอหก แล้วมาหางานทำส่งตัวเองเรียนจนจบปตรี โดนแฟนเก่าทิ้งเหลือกระเป๋า2ใบ มีเงินติดตัว1พันหาห้องเช่าโดยการขอผ่อนจ่ายค่ามัดจำกับเจ้าของหอ อละฉันก็สู้มาคนเดียวจนมีทุกอย่างจนวันที่คุณเข้ามาในชีวิต โดยการหอบกระเป๋าสองใบเข้ามาอยู่ด้วย และตอนนี้ก็พาญาติที่ฉันไม่รู้จักไม่สนิทมาอยู่ด้วย มันอึดอัดมาก เราอยากให้นางได้สู้ด้วยตัวนางเองบ้าง  เหมือนที่นางเคยพูดไว้วันแรกว่านางอยากสู้อยากมาทำงานหาเงิน แต่ที่นางทำตั้งแต่วันแรกจนถึงตอนนี้ยังไม่เคยเห็นสิ่งที่นางทำได้ด้วยตัวเองเลย” แฟนเราเลยสัญยาว่าจะบอกให้นางย้ายออกไป … แต่วันนี้กลับติดแอร์เพิ่มให้นางซะงั้น  
ตอนนี้เราจะเป็นคนย้ายออกไปเองแล้วค่ะ เราว่าเราเบื่อมามากแล้วเราคงไม่ทนไปมากกว่านี้แล้วค่ะ  
ขอบคุณที่อ่านจนจบ  ทั้งหมดที่เราเขียนคือเรื่องจริงแน่นอน มีพยานเป็นพี่สาวน้องสาวแท้ๆจองเราเอง และกล้องวงจรปิดค่ะ
และบางคนอาจสงสัยว่าทำไมไม่คุยกับเขาดีๆให้รู้เรื่องไปเลย
เราเคยทำแล้วค่ะ เคยคุยกันแล้ว สุดท้ายแฟนเราก็ปล่อยผ่านไป แต่กลับเป็นเราที่เริ่มเกรงใจนางมากขึ้นเรื่อยๆ จนเหมือนว่าที่นี้คือบ้านของเขาและเราคือผู้มาขออาศัย เราเลยคิดหนักมากตอนนี้ว่าจะเลิกกับแฟนเราเลยดีมั้ยจะได้จบสิ้นปัญหาทุกอย่าง
เพราะถ้าหากให้เราคุยกับนางเอง สุดท้ายเรากับแฟนเราก็คงต้องเลิกกันอยู่ดี … เพราะเขาไม่เคยแคร์เราเลย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
เรื่องช่วยเหลือลูกพี่ลูกน้องเพราะผู้ใหญ่ฝากฝังมา ไม่แปลก
อาจจะเคยมีบุญคุณต่อกัน เกรงใจกันมา จึงอยากดูแลจนกระทั่งให้ตั้งตัวได้ ค่อยให้ย้ายออกไป

แต่ที่น่าเอะใจคือ ...
ตามไปติดแอร์ให้นี่แหละ

ถ้าเป็นเรานี่คง วงแตก ตั้งแต่ ตอนนั้นแล้วล่ะค่ะ
เอ่อ ... แต่ก็นะ เราคงไม่ได้ ให้ย้ายลงไปอยู่ห้องเล็กแต่แรก
ถ้าจะให้ย้ายตอนนั้น  เราจะให้ย้ายออกเลย

คือ ลักษณะ ของคนที่มาอาศัยอยู่ เพราะลำบาก มาแบบขอความช่วยเหลือ
กับคนที่มาอยู่ แบบถูกสปอล์ย มันต่างกันมาก

แต่เรา จะพูดดีๆด้วยก่อน (ตั้งแต่มาใหม่ๆ)
บอกก่อนว่า ให้อยู่ ได้ กี่เดือน แล้วต้องย้ายออก
ระหว่างอยู่ แบ่งหน้าที่ให้ทำ

ถ้าไม่ทำ หรือ แชเชือน ต้องมีเหตุผลตอบเราได้ ว่าทำไม หรือ ไม่สะดวกใจอะไร
ถ้าทำท่าทาง ไม่เห็นหัวเจ้าของบ้าน เราจะสันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีคนให้ท้าย

และถ้าคนของเราให้ท้าย
เราไม่เอาไว้ทั้งคู่ !!!

เมื่อใช้พระคุณเต็มที่แล้ว เราก็ไม่เกี่ยงที่จะใช้พระเดชขั้นเด็ดขาดค่ะ

แนะนำว่า ...

_ คุยกับสามีคุณตรงๆ  ถามเขาว่า ทำไมถึงตามไปติดแอร์ให้ ?
ถ้าคำตอบไม่เข้าท่า ก็ ให้ย้ายออกไปทันที  โดยคุณยอมจ่ายค่ามัดจำ และค่าเช่าเดือนแรกให้ก่อน
(ทำสัญญากู้ยืมให้เรียบร้อย ให้ผ่อนจ่ายคืนมา)

_ อย่างไรเสีย เรื่องนี้คุณต้องผิดใจกับสามีอยู่แล้ว
ถือซะว่า ดูใจเขาไปเลย ว่าเขาจะแก้ปัญหาอย่างไร  
ถ้าเขายังเอาแต่ใจตัวเอง เกรงใจคนอื่นมากกว่าคุณ ... จัดลำดับความสำคัญของคุณต่ำกว่า ลูกพี่ลูกน้องแล้วล่ะก็

น่าจะเป็นสัญญาณที่ดี  ที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องตัดสินใจพลาด แต่งงานกับคนที่ไม่ใช่ นะคะ

รีบคุย รีบเคลียร์กัน
จะได้ไม่เป็นปัญหาเรื้อรังค่ะ  หากจะยังคบกันต่อ ต่อไปให้ตั้งกติกาไว้เลย ว่าเรื่องแบบนี้ คุณจะยอมได้เท่าไหร่
หากใครจะมาอยู่ด้วยอีก ต้องมาแบบไหน อยู่ได้กี่เดือน กำหนดเวลาให้ชัด ไม่ใช่ลากยาวไปเรื่อยๆ
(จะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกันอีก)

เทียน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่