เมื่อฉันเป็นพยาบาล และเป็น Tuberculosis (TB) / วัณโรค

สวัสดีคะ หลังจากสร้างกระทู้แรกไว้ 7 ปีก่อน จนลืมไปเลยว่าเคยมีกระทู้ วันนี้มีโอกาสกลับเข้ามาอีกครั้ง พร้อมอยากแบ่งปันประสบการณ์การรักษาโรควัณโรคปอด แบบเรียลไทม์ อิอิ 
             ก่อนอื่น จขกท ขออนุญาตแนะนำตัวก่อนนะคะ ปัจจุบันอายุ 25 ปี มีอาชีพเป็น พยาบาลวิชาชีพ 
ก่อนหน้านี้ สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวใดๆ
            จนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ( 2 กุมภาพันธ์ 2565) ได้เข้าตรวจสุขภาพปรากฎผล เอกซเรย์ Chest X-Ray พบว่ามีฝ้าขึ้นที่ปอดทั้งสองข้าง 🧐
สงสัยวัณโรคปอด แต่ไม่มีอาการผิดปกติอะไร ที่บ่งบอกถึงตัวโรคเลยเช่น ไอ ไข้  น้ำหนักลด ... เลยเก็บเสมหะ ส่งตรวจ แบบ Gene Xpert 
ซึ่งเป็นวิธีการขยายจำนวนของ nucleic acid ด้วยวิธี real-time polymerase chain reaction (RT-PCR) 
คล้ายกับการตรวจหาเชื้อโควิดนั่นเองคะ ผลการตรวจออกมา Not Detected (ไม่พบเชื้อ)
อาจารย์แพทย์อายุรกรรมเลยให้เก็บเสมหะ ส่งตรวจอีกครั้ง 3 วัน เป็นการตรวจแบบ  Acid-Fast Bacilli เพื่อหาการติดเชื้อวัณโรคระยะแสดงอาการมากที่สุด 
ก็ไม่พบเชื้อนะคะ แต่..อาจารย์อยากให้เริ่มยาเพราะว่าผลเอกซเรย์นั้นเหมือนวัณโรคปอด ต้องทานยาเพื่อควบคุมไม่ให้เชื้อไปอยู่ในระยะ Active หรือระยะแพร่กระจายเชื้อ และด้วยอาชีพต้องทานยา 😭
💊 ยาวัณโรค เหรอ 🙏🏻 จขกท ไม่อยากทานเลยคะ เพราะว่าทราบผลข้างเคียงของยาดี และในใจลึกๆยังเชื่อว่าตัวเองไม่น่าจะมีเชื้อนี้ในร่างกายได้ เพราะว่าไม่ได้สัมผัสบุคคลใกล้ชิด หรือมีใครในครอบครัวเป็นโรคนี้เลย นอกจากสัมผัสคนไข้
จึงไปขอตรวจเอกซเรย์ที่อีกโรงพยาบาล เอาผลกลับมาอ่านเอง ผลครั้งที่สองยืนยันตามเดิม
"Mild reticulonodular infiltration at both apical lung , pulmonary TB is suggested " 
สั้นๆแต่ได้ใจความ เราคงต้องทานยาจริงๆแล้วละ 
🌿ถ้าหากให้เป็นโควิด เราจะไม่เสียใจเลย เพราะว่าที่ผ่านมาเกือบ 6 เดือนชีวิตอยู่กับคนไข้โควิดกลุ่มสีแดงมาตลอด และไม่เคยติดเชื้อรอดถึงซีซันนี้ คิดว่าปอดแข็งแรง หารู้ไม่ว่า โควิดอาจไม่เข้ามาเพราะวัณโรคกินไปละ งื้อชีวิต 😭😭
เริ่มยากันเลยยยย
➖➖ วัณโรคที่ทราบกันต้องทานยาอย่างน้อย 6 เดือน หรือครึ่งปีกันเลย➖➖
โดยจะมียาทั้งหมด 4 ตัว คือ
1.ไอโซไนอะซิด (Isoniazid : H)  : ยับยั้งการสร้างผนังเซลล์ของเชื้อ
 2. ไรแฟมพิซิน (Rifampicin : R) : ยับยั้งการสร้าง ดีเอ็นเอ (DNA) ของเชื้อ
 3. พัยราซินาไมด์ (Pyrazinamide : Z) : ยับยั้งการสร้างกรดไขมันและโปรตีนที่จำเป็นต่อเชื้อ
 4. อีแธมบูทอล (Ethambutol : E) : ยับยั้งการสร้างผนังเซลล์ของเชื้อ
ต้องรับประทานยาไปนานเท่าใร?
    สูตรการรักษาหลักสำหรับผู้ป่วยใหม่ มีระยะเวลาการรักษา 6 เดือน โดยใน 2 เดือนแรกเป็นช่วงการรักษาเข้มข้น ผู้ป่วยจะได้รับยา 4 ตัว ส่วนอีก 4 เดือนหลังเป็นช่วงการรักษาต่อเนื่องแพทย์จะลดยาลงเหลือเพียง 2 ตัว โดยผู้ป่วยต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่องและห้ามหยุดยาเองแม้อาการจะดีขึ้นแล้ว เนื่องจากร่างกายยังกำจัดเชื้อออกไปไม่หมด การหยุดยาเองจะทำให้การรักษาล้มเหลว กลับมาเป็นซ้ำหรือมีการดื้อยาได้ ซึ่งต้องใช้สูตรยาที่มีความซับซ้อนและอาจต้องใช้ระยะเวลารักษามากถึง 18 เดือน 

▪️2 สัปดาห์แรก ต้องหยุดงานละทานยา แยกตัว แยกของใช้ และหลังทานยา เราจะต้องมาตรวจเลือดเพื่อดูว่าหลังทานยาไปแล้วนั้นเราโอเคอยู่ไหม ตับอักเสบหรือยัง หรือมีแพ้ยาไหม การมองเห็นยังปกติใช่ไหม (ยาบางตัวทำให้การมองเห็นลดลงได้)

ขนาดยาคุณหมอจะคำนวณตามน้ำหนักของคนไข้แต่ละคนนะคะ 
การรับประทานยาต้องทานทุกวัน เวลาเดิม ของ จขกท ครั้งละ 11 เม็ดครึ่ง นะคะ
ตอนนี้พึ่งทานไป ครั้งแรก กำลังสังเกตความผิดปกติต่างๆของร่างกายตัวเองอยู่คะ 💪🏻💪🏻😭
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่