สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ กระทู้นี้เราจะเล่าประสบการณ์
การเดืนป่า 2 วัน 1 คืน จองกันข้ามปี
แบบไปสมผัสธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด ในจังหวัดเชียงใหม่ นั่นคือ ดอยหลวงเชียงดาว นั่นเองค่ะ
เป็นดยอดเขาที่มีความสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย รถไปไม่ถึง ต้องเดินเท้าเข้าไปเท่านั้นนะจ๊ะ
อันดับแรกเกริ่นก่อนเลยว่า จองไว้ตั้งแต่ เดือนธันวามคม 2564 แล้ว เป็นการลงทะเบียนล่วงหน้า ที่นี่เค้าจำกัดคนเพราะด้วยหลายๆอย่าง
"ดอยเชียงดาว" หรือ "ดอยหลวงเชียงดาว" ที่เพิ่งได้รับการประกาศให้เป็น "พื้นที่สงวนชีวมณฑล" แห่งใหม่ของโลก จุดท่องเที่ยวสำคัญบนดอยเชียงดาว และมีจุดเด่นที่ทำให้ "ยูเนสโก้" ประกาศรับรองพื้นที่ดังกล่าวที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศอีกด้วย
เพราะเหตุนี้จึงทำให้เข้ายากขึ้นทุกปี ทั้งเตรียมเอกสารสารพัด และ ถ้าลงชื่อแล้วไม่สามารถเปลี่ยนชื่อคนอื่นไปแทนได้ และถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ไม่มีการคืนเงินใดๆเลยทั้งสิ้นค่ะ
ทริปนี้เกิดขึ้นจากเพื่อนโดนเทมา แล้วก็เลยมาชวนเรา ฮ่าๆๆๆๆ ก็เลยได้เข้าป่าสมใจเลยจ๊ะ
เริ่มขั้นตอนการจองกันก่อนเลย
1. ศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบ ข้อบังคับ รวมถึงรายละเอียดและเงื่อนไขต่าง ๆ ในการจองให้ครบถ้วน
2. เตรียมเอกสารที่ใช้ในการจองให้ครบถ้วน ก่อนทำการจอง มี
- บัตรประชาชนหรือสำเนาบัตรประชาชนของนักศึกษาธรรมชาติทุกคนในกลุ่มในรูปแบบไฟล์ JPG
- ใบรับรองการฉีดวัคซีนในรูปแบบไฟล์ JPG ให้สมบูรณ์
- ดาวน์โหลดเอกสารการขออนุญาตเข้าเขตฯ (สามารถดาวน์โหลดเอกสารได้ในเว็บไซต์ ซึ่งจะแจ้งให้ทราบภายหลัง) และกรอกข้อมูลในเอกสาร เพื่ออัปโหลดเข้าระบบการจอง ภายหลังชำระเงินเสร็จสิ้น
เครติด ภาพจาก เฟซบุ๊ก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จ.เชียงใหม่
รายละเอียดการเข้าอบรมก่อนพิชิตดอยหลวงเชียงดาว
นักศึกษาธรรมชาติจำเป็นจะต้องเข้ารับการอบรม เพื่อทำความเข้าใจกฏและกติกาต่าง ๆ ร่วมกัน (1 วันล่วงหน้า) โดยจะมีการให้เลือกอบอรม 2 รอบ คือ ช่วงเช้า 09.00-12.00 น. และช่วงบ่าย 13.00-16.00 น. ณ เทศบาลตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
หลังจากได้รับการอบรมแล้ว นักศึกษาธรรมชาติจะได้รับ “บัตรผ่านการอบรม” เพื่อนำไปยืนยันสิทธิ์การเข้าศึกษาธรรมชาติกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยหลวงเชียงดาว (บัตรผ่านอบรมมีอายุ 2 ปี)
เราเลือกช่วงบ่ายเพราะ ขี้เกียจตื่นเช้าค่ะ
เป็นบัตรแข็งๆ สำหรับเทียบดอกไม้ ระหว่างเดิน
หลักฐานที่นำมายืนยันเข้าสิทธิ์อบรม
- บัตรประชาชนตัวจริง
- วันจริง สามารถเตรียม ATK ไปเองได้ มีค่าบริการตรวจ 50 บาท ต่อคน / แต่ถ้าไม่ได้เตรียมมา ชุดละ 150 บาท ค่ะ
ค่าใช้จ่ายในการเดินศึกษาธรรมชาติบนดอยหลวงเชียงดาว
- ค่าลูกหาบ โดยลูกหาบ 1 คน แบกสัมภาระได้ 20 กิโลกรัม (คิดตามน้ำหนัก 60 บาท/กิโลกรัม)
- เหมาคัน รถ 1 คัน (2,700 บาท/คัน) สามารถรองรับได้สูงสุด 5 คน
ค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้ ให้มาชำระในวันเข้าศึกษาธรรมชาติ ณ สำนักงานเขตฯ
- ค่าธรรมเนียมเข้าเขตฯ 20 บาท/คน
- ค่าเช่าสถานที่กางเต็นท์ 30 บาท/หลัง (กรณีนำเต็นท์มาเอง)
- ค่ามัดจำขยะ 500 บาท/คน (จะคืนค่ามัดจำขยะให้ภายหลังในวันที่เดินทางลงจากดอย หากนำขยะลงมาตามจำนวนที่นำขึ้นไป-รับเงินคืนที่เขตฯ)
เป็นค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ต่อคน เราจ่ายไป 1890 บาท และปีหน้าเจ้าหน้าแจ้งว่าจะมีการปรับขึ้น อีก 500 บาท
สรุป ก่อนจะขึ้นไปเดินศึกษาธรรมชาติที่ดอยหลวงเชียงดาวทุกคนจะต้องเข้าอบรมก่อน1วัน และก็จะมีการตรวจ ATK ในวันที่เข้าอบรมด้วยโดยไม่มีข้อยกเว้นถึงแม้คุณจะตรวจมาแล้วก็ตาม เราสามารถเอาชุดตรวจไปเองแล้วให้เจ้าหน้าที่ตรวจให้หรือไปซื้อที่นั้นก็ได้ราคาชุดละ 150บาท เพราะฉะนั้นจึงต้องหาที่พัก้านล่างไว้ด้วย1คืน และคนที่ผ่านการอบรมจะได้รับบัตรผ่านการอบรม บัตรมีอายุ 1ปีนั้นก็คือคนที่อบรมปีนี้ปีหน้าไม่ต้องอบรม
มาพูดถึงเรื่องการเดินทางดีกว่า ทริปนี้เรานั่งเครื่องมาลงสนามบินเชียงใหม่ แล้วเช่ารถขับ ต่อไปที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว
กลุ่มเรามี 4 คน แต่อีก 2 คนเลือกขับรถแล้วมานัดเจอกกันที่เชียวดาวเลย
ด้วยความที่ จขท เห่อเต้น์ใหม่ อยากพกมาเอง ก็เลยแบกขึ้นเครื่องมาซะเลย น้ำหนัก ซื้อมา กับแฟน 40 โล เหลือๆ เลย
วันแรก มุ่งสู่ธรรมชาติเขียวๆ ลงเครื่องปุ๊ป เวลา 08.45 นน.ไปหาของอร่อยในเมืองทานกันก่อน เราเลือก
ร้านใต้ถุนบ้าน ไม่ไกลจากสนามบินมาก
ร้านเค้าน่ารัก
ร้านจะลึกลับหน่อย รถยนต์ต้องจอดข้างนอกเดินเข้าไป หน้าตาอาหารอาจจะดูธรรมดา แต่รสชาติคืออร่อย อารมณ์เหมือนกินอาหารเช้าที่บ้าน
โจ๊กหมู 45 บาท ถูก อิ่มพอดี ความจริงอยากสั่งเยอะกว่านี้แต่กลัวไปไม่ทัน เพราะต้องขับไปเชียงดาวอีก 1 ชม กว่าๆ เลย
เราเลือกอบรม วันที่ 30 มกราคม 2565 เวลา 13.00 น.
พอมาถึงแสดงบัตรประชาชนและตรวจ ATK ที่เตรียมมาได้เลยค่ะ
ผ่านค่ะ ได้ไปต่อ
จะมีพี่ๆเจ้าหน้าที่มาแนะนำ อามรมณ์เข้าค่ายเลย
พี่ๆเค้าจะเล่าประวัติความเป็นมา วิธีการใช้ถุงฉี่ด้วย ว่าฉี่แล้วต้องเอาลงมาทิ้งข้างล่างด้วยเอง
ไม่ให้ทำอาหารที่มีกลิ่นแรงๆ เอาที่ง่ายๆ เช่นมาม่า กินแล้วห้ามเทน้ำทิ้งไปทั่ว ต้องเก็บลงมาทิ้งข้างทั้งหมด
นั่งฟังยาวๆไป 3 ชม.
มาพูดถึงเรื่องการเตรียมตัวขึ้นดอยหลวงเชียงดาว
- ออกกำลังเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนขึ้นเขา
- ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 3-5 ชั่วโมง
- อากาศเย็นในตอนกลางวัน สูงสุด 20 องศา
- และอากาศเย็นมากในตอนกลางคืน ต่ำสุด 0 องศา
- อุปกรณ์กันหนาว เสื้อหนาว ถุงเท้า ถุงมือ ถุงนอน
- ไฟฉายคาดหัว สำหรับเดินเขาในช่วงเย็นหรือเช้ามืด
- ถุงมือ สำหรับกันหนาวและเอาไว้ปีนหิน จับเชือก
- รองเท้า ควรเป็นรองเท้าที่มีพื้นดอกยางลึก เกาะพื้น
- เสื้อกันฝน สำหรับกันน้ำค้างช่วงเย็นหรือเช้ามืด
- น้ำดื่มและน้ำใช้ต้องเตรียมขึ้นไปเอง หรือจ้างลูกหาบ
- การประกอบอาหาร ห้ามก่อไฟ ห้ามทิ้งเศษอาหาร
- ห้ามนำทิชชู่เปียกเข้าพื้นที่ ได้แต่ทิชชู่ธรรมดาเท่านั้น
- นอนค้างแรมได้ 1 คืนเท่านั้น เตรียมทุกอย่างให้พร้อม
***ที่หน้าที่ทำการอบรมมี รองเท้า เสื้อ ถุงมือ ไม้ช่วยพยุง ขายอยู่ค่ะ สำหรับคนเตรียมไม่ทัน
หลังจาการอบรมจบเรา ขับรถไปพักที่ สวนลมชมดอย โฮมสเตย์ ม่อนแจ่ม ก็ไกลพอสมควรแต่อยากลองนอนเต้นท์ นั่งกินหมูกระทะ ท่ามกลางลมหนาวสักคืน
สวนลมชมดอย โฮมสเตย์
จุดเด่นเค้าคือ ที่พักสะอาด เจ้าของใจดี และหมูกระทะอร่อยมากทุกคน ชุดละ 499 เอง กินกัน 2 คน จุกๆเลย
ถ้าใครมาเที่ยวม่อนแจ่มแนะนำเลยค่ะ กินอิ่มรีบเข้านอน พรุ่งนี้ต้องออก 6 โมง
เสียงนาฬิกาปลุกดัง 05.30 รีบอ้างหน้าแปรงฟันแล้วบึ่งรถไปเขตรักษาพันธ์ถสัว์ป่าเชียงดาวเลยค่ะ ขับ ชั่วโมงครึ่ง
ตอนขับมาหมอกแน่นๆ กันเลยทีเดียว
ช้าวันเดินขึ้นดอยหลวงเชียงดาว เราก็ต้องมาลงทะเบียนที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยหลวงเชียงดาว ในเวลา 08:00น. ยื่นเอกสาร ชำระค่าบริการต่างๆ ตรวจเช็คขยะ - จ่ายมัดจำคนละ 500 (เอาขยะลงมาตรวจนับครบจำนวนรับเงินคืน) แยกสัมภาระให้ลูกหาบ ใครเหมาแล้ว ก็ออกเดินทางกันเลยค่ะ ไม่ต้องรอ
สภาพรื่นเริง กลับลงมาค่อยว่ากันอีกเรื่อง
พวกเราค่อยๆเดินไปเรื่อย และ จะมีเจ้าหน้าที่คอยเล่าความเป็นมาของที่นี่ แนะนำดอกไม้ข้างทางตลอดเวลา แต่เราเหนื่อยมาก ฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง และเห็นแดดเปรี้ยงๆ แบบนี้ อากาศเย็นมากเลยะ ไม่ร้อนเลย
[img]
[CR] ดอยหลวงเชียงดาว ในวันที่ฉันต้องการธรรมชาติ
แบบไปสมผัสธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด ในจังหวัดเชียงใหม่ นั่นคือ ดอยหลวงเชียงดาว นั่นเองค่ะ
1. ศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบ ข้อบังคับ รวมถึงรายละเอียดและเงื่อนไขต่าง ๆ ในการจองให้ครบถ้วน
2. เตรียมเอกสารที่ใช้ในการจองให้ครบถ้วน ก่อนทำการจอง มี
- บัตรประชาชนหรือสำเนาบัตรประชาชนของนักศึกษาธรรมชาติทุกคนในกลุ่มในรูปแบบไฟล์ JPG
- ใบรับรองการฉีดวัคซีนในรูปแบบไฟล์ JPG ให้สมบูรณ์
- ดาวน์โหลดเอกสารการขออนุญาตเข้าเขตฯ (สามารถดาวน์โหลดเอกสารได้ในเว็บไซต์ ซึ่งจะแจ้งให้ทราบภายหลัง) และกรอกข้อมูลในเอกสาร เพื่ออัปโหลดเข้าระบบการจอง ภายหลังชำระเงินเสร็จสิ้น
นักศึกษาธรรมชาติจำเป็นจะต้องเข้ารับการอบรม เพื่อทำความเข้าใจกฏและกติกาต่าง ๆ ร่วมกัน (1 วันล่วงหน้า) โดยจะมีการให้เลือกอบอรม 2 รอบ คือ ช่วงเช้า 09.00-12.00 น. และช่วงบ่าย 13.00-16.00 น. ณ เทศบาลตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
หลังจากได้รับการอบรมแล้ว นักศึกษาธรรมชาติจะได้รับ “บัตรผ่านการอบรม” เพื่อนำไปยืนยันสิทธิ์การเข้าศึกษาธรรมชาติกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยหลวงเชียงดาว (บัตรผ่านอบรมมีอายุ 2 ปี)
เราเลือกช่วงบ่ายเพราะ ขี้เกียจตื่นเช้าค่ะ
- บัตรประชาชนตัวจริง
- วันจริง สามารถเตรียม ATK ไปเองได้ มีค่าบริการตรวจ 50 บาท ต่อคน / แต่ถ้าไม่ได้เตรียมมา ชุดละ 150 บาท ค่ะ
ค่าใช้จ่ายในการเดินศึกษาธรรมชาติบนดอยหลวงเชียงดาว
- ค่าลูกหาบ โดยลูกหาบ 1 คน แบกสัมภาระได้ 20 กิโลกรัม (คิดตามน้ำหนัก 60 บาท/กิโลกรัม)
- เหมาคัน รถ 1 คัน (2,700 บาท/คัน) สามารถรองรับได้สูงสุด 5 คน
- ค่าธรรมเนียมเข้าเขตฯ 20 บาท/คน
- ค่าเช่าสถานที่กางเต็นท์ 30 บาท/หลัง (กรณีนำเต็นท์มาเอง)
- ค่ามัดจำขยะ 500 บาท/คน (จะคืนค่ามัดจำขยะให้ภายหลังในวันที่เดินทางลงจากดอย หากนำขยะลงมาตามจำนวนที่นำขึ้นไป-รับเงินคืนที่เขตฯ)
- ออกกำลังเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนขึ้นเขา
- ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 3-5 ชั่วโมง
- อากาศเย็นในตอนกลางวัน สูงสุด 20 องศา
- และอากาศเย็นมากในตอนกลางคืน ต่ำสุด 0 องศา
- อุปกรณ์กันหนาว เสื้อหนาว ถุงเท้า ถุงมือ ถุงนอน
- ไฟฉายคาดหัว สำหรับเดินเขาในช่วงเย็นหรือเช้ามืด
- ถุงมือ สำหรับกันหนาวและเอาไว้ปีนหิน จับเชือก
- รองเท้า ควรเป็นรองเท้าที่มีพื้นดอกยางลึก เกาะพื้น
- เสื้อกันฝน สำหรับกันน้ำค้างช่วงเย็นหรือเช้ามืด
- น้ำดื่มและน้ำใช้ต้องเตรียมขึ้นไปเอง หรือจ้างลูกหาบ
- การประกอบอาหาร ห้ามก่อไฟ ห้ามทิ้งเศษอาหาร
- ห้ามนำทิชชู่เปียกเข้าพื้นที่ ได้แต่ทิชชู่ธรรมดาเท่านั้น
- นอนค้างแรมได้ 1 คืนเท่านั้น เตรียมทุกอย่างให้พร้อม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้