ดอยหลวงเชียงดาว ดอยที่คู่ควรสำหรับมือใหม่หัดเดินป่า

เพี้ยนแคปเจอร์
       สวัสดีครับผู้อ่านทุกคน ก่อนอื่นผมต้องบอกไว้ว่าผมเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการเดินป่าเป็นอย่างมาก กว่าที่ผมจะรักกิจกรรมนี้ก็ต้องย้อนอดีตไปถึง 3 ปีที่แล้ว สมัยที่ผมยังไม่เริ่มรู้จักเรื่องการเดินป่าเลย  ต้องบอกก่อนทุนเดิมผมก็เป็นคนที่ชอบธรรมชาติอยู่แล้ว จึงสนใจที่จะเริ่มหัดเดินป่าจริงๆจังๆสักที เลยตัดสินใจกับแฟนว่าเรามาหาที่เที่ยวเดินป่ากันสักที่ไหม แฟนก็เลยแนะนำชวนกันไปเดินป่าที่ดอยหลวงเชียงดาว  โดยครั้งนี้แฟนผมได้ชวนเพื่อนไปจอย
ทริปร่วมอีก 4 คน รวมทั้งหมดด้วยกันเป็น 6 คน (ต่างคนก็ต่างมือใหม่ทั้งนั้น)  นี้ก็คือจุดเเริ่มต้นการเดินป่าครั้งแรกของผม ซึ่งก็อยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเดินป่าครั้งนี้ เผื่อหากว่าจะมีคนที่จะเริ่มสนใจการเดินป่าเข้ามาอ่านหรือคนที่อยากจะไปพิชิตดอยหลวงเชียงดาวแห่งนี้สักครั้งในชีวิตได้ศึกษาแนวทาง อาจจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ


    หากเราอยากที่จะเดินศึกษาธรรมชาติยอดดอยหลวงเชียงดาว ขั้นแรกสุดเราจะต้องนัดวันที่เราจะไปกับเจ้าหน้าที่ของเขตอนุรักษ์รักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว  โดยเราสามารถหารายละเอียดติดต่อเจ้าหน้าที่ทางสื่อโชเชียลได้เลย ในครั้งนั้นทีมของผมได้ใช้บริการทัวร์ของลุงสิงคำ  ชึ่งเป็นทัวร์ของชาวบ้านโดยคิดค่าบริการสมัยนั้นอยู่ที่ 2500 บาทต่อคน โดยทัวร์ของลุงสิงคำนั้นนะครับจะจัดการทุกอย่าง เช่น อาหาร น้ำดื่ม ลูกหาบ(จำกัดกิโล) เต้นท์ ถุงนอน การติดต่อประสานงาน และอื่นๆ คิดง่ายๆคือเราแค่มาตัวเปล่าแบกของใช้ส่วนตัวเล็กน้อยๆ ก็ขึ้นดอยไปได้เลยไม่ต้องจัดการเรื่องอะไรแล้วเหมาะสำหรับมือใหม่เลยครับ  ทริปนี้เราเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน เพราะเขาไม่มีเที่ยวแบบ 3 วัน 2 คืนอีกแล้วแอบเสียดายอยู่เหมือนกันครับ   
      อมยิ้ม07เริ่มต้นนับ 1 ที่เขตอนุรักษ์รักษาพันสัตว์ป่าดอยหลวงเชียงดาว 
เรามาเริ่มวันแรกการเดินทางเลยนะครับ (วันที่ 11 ธันวาคม 2563 )  ตัวผมทำงานอยู่เชียงใหม่อยู่แล้วการเดินทางเลยไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด วันแรกผมขับรถมายังเขตอนุรักษ์รักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยหลวงเชียงดาว  เพื่อมาลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่หลังจากที่เราจองนัดวันที่จะขึ้นมาแล้ว เพื่อยืนยันตัวตนชำระค่าบริการก่อนขึ้น ก็จะมีค่าประกันขยะ ค่าธรรมเนียมการเข้าบริการกางเต้นท์ ค่านิดๆหน่อย ขั้นตอนนี้ทัวร์เขาจัดการให้หมดครับสบายเลย อย่าลืมพกบัตรประชาชนกันมาด้วยนะครับเพื่อยืนยันสิทธิ์ตัวตน 

หลังจากที่ลงทะเบียนกันเสร็จ เจ้าหน้าที่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวจะพาเราไปยังห้องบรรยาย ก่อนที่เราจะขึ้นยอดดอยหลวงเชียงดาวนั้นเราต้องฟังคำบรรยายเกี่ยวกับระเบียบข้อปฏิบัติในการขึ้นยอดดอยหลวงครั้งนี้เสียก่อน การบรรยายใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที เหมือนว่าปัจจุบันนี้ทางเขตอนุรักษ์จะได้ปรับเปลี่ยนโดยให้ต้องมาฟังบรรยาย 1 วันเต็มๆก่อนจะได้ขึ้นอีกวัน อันนี้ต้องตามกันในเพจ facebook กันนะครับ

นี้คือถุงสำหรับไว้ฉี่นะครับทางเขตเขาแจกไว้คนละ 2 ถุง หากฉี่ไม่เป็นที่แล้วเจ้าหน้าที่เกรงว่าจะเกิดผลกระทบกับสัตว์ป่าและระบบนิเวศน์ครับ 

   หลังจากอบรมอะไรเสร็จสรรพ พวกเราก็จะขึ้นรถโฟล์วิลออกจากที่ทำการเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวขึ้นไปยังจุดเริ่มเดินด้วยเท้าที่เรียกว่า จุดเด่นหญ้าขัด ใช้เวลานั่งรถประมาณ 1.30 ชม ถนนหนทางไม่ค่อยลำบากเท่าไหร่ครับแต่ก็มีชันบ้างให้เสี่ยวๆกันบ้าง  อีกอย่างฝุ่นของถนนครับระวังเข้าตาซึ่งเยอะมากเพราะช่วงที่ผมไปนั้นเป็นหน้าแล้งด้วยนี้ละ ฝุ่นแดงฟุ้งกระจายเลยทีเดียว  พอพวกผมมาถึงจุดเริ่มต้นเดินที่เด่นหญ้าขัดแล้ว ก็ทำการขนของใช้ต่างๆลงจากรถ อะไรที่คิดว่าแบกไม่ไหวก็ให้ลูกหาบแบก  อีกอย่างนะครับเรื่องน้ำดื่มควรเตรียมไว้ดีๆ ว่าจะแบกหรือให้ลูกหาบ เพราะข้างบนไม่มีน้ำตามธรรมชาตินะครับ 



เด่นหญ้าขัดมุ่งสู่ลานกางเต้นท์อ่างสลุง
 ก่อนที่เราจะไปพิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาวนะครับ เราต้องเดินเท้าไปที่ลานกางเต้นท์อ่างสลุงก่อน จากเด่นหญ้าขัดไปลานกางเต้นท์อ่างสลุงนะครับระยะทางก็ประมาณ 8.5 กิโลเมตร สำหรับทางเดินขึ้นดอยนั้น  ตอนเริ่มเดินก็มีทางลงมีทางขึ้นสลับกันบ้างสบายๆครับ พอไปเรื่อยๆเราจะเริ่มเหนื่อยจากทางที่ค่อยๆชันและไกล และทางบางทีก็แคบครับ มีได้ไต่หินบ้าง หนักสุดที่เหนื่อยจริงๆก็คือจุดที่เลยแยกเชื่อมต่อทางที่มาจากปางวัวหนะครับ (ปัจจุบันปิดเส้นทางนี้ไปแล้ว)  จะบอกว่าชันสุดชอยยาวเอาเรื่องอยู่ครับจนสุดท้ายผมและเพื่อนๆก็มาถึงลานกางเต้นท์จนได้  พวกผมใช้เวลาทั้งหมด 4 ชั่วโมงกว่าก็ถึงลานกางเต้นท์อ่างสลุง





  ลานกางเต้นท์อ่างสลุงมุ่งสู่ยอดดอยหลวงเชียงดาว 
พอถึงลานกางเต้นท์อ่างสลุงแล้ว ผมและทีมงานก็ต่างคนต่างพักผ่อนกันตามอัธยาศัย ใช้เวลาในการพักผ่อนประมาณ 1.30 ชม จากนั้นก็เตรียมตัวกันเดินขึ้นสู่ยอดเดอยหลวงเชียงดาวกัน ระยะทางถือว่าไม่ไกลครับแต่เป็นจะทางชันเท่านั้นเอง ต้องใช้ความระมัดระวังกันด้วยนะครับเพราะหินที่ไต่ขึ้นนั้นจะมีความคมอยู่ หากพลาดท่าก็บาดเจ็บได้เหมือนกันนะครับ จุดนี้ต้องใจเย็นๆค่อยๆขึ้นกันครับ  (ปัจจุบันนี้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำเชือกไว้ไต่แล้วเพื่อความสะดวกต่อนักท่องเที่ยวและไม่ให้เกิดอันตรายอีกด้วย) ผมใช้เวลาในการไต่ประมาณ 45 นาทีก็สามารถพิชิตยอดเขาเชียงดาวได้อย่างสมบูรณ์ ข้างบนอากาศหนาวมากๆ ประกอบลมที่แรงจึงหนาวเข้าไปใหญ่ ควรเอาเสื้อกันหนาวไปด้วยนะครับ  ถ้าพูดถึงวิวผมให้หลักล้านเลยล่ะคุ้มค่าเหนื่อยที่ลำบากลำบนเดินขึ้นมาบนยอดดอยหลวงเชียงดาวนี้  


วิวข้างบนจะเป็นวิวภูเขาสูงสลับซับซ้อนสวยงามเป็นอย่างมาก ที่เด่นชัดก็น่าจะเป็นเขาสามพี่น้องที่มีหน้าตาคล้ายๆกันวางเรียงกันนั้นละครับ นี้ถือได้ว่าเป็นจุดเด่นของดอยหลวงเชียงดาวนี้ ยิ่งแสงพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าความสวยงามก็เห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ  เป็นเรื่องที่น่าประทับใจเลยทีเดียวไม่ใช่น้อยครับ 
      









พอประมาณสองทุ่มพวกเราก็ลงจากดอย ที่สำคัญเลยนะครับต้องพกไฟฉายคาดหัวไว้ด้วย เพราะเราต้องใช้แสงสว่างส่องทางตอนลงมาจากดอย ด้วยความเหน็ดเหนื่อประกอบกับอากาศที่หนาว มาถึงที่พักแคมป์พวกเราก็ทานข้าวจากฝีลุงสิงคำที่ทำรอไว้แล้วทันที บอกได้เลยกินไหนไม่อร่อยเท่ากินตอนเดินป่านี้ละครับ ไข่เจียวธรรมดายังอร่อยกว่าหมูกะทะเสียอีก พอกินเสร็จก็นั่งคุยกันชักระยะ พอสามทุ่มกว่าต่างก็พากันนอนละครับ เพราะเหนื่อยกับการเดินทางกัน พรุ่งนี้เช้าเราจะกลับไปยอดดอยหลวงอีกครั้งเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นครับ 

 

เช้าวันที่สอง วันสุดท้ายลงจากยอดดอย
 เช้าตีสี่วันที่สอง อากาศตอนเช้าหนาวมากๆ หนาวเสียจนแบบว่าผมไม่อยากลุกขึ้นมาเลย ใจหนึ่งก็อยากติดผ้าห่มอยู่แบบนี้ละอีกใจก็อยากไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดดอยหลวง เพราะไหนๆก็มาแล้วสุดท้ายก็เลยกัดฟันใจสู้ตื่นมาล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมขึ้นไปยอดดอยตีสี่นี้ละครับ เช้านี้เหลือผมกับแฟนที่จะขึ้นไปที่เหลือสละเรือครับเพราะว่าอากาศมันหนาวมากเกินไปนั้นละ 555  ขึ้นยอดดอยตอนมืดๆนี้ยอมรับเลยใจก็กลัวแต่สนุกมากกว่าครับ
ได้ฟิลของการพจญภัยสุดๆ ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีเช่นเคย จนมาถึงยอดนี้ครับ แสงพระอาทิตย์ตอนเช้าสวยมาก การชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดดอยหลวงนี้ถ้าจะให้ดีเขาบอกต้องไปดูที่กิ่วลมแต่กิ่วลมปิดเสียดายเหมือนกันแต่ไม่เป็นไร ได้มาบนยอดดอยตอนเช้าก็ถือว่าเป็นอะไรที่สุดยอดแล้วครับ   



  พอชมวิวของบนยอดจนพอใจ เราทั้งสองคนก็ลงยอดดอยมาร่วมกับเพื่อนตอนเช้าที่ลานกางเต้นท์อ่างสลุง เพื่อรวมตัวกินข้าวเช้ากัน พอทำไรเสร็จสรรพก็ออกเดินทางกลับกัน พวกผมลงดอยก็น่าจะประมาณ 11.00 น ถึง จุดเด่นหญ้าขัด ก็ประมาณ 13.00 น ครับ ขาลงนี้ใช้เวลาไม่เยอะตามธรรมดาของขาลง สุดท้ายทุกคนก็แยกย้ายกันไปกลับบ้านด้วยหน้าตาเหนื่อยๆและใบหน้าแห่งความประทับใจในการเที่ยวครั้งนี้ 



   ท้ายสุดนะครับการเดินทางย่อมมีสิ่งต่างๆที่สวยงามเสมอ ทั้งวิวที่สวยงามหรือผู้คนที่ร่วมเดินทาง การเดินทางครั้งนั้นมันไม่ได้จบเลย มันยังคงเดินอยู่ในใจเราตลอดเวลา เวลาท้อๆการทำงาน หรือเหงาจากเรื่องต่างๆ มันก็ยังมีความทรงจำดีๆที่ดอยหลวงเชียงดาวแห่งนี้ให้คิดถึง 
  ผมว่ามาที่นี้สักครั้งเถอะครับ คุณจะรู้คำตอบแน่นอน ว่าสักครั้งในชีวิตคุณทำไมต้องมาพิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาวให้ได้ 


  -----*----- ขอบคุณครับ ------*-------เพี้ยนชนแก้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่