เมื่อผมโตมากับครอบครัวที่ใช้ความรุนแรง แล้วไม่อยากจะอยู่ด้วย ผิด?

เล่า background แม่ แม่เป็นลูกคนจีนที่ครอบครัวหย่าร้าง แม่ของแม่ไปมีครอบครัวใหม่ ส่วนพ่อก็ทิ้งให้อาม่าดูแล แม่ทำงานส่งตัวเองจบจบปริญญาตรีมหาลัยเปิด 
แม่มีผมตอนอายุ 28 ผมจำไม่ได้แล้วก็เลิกกับพ่อ ตอนไหนจำไม่ได้ผมยังเล็ก แม่เอาผมมาเลี้ยง แม่มีบ้านมีรถซื้อสด มีคนเลี้ยงดูอยู่ช่วงนึง จนเลิกรากับคนนั้นไป แม่ต้องเริ่มทำงาน เป็นพนักงานออฟฟิศ ไม่ตรงสายกับที่ตัวเองเรียนจบ เงินเดือนไม่มาก ค่าคอมมากกว่าเงินเดือนได้ แต่ด้วยที่ไม่ต้องผ่อนบ้านรถ เงินเก็บหลักแสน ชีวิตจึงค่อนข้างดีกว่าบรรดาญาติๆด้วยกัน แม่เป็นคนอารมณ์ร้อน เวลาทะเลาะกับผู้ชายของแม่ ข้าวของกระจายเต็มบ้าน มีถึงขั้นขวดเบียร์ตีหัว เอามีดคัทเตอร์ฟันหลัง ซึ่งผมก็เป็นเหยื่ออารมณ์อย่างนี้อยู่บ่อยครั้ง ไม่สามารถเล่าให้หมดได้ จนผมเข้ามหาลัย ไปอยู่หอ พอไม่ค่อยเจอกัน แม่ถึงเริ่มเป็นแม่ปกติบ้าน เจอกันพาไปกินข้าว พูดดี แต่เมื่อพูดถึงเรื่องเงิน แม่ถึงกลับมาใช้อารมณ์ด่าหยาบคายแทน
 
เรื่องมีอยู่ว่าตอนเรียนจบใหม่ๆ แม่บอกจะส่งถึงเดือนนี้ๆนะ หางานไม่ได้ก็กลับมาอยู่บ้าน ผมก็บอกไปว่าหาได้แน่ๆ ซึ่งถ้าหาไม่ได้มันก็ต้องกลับไปอยู่บ้าน ซึ่งก็ไม่ได้อะไร แล้วก็มีคุยกันสาเหตุที่ไม่ได้อยากกลับไปอยู่บ้าน ผมบอกไปว่า ผมไม่ชอบบ้าน ทุกส่วนของบ้านมันมีความทรงจำไม่ดี ถึงตอนนั้นแม่ก็บอกแม่ขอโทษแล้วกันถ้าเคยทำอะไรให้
 
ผ่านไปเกือบปี ตื่นเช้ามาเจอข้อความที่แม่บอกว่าให้กลับมาอยู่บ้านไหม จะได้ประหยัดค่าหอเก็บเงินไว้ดาวน์คอนโด ผมหงุดหงิดที่ต้องตอบอะไรซ้ำซาก จึงบอกไปว่า ไม่อยากอยู่กับแม่ จบไหม แม่ก็ตอบว่า gu ไปทำไรให้ mueng เลี้ยงมาจนโต อกตัญญู 

และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่แม่ทำกับผม มันเยอะมาก ผมไม่สามารถยกมาได้หมด คงยกมาได้แค่อันที่ฝังใจ แต่ช่วงชีวิตอื่น ผมรู้สึกว่าไม่มีความทรงจำดีๆกับแม่ซักนิด
-             น่าจะช่วงวัยเด็กต่ำกว่า 10ขวบ วัยที่นั่งตักได้ ผมป่วยละอ้วกใส่แม่ แม่ด่าหยาบคาย แล้วก็มีอีกเหตุการณ์ที่เป็นอ้วกเหมือนกัน เหมือนผมจะอ้วกใส่อ่างล้างหน้า ซึ่งท่อมันก็ต้องตัน แม่น่าจะตบหัว ขังในห้องน้ำปิดไฟ ให้จัดการอ้วกให้หมด
-             น่าจะช่วงวัยต่ำกว่า 10ขวบเหมือนกัน ผมเดาว่า 5-6 ขวบ ผมได้ดินสอมา เอาวาดรูปใส่กำแพงห้องนอนตัวเอง (แยกห้องนอนตั้งแต่เล็ก) น่าจะวาดตอนกลางคืน เช้าไปเรียนกลับบ้านมา โดนด่าตบตี
-             วันแรกที่แม่ซื้อจักรยานให้ เป็นช่วงเย็น วันนั้นแม่มีผู้ชายมาบ้าน (ซึ่งปกติแม่จะให้ผมเรียกว่าป้า เวลาต่อหน้าผู้ชายคนอื่น) วันนั้นแม่ให้ขี่จักรยานเล่นข้างนอก ผมต้องขี่จักรยานจนดึก ยุงกัด จนผมไม่ไหว จึงเข้าบ้าน ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้ชายคนนั้นออกมากำลังจะกลับ ต่อหน้าผู้ชายคนนั้นแม่ปกติ แนะนำว่านี่หลาน หลังจากนั้นแม่ขึ้นมา ด่า ขัดขวางความสุขกุ ตี ขว้างแก้ว (แก้วเล็กๆเหมือนแก้ช็อต แต่แม่ใช้กรวดน้ำ แม่เป็นคนธรรมะธรรมโม ปกติแม่ปฏิบัติธรรม มักจะเล่าว่านั่งสมาธิเห็นแสง) แก้วไม่โดนผม ไปโดนกำแพง เป็นเศษแตกเต็มเตียง ผมต้องต้องเอาผ้าห่มมานอนพื้น
-             แล้วก็มีตอนที่พ่อเลี้ยงพูดอะไรกับแม่ แม่ก็ต้องโทรมาด่าผมว่าขัดขวามความสุข ไม่น่าให้ผมเกิดมา พี่มืงกุก็ทำแท้งไปได้ (แม่เคยทำแท้งมาก่อนมีผม)
-             เคยมีต้องจ่ายค่ากีฬาสีเป็นประมาณพันนึง แม่ด่า ไม่ให้ ผมต้องไปขอน้า
-             แม่เคยทะเลาะกับพ่อเลี้ยงตอนกลางคืน แล้วปลุกผมจะมายืมโทรศัพท์โทร ผมเงินหมดโทรออกไปได้ ตบตีด่า
-             แม่ไม่เคยให้นอนแอร์ ห้องนอนอยู่ฝั่งที่โดนแดดตอนบ่ายจนถึงเย็น ตอนกลางคืนร้อนมาก วิธิแก้ปัญหาคือพัดลมสองตัว ซึ่งผมมักจะไปนอนบ้านญาติที่อยู่ใกล้ๆ เค้านอนรวมกันพ่อแม่ลูก ผมก็ไปนอนด้วย ญาติก็มีให้ตังค์ให้ข้าวด้วย เพราะเงินที่แม่ให้ก็ไม่ได้เยอะ เรียกว่าไม่เคยพอ
-             ก่อนเข้ามหาลัยผมสอบติดมอดังมอนึงค่าเทอมแพงระดับนึง จ่ายค่ายืนยันสิทธิไปแล้ว คืนที่แม่เมา แม่บอกว่า ไม่ต้องไปเรียน ไปเรียนราม ส่งไม่ไหว ซึ่งผมก็บอกว่าก็จะกู้เรียน แม่จ่ายแค่ส่วนต่าง แม่ก็บอกว่าไม่ ใครส่งได้ไปให้เค้าส่ง ตอนนั้นผมถามว่าแม่เคยรักผมบ้างไหม แม่ตอบว่าไม่ เกิดมามีแต่สร้างความเดือดร้อน มาเก็บข้าวของไป วันนั้นผมไปเก็บข้าวของเสื้อผ้า ไปอยู่บ้านยาย ร้องไห้น่าจะที่สุดของชีวิต แล้วก็มีผู้ใหญ่ท่านนึงคนรู้จักยายบอกจะส่งให้เอง เช้าวันต่อมา แม่ก็ตีมึนลืม อะไรใครจะส่ง เค้าจะส่งเลยหรอ จบเรื่องนี้ คือแม่กลับมาส่งเหมือนเดิม ผู้ใหญ่ท่านนั้นก็ช่วยค่าซื้อของแรกเข้า ค่าหอประมาณปีนึง แม่ส่งต่อที่เหลือจนจบ ผมกู้เรียนแม่จ่ายส่วนต่างค่าเทอม
-             พอขึ้นมหาลัยปีแรกๆ ก็มีด่าบ้างเรื่องเงิน สร้างความเดือดร้อน พอปี3-4 ถึงจะเริ่มปกติ ใช้อารมณ์น้อยลง อะไรต้องใช้ก็ซื้อ
ถูกด่าว่าส่วนใหญ่ประมาณ 60% จะเกี่ยวข้องกับเงิน แม่มีคนเลี้ยงดูแต่หลังจากเลิกราไป แม่ต้องทำงานเอง ซึ่งบางที อาจจะหาได้ไม่เท่ากับที่จ่าย ซึ่งก็ต้องใช้เงินเก่าบ้าง แม่ไม่ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ มีเงินเก็บไม่มากประมาณไม่เกิน 4แสน แต่ไม่ว่าจะขอไปซื้ออะไรก็ตามที่จำเป็นร้อยสองร้อยก็จะด่า ด่าที่ว่าหมายถึงขึ้นมืงกุ ด่าหยาบคายนะครับ ไม่ใช่เอ็ดใช้เงินเยอะ
 
ข้อดีของแม่ก็คือ แม่ก็เลี้ยงมาจนเรียนจบ แม้จะต้องโตมากับคำพูด แบบ ทนไม่ได้ก็ไปตาย, ตอนเด็กกุลำบากกว่านี้, ไม่น่าให้เกิดมา, สร้างแต่ความเดือดร้อน
แล้วตากับยายแม่มักจะเอามายกตัวอย่างว่า เค้าทิ้งแม่ ไปแต่แม่ยังดูแล พูดทุกครั้งจนปัจจุบันวัยเกิน50 แล้วยังพูด
 
ปัจจุบันผมส่งเงินให้แม่กับยายทุกเดือนในจำนวนที่ไม่ได้มาก แต่ผมเค้าเรียกเท่านี้แล้วผมก็ไหวเท่านี้
ต่อจากที่เจอข้อความให้กลับมาอยู่บ้านแล้วผมตอบไปว่า ไม่อยากอยู่กับแม่ จบไหม แม่ก็ถามว่ากุไปทำไรให้มืง ซึ่งผมก็ยกไปให้ อะทำอะไรให้ คำตอบที่ได้มาก็คือ อ่อนไหวจังนะ ชีวิตต้องเจออะไรอีกเยอะ ชีวิตกุพ่อแม่ทิ้งบลาๆ กุยังต้องดูแลเค้า มืงมีอะไรดี ทำไมจะด่าไม่ได้ ไม่ได้เลี้ยงไว้ทำพ่อ ผมก็มีพูดว่าเด็กคนนึง พ่อแม่คือโลกทั้งใบของเค้า แล้วยิ่งมีแค่แม่ แล้วมาเจอแม่แบบนี้ สรุปแม่ ไม่พยายามเข้าใจอะไร พูดแค่แนวๆเลี้ยงมาขนาดนี้ ดีแค่ไหน ไม่บังคับให้บวชให้ดีแค่ไหนแล้ว
ผลจากการโตมากับแม่อารมณ์ร้อนแบบนี้ คือผมก็เป็นคนอารมณ์ร้อนแบบเดียวกัน ต่างแค่ผมไม่เคยไประบายใส่ใคร แต่ผมจะหงุดหงิดง่าย แล้วก็พอบ้าน/ครอบครัวไม่ใช่ safe zone ผมก็รู้สึกว่าไม่ได้ต้องการสิ่งนี้ ที่บ้านจะไปกินเที่ยวมีความสุข ผมก็ไม่ได้รู้สึกอยากจะยุ่ง รู้สึกเฉยๆไปหมดทุกอย่าง
 
ทุกวันนี้มีความสุขดีครับ หน้าที่การงาน เพื่อนฝูง แต่ถ้านึกถึงครอบครัว นึกถึงแม่ มันก็จะร้องไห้ได้ทุกครั้ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่