สวัสดีค่ะ
เมื่อวันก่อนได้ดูคลิปสัมภาษณ์คุณหนุ่ม กรรชัยในรายการของคุณวู้ดดี้ ทราบว่าทั้ง 2 คนมีอาการที่เรียกว่า Panic disorder
เชื่อว่าหลายคนมีอาการลักษณะนี้กันพอสมควร ซึ่งบางคนกลายเป็นโรคซึมเศร้าในที่สุด ในรายการคุณหนุ่มบอกว่าให้เราใช้
ความเข้มแข็งภายในจิตใจเราต่อสู้กับอาการนี้ แต่ถ้าบางคนไม่ไหวจริงๆก็ควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ ในส่วนนี้อยากให้ช่วยกันแนะนำคลินิค โรงพยาบาลหรือ จิตแพทย์ รวมถึงค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่มีอาการและต้องการรักษาด้วยค่ะ
ขอแชร์วิธีบรรเทาอาการ Panic disorder ด้วยตนเองดังต่อไปนี้ค่ะ
Panic disorder น่าจะเกิดจากความเครียดสะสมเกินพิกัด ความกดดัน ความกังวลใจ ที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของเราเอง ตอนนี้ปรับเปลี่ยนวิธีคิดและการมองโลกในแง่บวก หาโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนแม้จะแค่ช่วงสั้นๆก็ยังดี พูดคุยกับครอบครัวและเพื่อนๆอย่าหมกมุ่นอยู่กับตัวเอง ลดความคาดหวังกับตัวเอง ผู้คนและสิ่งต่างๆรอบตัวลง ออกกำลังกายกลางแจ้ง ปลูกต้นไม้ช่วยบำบัดจิตใจ
ปล่อยวางปัญหาและเรื่องที่ค้างคาใจลง หยุดกดดันตัวเองและให้คิดว่าทำดีที่สุดแล้ว ให้หยุดคิดและดึงความคิดและความสนใจให้เบี่ยงเบนไปในเรื่องที่สุนทรี สนุกสนาน เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นกีฬา ฝึกเล่นดนตรี ทำอาหาร กินอาหารอร่อยๆ เป็นต้น
ถ้าขับรถอยูแล้วเกิดอาการขึ้นก็บอกตัวเองว่า ไม่เป็นไร เราต้องไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็ผ่านไปได้ จ่อแอร์เย็นๆ แล้วคิดถึงความสนุกสนานและความสุขปลายทางที่จะไปถึง และคิดว่าอาจมีเรื่องราวดีๆเกิดขึ้น (รถติดบ้านเรามันแย่มากๆจริงๆ สร้างความเครียดสะสม ไม่ได้รับการแก้ไขจริงจัง เพราะมีผลประโยชน์มหาศาลมาเกี่ยวข้อง)
ตอนนอนถ้าหายใจไม่ออก กลัวความมืด หัวใจเต้นเร็ว แน่นปวดหัวใจ หรือบริเวณหน้าอก ให้กินยาแก้แพ้หรือยาคลายเครียดครึ่งเม็ด ช่วยให้นอนหลับได้ และพยายามเดินเล่น เปิดเพลงลุกขึ้นเต้น เปิดรายการในช่องต่างๆฟังเป็นเพื่อนจนหลับไป เช่น รายการของน้าเน็ก555 ช่วยได้มากๆ หรือซื้อชาดอกคาโมไมล์มาดื่มก่อนนอน หรือน้ำมันกัญชา
อาการปวดหัวใจและแน่นหน้าอก อาจเกิดจากมีโรคกรดไหลย้อนร่วมด้วย ให้ไปพบแพทย์จ่ายค่าหมอ แต่เอารายชื่อยามาซื้อที่ร้านขายยาแทนได้ (เพราะยาดีมาจากต่างประเทศและมีราคาแพง แต่กินแล้วดีขึ้นมาก แทบจะเรียกว่าหายขาดได้ หมอบอกว่าอาจกลับมาเป็นอีก)
ใส่ใจและรักษาสุขภาพ เลือกกินอาหารที่ดี กินผักผลไม้ และกินหลากหลาย และหลีกเลี่ยงการกินอาหารมื้อดึก กินน้ำเต้าหู น้ำขิง และน้ำสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ
พิจารณาต้นตอของความเครียดว่ามาจากไหน แล้วคิดหาวิธีปรับเปลี่ยน หลีกเลี่ยง หรือ ระงับไป
ถ้ามีโรคทางร่างกายอื่นร่วมด้วย เช่น โรคกระเพาะ(มาจากความเครียด กินอาหารไม่ตรงเวลา) โรคกรดไหลย้อน(พบแพทย์กินยาตามแพทย์สั่ง) ผมร่วง(กินไบโอตินและสังกะสีซื้อได้ตามแอปช้อปปิ้งต่างๆ)
มองหาความสุขเล็กๆรอบตัว เช่น การให้อาหารปลา เต่า ทำบุญตักบาตร การทำดีคิดดีพูดดีกับคนรอบๆตัว ไม่ว่าจะให้ทิปพนักงาน คนเก็บขยะ เด็กขายพวงมาลัย ไหว้เจ้าที่เจ้าทาง คนซ่อมรองเท้า พนักงานทำความสะอาด โดยกล่าวขอบคุณหรือชื่นชม
เป็นการเรียนรู้ในการเป็นผู้ให้แล้วใจเป็นสุข
ปลดปล่อยอารมณ์เสียบ้าง ตะโกนด่า บ่น เสียงดังในรถ ในบ้านตัวเอง วางหินที่ถ่วงลงจากใจตัวเองลงให้โล่งสบาย
มองหาและพูดคุยกับเพื่อนเก่าๆสมัยเรียนที่พอโตแล้วมีความคิดและวิสัยทัศน์ที่เป็นผู้ใหญ่ พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดและให้แง่คิดที่ดีบางอย่างกับเราได้ เลือกคบแต่คนที่สร้างสรรและให้พลังบวกกับชีวิต ใครที่จ้องเอาเปรียบ เห็นแก่ได้ ไม่แคร์และเห็นใจกัน ให้ตัดทิ้งออกไปจากชีวิตซะ
หาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ฟังธรรมะ สวดมนต์ แผ่เมตตา
เข้าร่วมสัมมนา หาความรู้เพิ่มเติม พักงานไปเรียนต่อ ไปเรียนฝึกอาชีพ แต่งหน้า ทำผม ทำเล็บ ทำอาหาร เรียนภาษา และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความภูมิใจและสร้างให้เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ
สุขภาพจิตของเราชาวไทยในช่วงโควิดที่ผ่านมา กรณี Panic disorder
เมื่อวันก่อนได้ดูคลิปสัมภาษณ์คุณหนุ่ม กรรชัยในรายการของคุณวู้ดดี้ ทราบว่าทั้ง 2 คนมีอาการที่เรียกว่า Panic disorder
เชื่อว่าหลายคนมีอาการลักษณะนี้กันพอสมควร ซึ่งบางคนกลายเป็นโรคซึมเศร้าในที่สุด ในรายการคุณหนุ่มบอกว่าให้เราใช้
ความเข้มแข็งภายในจิตใจเราต่อสู้กับอาการนี้ แต่ถ้าบางคนไม่ไหวจริงๆก็ควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ ในส่วนนี้อยากให้ช่วยกันแนะนำคลินิค โรงพยาบาลหรือ จิตแพทย์ รวมถึงค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่มีอาการและต้องการรักษาด้วยค่ะ
ขอแชร์วิธีบรรเทาอาการ Panic disorder ด้วยตนเองดังต่อไปนี้ค่ะ
Panic disorder น่าจะเกิดจากความเครียดสะสมเกินพิกัด ความกดดัน ความกังวลใจ ที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของเราเอง ตอนนี้ปรับเปลี่ยนวิธีคิดและการมองโลกในแง่บวก หาโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนแม้จะแค่ช่วงสั้นๆก็ยังดี พูดคุยกับครอบครัวและเพื่อนๆอย่าหมกมุ่นอยู่กับตัวเอง ลดความคาดหวังกับตัวเอง ผู้คนและสิ่งต่างๆรอบตัวลง ออกกำลังกายกลางแจ้ง ปลูกต้นไม้ช่วยบำบัดจิตใจ
ปล่อยวางปัญหาและเรื่องที่ค้างคาใจลง หยุดกดดันตัวเองและให้คิดว่าทำดีที่สุดแล้ว ให้หยุดคิดและดึงความคิดและความสนใจให้เบี่ยงเบนไปในเรื่องที่สุนทรี สนุกสนาน เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นกีฬา ฝึกเล่นดนตรี ทำอาหาร กินอาหารอร่อยๆ เป็นต้น
ถ้าขับรถอยูแล้วเกิดอาการขึ้นก็บอกตัวเองว่า ไม่เป็นไร เราต้องไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็ผ่านไปได้ จ่อแอร์เย็นๆ แล้วคิดถึงความสนุกสนานและความสุขปลายทางที่จะไปถึง และคิดว่าอาจมีเรื่องราวดีๆเกิดขึ้น (รถติดบ้านเรามันแย่มากๆจริงๆ สร้างความเครียดสะสม ไม่ได้รับการแก้ไขจริงจัง เพราะมีผลประโยชน์มหาศาลมาเกี่ยวข้อง)
ตอนนอนถ้าหายใจไม่ออก กลัวความมืด หัวใจเต้นเร็ว แน่นปวดหัวใจ หรือบริเวณหน้าอก ให้กินยาแก้แพ้หรือยาคลายเครียดครึ่งเม็ด ช่วยให้นอนหลับได้ และพยายามเดินเล่น เปิดเพลงลุกขึ้นเต้น เปิดรายการในช่องต่างๆฟังเป็นเพื่อนจนหลับไป เช่น รายการของน้าเน็ก555 ช่วยได้มากๆ หรือซื้อชาดอกคาโมไมล์มาดื่มก่อนนอน หรือน้ำมันกัญชา
อาการปวดหัวใจและแน่นหน้าอก อาจเกิดจากมีโรคกรดไหลย้อนร่วมด้วย ให้ไปพบแพทย์จ่ายค่าหมอ แต่เอารายชื่อยามาซื้อที่ร้านขายยาแทนได้ (เพราะยาดีมาจากต่างประเทศและมีราคาแพง แต่กินแล้วดีขึ้นมาก แทบจะเรียกว่าหายขาดได้ หมอบอกว่าอาจกลับมาเป็นอีก)
ใส่ใจและรักษาสุขภาพ เลือกกินอาหารที่ดี กินผักผลไม้ และกินหลากหลาย และหลีกเลี่ยงการกินอาหารมื้อดึก กินน้ำเต้าหู น้ำขิง และน้ำสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ
พิจารณาต้นตอของความเครียดว่ามาจากไหน แล้วคิดหาวิธีปรับเปลี่ยน หลีกเลี่ยง หรือ ระงับไป
ถ้ามีโรคทางร่างกายอื่นร่วมด้วย เช่น โรคกระเพาะ(มาจากความเครียด กินอาหารไม่ตรงเวลา) โรคกรดไหลย้อน(พบแพทย์กินยาตามแพทย์สั่ง) ผมร่วง(กินไบโอตินและสังกะสีซื้อได้ตามแอปช้อปปิ้งต่างๆ)
มองหาความสุขเล็กๆรอบตัว เช่น การให้อาหารปลา เต่า ทำบุญตักบาตร การทำดีคิดดีพูดดีกับคนรอบๆตัว ไม่ว่าจะให้ทิปพนักงาน คนเก็บขยะ เด็กขายพวงมาลัย ไหว้เจ้าที่เจ้าทาง คนซ่อมรองเท้า พนักงานทำความสะอาด โดยกล่าวขอบคุณหรือชื่นชม
เป็นการเรียนรู้ในการเป็นผู้ให้แล้วใจเป็นสุข
ปลดปล่อยอารมณ์เสียบ้าง ตะโกนด่า บ่น เสียงดังในรถ ในบ้านตัวเอง วางหินที่ถ่วงลงจากใจตัวเองลงให้โล่งสบาย
มองหาและพูดคุยกับเพื่อนเก่าๆสมัยเรียนที่พอโตแล้วมีความคิดและวิสัยทัศน์ที่เป็นผู้ใหญ่ พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดและให้แง่คิดที่ดีบางอย่างกับเราได้ เลือกคบแต่คนที่สร้างสรรและให้พลังบวกกับชีวิต ใครที่จ้องเอาเปรียบ เห็นแก่ได้ ไม่แคร์และเห็นใจกัน ให้ตัดทิ้งออกไปจากชีวิตซะ
หาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ฟังธรรมะ สวดมนต์ แผ่เมตตา
เข้าร่วมสัมมนา หาความรู้เพิ่มเติม พักงานไปเรียนต่อ ไปเรียนฝึกอาชีพ แต่งหน้า ทำผม ทำเล็บ ทำอาหาร เรียนภาษา และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความภูมิใจและสร้างให้เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ