รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ ตอนที่ 47 อุบัติเหตุ

รับคำท้าฯ
ตอนที่ 47
 
หลังเลิกเรียนแล้ว ปฏิการรีบซิ่งมอร์เตอร์ไซค์ไปบ้านไร่ทะเลฝันทันที  เขาต้องไปปรับความเข้าใจกับปริมาเรื่องที่ให้ทางโรงพยาบาลโอนรายได้ของเขาเข้าบัญชีของเธอ แม้จะรู้สึกหนักใจไม่น้อย  กลัวว่ายัยตัวแสบจะไม่ยอมรับฟังเหตุผล  แต่นั่นคือสิ่งที่เขาคิดไปเองทั้งนั้น  เพราะความกลัวคือ ความทุกข์ที่เราจินตนาการ  เขายังจำคำพูดของปรามได้ดี และใช้มันเป็นคติของตัวเองมาตลอด  ทำให้เขากล้าเผชิญหน้ากับความจริงเสมอ
 
มีคนบอกว่า หากเราจะคบกับใคร  ต้องลองทะเลาะกันดูเพื่อเรียนรู้ว่า เราจะยอมรับกันและกันได้มากน้อยแค่ไหน  วันนี้เขากำลังจะพิสูจน์ทฤษฎีข้อนี้กับตัวเองแล้ว
  
 
หนุ่มนักดนตรีเล่าเรื่องที่พ่อไม่พอใจเรื่องนี้ให้เพื่อนรักฟัง  ปรามบอกว่าให้ลองมองในมุมของความเป็นพ่อดูบ้าง ถ้าลูกชายอยู่ดี ๆ ก็โอนเงินแสนให้ผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ พ่ออย่างเขาจะเห็นด้วยหรือไม่  สิ่งที่ปรามพูดทำให้เขาคิดได้ว่า เป็นเขาก็คงไม่เห็นด้วยเช่นกัน  ที่สำคัญพ่อไม่เคยรู้จักปริมา  เขายังไม่เคยเล่าอะไรเกี่ยวกับเธอให้พ่อฟังด้วยซ้ำ  หรือเล่าถึงความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอให้พ่อรับรู้เลย  ต่อไปเขาจะให้พ่อได้รู้จักเธอมากกว่านี้
 
ปฏิการมองเห็นปริมากำลังนั่งเลือกถั่วเม็ดเสียอยู่ที่โต๊ะไม้ตัวยาวที่ใช้ทำขนมอยู่คนเดียว บนโต๊ะมีกะละมังอะลูมิเนียมวางอยู่หลายใบแต่ละใบใส่ธัญพืชคนละชนิดกัน  มีถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วขาว ลูกเดือย เป็นต้น  มีตาชั่งวางอยู่ใกล้ ๆ  เนื่องจากเธอเป็นครอบครัววีแกนจึงต้องทานธัญพืชและถั่วต่าง ๆ ที่ให้โปรตีนต่อร่างกาย  ข้อดีของโปรตีนจากพืชคือ ย่อยง่าย ดูซึมง่าย ได้ใยอาหารสูง ช่วยลดอาการท้องผูก ลดการดูดซึมของคอเลสเตอรอลและไขมันอีกด้วย  ​มีแคลอรี่ต่ำ  ทำให้อิ่มท้อง และเพิ่มจำนวนแบคทีเรียดีในลำไส้ ปรับสมดุลระบบขับถ่าย โดยที่ยังให้สารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุ  ธัญพืชอีกชนิดที่ขาดไม่ได้ต้องทานเป็นประจำคือ ลูกเดือย 
 
ลูกเดือย ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ลดอาการท้องผูกได้ เพราะลูกเดือยมีใยอาหารสูงมาก จึงช่วยทำให้ระบบขับถ่ายคล่อง  ทำให้นอนหลับสบาย เพราะมีกรดอะมิโนที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนเมลาโทนินซึ่งช่วยให้นอนหลับได้ดี  บำรุงสายตา วิตามินเอในลูกเดือยช่วยเพิ่มความสามารถในการมองเห็นในที่แสงสว่างน้อยตอนกลางคืน  บำรุงฟันและกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน อีกทั้งยังบำรุงเส้นเอ็นและข้อกระดูกด้วย  นอกจากนี้ยังบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ลูกเดือยอุดมไปด้วยวิตามินบี1 บี2 หากรับประทานเป็นประจำจะช่วยทำให้ผิวสวยสดใส
 
“เลือกถั่วอยู่เหรอ  ให้ฉันช่วยนะ”  หนุ่มหน้าหวานมองหน้าหญิงสาว  แล้วเข้ามานั่งเก้าอี้ไม้ฝั่งตรงกันข้ามกับยัยตัวแสบ
 
“ส่งเลขบัญชีของนายให้ฉันด้วย”  ปริมายืนยันอีกครั้งว่า ต้องการโอนเงินคืนเขา  สายตามองในกะละมังตรงหน้า  หยิบหินที่อยู่ในลูกเดือยออกมาใส่ชามที่วางอยู่ใกล้ ๆ
 
“เงินนี้เป็นเงินที่ฉันหามาเอง  ฉันอยากช่วยเธอ รับไว้เถอะนะ” เขาเลื่อนกะละมังถั่วเขียวมาเลือกถั่วหินและสิ่งแปลกปลอมออก
 
“นายให้พ่อของนาย  และเก็บไว้เรียนแล้วเหรอ”  หญิงสาวพยายามใจเย็นพูดกับเขาดี ๆ  ก่อนหน้านี้พี่ชายบอกว่า เขาเพิ่งโดนพ่อด่ามาจากเรื่องนี้  แล้วเธอก็โทรไปโวยวายใส่เขายกใหญ่อีก
 
“ฉันให้เงินพ่อคนแรกเลย  และเก็บไว้เรียนแล้ว  อันนี้คือส่วนที่ไม่ได้ใช้ ฉันอยากช่วยเธอจริง ๆ รับไว้เถอะ”   เขาต้องขอบคุณหญิงสาวด้วยซ้ำไป  เพราะตั้งแต่เริ่มทำตามสัญญา เลิกเที่ยวเตร่กินเหล้าเมายา  ชีวิตของเขาดีขึ้นมากมาย นอกจากค่ากินค่าเรียนแล้วแทบไม่ต้องใช้อีกอะไรเลย  นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการซ่อมคอม  ประกอบคอม ลงโปรแกรมต่าง ๆ  แถมยังมีคนมาชวนเขาไปเดินแบบ  ถ่ายโฆษณา  เล่นละคร  แต่เขาปฏิเสธไปเพราะกลัวไม่มีเวลามาอยู่กับคนที่เขาคิดถึง
 
“คราวหน้านายอย่าทำแบบนี้อีก”  สาวชาวสวนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ  ไม่ได้หันมามองหน้าเขาแม้แต่น้อย
 
“ถ้าฉันเอาเงินมาให้ตรง ๆ ปริมจะรับมั้ยล่ะ ถ้าไม่ทำแบบนี้”  หนุ่มหน้าหวานจ้องหน้าคู่สนทนาที่หลบตาเขาก้มตาก้มตาเลือกถั่วอยู่นั่นแหละ  นี่ขนาดไม่บอกยังไม่ยอมใช้เงินเลย
 
ปริมาเงยหน้าขึ้นมาจ้องหน้าหนุ่มผมยาว  เขาบ้าไปแล้ว เงินตั้งเยอะแยะ ทำไมถึงเอามายกให้เธอง่าย ๆ แบบนี้
 
“ปริมรังเกียจเงินของฉันเหรอ  ไหนบอกว่า เราเป็นเพื่อนกันแล้วไง เพื่อนก็ช่วยเหลือเพื่อนมันผิดตรงไหน” น้ำเสียงนั้นเจือความน้อยใจ แม้ว่าเขาจะไม่ชอบคำว่า เพื่อนที่ต้องใช้กับเธอเอาเสียเลย  แต่ต้องพยายาม  ตอนนี้เขาต้องพยายามเป็นเพื่อนกับเธอให้ได้
 
“เอาเป็นว่า ตอนนี้ฉันยังไม่เจ๊ง  ถ้าฉันจะเจ๊งเมื่อไหร่จะขอยืมเงินนายเป็นคนแรกก็แล้วกัน  นายอย่าลืมเก็บเงินไว้ให้ฉันยืมด้วยล่ะ”
 
หนุ่มหน้าหวานจึงยิ้มออก  สิ่งที่กลัว และกังวลก่อนหน้านี้ผิดคาดไปหมดเลย  เธอรับฟังและมีเหตุผล
 
“ขอบใจนายมากนะ ที่อยากช่วย”  เธอมองรอยยิ้มของชายหนุ่ม ค่อยรู้สึกสบายใจที่เห็นเขายิ้มแล้ว  เพราะรู้สึกแย่ที่กลายเป็นต้นเหตุให้เขาต้องผิดใจกับพ่อ
 
“งวดนี้...ขอโอนเงินคืนนายก่อนนะ ฉันไม่อยากให้นายผิดใจกับพ่อ แล้วฉันก็บอกกับพ่อนายไว้แล้วว่า จะโอนคืน”
 
ปฏิการสบตากับหญิงสาว  มองเห็นความห่วงใยจากสายตาคู่นั้น  ยอมจำนนกับเหตุผลของเธอ
 
“พ่อว่าอะไรปริมหรือเปล่า”  เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าตอนที่ทั้งคู่เจอกันคุยอะไรกันบ้าง
 
คนถูกถามส่ายหน้า
 
“ไม่ได้ว่าอะไรหรอก”  ปริมามองหน้าอีกฝ่ายที่ดูยังไม่อยากจะเชื่อ
 
“จริง ๆ พ่อนายไม่ได้ว่าอะไรเลย”  ปริมาย้ำอีกครั้ง
 
“พ่อพูดอะไรกับเธอบ้าง”  หนุ่มหน้าหวานลุกขึ้นโน้มตัวข้ามโต๊ะมาถามยัยตัวแสบใกล้ ๆ  ดึงกะละมังลูกเดือยในมือของหญิงสาวออกไป
 
คนถูกถามรีบเบนตัวหนีไปติดพนักของเก้าอี้ไม้ เมื่อชายหนุ่มยื่นหน้ามาจ้องตากับเธอใกล้ ๆ เค้นความจริงจากเธอเหลือเกิน  ก่อนจะตอบไปอย่างอ้อมแอ้ม
 
“เขาแค่ถามว่า ฉันให้นายไปช่วยพูดกับเขาเรื่องโอนเงินหรือเปล่า”  เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกสอบสวนยังไงยังงั้น
 
“ฉันไม่เป็นไรหรอก”  เธอสัมผัสความห่วงใยจากสายตาและคำพูดทุกคำของหนุ่มหน้าหวาน
 
“ไม่เป็นไรเลย  โทรมาโวยวายจนฉันหูแทบชา”  หนุ่มผมยาวประชดเบา ๆ ก่อนจะถอยกลับไปนั่งลงอย่างเดิม
 
“ต่อไปนายจะทำอะไร ต้องบอกฉันก่อนนะ  อย่าให้ฉันรู้จากคนอื่นแบบนี้” 
 
“ปริมก็ต้องรับฟังฉันด้วยนะ” สิ่งที่เขากลัวคือการไม่รับฟังแล้วเอาแต่ปฏิเสธของคนหัวดื้ออย่างเธอ
 
“ต่อไป...ฉันจะรับฟังนายให้มากขึ้น แต่นายก็ต้องเคารพการตัดสินใจของฉันด้วยนะ”
 
หนุ่มผมยาวอมยิ้มน้อย ๆ อยู่ในสีหน้าอย่างพอใจ สายตาจ้องมองยัยตัวแสบตลอดเวลา  เขามั่นใจเธอจะเป็นหวานใจที่แสนดีในอนาคต
 
“นายกินลูกเดือยต้มมั้ย”  ปริมาขยับตัวลุกขึ้นเมื่อรู้สึตกเป็นเป้าสายตาของชายหนุ่มนานแล้ว
 
ชายหนุ่มสะดุ้ง! เล็กน้อย
 
“กินสิ!”  เขาแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลยว่าเธอจะชวนเขากินอะไรเป็นครั้งแรก
 
“งั้นนายช่วยเอาลูกเดือยที่เลือกแล้วชั่งให้ครึ่งกิโลนะ”  พูดจบจึงเดินไปหยิบตะกร้าสำหรับล้างถั่วออกมาจากชั้น
 
“ได้ ๆ”  หนุ่มจอมกวนรีบกุลีกุจอเอากะละมังว่างไปชั่งน้ำหนักเพื่อดูว่า กะละมังนั้นหนักเท่าไหร่  ก่อนจะยกกะละมังลูกเดือยที่เลือกแล้วมาเทใส่เพื่อชั่งน้ำหนัก สายตาคอยมองหาว่าเจ้าของบ้านเดินไปไหน  แล้วเทลูกเดือยที่ช่างแล้วใส่กะละมังเดิม  พอหันกลับไปมองกะละมังลูกเดือยอีกครั้ง  เขาโพล่งออกมาด้วยความตกใจร้องเสียงหลงอ้าปากค้าง เบิกตาโตเป็นไข่ห่าน  เมื่อมองเห็นลูกเดือยที่ชั่งแล้วไปอยู่ในกะละมังถั่วเขียว  ให้ตายสิ!  อยากร้องไห้จริง ๆ
 
“เป็นอะไร!”  เจ้าของบ้านรีบเดินกลับมาดู  พอมองเห็นลูกเดือยดันไปอยู่ในกะละมังถั่วเขียว แล้วระเบิดเสียงหัวเราะลั่น
 
“ทำอะไรของนายเนี่ย!”  มองหน้าชายหนุ่มที่ทำหน้าเหยเก ปากยื่น หน้างออย่างหมดอะไรตายอยาก
 
“ขอโทษนะ เดี๋ยวฉันจะเลือกออกให้”  
 
“นายว่างงานเหรอ”  ปริมาอมยิ้ม พลางถอนหายใจ เธอไม่ได้โกรธเขา เพราะก็เคยใส่ผิดเหมือนกัน  คนเรามันผิดพลาดกันได้  ความผิดพลาดนี่เองที่ทำให้เราเข้าใจคนอื่นได้มากขึ้นมากกว่าคนไม่เคยทำอะไรผิดพลาดเลย
 
“นายเอาตาชั่งไปเก็บก่อน วางที่ชั้นตรงโน้นนะ”
 
หนุ่มผมยาวรีบช่วยยกตาช่างขนาดเจ็ดกิโลกรัมไปเก็บตามที่เจ้านายบอก  
 
เสียงดังจากจานของตาชั่งหล่นลงกระแทกพื้น ทำให้ปริมารีบหันไปดูเพื่อนพี่ชาย แทนที่ตาชั่งจะอยู่บนชั้นดันหล่นไปกระแทกฝ่าเท้าของหนุ่มหน้าหวานแทน
 
“ตายแล้ว!”  เจ้าของบ้านรีบเดินมาดูเท้าของหนุ่มหน้าหวาน โชคดีที่มีรองเท้าผ้าใบกันไว้ชั้นหนึ่งแล้ว
 
“มันหลุดมือ”  ปฏิการรีบตามไปเก็บจานของตาชั่งแล้วยกตาชั่งจากพื้นขึ้นมาไว้บนชั้น
 
“เจ็บมากรึเปล่า นายไปนั่งแล้วรีบถอดรองเท้าออก”  เธอมองหน้าเขาที่ดูยังงง ๆ  คงยังไม่เจ็บ ตอนนี้คงจะรู้สึกชาอยู่
 
สาวชาวสวนรีบไปตักน้ำใส่ถังมาวางไว้ใกล้ ๆ  มองดูเท้าของชายหนุ่ม  ตาชั่งคงกระแทกโดนกลางฝ่าเท้าพอดี เส้นเลือดกลางฝาเท้าเริ่มบวมปูดขึ้นมา
 
“เอาเท้าแช่น้ำไว้ก่อน  เดี๋ยวจะไปหาน้ำแข็งมาประคบให้”  น้ำจะช่วยชะลออาการเจ็บปวดและลดการอักเสบ เพราะช่วยให้เส้นเลือดหดตัว ช่วยลดสารที่ทำให้เกิดอาการอักเสบ จึงทำให้อาการปวดบวมจากการอักเสบของกล้ามเนื้อลดลงได้  ในระหว่างที่รอเธอไปหาน้ำแข็ง หายเข้าไปในบ้านแล้วกลับมาพร้อมกับขี้ผึ้งฤทธิ์เย็น และน้ำแข็งขวดน้ำดื่มครึ่งลิตร  ซึ่งจะต้องแช่ขวดน้ำแข็งไว้สองสามขวดเสมอ หากเกิดอุบัติเหตุจะได้นำมาประคบได้ทันที  น้ำแข็งขวดครึ่งลิตรประคบได้นานเป็นชั่วโมงเลย
 
เธอเอาถังน้ำไปเทแล้ววางขวดน้ำแข็งที่ฝ่าเท้าของเขาที่วางอยู่ในถังอย่างเดิม
 
“ปวดมั้ย กินฟ้าทะลายโจรกันไว้ก่อนเลย”  นอกจากฟ้าทะลายโจรจะลดไข้ได้แล้วยังลดอาการอักเสบได้อีกด้วย
 
“ให้ฉันค้างกับปรามได้รึเปล่า  ฉันคงขับรถกลับบ้านไม่ได้แล้ว และเดินไปนอนที่รีสอร์ชไม่ไหว”  เพื่อนพี่ชายขออนุญาตเธอก่อน  มองหญิงสาวที่ดูเป็นห่วงเขาไม่น้อย  ในความเฉยชาเหมือนไม่สนใจใยดี  มีความห่วงใยซ่อนอยู่
 
เจ้าของบ้านพยักหน้ารับ เขาเจ็บขนาดนี้ควรจะพักเท้าไม่ควรเคลื่อนไหวอะไรมาก
 
“นายต้องคอยเอาขวดน้ำแข็งออกด้วยนะ แล้วค่อยประคบใหม่  หลังจากประคบเย็นแล้ว ให้ทาขี้ผึ้งฤทธิ์เย็นไว้หนา ๆ เลยนะ” 
 
“ฉันไปทำกับข้าวก่อนนะ นายอยากกินอะไร”
 
หนุ่มหน้าหวานอึ้งไปชั่วขณะ  แบบนี้เธอกำลังชวนเขาทานข้าวด้วยใช่ไหม  แถมถามว่าอยากกินอะไรอีกต่างหาก แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองเลย
 
“อะ...อะไร...ก็ได้ กิน...กินได้หมด” เขาตอบอย่างตะกุกตะกักยังแทบไม่เชื่อว่า มันคือความจริง
 
ปฏิการหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง  นั่งมองอย่างชั่งใจ เขาควรจะโทรไปบอกพ่อว่าคืนนี้จะไม่ได้กลับบ้าน ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่  แล้วหันไปเลือกลูกเดือยออกจากถั่วเขียว
 
เจ้าของบ้านถือแก้วน้ำเย็นออกมาให้หนุ่มหน้าหวาน  เธอมองชายหนุ่มกำลังนั่งเลือกลูกเดือยออกจากถั่วเขียวด้วยใจจดจ่อ มองเขาค่อย ๆ หยิบออกมาทีละเม็ดสองเม็ดอย่างไม่ยอมแพ้ ไม่ละความพยายาม  เธอไม่คิดว่า หนุ่มหน้าหวานจะมีสมาธิและอยู่นิ่ง ๆ ได้นานขนาดนี้เลย  เวลาเขากำลังตั้งใจทำอะไรเป็นภาพที่น่ามองเหลือเกิน
 
เมื่อหนุ่มผมยาวเลือกลูกเดือยออกมาจากถั่วเขียวได้หมดแล้ว  เขาตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไลน์ไปหาพ่อ ปรามพูดถูก พ่อของเขาไม่เคยรู้จักปริมามาก่อนเลย  ต่อไปนี้เขาจะทำให้พ่อได้รู้จักเธอมากขึ้น เขากดไอคอนไลน์ที่เป็นรูปของบิดาขึ้นมา  แล้วกดคีย์บอร์ด กดเปิดไมล์เพื่อเตรียมพูดลงไปให้มันพิมพ์เป็นตัวอักษรให้
 
“พ่อครับ...คืนนี้ ผมไม่ได้กลับบ้านนะครับ  ผมเกิดอุบัติเหตุยกตาชั่งแล้วมันหลุดมือหล่นใส่เท้า เลยกลับไม่ไหว พรุ่งนี้ถึงจะกลับครับ จะค้างที่บ้านเพื่อน  วันนี้ผมมาหาปริมา  เธอยืนยันว่า ต้องการโอนเงินคืน  ผมพยายามอยากให้เธอรับไว้  แต่เธอก็ไม่ยอมรับ  บอกว่า ยังพอมีใช้อยู่  ปริมาพึ่งตัวเอง หาเงินใช้เองได้ตั้งแต่เด็กแล้ว  เธอไม่ใช่คนที่จะรับความช่วยเหลือจากใครง่าย ๆ เธอชอบหาเงินด้วยตัวเองมากกว่าที่จะอยากได้รับจากคนอื่น”  เขาหยุดพูดเพื่อให้ไมล์หยุดพิมพ์และเว้นวรรค  แล้วตรวจดูว่ามันพิมพ์ถูกต้องหรือไม่  ข้อความนั้นพิมพ์ถูกเกือบทั้งหมด พิมพ์ถูกมากกว่าเขาพิมพ์เองเสียอีก  มีแก้ไขเล็กน้อยเท่านั้น  เขาเปิดไมล์ขึ้นมาอีกครั้งแล้วพูดต่อไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่