ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 4
สวัสดีค่ะคุณแม่ริชชี่ ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจอย่างที่สุดนะคะ อ่านเรื่องของน้องแล้วร้องไห้ตามคุณแม่เลยค่ะ
บีเข้าใจความรู้สึกอย่างมากมายนะคะ ชม.นี้ ใครจะมาปลอบใจก็มีแต่น้ำตา ด้วยอยู่ด้วยกันมาถึง 14 ปีเต็ม ผูกพันกันขนาดไหน บีเข้าใจมากค่ะ
เวลาผ่านมา 1 อาทิตย์ที่น้องริชชี่จากไป คุณแม่ดีขึ้นบ้างแล้วนะคะ
น้องริชชี่อายุยืนมากเลย 14 ปีที่ผ่านมา น้องมาให้ความรักจนวาระสุดท้ายแล้วค่ะ
ก่อนอื่น...อยากจะบอกคุณแม่น้องริชชี่ว่า อย่าโทษตัวเองค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่าง เบื้องบนกำหนดมาแล้วจริงๆ
เมื่อเกิดเหตุการณ์ตามที่เล่ามา เราต้องทำใจยอมรับค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่าง ข้างบนกำหนดมาค่ะ คิดแบบนี้แล้วเราจะดีขึ้น
บีเองก็รู้สึกเช่นคุณแม่ริชชี่นะคะ ในกรณ๊น้องหมาของตัวเอง ที่จากไป....เราโทษตัวเอง เราคิดว่า ทำไม??? มีคำถามและโทษตัวเองมากมาย
แต่...เราต้องทำใจค่ะ เพราะไม่งั้นเราจะอยู่ไม่ได้ และเราต้องดูแลเด็กๆ ตัวอื่นต่อไปค่ะ พวกเค้าจะเศร้าไปด้วย เค้ารับรู้ได้ค่ะ
น้องหมาตัวแรกที่รักที่สุดที่จากไป อยู่กันมา 16 ปีเต็ม ผ่านมา 12 ปีแล้ว บียังมีน้ำตาเสมอค่ะ เมื่อคุยถึงเค้า รีวิวสุดท้ายของเค้าค่ะ
http://topicstock.ppantip.com/jatujak/topicstock/2009/10/J8421869/J8421869.html
บีเองก็คิดค่ะว่า พาเค้าไปตาย มันเหมือนตราบาป แต่เมื่อเราเข้าวัด สวดมนต์ จึงเข้าใจว่า ทุกสิ่ง ทุกอย่าง เค้ากำหนดมาหมดแล้ว
มีพบ มีจาก เรากำหนดเองไม่ได้ค่ะ พยายามทำใจยอมรับมันให้ได้ มันไม่ง่าย แต่เวลาจะช่วยเยียวยารักษาแผลใจได้ค่ะ
อย่าโทษตัวเองเลยนะคะ คิดซะว่าเป็นประสบการณ์แย่ๆ ที่เราจะนำไปเป็นบทเรียน ที่เราจะไม่กลับไปอีก ประสบการณ์ช่วยสอนเราได้เยอะค่ะ
คุณแม่ริชชี่เข้มแข็งเข้าไว้นะคะ ชม.นี้อยากร้องไห้ก็ร้องให้ที่สุดไปเลยค่ะ จากนั้นแนะนำให้ลุกขึ้น และหมั่นไปทำบุญให้น้อง คิดถึงมาก ก็ทำบุญ
ส่งให้น้องทุกวันเลยค่ะ เราเชื่อว่าบุญที่เราทำ จะส่งถึงน้อง น้องจะได้ไปสู้ภพภูมิที่ดีแน่นอนค่ะ และจะช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นๆๆๆ เป็นลำดับค่ะ
แล้วบีเองเชื่อว่า น้องหมาที่เราเลี้ยงดูเค้าอย่างดี เมื่อถึงเวลาที่เค้าจากไปแล้ว เค้าจะไปเกิดเป็นคน หรือไม่ก็เทวดาเลยค่ะ
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้กล่าวไว้ว่า... สุนัขหรือแมวที่มีคนเลี้ยง ไม่ว่าเจ้าของจะยากดีมีจน ให้กินข้าวเหลือ หรือ กินอาหารดีๆ ขอให้มีคนเลี้ยง นั่นหมายถึงเขาใช้กรรมครบ 500 ชาติแล้ว ทานบารมีเขาให้ผลแล้ว เขากำลังใช้เศษกรรมในภพเดรัจฉานชาติสุดท้ายอยู่ ภพต่อไปของเขาคือ“มนุษย์” และ “เทวดา”
มาส่งกำลังใจให้คุณแม่ริชชี่เข้มแข็งไวไวค่ะ
บีเข้าใจความรู้สึกอย่างมากมายนะคะ ชม.นี้ ใครจะมาปลอบใจก็มีแต่น้ำตา ด้วยอยู่ด้วยกันมาถึง 14 ปีเต็ม ผูกพันกันขนาดไหน บีเข้าใจมากค่ะ
เวลาผ่านมา 1 อาทิตย์ที่น้องริชชี่จากไป คุณแม่ดีขึ้นบ้างแล้วนะคะ
น้องริชชี่อายุยืนมากเลย 14 ปีที่ผ่านมา น้องมาให้ความรักจนวาระสุดท้ายแล้วค่ะ
ก่อนอื่น...อยากจะบอกคุณแม่น้องริชชี่ว่า อย่าโทษตัวเองค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่าง เบื้องบนกำหนดมาแล้วจริงๆ
เมื่อเกิดเหตุการณ์ตามที่เล่ามา เราต้องทำใจยอมรับค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่าง ข้างบนกำหนดมาค่ะ คิดแบบนี้แล้วเราจะดีขึ้น
บีเองก็รู้สึกเช่นคุณแม่ริชชี่นะคะ ในกรณ๊น้องหมาของตัวเอง ที่จากไป....เราโทษตัวเอง เราคิดว่า ทำไม??? มีคำถามและโทษตัวเองมากมาย
แต่...เราต้องทำใจค่ะ เพราะไม่งั้นเราจะอยู่ไม่ได้ และเราต้องดูแลเด็กๆ ตัวอื่นต่อไปค่ะ พวกเค้าจะเศร้าไปด้วย เค้ารับรู้ได้ค่ะ
น้องหมาตัวแรกที่รักที่สุดที่จากไป อยู่กันมา 16 ปีเต็ม ผ่านมา 12 ปีแล้ว บียังมีน้ำตาเสมอค่ะ เมื่อคุยถึงเค้า รีวิวสุดท้ายของเค้าค่ะ
http://topicstock.ppantip.com/jatujak/topicstock/2009/10/J8421869/J8421869.html
บีเองก็คิดค่ะว่า พาเค้าไปตาย มันเหมือนตราบาป แต่เมื่อเราเข้าวัด สวดมนต์ จึงเข้าใจว่า ทุกสิ่ง ทุกอย่าง เค้ากำหนดมาหมดแล้ว
มีพบ มีจาก เรากำหนดเองไม่ได้ค่ะ พยายามทำใจยอมรับมันให้ได้ มันไม่ง่าย แต่เวลาจะช่วยเยียวยารักษาแผลใจได้ค่ะ
อย่าโทษตัวเองเลยนะคะ คิดซะว่าเป็นประสบการณ์แย่ๆ ที่เราจะนำไปเป็นบทเรียน ที่เราจะไม่กลับไปอีก ประสบการณ์ช่วยสอนเราได้เยอะค่ะ
คุณแม่ริชชี่เข้มแข็งเข้าไว้นะคะ ชม.นี้อยากร้องไห้ก็ร้องให้ที่สุดไปเลยค่ะ จากนั้นแนะนำให้ลุกขึ้น และหมั่นไปทำบุญให้น้อง คิดถึงมาก ก็ทำบุญ
ส่งให้น้องทุกวันเลยค่ะ เราเชื่อว่าบุญที่เราทำ จะส่งถึงน้อง น้องจะได้ไปสู้ภพภูมิที่ดีแน่นอนค่ะ และจะช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นๆๆๆ เป็นลำดับค่ะ
แล้วบีเองเชื่อว่า น้องหมาที่เราเลี้ยงดูเค้าอย่างดี เมื่อถึงเวลาที่เค้าจากไปแล้ว เค้าจะไปเกิดเป็นคน หรือไม่ก็เทวดาเลยค่ะ
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้กล่าวไว้ว่า... สุนัขหรือแมวที่มีคนเลี้ยง ไม่ว่าเจ้าของจะยากดีมีจน ให้กินข้าวเหลือ หรือ กินอาหารดีๆ ขอให้มีคนเลี้ยง นั่นหมายถึงเขาใช้กรรมครบ 500 ชาติแล้ว ทานบารมีเขาให้ผลแล้ว เขากำลังใช้เศษกรรมในภพเดรัจฉานชาติสุดท้ายอยู่ ภพต่อไปของเขาคือ“มนุษย์” และ “เทวดา”
มาส่งกำลังใจให้คุณแม่ริชชี่เข้มแข็งไวไวค่ะ
แสดงความคิดเห็น
น้องหมารักทีสุดเสียชีวิต รู้สึกเสียใจที่มีส่วนทำงัยจะหลุดพ้น+ คาใจการรักษาของหมอ อุปกรณ์ และฉุกเฉิน รพส.เกษตรแพงมาก
เลี้ยงตั้งแต่ 2 เดือน(ซื้อจากฟาร์มมีชื่อ) เลี้ยงอย่างดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้
เป็นระบบปิด กินอยู่นอน ในบ้านกับเรา ไม่ให้เหยียบดินแม้แต่น้อย (กลัวเห็บ)
ขลุกด้วยกัน ไม่ค่อยเจอใคร เพราะนางจะวีนนิดนึง เอาแต่แม่ ไม่เอาใคร รักแต่แม่
ตอนนี้ริชชี่เสียแล้ววันเสาร์ที่ 29 มกราคม 2565 เวลา 16.00 น.
เผาวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2565 เวลา 9.00 น.
แต่เรายังรู้สึกผิดอยู่เลยที่มีส่วนทำให้ริชชี่ตาย
ริชชี่เป็นลูกแชมป์ที่ ขาหน้าไม่ค่อยแข็งแรงนิดนึง แต่ยืนเดินได้
นางจะหอบๆ เวลาตกใจ หายใจไม่ค่อยทัน
ลำไส้นางจะไม่ค่อยดี กินผิดนิดนึงจะท้องเสียง่ายมาก
เราเลยระวังเรื่องอาหารของนางมาก
ปกติเราจะมีคลีนิคประจำ ที่ฉีดวัคซีน ผ่าคลอด ( ริชชี่เคยท้อง 1 ครั้ง ) และ ถอนฟันเกือบหมดปากมาแล้ว
น้องหมาที่บ้านมี 3 ตัว รักษาที่คลีนิคประจำนี้ทุกครั้ง แต่
ตอนริชชี่ อายุ 12 ปี น้องเคยเป็นมะเร็งเต้านม คิดว่าคลีนิคที่รักษาประจำ ไม่สามารถผ่าตัดได้
จึง เข้าผ่าตัดที่ รพส.เกษตร เริ่มจากตรวจเลือดรู้ผลวันนั้นว่าน่าจะมีไรไม่ปกติ (แต่เป็นมะเร็งชัวร์มั๊ย
ต้องเอาเนื้อไปตรวจอีกที) เราตัดสินใจผ่าตัดมะเร็งเต้านมริชชี่ ด้วยวัย 12 ปี อย่างไม่รีรอ
ในขณะที่กลับบ้านร้องไห้ตาบวม กลัวนางเป็นอะไร บนบาน สวดมนต์
นัดผ่าตัดวันรุ่งขึ้น ผ่าตัดนมทั้งหมดออก เหลือ 2 เต้าสุดท้าย และ ทำหมัน เลย
ผ่าตัดเป็นไปด้วยดี รออย่างกระวนกระวายใจ
ต้องค้าง 2 คืน ไปเยี่ยมทุกวัน
ริชชี่กินเก่ง นางอึด ผ่านมาได้ด้วยดี ด้วยวัย 12 ปี
หมดค่ารักษา 12700+7000 รวม 20,000 บาท ได้
เราอยู่กันอย่างเป็นสุข ขลุกอยู่ด้วยกัน พาทำบุญ
ริชชี่มีลูก 3 ตัว ขายไป 2 ตัว เก็บ 1 ตัว ชื่อ เชลซี
ริชชี่ กับ เชลซีจะตัวติดกัน (เชลซีติดแม่)
และแล้วจุดเริ่มต้น ของการสูญเสีย
ริชชี่อายุจะเข้า 14 ปี
เริ่มไม่ค่อยกินข้าว หมดแรง คอพับ นอนซม
เราขับรถจาก สุวรรณภูมิ ไป รพส. เกษตร รอตั้งแต่เที่ยง ได้ตรวจเสร็จ 2 ทุ่ม คือ งอมทั้งคนทั้งหมา (วันนั้นไป 3 คน เราแฟนริชชี่)
ตรวจเลือด เอ็กซ์แรย์ อัลตราซาวน์
หมอA ซึ่งต่อมาคือหมอประจำ ตรวจ บอกว่า อาจจะเป็นอาการทางสมองขั้นรุนแรง(อัลไซเมอร์) คงคอพับแบบนี้
และเดินไม่ได้ ตับไม่ดี ตะกรอนน้ำดีข้น กรดเต็มท้อง ให้ยามาเยอะมาก เป็นยาน้ำหมด มียาเม็ด แค่ อย่างเดียว
กลับไป เราดูแลอย่างดี ให้กินยากระตุ้นการอยากอาหาร หาอาหารล่อ ทั้งน้ำเต้าหู้ น้ำส้ม ยา ให้มีกำลังให้ได้
จนดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ มีกำลังขา เพราะเรานวด ทำกายภาพ คอตั้งได้ มองแต่หน้าแม่ หาแต่แม่
ริชชี่เป็นอัลไซเมอร์ปีนี้ หูไม่ได้ยิน ตามองไม่ค่อยเห็น แต่มองหาแต่แม่ ดิ้นหาแต่แม่ อยากให้แม่กอด
หมอA นัดเรื่อยๆ อาทิตย์ละครั้ง บอกจะปรับค่าตับ เดี๋ยวลง เดี๋ยวขึ้น
จะให้นัดอีกแผนกให้ได้ ตรวจสมอง ว่ามีเนื่องอกมั๊ย เราบอกไม่เป็นไร น้องแก่แล้ว รู้ไปเท่านั้น ริชชี่ดีแล้ว รู้เรื่อง คอตั้งได้
เดินได้ ปกติแล้ว แค่ค่าตับเท่านั้น ที่สูง หมอเลย จำยอมรักษาแค่ตับ
ซึ่งจิงๆไม่เกี่ยวกับสมองเลย น้องขาดน้ำตาล
ขาดอาหารเลยคอพับ และขาหน้าเดินไม่ค่อยได้
เพรานางเป็นมาแต่เด็ก พอทุกอย่างดีขึ้น
ยกเว้นแค่ตับ หมอเลย งง
ไปมาอยู่ เดือนกว่า ประมาณ 8 ครั้งได้ ครั้งละ 1000 บาท
ตื่นตี4 เพื่อไปให้ทันบัตรคิว กระเตงกันไป 2 คนแม่ลูก คนเยอะถ้าไปเกิน 6.30 น.
พ้นมกราคม ปี 2565 ดีใจมาก ที่ริชชี่จะ happy new year ด้วยกัน
ไปทุกครั้งเจาะเลือดที่ขามั่ง คอมั่ง ระบม ค่าตับเคยลดเหลือ 150 เม็ดเลือดขาวลด
คอยหาอาหารไม่มีไขมันให้ริชชี่กิน หมอคอยถามว่ากินไร เราถามว่ากินน้ำเต้าหู้ได้มั๊ย เราให้กินอยู่ จะได้มีแรง
หมอA บอกกินได้ แต่ตอนหลัง ห้องยามาบอกว่า อย่ากินคู่กับยาบำรุงตับนะ
นี่อาจทำให้ค่าตับตอนหลังสูงขึ้นทั้งที่ลดแล้ว
จนครั้งสุดท้าย
หมอA บอกว่า ริชชี่มีเลือดที่คล้ายจะมี พยาธิเม็ดเลือด ต้องกินยาฆ่า ซึ่งค่าตับล่าสุดเพิ่มมา 800 อาจเพิ่มอีกเยอะ
หรือ จะตรวจเลือดอีกครั้ง รอผล บ่าย3 เรามองว่า ริชชี่งอมมาก มาตั้งแต่ 6.30 น. และ เลือดจะไม่มีจะออกแล้ว น้องหนัก 1.2 เอง
หมอก้อมีทางออกคือ กินยาเลย เราเลยตกลง กินยาเลย แต่ต้องหั่น เป็น 8 ส่วน (หมอให้ห้องยาบอกเรา)
กลับบ้าน ริชชี่คอพับไปเลยอีกแล้ว เหมือนไม่มีแรง เม็ดเลือดขาวนางสูง กินยาฆ่าเชื้อจากหมอA อยู่ เราให้สลิงน้ำผึ้งผสมน้ำ ริชชี่ดีขึ้น
เช้ามาชูคอได้
เรากอดริชชี่ตลอดทุกคืน คอยพูดคอยคุย หาอาหารไขมันต่ำให้กิน คิดๆ ให้นางอยากกิน อุ้มเดินย่อย ไล่ลม ให้นางถีบจักรยานกลางอากาศ
ฝึกกายภาพบำบัด นวดแขน นวดขา อย่างดี
**
ดึกแล้ว พรุ่งนี้จะมาเล่าต่อนะว่าเป็นงัยบ้าง
เราร้องไห้ตลอดเวลา เป็นวันที่ 6 แล้ว