ต่อจากความเดิมก่อนหน้านี้
https://ppantip.com/topic/41103072
และ
https://ppantip.com/topic/41216655
รอบนี้นำเสนอบ้านหลังจากที่ให้ทางธนาคารมาตรวจเพื่อขอเบิกงวดสุดท้าย
แต่หลังจากนั้นก็ยังมีการแก้ไขเล็กๆน้อยๆ เช่น พวกก๊อกน้ำที่ติดตั้งไม่ดี ฯลฯ อยู่
เลยยังไม่ได้ย้ายเฟอร์นิเจอร์ต่างๆเข้าบ้าน ทำให้บ้านยังดูโล่งๆอยู่
เริ่มจากทางเข้าบ้าน
เราทำ 玄関 เก็นคัง (Genkan) คือ บริเวณทางเข้าบ้าน เมื่อเราเดินเข้ามาในบ้าน
เป็นพื้นที่สำหรับเก็บรองเท้า (ยังไม่ได้เอาชั้นวางรองเท้ามาวาง)
ตรงจุดนี้เนื่องจากเราบอกผรม.ช้าไป ทำให้พื้นต่างระดับน้อยกว่าระดับที่ควรจะเป็น (น่าจะได้มาแค่ 5 ซ.ม.)
จริงๆควรจะสูงอย่างน้อย 15 ซ.ม.
ดูอีกมุม ด้านซ้ายเป็นประตูสไลด์เข้าห้องคุณยาย
คนแก่ปีนชั้น 2 ไม่ไหว อนาคตคือห้องเจ้าของบ้านตอนแก่ 55555+
ในส่วน Living Room เราทำเป็นพื้นต่างระดับ
ส่วนแท่นที่ทำขึ้นมา เพื่อสำหรับวางเบาะ(ยังหาร้านทำไม่ได้เลย)
เนื่องจากประสบการณ์ เห็นโซฟาหัก จากน้ำหนักตัวกว่า 100 กิโลของน้องชาย
จริงๆไม่ได้ตั้งใจจะปูกระเบื้อง SPC หรือติดบัว บนแท่นเลย แต่แม่ชอบ แม่บอกสวย ก็จัดไป !!!
ส่วนตัวติดว่าผนังสูงเกินไป ไม่ได้ตั้งใจจะให้สูงขนาดนี้ เพราะกลายเป็นพิงหลังไม่ได้
พลาดอีกแล้วเรา T^T
น้องชายเพิ่มดีเทลในการวางปลั๊กเอาไว้ จะได้ชาร์ตแบตมือถือได้ ไม่ต้องลากสายปลั๊กพวงระโยงระยาง
ห้องครัวยามค่ำคืน ตรงนี้เราขัดใจที่น้องชายเราเป็นคนบอกให้ช่างติดโคมไฟห่างเกินไป
ขาไม้ค้ำเป็นขาไม้ชั่วคราว พี่เราปรับแบบให้มันเป็นโต๊ะ พับได้ เพราะเวลาที่ไม่ได้ใช้ ห้องครัวจะได้กว้างๆ ว่าซั่น....
(แล้วฉันเลือกอะไรได้มั๊ย ???)
พับแล้วจะเป็นแบบนี้ ปรบมือให้ช่างไม้ ทำให้เป็นไปตามจินตนาการของพี่ชายได้
จุดนี้แม่ไม่พอใจเคาเตอร์ แม่บอกมันเล็กกกก ไม่สมกับตัวบ้าน แม่อยากได้ตัว L
แต่เจอหน้าต่างกลมขนาดเส้นผ้าศูนย์กลาง 140 ซ.ม. ความฝันเคาเตอร์ตัวLของแม่ก็ไม่ได้ไปต่อ
ส่วนตัวเรามองว่าหน้าต่างมันเตี้ยเกินไป เนื่องจากคอนเสปความสูงเคาเตอร์มีการปรับเปลี่ยนภายหลัง
ทำให้ช่องว่างสำหรับหน้าต่างประตูที่ก่อไว้ก่อนแล้วไม่สามารถปรับให้สูงขึ้นได้ เฮ้ออออ....
พื้นที่ข้างๆเหลือไว้วางตู้เย็น
วงกบวงกลมและบานเคาเตอร์ จริงๆ โต๊ะตรงกลางมีชั้นไม้สัก (มองมุมนี้ไม่เห็น) เป็นขนาดสั่งทำ เพราะดันไปก่อปูนเอาไว้ก่อน
บานเคาเตอร์ก็เป็นขนาดสั่งทำเช่นกัน เพราะไปก่อเคาเตอร์ปูเอาไว้ก่อน (อย่าหาทำ) เคลือบสีโอ๊คค่ะ ไม้สัก จากแพร่
ต่อไปเป็นบันไดดดขึ้นชั้น 2
น้องติดบัวแล้ว จริงๆเราแอบชอบแบบไม่ติดบัวมากกว่า แต่ไม่ติดก็ได้ไม่ได้ เนื่องจากไม้ลูกนอนเป็นไม้แอช ที่แอบหด
ทำให้ตรงขอบทั้งสองข้างมีช่องว่าง ต้องหาบัวมาปิดบังเอาไว้
เหนือสิ่งอื่นใด คือการติดบัวขนานกับบันไดขั้นแรก ที่แม่เราบอกว่าติดแล้วสวย (สวยของแม่ ไม่ได้แปลว่าสวยของเรา 5555+)
ภาพที่ถ่ายตอนกลางวัน สีไม้จะสีเข้มมากเลย จริงๆ ไม้ไม่ได้สีเข้มขนาดนี้ เพราะเราไม่ได้ใช้สีย้อมไม้
เป็นการเคลือบด้านเฉยๆ เราชอบตรงที่เห็นรอยตาไม้ชัดๆ
ถ้าถ่ายตอนกลางคืนจะเห็นเป็นอีกสีนึง(ตอนยังไม่ได้ติดบัว)
ไฟเปิดไฟสีวอร์มไวท์ ผนังภายในทั้งหมดเป็นสี TOA 8444 ค่ะ น้องจะไม่ขาวมาก อมครีมนิดหน่อย
ระเบียงกันตกเป็นกระจกสามารถมองลงไปที่ชั้น1 จะตรงกับทางเข้าบ้านพอดี
ตรงนี้จะหาไม้มาท๊อปครอบบนกระจกด้านบนอีก เพราะว่ามันดูไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าไหร่
ประตูบานเลื่อนเป็นอะไรที่ทำให้งบบานมากที่สุด
ตอนแรกเราจะทำเป็นอลูมิเนียมสีดำ (ช่างตีราคามา 5,000 ขนาด สูง200 กว้าง 80) แต่ก็กลัวจะไม่เข้ากับบ้าน
รวมถึงคิดว่า ถ้าเป็นไม้ราคาก็คงไม่ต่างกันมาก แต่ก็กลัวเรื่องความชื้น สุดท้าย เราก็เลือกเป็นไม้สน บานละ 2900 บาท
แล้วให้ช่างไม้ทาเคลือบด้านเอง
โครงบ้านเลื่อนซื้อเป็นชุด จะมีรางเลื่อนและกรอบไม้จริงราคา 1,790 บาท ไม่รวมค่าส่ง
ตัวล็อกหายากมาก แถวบ้านมีให้เลือกน้อย ราคาเจ็บตัวพอสมควร 1,200 บาท รวมๆแล้ว ราคาแพงกว่าประตูอลูมิเนียม
ส่วนปัญหาเรื่องความชื้นคงต้องรอดูกันต่อไป
ห้องนอนเจ้าของบ้านทำแบบมีชั้นลอย บันไดจะชันนิดนึงค่ะ ไม้ลูกนอนไม้แอช หนา 3 นิ้ว เลยไม่โก่งไม่หด
ต่างกับลูกนอนบันไดขึ้นบ้าน
อันนั้นเรามองว่าเอามาวางบนปูนเลยใช้ความหนาแค่ 2 นิ้ว น้องก็เลยโก่งนิดๆค่ะ
ห้องนอนอื่นๆ ห้องพระก็เหมือนบ้านจัดสรรทั่วไปค่ะ เราเลยขอข้าม
ที่จะเป็นประเด็นที่สุดก็คงจะเป็นดาดฟ้า ที่บางคนเลี่ยงที่จะไม่ทำ เพราะกลัวเจอปัญหาต่างๆที่จะตามมาในภายหลัง
ส่วนตัวรู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลองค่ะ 5555+
ดาดฟ้าตอนเทปูนเป็นแบบออนบีม (คืออะไรเราก็ไม่รู้ เห็นผรม.เรียกแบบนี้)
เราติดว่าเราจะตู้คอมเพสเซอร์มาวางชิดกำแพงตรงนี้ น้องจะได้ร่มเงาจากกระเบื้อง (กระเบื้องเราสีน้ำตาลเข้มค่ะ)
ดาดฟ้าใช้ปูนผสมน้ำยากันซึม และ ใช้สีสำหรับทาพื้นดาดฟ้าโดยเฉพาะ (TOA รูฟซีล) ส่วน สีฟ้า ผรม.เลือกให้ค่ะ
ผนังช่องลมน้องชายเป็นคนออกแบบ (หาเรื่องลำบากให้ช่างจริงๆ 5555+)
คิดว่าอาจจะมีภาค 4 หลังจากมีการตกแต่งให้ลงตัวเรียบร้อยแล้ว
ไม่รู้จะมินิมอลหรือมินิมาร์ท
ตัวเราเองก็ยังไม่มีโอกาสได้เห็นบ้านตอนเสร็จแล้วค่ะ ทั้งหมดเป็นรูปที่พี่ชาย , แม่ , ช่าง ส่งมาให้ดู
เดือนนี้มีโอกาสจะกลับไปดูด้วยตาของตัวเองแล้ว เย้ๆ (จองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อย!!!)
สุดท้ายของภาคนี้ขอบคุณคอมเม้นที่ติดตามกันตั้งแต่ภาค 1 และ ภาค 2
ขอเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังสร้างบ้านทุกคนนะคะ!!!
[CR] รีวิวสร้างบ้านหลังแรกในวัย34แบบฉบับตามใจทุกคนในบ้าน...มีดาดฟ้าไว้นอนดูดาว(ภาค3)
และ https://ppantip.com/topic/41216655
รอบนี้นำเสนอบ้านหลังจากที่ให้ทางธนาคารมาตรวจเพื่อขอเบิกงวดสุดท้าย
แต่หลังจากนั้นก็ยังมีการแก้ไขเล็กๆน้อยๆ เช่น พวกก๊อกน้ำที่ติดตั้งไม่ดี ฯลฯ อยู่
เลยยังไม่ได้ย้ายเฟอร์นิเจอร์ต่างๆเข้าบ้าน ทำให้บ้านยังดูโล่งๆอยู่
เริ่มจากทางเข้าบ้าน
เราทำ 玄関 เก็นคัง (Genkan) คือ บริเวณทางเข้าบ้าน เมื่อเราเดินเข้ามาในบ้าน
เป็นพื้นที่สำหรับเก็บรองเท้า (ยังไม่ได้เอาชั้นวางรองเท้ามาวาง)
ตรงจุดนี้เนื่องจากเราบอกผรม.ช้าไป ทำให้พื้นต่างระดับน้อยกว่าระดับที่ควรจะเป็น (น่าจะได้มาแค่ 5 ซ.ม.)
จริงๆควรจะสูงอย่างน้อย 15 ซ.ม.
ดูอีกมุม ด้านซ้ายเป็นประตูสไลด์เข้าห้องคุณยาย
คนแก่ปีนชั้น 2 ไม่ไหว อนาคตคือห้องเจ้าของบ้านตอนแก่ 55555+
ในส่วน Living Room เราทำเป็นพื้นต่างระดับ
ส่วนแท่นที่ทำขึ้นมา เพื่อสำหรับวางเบาะ(ยังหาร้านทำไม่ได้เลย)
เนื่องจากประสบการณ์ เห็นโซฟาหัก จากน้ำหนักตัวกว่า 100 กิโลของน้องชาย
จริงๆไม่ได้ตั้งใจจะปูกระเบื้อง SPC หรือติดบัว บนแท่นเลย แต่แม่ชอบ แม่บอกสวย ก็จัดไป !!!
ส่วนตัวติดว่าผนังสูงเกินไป ไม่ได้ตั้งใจจะให้สูงขนาดนี้ เพราะกลายเป็นพิงหลังไม่ได้
พลาดอีกแล้วเรา T^T
น้องชายเพิ่มดีเทลในการวางปลั๊กเอาไว้ จะได้ชาร์ตแบตมือถือได้ ไม่ต้องลากสายปลั๊กพวงระโยงระยาง
ห้องครัวยามค่ำคืน ตรงนี้เราขัดใจที่น้องชายเราเป็นคนบอกให้ช่างติดโคมไฟห่างเกินไป
ขาไม้ค้ำเป็นขาไม้ชั่วคราว พี่เราปรับแบบให้มันเป็นโต๊ะ พับได้ เพราะเวลาที่ไม่ได้ใช้ ห้องครัวจะได้กว้างๆ ว่าซั่น....
(แล้วฉันเลือกอะไรได้มั๊ย ???)
พับแล้วจะเป็นแบบนี้ ปรบมือให้ช่างไม้ ทำให้เป็นไปตามจินตนาการของพี่ชายได้
จุดนี้แม่ไม่พอใจเคาเตอร์ แม่บอกมันเล็กกกก ไม่สมกับตัวบ้าน แม่อยากได้ตัว L
แต่เจอหน้าต่างกลมขนาดเส้นผ้าศูนย์กลาง 140 ซ.ม. ความฝันเคาเตอร์ตัวLของแม่ก็ไม่ได้ไปต่อ
ส่วนตัวเรามองว่าหน้าต่างมันเตี้ยเกินไป เนื่องจากคอนเสปความสูงเคาเตอร์มีการปรับเปลี่ยนภายหลัง
ทำให้ช่องว่างสำหรับหน้าต่างประตูที่ก่อไว้ก่อนแล้วไม่สามารถปรับให้สูงขึ้นได้ เฮ้ออออ....
พื้นที่ข้างๆเหลือไว้วางตู้เย็น
วงกบวงกลมและบานเคาเตอร์ จริงๆ โต๊ะตรงกลางมีชั้นไม้สัก (มองมุมนี้ไม่เห็น) เป็นขนาดสั่งทำ เพราะดันไปก่อปูนเอาไว้ก่อน
บานเคาเตอร์ก็เป็นขนาดสั่งทำเช่นกัน เพราะไปก่อเคาเตอร์ปูเอาไว้ก่อน (อย่าหาทำ) เคลือบสีโอ๊คค่ะ ไม้สัก จากแพร่
ต่อไปเป็นบันไดดดขึ้นชั้น 2
น้องติดบัวแล้ว จริงๆเราแอบชอบแบบไม่ติดบัวมากกว่า แต่ไม่ติดก็ได้ไม่ได้ เนื่องจากไม้ลูกนอนเป็นไม้แอช ที่แอบหด
ทำให้ตรงขอบทั้งสองข้างมีช่องว่าง ต้องหาบัวมาปิดบังเอาไว้
เหนือสิ่งอื่นใด คือการติดบัวขนานกับบันไดขั้นแรก ที่แม่เราบอกว่าติดแล้วสวย (สวยของแม่ ไม่ได้แปลว่าสวยของเรา 5555+)
ภาพที่ถ่ายตอนกลางวัน สีไม้จะสีเข้มมากเลย จริงๆ ไม้ไม่ได้สีเข้มขนาดนี้ เพราะเราไม่ได้ใช้สีย้อมไม้
เป็นการเคลือบด้านเฉยๆ เราชอบตรงที่เห็นรอยตาไม้ชัดๆ
ถ้าถ่ายตอนกลางคืนจะเห็นเป็นอีกสีนึง(ตอนยังไม่ได้ติดบัว)
ไฟเปิดไฟสีวอร์มไวท์ ผนังภายในทั้งหมดเป็นสี TOA 8444 ค่ะ น้องจะไม่ขาวมาก อมครีมนิดหน่อย
ระเบียงกันตกเป็นกระจกสามารถมองลงไปที่ชั้น1 จะตรงกับทางเข้าบ้านพอดี
ตรงนี้จะหาไม้มาท๊อปครอบบนกระจกด้านบนอีก เพราะว่ามันดูไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าไหร่
ประตูบานเลื่อนเป็นอะไรที่ทำให้งบบานมากที่สุด
ตอนแรกเราจะทำเป็นอลูมิเนียมสีดำ (ช่างตีราคามา 5,000 ขนาด สูง200 กว้าง 80) แต่ก็กลัวจะไม่เข้ากับบ้าน
รวมถึงคิดว่า ถ้าเป็นไม้ราคาก็คงไม่ต่างกันมาก แต่ก็กลัวเรื่องความชื้น สุดท้าย เราก็เลือกเป็นไม้สน บานละ 2900 บาท
แล้วให้ช่างไม้ทาเคลือบด้านเอง
โครงบ้านเลื่อนซื้อเป็นชุด จะมีรางเลื่อนและกรอบไม้จริงราคา 1,790 บาท ไม่รวมค่าส่ง
ตัวล็อกหายากมาก แถวบ้านมีให้เลือกน้อย ราคาเจ็บตัวพอสมควร 1,200 บาท รวมๆแล้ว ราคาแพงกว่าประตูอลูมิเนียม
ส่วนปัญหาเรื่องความชื้นคงต้องรอดูกันต่อไป
ห้องนอนเจ้าของบ้านทำแบบมีชั้นลอย บันไดจะชันนิดนึงค่ะ ไม้ลูกนอนไม้แอช หนา 3 นิ้ว เลยไม่โก่งไม่หด
ต่างกับลูกนอนบันไดขึ้นบ้าน
อันนั้นเรามองว่าเอามาวางบนปูนเลยใช้ความหนาแค่ 2 นิ้ว น้องก็เลยโก่งนิดๆค่ะ
ห้องนอนอื่นๆ ห้องพระก็เหมือนบ้านจัดสรรทั่วไปค่ะ เราเลยขอข้าม
ที่จะเป็นประเด็นที่สุดก็คงจะเป็นดาดฟ้า ที่บางคนเลี่ยงที่จะไม่ทำ เพราะกลัวเจอปัญหาต่างๆที่จะตามมาในภายหลัง
ส่วนตัวรู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลองค่ะ 5555+
ดาดฟ้าตอนเทปูนเป็นแบบออนบีม (คืออะไรเราก็ไม่รู้ เห็นผรม.เรียกแบบนี้)
เราติดว่าเราจะตู้คอมเพสเซอร์มาวางชิดกำแพงตรงนี้ น้องจะได้ร่มเงาจากกระเบื้อง (กระเบื้องเราสีน้ำตาลเข้มค่ะ)
ดาดฟ้าใช้ปูนผสมน้ำยากันซึม และ ใช้สีสำหรับทาพื้นดาดฟ้าโดยเฉพาะ (TOA รูฟซีล) ส่วน สีฟ้า ผรม.เลือกให้ค่ะ
ผนังช่องลมน้องชายเป็นคนออกแบบ (หาเรื่องลำบากให้ช่างจริงๆ 5555+)
คิดว่าอาจจะมีภาค 4 หลังจากมีการตกแต่งให้ลงตัวเรียบร้อยแล้ว
ไม่รู้จะมินิมอลหรือมินิมาร์ท
ตัวเราเองก็ยังไม่มีโอกาสได้เห็นบ้านตอนเสร็จแล้วค่ะ ทั้งหมดเป็นรูปที่พี่ชาย , แม่ , ช่าง ส่งมาให้ดู
เดือนนี้มีโอกาสจะกลับไปดูด้วยตาของตัวเองแล้ว เย้ๆ (จองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อย!!!)
สุดท้ายของภาคนี้ขอบคุณคอมเม้นที่ติดตามกันตั้งแต่ภาค 1 และ ภาค 2
ขอเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังสร้างบ้านทุกคนนะคะ!!!
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้