สวัสดีค่ะ วันนี้มาตั้งกระทู้เพราะสภาพจิตใจแย่ น้ำตาไหล ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเอง อยากได้กำลังใจเพื่อลุกขึ้นใหม่อีกครั้ง
เราอายุ 39 ปี 3 ปีก่อนเราได้เลิกกับแฟน ที่คบมา 7 ปี เพราะว่าเค้ามีเป้าหมายชีวิตไม่เหมือนเรา เราอยากมีครอบครัวและมีลูก แต่หลายๆ เรื่องที่ความเห็นเราไม่ตรงกัน เราจึงตัดสินใจเดินออกมา ตอนนั้นก้เป็นการตัดสินใจที่ยาก ลำบากใจ ยอมรับว่าตัวเองอาจจะยังรักเค้าไม่มากพอ เลือกที่จะรักตัวเอง
หลังจากนั้น เราโสดมาได้ 3 ปี มีคนเข้ามาจีบ แต่เราไม่พร้อมจะเปิดรับใคร ยังมีความสุขอยู่กับตัวเอง กับสิ่งที่ทำ จนวันหนึ่ง เราลองเปิดแอพหาคู่ในเฟส แล้วมีผู้ชายคนหนึ่ง กดถูกใจ เราเห็นก็จำได้ว่าเป็นพี่คนที่เคยจีบเราเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่ตอนนั้นเราไม่ได้คุยกันต่อเหมือนมีเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน เลยขาดการติดต่อ ทั้งไลน์ เฟส และก็เบอร์โทร พอจู่ๆ ได้มาเจอกันในเฟสก็รู้สึกแปลกใจ ก็กดรับแมตซ์ ก็คุยกัน เราก็รู้สึกว่าคงเป็นโชคชะตาที่ทำให้เราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
ตลอดเวลาที่คุยกัน พี่เค้าบอกว่าโสด ยังไม่มีใคร อยากมีครอบครัว อยากมีลูก ซึ่งเรายอมรับว่าเราเปิดใจยอมรับเค้าเร็วไป เพียงเพราะสิ่งที่เค้าบอกมันตรงกับเป้าหมายในชีวิตของเรา เราตกลงคบกันเป็นแฟนกัน ตลอดเวลาที่คบกันเราก็มีคุยกันเรื่องลูก เรื่องการแต่งงาน กันตลอด แต่เนื่องจากติดช่วงโควิค เลยทำให้เราได้เจอกันน้อย กลางคืนก็สลับกับโทรไลน์ แต่ด้วยพี่เค้ามีโลกส่วนตัวสูง เค้าไม่ค่อยรับสาย ไลน์ไปบางครั้ง ก็ตอบช้า แต่ก้ตอบทุกครั้ง เวลาที่อยู่ด้วยกันเค้าก้ไม่ติดมือถือ ดูทีวีเป็นส่วนใหญ่ ถามว่าเรามีสงสัยไหม ก็มีบ้างบางครั้ง แต่มันเป็นความสงสัยที่เราต้องเก็บไว้ เพราะบางครั้งดึกๆ เราก็โทรคุยกัน เวลาคุยกันก็เป็นชั่วโมง เราไม่ยุ่งมือถือส่วนตัวของเค้า ไม่เคยขอดู ไว้ใจ เชื่อใจ วางใจ ทุกอย่าง ทุกคำที่เค้าพูดเราก็เชื่อตามนั้น ไม่เซ้าซี้ เพราะเราคิดว่าการเชื่อใจและให้เกียรติเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตคู่ ตลอดเวลาที่คบกับเราดูแลเค้าทุกอย่าง ซัพพอทเค้าทุกความรู้สึก ตอนเค้าป่วยเครียดเราก็ช่วยให้กำลังใจ จนเค้าหายป่วย
จนปีใหม่ที่ผ่านมา เราตกลงกันว่าจะไปเที่ยวกัน ตอนเช้าเค้าบอกว่าติดงาน บ่ายๆ จะมารับ พอบ่ายโทรไป บอกงานยังไม่เสร็จ เสร็จแล้วจะไปรับ ตั้งแต่นั้นก็ติดต่อเค้าไม่ได้ ทั้งโทรหาและไลน์ไป เราก็เป็นห่วงเค้ากลัวเค้าจะเกิดอุบัติเหตุ พอตอนเช้า เค้าส่งสติกเกอร์อวยพรปีใหม่มา เราก็รีบโทรทันที แต่เค้าก็ไม่รับสาย ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ หรือคำอธิบายใดๆ เราก็พูดกับเค้าว่า ถ้าพี่ไม่ว่างหรือยังไม่เสร็จงานก็ไลน์บอกหน่อยนะคะ จะได้ไม่ต้องห่วง แต่เค้ากลับโมโห ว่าเราว่าไร้สาระ ไม่ต้องมาห่วง งี่เง่า ดราม่า เราก็ได้แต่ฟัง ไม่อยากทะเลาะด้วย คิดแค่ว่าอยู่เป็นครอบครัวต้องให้อภัยอย่าโกรธกัน
ซึ่งเราไม่ได้เป็นเพื่อนกับพี่เค้าในเฟส ตอนนั้นเราคิดว่าไม่ได้สำคัญอะไร กับโลกโซเซี่ยลที่ต้องเป็นเพื่อนกัน เราทบทวนอะไรหลายๆ อย่าง และคิดว่าเราจะรับข้อเสียของพี่เค้าได้ไหม อะไรหลายๆ อย่างที่เรารู้สึกว่าเค้าไม่ค่อยให้ความสำคัญกับความรู้สึกของเรา จนเราคิดว่าเราจะคุยกับพี่เค้าในความรู้สึกของเรา ถ้าไม่ดีขึ้นเราจะไม่ไปต่อ แต่ไม่คิดเลยว่าช่วงที่เรากำลังทบทวนเรากลับเจอความจริงที่เราไม่ทันตั้งตัว
วันหยุดเรานัดเจอกัน ตอนเช้าเราเห็นเค้านั่งทำงานในคอม เราเลยอาสาช่วยพิมงานให้ ให้พี่เค้าได้พักผ่อน เพราะเห็นบอกเราว่าทำงานไม่ได้นอนมาหลายคืน ระหว่างที่เรานั่งพิมงาน เฟสบุ๊คในคอมมันก็เด้งขึ้นมา เราก็เลยเปิดเข้าไปดู ซึ่งเค้าบอกกับเราว่าเฟสอันนี้เค้าปิดไปแล้วไม่ได้ใช้ ในเฟสนี้ทุกเรื่องที่เราสงสัยกระจ่างทั้งหมด เค้ามีครอบครัวแล้วลูกเค้าก้อายุได้ 10 เดือน ช่วงที่เค้าก้าวเข้ามาในชีวิตเรา ตอนนั้นลูกเค้า 3 เดือน (เราคบกับพี่เค้าได้ 7 เดือน) แต่ด้วยเรารู้จักพี่เค้าตั้งแต่ 10 ปีก่อน รู้จักอาชีพการงาน เราเลยไม่ได้คิดว่าเค้าจะมาหลอก เลยทุ่มเทใจให้ทุกอย่าง อีกทั้งเป้าหมายที่เค้ามาบอกเรามันทำให้เราไม่ได้ระวังใจของตัวเอง
วินาทีทีเราเห็นความจริงทั้งหมด เราไม่มีคำอะไรที่จะตำหนิเค้า เราไม่รู้ว่าเราควรจะโกรธเค้า โกรธตัวเอง โกรธโชคชะตาที่นำพาให้เรามาเจอกัน เราคิดแค่ว่าคงถามความจริง คุยกันด้วยเหตุผล คิดว่าไม่จำเป็นต้องทะเลาะกัน ตำหนิอะไรไป ก็เปลี่ยนแปลงความจริงในวันนี้ไม่ได้ ในหัวคิดแค่ว่าสิ่งที่ต้องทำคือเราต้องเดินออกมาอย่างเดียว แต่อยากฟังความจริงจากปากพี่เค้า เพราะตลอดเวลาเค้ายืนยันว่าเค้าไม่มีลูก ไม่มีใคร เค้าอยากมีลูกกับเรา อยากแต่งงานกับเรา
เราช่วยเค้าพิมงานจนเสร็จ เราก้ตัดสินใจบอกเค้าว่า เรามีเรื่องอยากจะคุยด้วย สัก 10 นาที เค้าก็อารมณ์เสียใส่เราบอกว่าชีวิตมีอะไรตั้งเยอะ อย่ามาดร่าม่า อะไรกับเค้า เสียเวลามานั่งเซ้าซี้ (ทั้งๆ ที่เค้าก็ไม่รู้เลยว่าเราจะพูดอะไร) จนเราตอนจะกลับบ้าน เราตัดสินใจพูดออกไปตรงๆ ว่า เรารู้ความจริงทั้งหมดแล้วว่าพี่มีครอบครัวและลูกของพี่
พีเค้าโมโหมากมาย เค้าพูดสวนมากับเราว่า ไม่ได้รู้อะไรจริงเลย มโมไปเองทั้งนั้น (แต่เรามั่นใจว่าเป็นลูกเค้าแน่นอน เพราะในทามไลน์เค้าเองก็มีโพสว่าเป็นลูกเค้า) แล้วเค้าก็ว่าเราต่างๆ นาๆ ว่าให้ช่วยพิมงานก็จุ้นจ้าน เปิดดูโน่นนี่ ว่าเราว่าชีวิตเค้ามีความสุขอยู่ดี ๆ ก็เอาเอาทุกข์มาให้เค้า พูดจาแย่ๆ พูดคำหยาบคาย ใส่เรา เราพูดไปว่าเราไม่ได้อยากทำร้ายชีวิตครอบครัวใคร เค้าก็พูดมาว่ามันก็เรื่องของคุณ อยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเค้า (แต่คำพูดไม่ได้สุภาพแบบนี้) สุดท้ายพูดกับเราว่า ที่เรื่องของเรามันต้องจบ ต้องเป็นแบบนี้ เพราะเราทำตัวเราเอง สุดท้ายเค้าก็ไล่เราลงจากรถ
เรากลับมาบ้านด้วยความรู้สึกอึนๆๆๆ น้ำตาไหลแบบไม่รู้ตัว ตัดสินใจบล็อคทุกอย่าง เลือกเดินออกมา วันนี้ก็ยังพิมไปน้ำตาไหลไป สงสารตัวเองที่ปล่อยให้คนคนหนึ่งเข้ามาทำร้ายเราได้ขนาดนี้ โกรธตัวเองที่ไม่ระวังใจไว้ให้มากกว่า น้อยใจในโชคชะตา ทำไมเราถึงได้เจอคนใจร้าย กับเราได้ขนาดนี้
ขอกำลังใจ.....เมื่อถูกหลอกให้ไปเป็นโลกใบที่ 2
เราอายุ 39 ปี 3 ปีก่อนเราได้เลิกกับแฟน ที่คบมา 7 ปี เพราะว่าเค้ามีเป้าหมายชีวิตไม่เหมือนเรา เราอยากมีครอบครัวและมีลูก แต่หลายๆ เรื่องที่ความเห็นเราไม่ตรงกัน เราจึงตัดสินใจเดินออกมา ตอนนั้นก้เป็นการตัดสินใจที่ยาก ลำบากใจ ยอมรับว่าตัวเองอาจจะยังรักเค้าไม่มากพอ เลือกที่จะรักตัวเอง
หลังจากนั้น เราโสดมาได้ 3 ปี มีคนเข้ามาจีบ แต่เราไม่พร้อมจะเปิดรับใคร ยังมีความสุขอยู่กับตัวเอง กับสิ่งที่ทำ จนวันหนึ่ง เราลองเปิดแอพหาคู่ในเฟส แล้วมีผู้ชายคนหนึ่ง กดถูกใจ เราเห็นก็จำได้ว่าเป็นพี่คนที่เคยจีบเราเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่ตอนนั้นเราไม่ได้คุยกันต่อเหมือนมีเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน เลยขาดการติดต่อ ทั้งไลน์ เฟส และก็เบอร์โทร พอจู่ๆ ได้มาเจอกันในเฟสก็รู้สึกแปลกใจ ก็กดรับแมตซ์ ก็คุยกัน เราก็รู้สึกว่าคงเป็นโชคชะตาที่ทำให้เราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
ตลอดเวลาที่คุยกัน พี่เค้าบอกว่าโสด ยังไม่มีใคร อยากมีครอบครัว อยากมีลูก ซึ่งเรายอมรับว่าเราเปิดใจยอมรับเค้าเร็วไป เพียงเพราะสิ่งที่เค้าบอกมันตรงกับเป้าหมายในชีวิตของเรา เราตกลงคบกันเป็นแฟนกัน ตลอดเวลาที่คบกันเราก็มีคุยกันเรื่องลูก เรื่องการแต่งงาน กันตลอด แต่เนื่องจากติดช่วงโควิค เลยทำให้เราได้เจอกันน้อย กลางคืนก็สลับกับโทรไลน์ แต่ด้วยพี่เค้ามีโลกส่วนตัวสูง เค้าไม่ค่อยรับสาย ไลน์ไปบางครั้ง ก็ตอบช้า แต่ก้ตอบทุกครั้ง เวลาที่อยู่ด้วยกันเค้าก้ไม่ติดมือถือ ดูทีวีเป็นส่วนใหญ่ ถามว่าเรามีสงสัยไหม ก็มีบ้างบางครั้ง แต่มันเป็นความสงสัยที่เราต้องเก็บไว้ เพราะบางครั้งดึกๆ เราก็โทรคุยกัน เวลาคุยกันก็เป็นชั่วโมง เราไม่ยุ่งมือถือส่วนตัวของเค้า ไม่เคยขอดู ไว้ใจ เชื่อใจ วางใจ ทุกอย่าง ทุกคำที่เค้าพูดเราก็เชื่อตามนั้น ไม่เซ้าซี้ เพราะเราคิดว่าการเชื่อใจและให้เกียรติเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตคู่ ตลอดเวลาที่คบกับเราดูแลเค้าทุกอย่าง ซัพพอทเค้าทุกความรู้สึก ตอนเค้าป่วยเครียดเราก็ช่วยให้กำลังใจ จนเค้าหายป่วย
จนปีใหม่ที่ผ่านมา เราตกลงกันว่าจะไปเที่ยวกัน ตอนเช้าเค้าบอกว่าติดงาน บ่ายๆ จะมารับ พอบ่ายโทรไป บอกงานยังไม่เสร็จ เสร็จแล้วจะไปรับ ตั้งแต่นั้นก็ติดต่อเค้าไม่ได้ ทั้งโทรหาและไลน์ไป เราก็เป็นห่วงเค้ากลัวเค้าจะเกิดอุบัติเหตุ พอตอนเช้า เค้าส่งสติกเกอร์อวยพรปีใหม่มา เราก็รีบโทรทันที แต่เค้าก็ไม่รับสาย ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ หรือคำอธิบายใดๆ เราก็พูดกับเค้าว่า ถ้าพี่ไม่ว่างหรือยังไม่เสร็จงานก็ไลน์บอกหน่อยนะคะ จะได้ไม่ต้องห่วง แต่เค้ากลับโมโห ว่าเราว่าไร้สาระ ไม่ต้องมาห่วง งี่เง่า ดราม่า เราก็ได้แต่ฟัง ไม่อยากทะเลาะด้วย คิดแค่ว่าอยู่เป็นครอบครัวต้องให้อภัยอย่าโกรธกัน
ซึ่งเราไม่ได้เป็นเพื่อนกับพี่เค้าในเฟส ตอนนั้นเราคิดว่าไม่ได้สำคัญอะไร กับโลกโซเซี่ยลที่ต้องเป็นเพื่อนกัน เราทบทวนอะไรหลายๆ อย่าง และคิดว่าเราจะรับข้อเสียของพี่เค้าได้ไหม อะไรหลายๆ อย่างที่เรารู้สึกว่าเค้าไม่ค่อยให้ความสำคัญกับความรู้สึกของเรา จนเราคิดว่าเราจะคุยกับพี่เค้าในความรู้สึกของเรา ถ้าไม่ดีขึ้นเราจะไม่ไปต่อ แต่ไม่คิดเลยว่าช่วงที่เรากำลังทบทวนเรากลับเจอความจริงที่เราไม่ทันตั้งตัว
วันหยุดเรานัดเจอกัน ตอนเช้าเราเห็นเค้านั่งทำงานในคอม เราเลยอาสาช่วยพิมงานให้ ให้พี่เค้าได้พักผ่อน เพราะเห็นบอกเราว่าทำงานไม่ได้นอนมาหลายคืน ระหว่างที่เรานั่งพิมงาน เฟสบุ๊คในคอมมันก็เด้งขึ้นมา เราก็เลยเปิดเข้าไปดู ซึ่งเค้าบอกกับเราว่าเฟสอันนี้เค้าปิดไปแล้วไม่ได้ใช้ ในเฟสนี้ทุกเรื่องที่เราสงสัยกระจ่างทั้งหมด เค้ามีครอบครัวแล้วลูกเค้าก้อายุได้ 10 เดือน ช่วงที่เค้าก้าวเข้ามาในชีวิตเรา ตอนนั้นลูกเค้า 3 เดือน (เราคบกับพี่เค้าได้ 7 เดือน) แต่ด้วยเรารู้จักพี่เค้าตั้งแต่ 10 ปีก่อน รู้จักอาชีพการงาน เราเลยไม่ได้คิดว่าเค้าจะมาหลอก เลยทุ่มเทใจให้ทุกอย่าง อีกทั้งเป้าหมายที่เค้ามาบอกเรามันทำให้เราไม่ได้ระวังใจของตัวเอง
วินาทีทีเราเห็นความจริงทั้งหมด เราไม่มีคำอะไรที่จะตำหนิเค้า เราไม่รู้ว่าเราควรจะโกรธเค้า โกรธตัวเอง โกรธโชคชะตาที่นำพาให้เรามาเจอกัน เราคิดแค่ว่าคงถามความจริง คุยกันด้วยเหตุผล คิดว่าไม่จำเป็นต้องทะเลาะกัน ตำหนิอะไรไป ก็เปลี่ยนแปลงความจริงในวันนี้ไม่ได้ ในหัวคิดแค่ว่าสิ่งที่ต้องทำคือเราต้องเดินออกมาอย่างเดียว แต่อยากฟังความจริงจากปากพี่เค้า เพราะตลอดเวลาเค้ายืนยันว่าเค้าไม่มีลูก ไม่มีใคร เค้าอยากมีลูกกับเรา อยากแต่งงานกับเรา
เราช่วยเค้าพิมงานจนเสร็จ เราก้ตัดสินใจบอกเค้าว่า เรามีเรื่องอยากจะคุยด้วย สัก 10 นาที เค้าก็อารมณ์เสียใส่เราบอกว่าชีวิตมีอะไรตั้งเยอะ อย่ามาดร่าม่า อะไรกับเค้า เสียเวลามานั่งเซ้าซี้ (ทั้งๆ ที่เค้าก็ไม่รู้เลยว่าเราจะพูดอะไร) จนเราตอนจะกลับบ้าน เราตัดสินใจพูดออกไปตรงๆ ว่า เรารู้ความจริงทั้งหมดแล้วว่าพี่มีครอบครัวและลูกของพี่
พีเค้าโมโหมากมาย เค้าพูดสวนมากับเราว่า ไม่ได้รู้อะไรจริงเลย มโมไปเองทั้งนั้น (แต่เรามั่นใจว่าเป็นลูกเค้าแน่นอน เพราะในทามไลน์เค้าเองก็มีโพสว่าเป็นลูกเค้า) แล้วเค้าก็ว่าเราต่างๆ นาๆ ว่าให้ช่วยพิมงานก็จุ้นจ้าน เปิดดูโน่นนี่ ว่าเราว่าชีวิตเค้ามีความสุขอยู่ดี ๆ ก็เอาเอาทุกข์มาให้เค้า พูดจาแย่ๆ พูดคำหยาบคาย ใส่เรา เราพูดไปว่าเราไม่ได้อยากทำร้ายชีวิตครอบครัวใคร เค้าก็พูดมาว่ามันก็เรื่องของคุณ อยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเค้า (แต่คำพูดไม่ได้สุภาพแบบนี้) สุดท้ายพูดกับเราว่า ที่เรื่องของเรามันต้องจบ ต้องเป็นแบบนี้ เพราะเราทำตัวเราเอง สุดท้ายเค้าก็ไล่เราลงจากรถ
เรากลับมาบ้านด้วยความรู้สึกอึนๆๆๆ น้ำตาไหลแบบไม่รู้ตัว ตัดสินใจบล็อคทุกอย่าง เลือกเดินออกมา วันนี้ก็ยังพิมไปน้ำตาไหลไป สงสารตัวเองที่ปล่อยให้คนคนหนึ่งเข้ามาทำร้ายเราได้ขนาดนี้ โกรธตัวเองที่ไม่ระวังใจไว้ให้มากกว่า น้อยใจในโชคชะตา ทำไมเราถึงได้เจอคนใจร้าย กับเราได้ขนาดนี้