ของแพง ทำคนไทยลดการซื้อของไหว้ตรุษจีน 64.1% กว่า 31.1% ยอมลดเกรดสินค้าลง
https://www.dailynews.co.th/news/713035/
กรุงเทพโพลล์ เผย ของแพง ทำคนไทยเชื้อสายจีนลดการซื้อของไหว้ตรุษจีน 64.1% กว่า 31.1% ยอมลดเกรดสินค้าลง วอนรัฐควบคุมราคา ลงโทษคนฉวยโอกาสตุนสินค้า
เมื่อวันที่ 29 ม.ค. กรุงเทพโพลล์ โดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นประชาชน 1,167 คน เรื่อง “
คิดอย่างไรกับราคาสินค้า ช่วงใกล้ตรุษจีนปีเสือ” พบว่าจากราคาสินค้าต่างๆ มีราคาแพงขึ้น เช่น หมู เป็ด ไก่ ส่งผลต่อการซื้อของไหว้ในวันตรุษจีนในปีนี้ โดย 64.1% ซื้อของไหว้แต่ละอย่างน้อยลง/เกรดต่ำลง เพื่อให้ครบตามประเพณี 31.1% ต้องยอมตัดของไหว้บางอย่างออก 14.2% ต้องยอมหาของไหว้อื่นทดแทน ต้องใช้งบฯ มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านๆ มา 12.1 % ใช้ของจากปีที่แล้ว เช่น กระดาษเงิน กระดาษทอง 11.3% ยอมซื้อของไหว้ที่จัดเป็นชุดไว้แล้ว เพราะราคาถูกกว่าซื้อแยก 9 % และ ซื้อเท่าเดิม จัดเต็มตามประเพณีเพราะ 1 ปี มีครั้งเดียว 25.3%
ทั้งนี้ ประชาชน 91.5% เชื่อมั่นน้อยว่าภาครัฐจะสามารถควบคุมพ่อค้าแม่ค้าไม่ให้แอบขึ้นราคาสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนได้ มีเพียง 8.5% ที่เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด อย่างไรก็ตาม หากรัฐสามารถตรึงราคาสินค้าได้ ประชาชน 82.2% ระบุว่าช่วยได้ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ขณะ 17.8% ระบุว่าช่วยได้ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
เมื่อถามถึงมาตรการที่ประชาชนต้องการให้รัฐทำเพื่อแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง คือควบคุมราคาน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ให้ต้นทุนการขนส่งสินค้ามีราคาสูง 73.3% ควบคุมราคาสินค้าที่จำเป็น เช่น แก๊สหุงต้ม น้ำตาล น้ำมันพืช ข้าวสาร ฯลฯ 63% ควบคุมราคาสินค้าที่เป็นต้นทางในการผลิตวัตถุดิบ เช่น อาหารสัตว์ ปุ๋ย ฯลฯ 53.5% เพิ่มบทลงโทษกับพ่อค้าคนกลาง/ผู้ค้ารายใหญ่ที่กักตุนสินค้ามากเกินความจำเป็น 47.6% เพิ่มจุดขายสินค้าราคาถูกให้ประชาชนเข้าถึงได้มากขึ้น 45.2%.
เจี๊ยบ ลลนา ทำแคมเปญ #หมอกระต่าย ชวนลงชื่อผลักดันกฎหมายทางม้าลายต้องปลอดภัย
https://www.matichon.co.th/entertainment/news_3156596
จากกรณีการเสียชีวิตของ พญ.
วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ
หมอกระต่าย ที่ถูกรถชนขณะข้ามถนนบนทางม้าลาย ล่าสุด หมอ
เจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์ แจ้งว่า เธอและเพื่อนๆของหมอกระต่ายได้ตัดสินใจทำแคมเปญ #ทางกระต่าย เพื่อเรียกร้องกฎหมายต้องปลอดภัย โดยขอให้ผู้ที่เห็นด้วยกับแคมเปญนี้ร่วมลงชื่อ โดยเธอให้รายละเอียดเอาไว้ว่า
‘
ใครที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง สิ่งหนึ่งที่พวกเราทุกคนตอนนี้ที่กำลังอ่านอยู่สามารถทำได้คือ กดลงชื่อ ”เพื่อเรียกร้องกฎหมายทางม้าลายต้องปลอดภัย” ในแคมเปญ #ทางกระต่าย พวกเราจะพยายามผลักดันให้ถึงที่สุด อยากทำให้สำเร็จ แต่จะเกิดขึ้นได้ต้องใช้เสียงสนับสนุนจากทุกคนด้วย มีแปะลิ้งค์ไว้หน้า Bio กับ ในสตอรี่แล้ว ลงชื่อแล้วช่วยกดแชร์ต่อด้วยจะขอบคุณมากๆเลย
แคมเปญนี้จัดทำโดยเพื่อนๆของหมอกระต่าย และได้รับการอนุญาตจากครอบครัวของหมอกระต่าย แล้วค่ะ
เสียงที่ลงจะรวบรวมนำไปใช้เพื่อขับเคลื่อน social movement และสนับสนุนกฎหมายจราจร/การปรับปรุงทางม้าลาย/traffic engineer ในอนาคต
“
ทางม้าลายปลอดภัย-หยุดรถให้คนข้าม-บังคับใช้กฏหมาย-ปรับบทลงโทษ”
https://www.change.org/rabbitcrossing
#rabbitcrossing
#ทางกระต่าย
#หมอกระต่าย‘
ชาวประมง-ร้านค้าเศร้า เจอน้ำมันรั่ว ขายปลาไม่ได้ ไร้นักท่องเที่ยว หวั่นพืชใต้น้ำตายหมด
https://www.matichon.co.th/local/news_3156652
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 29 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคราบน้ำมันเกยหาดแม่รำพึงมืด บริเวณชายหาดแม่รำพึง ฝั่งตรงข้ามเบย์วิวรีสอร์ท หมู่ 10 ต.พง อ.เมืองระยอง ยาวกว่า 2 กิโลเมตร และมีแนวโน้มจะขึ้นมาเรื่อยๆจนเต็มทั้งหาดยาวกว่า 10 กิโลเมตร จากการลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบใกล้ๆ ถึงกับผงะคราบน้ำมันส่งกลิ่นเหม็นฉุนฟุ้งกระจายทั่วไปทั้งหาด พบว่าน้ำทะเลกลายเป็นสีดำ มีคราบจับตัวคล้ายวุ้นลอยมากับคลื่นเข้ามาตลอด คราบน้ำมันได้ปนกับทรายชายหาดเริ่มเป็นสีดำไปทั่ว
ต่อมามามีเจ้าหน้าที่ของ บริษัท สตาร์ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน)หรือ SPRC เดินทางมาเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบและมีเจ้าหน้าที่บางส่วนลงมาเก็บคราบน้ำมันบนชายหาด โดยใช้ผ้าชนิดพิเศษซับคราบน้ำมัน แต่เนื่องด้วยคราบน้ำมันมีจำนวนมากจึงยากต่อการเก็บกู้
ด้านนาง
วลัยลักษณ์ วิทยานุเคราะห์ อายุ 57 ปี เจ้าของเบย์วิวรีสอร์ท กล่าวว่าคราบน้ำมันเข้ามาเกยหาดตั้งแต่เช้ามืด ตื่นมาเห็นตกใจมากไม่คาดว่าจะเข้ามาเยอะขนาดนี้ จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่รีบมาเก็บกู้โดยเร็ว ไม่อย่างนั้น เดี๋ยวลมเปลี่ยนทิศก็จะกระจายไปทั่วทั้งหาดแน่ เดือดร้อนกันหมด นักท่องเที่ยวที่จองไว้ต่างก็ยกเลิกจองทั้งหมด
ต่อมานาย
อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เดินทางมาตรวจสอบ กล่าวว่า คราบน้ำมันที่เข้ามาในชายหาด คาดเป็นน้ำมันที่รั่วไหลหลุดออกมาจากบูมกลางทะเล ซึ่งเป็นส่วนน้อยมาก จะมีมวลใหญ่อีกที่จะตามเข้ามา ซึ่งก็จะเร่งเก็บกู้ทันที
เวลา 11.10 น. ก้อนน้ำมันก้อนนี้อยู่ด้านนอก (พื้นที่ประมาณ1,713,388 ตารางเมตร) ซึ่งเป็นบริเวณที่เรือทำงานห่างฝั่งหาดแม่รำพึง 2.6 กม. ห่างจาก อุทยานเขาแหลมหญ้า 7.36 กม. ห่างจากเกาะเสม็ด 11.5 กิโลเมตร
นาย
จินดา แสงสินชัย อาชีพประมงพื้นบ้านและร้านอาหารทะเลสด ตรงข้าม เบย์วิวรีสอร์ต กล่าวว่าหลังเกิดโควิด-19 มาสองปี ใช้เงินเก่าหมด ออกทะเลทำท่าจะฟื้นตัว ก็มาเกิดท่อน้ำมันดิบรั่วกลางทะเลอีก ก็ออกเรือไม่ได้ และมีคำสั่งห้ามลงเล่นน้ำ แม่ค้าตลาดก็บอกว่าหยุดมาส่งปลาไว้ก่อน ขายไม่ได้ไม่มีคนกล้ากินปลา และเมื่อคืนที่ผ่านมากระลมเปลี่ยนทิศทางเป็นลมนอกตลอดทั้งคืนทำให้คราบน้ำมันพัดเข้าฝั่งเร็วขึ้นที่บริเวณชายหาดแม่รำพึง จริงๆแล้วผมว่าการที่เจ้าหน้าที่ใช้สารเคมีกำจัดคราบน้ำมัน ให้ตกตะกอนใต้ทะเลจมลงหน้าดินมันจะเลวร้ายกว่าเก่าอีก แล้วเมื่อไหร่มันจะฟื้นพืชใต้น้ำและปลาตายหมด
ด้านนาย
สมชาย นิธิพิริยาโภคิน เจ้าของชายตารีสอร์ทและร้านอาหาร หาดแม่รำพึง ต.เพ อ.เมืองระยอง กล่าวว่าสถานการณ์โควิด 2-3 ปีมานี่ก็แย่แล้ว ตั้งแต่พฤศจิกายน-ธันวาคมจะเริ่มดีแล้วนับหนึ่งนับสองได้ พอเข้ามกราคมปีใหม่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มมีคนติดเพิ่มอีก นักท่องเที่ยวก็ไม่มา และต้องมาเจอคราบน้ำมันอีกเมื่อวานนี้มีนักเที่ยวมาจากสุพรรณบุรี ทราบข่าวคราบน้ำมันก็เดินทางกลับ ร้านอาหารผมยังต้องปิด เพราะทนจ่ายค่าจ้าง 3 คนวันละ 1 พันกว่าบาท ขายได้จานเดียว 50 บาท อยากจะหยุดลูกจ้างก็ไม่มีรายได้ ลูกจ้างที่ทำงานรีสอร์ตที่พักก็ต้องสั่งหยุดแล้วจ่ายเงินค่าแรงให้คนละครึ่งแรง เพราะมันไม่มีคนมาพัก
นาย
เฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมงและคณะลงพื้นที่ไปตรวจสอบร้านค้าอาหารทะเลสดกลุ่มประมงสวนสน ม.4 ต.แกลง อ.เมืองระยอง ซึ่งเป็นแหล่งขายอาหารทะเลชื่อดังแห่งหนึ่ง และเป็นกลุ่มอาชีพทำประมงพื้นบ้านเรือเล็ก เกือบ 100 ลำ จากการลงพื้นที่หลังมีกระแสข่าวคราบน้ำมันดิบติดอวนปูส่งผลกระทบอาชีพประมง ไม่ค่อยมีคนมาซื้ออาหารทะเล บรรยากาศเงียบเหงา
นาง
เบ็ญจมาศ ถนอมจิตร์ หรือป้าเม้าท์ ขายอาหารทะเลชื่อดังกล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ท่องน้ำมันรั่วไหลกลางทะเลมาบตาพุด ส่งผลกระทบต่อกลุ่มประมงสวนสนมาก วันนี้เรือออกไปวางอวนปูม้า 4 ปั้น กลับเข้ามาได้ปูม้ามาเพียง 1 กก. บางลำได้ปูมา 4 ตัว ก่อนหน้าเคยได้ลำละ 4-5 กก.บางละได้นับ 10 กก. ราคากก.ละ 350 – 400 บาท ส่วนปลาก็ได้กันมาคนละนิดหน่อย วันนี้บรรยากาศขายอาหารทะเลเหงา มีแต่คนบ่นกันทั้งตลาดขายของไม่ได้
ร้านค้าบางรายบอกว่าวันนี้แย่มาก กุ้ง หอย ปู ปลา ขายไม่ได้ต้องขี่จยย.พ่วงข้างวิ่งไปขายตามหมู่บ้านดีกว่า
JJNY : ลดซื้อของไหว้ตรุษจีน 64.1%│แคมเปญ #หมอกระต่าย│ชาวประมง-ร้านค้าเศร้า เจอน้ำมันรั่ว│“ตรุษจีนภูเก็ต” สุดเงียบเหงา
https://www.dailynews.co.th/news/713035/
กรุงเทพโพลล์ เผย ของแพง ทำคนไทยเชื้อสายจีนลดการซื้อของไหว้ตรุษจีน 64.1% กว่า 31.1% ยอมลดเกรดสินค้าลง วอนรัฐควบคุมราคา ลงโทษคนฉวยโอกาสตุนสินค้า
เมื่อวันที่ 29 ม.ค. กรุงเทพโพลล์ โดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นประชาชน 1,167 คน เรื่อง “คิดอย่างไรกับราคาสินค้า ช่วงใกล้ตรุษจีนปีเสือ” พบว่าจากราคาสินค้าต่างๆ มีราคาแพงขึ้น เช่น หมู เป็ด ไก่ ส่งผลต่อการซื้อของไหว้ในวันตรุษจีนในปีนี้ โดย 64.1% ซื้อของไหว้แต่ละอย่างน้อยลง/เกรดต่ำลง เพื่อให้ครบตามประเพณี 31.1% ต้องยอมตัดของไหว้บางอย่างออก 14.2% ต้องยอมหาของไหว้อื่นทดแทน ต้องใช้งบฯ มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านๆ มา 12.1 % ใช้ของจากปีที่แล้ว เช่น กระดาษเงิน กระดาษทอง 11.3% ยอมซื้อของไหว้ที่จัดเป็นชุดไว้แล้ว เพราะราคาถูกกว่าซื้อแยก 9 % และ ซื้อเท่าเดิม จัดเต็มตามประเพณีเพราะ 1 ปี มีครั้งเดียว 25.3%
ทั้งนี้ ประชาชน 91.5% เชื่อมั่นน้อยว่าภาครัฐจะสามารถควบคุมพ่อค้าแม่ค้าไม่ให้แอบขึ้นราคาสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนได้ มีเพียง 8.5% ที่เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด อย่างไรก็ตาม หากรัฐสามารถตรึงราคาสินค้าได้ ประชาชน 82.2% ระบุว่าช่วยได้ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ขณะ 17.8% ระบุว่าช่วยได้ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
เมื่อถามถึงมาตรการที่ประชาชนต้องการให้รัฐทำเพื่อแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง คือควบคุมราคาน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ให้ต้นทุนการขนส่งสินค้ามีราคาสูง 73.3% ควบคุมราคาสินค้าที่จำเป็น เช่น แก๊สหุงต้ม น้ำตาล น้ำมันพืช ข้าวสาร ฯลฯ 63% ควบคุมราคาสินค้าที่เป็นต้นทางในการผลิตวัตถุดิบ เช่น อาหารสัตว์ ปุ๋ย ฯลฯ 53.5% เพิ่มบทลงโทษกับพ่อค้าคนกลาง/ผู้ค้ารายใหญ่ที่กักตุนสินค้ามากเกินความจำเป็น 47.6% เพิ่มจุดขายสินค้าราคาถูกให้ประชาชนเข้าถึงได้มากขึ้น 45.2%.
เจี๊ยบ ลลนา ทำแคมเปญ #หมอกระต่าย ชวนลงชื่อผลักดันกฎหมายทางม้าลายต้องปลอดภัย
https://www.matichon.co.th/entertainment/news_3156596
จากกรณีการเสียชีวิตของ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย ที่ถูกรถชนขณะข้ามถนนบนทางม้าลาย ล่าสุด หมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์ แจ้งว่า เธอและเพื่อนๆของหมอกระต่ายได้ตัดสินใจทำแคมเปญ #ทางกระต่าย เพื่อเรียกร้องกฎหมายต้องปลอดภัย โดยขอให้ผู้ที่เห็นด้วยกับแคมเปญนี้ร่วมลงชื่อ โดยเธอให้รายละเอียดเอาไว้ว่า
‘ใครที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง สิ่งหนึ่งที่พวกเราทุกคนตอนนี้ที่กำลังอ่านอยู่สามารถทำได้คือ กดลงชื่อ ”เพื่อเรียกร้องกฎหมายทางม้าลายต้องปลอดภัย” ในแคมเปญ #ทางกระต่าย พวกเราจะพยายามผลักดันให้ถึงที่สุด อยากทำให้สำเร็จ แต่จะเกิดขึ้นได้ต้องใช้เสียงสนับสนุนจากทุกคนด้วย มีแปะลิ้งค์ไว้หน้า Bio กับ ในสตอรี่แล้ว ลงชื่อแล้วช่วยกดแชร์ต่อด้วยจะขอบคุณมากๆเลย
แคมเปญนี้จัดทำโดยเพื่อนๆของหมอกระต่าย และได้รับการอนุญาตจากครอบครัวของหมอกระต่าย แล้วค่ะ
เสียงที่ลงจะรวบรวมนำไปใช้เพื่อขับเคลื่อน social movement และสนับสนุนกฎหมายจราจร/การปรับปรุงทางม้าลาย/traffic engineer ในอนาคต
“ทางม้าลายปลอดภัย-หยุดรถให้คนข้าม-บังคับใช้กฏหมาย-ปรับบทลงโทษ”
https://www.change.org/rabbitcrossing
#rabbitcrossing
#ทางกระต่าย
#หมอกระต่าย‘
ชาวประมง-ร้านค้าเศร้า เจอน้ำมันรั่ว ขายปลาไม่ได้ ไร้นักท่องเที่ยว หวั่นพืชใต้น้ำตายหมด
https://www.matichon.co.th/local/news_3156652
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 29 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคราบน้ำมันเกยหาดแม่รำพึงมืด บริเวณชายหาดแม่รำพึง ฝั่งตรงข้ามเบย์วิวรีสอร์ท หมู่ 10 ต.พง อ.เมืองระยอง ยาวกว่า 2 กิโลเมตร และมีแนวโน้มจะขึ้นมาเรื่อยๆจนเต็มทั้งหาดยาวกว่า 10 กิโลเมตร จากการลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบใกล้ๆ ถึงกับผงะคราบน้ำมันส่งกลิ่นเหม็นฉุนฟุ้งกระจายทั่วไปทั้งหาด พบว่าน้ำทะเลกลายเป็นสีดำ มีคราบจับตัวคล้ายวุ้นลอยมากับคลื่นเข้ามาตลอด คราบน้ำมันได้ปนกับทรายชายหาดเริ่มเป็นสีดำไปทั่ว
ต่อมามามีเจ้าหน้าที่ของ บริษัท สตาร์ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน)หรือ SPRC เดินทางมาเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบและมีเจ้าหน้าที่บางส่วนลงมาเก็บคราบน้ำมันบนชายหาด โดยใช้ผ้าชนิดพิเศษซับคราบน้ำมัน แต่เนื่องด้วยคราบน้ำมันมีจำนวนมากจึงยากต่อการเก็บกู้
ด้านนางวลัยลักษณ์ วิทยานุเคราะห์ อายุ 57 ปี เจ้าของเบย์วิวรีสอร์ท กล่าวว่าคราบน้ำมันเข้ามาเกยหาดตั้งแต่เช้ามืด ตื่นมาเห็นตกใจมากไม่คาดว่าจะเข้ามาเยอะขนาดนี้ จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่รีบมาเก็บกู้โดยเร็ว ไม่อย่างนั้น เดี๋ยวลมเปลี่ยนทิศก็จะกระจายไปทั่วทั้งหาดแน่ เดือดร้อนกันหมด นักท่องเที่ยวที่จองไว้ต่างก็ยกเลิกจองทั้งหมด
ต่อมานายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เดินทางมาตรวจสอบ กล่าวว่า คราบน้ำมันที่เข้ามาในชายหาด คาดเป็นน้ำมันที่รั่วไหลหลุดออกมาจากบูมกลางทะเล ซึ่งเป็นส่วนน้อยมาก จะมีมวลใหญ่อีกที่จะตามเข้ามา ซึ่งก็จะเร่งเก็บกู้ทันที
เวลา 11.10 น. ก้อนน้ำมันก้อนนี้อยู่ด้านนอก (พื้นที่ประมาณ1,713,388 ตารางเมตร) ซึ่งเป็นบริเวณที่เรือทำงานห่างฝั่งหาดแม่รำพึง 2.6 กม. ห่างจาก อุทยานเขาแหลมหญ้า 7.36 กม. ห่างจากเกาะเสม็ด 11.5 กิโลเมตร
นายจินดา แสงสินชัย อาชีพประมงพื้นบ้านและร้านอาหารทะเลสด ตรงข้าม เบย์วิวรีสอร์ต กล่าวว่าหลังเกิดโควิด-19 มาสองปี ใช้เงินเก่าหมด ออกทะเลทำท่าจะฟื้นตัว ก็มาเกิดท่อน้ำมันดิบรั่วกลางทะเลอีก ก็ออกเรือไม่ได้ และมีคำสั่งห้ามลงเล่นน้ำ แม่ค้าตลาดก็บอกว่าหยุดมาส่งปลาไว้ก่อน ขายไม่ได้ไม่มีคนกล้ากินปลา และเมื่อคืนที่ผ่านมากระลมเปลี่ยนทิศทางเป็นลมนอกตลอดทั้งคืนทำให้คราบน้ำมันพัดเข้าฝั่งเร็วขึ้นที่บริเวณชายหาดแม่รำพึง จริงๆแล้วผมว่าการที่เจ้าหน้าที่ใช้สารเคมีกำจัดคราบน้ำมัน ให้ตกตะกอนใต้ทะเลจมลงหน้าดินมันจะเลวร้ายกว่าเก่าอีก แล้วเมื่อไหร่มันจะฟื้นพืชใต้น้ำและปลาตายหมด
ด้านนายสมชาย นิธิพิริยาโภคิน เจ้าของชายตารีสอร์ทและร้านอาหาร หาดแม่รำพึง ต.เพ อ.เมืองระยอง กล่าวว่าสถานการณ์โควิด 2-3 ปีมานี่ก็แย่แล้ว ตั้งแต่พฤศจิกายน-ธันวาคมจะเริ่มดีแล้วนับหนึ่งนับสองได้ พอเข้ามกราคมปีใหม่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มมีคนติดเพิ่มอีก นักท่องเที่ยวก็ไม่มา และต้องมาเจอคราบน้ำมันอีกเมื่อวานนี้มีนักเที่ยวมาจากสุพรรณบุรี ทราบข่าวคราบน้ำมันก็เดินทางกลับ ร้านอาหารผมยังต้องปิด เพราะทนจ่ายค่าจ้าง 3 คนวันละ 1 พันกว่าบาท ขายได้จานเดียว 50 บาท อยากจะหยุดลูกจ้างก็ไม่มีรายได้ ลูกจ้างที่ทำงานรีสอร์ตที่พักก็ต้องสั่งหยุดแล้วจ่ายเงินค่าแรงให้คนละครึ่งแรง เพราะมันไม่มีคนมาพัก
นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมงและคณะลงพื้นที่ไปตรวจสอบร้านค้าอาหารทะเลสดกลุ่มประมงสวนสน ม.4 ต.แกลง อ.เมืองระยอง ซึ่งเป็นแหล่งขายอาหารทะเลชื่อดังแห่งหนึ่ง และเป็นกลุ่มอาชีพทำประมงพื้นบ้านเรือเล็ก เกือบ 100 ลำ จากการลงพื้นที่หลังมีกระแสข่าวคราบน้ำมันดิบติดอวนปูส่งผลกระทบอาชีพประมง ไม่ค่อยมีคนมาซื้ออาหารทะเล บรรยากาศเงียบเหงา
นางเบ็ญจมาศ ถนอมจิตร์ หรือป้าเม้าท์ ขายอาหารทะเลชื่อดังกล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ท่องน้ำมันรั่วไหลกลางทะเลมาบตาพุด ส่งผลกระทบต่อกลุ่มประมงสวนสนมาก วันนี้เรือออกไปวางอวนปูม้า 4 ปั้น กลับเข้ามาได้ปูม้ามาเพียง 1 กก. บางลำได้ปูมา 4 ตัว ก่อนหน้าเคยได้ลำละ 4-5 กก.บางละได้นับ 10 กก. ราคากก.ละ 350 – 400 บาท ส่วนปลาก็ได้กันมาคนละนิดหน่อย วันนี้บรรยากาศขายอาหารทะเลเหงา มีแต่คนบ่นกันทั้งตลาดขายของไม่ได้
ร้านค้าบางรายบอกว่าวันนี้แย่มาก กุ้ง หอย ปู ปลา ขายไม่ได้ต้องขี่จยย.พ่วงข้างวิ่งไปขายตามหมู่บ้านดีกว่า