นี่เป็นครั้งที่ 3 ที่เรามาเยือนเมืองนครฯ โดยทริปนี้เริ่มต้นจากกลุ่มเพื่อนๆ อยากไปไหว้พระขอพรก่อนโควิดระบาดหนักๆ 
และเมื่อเราเลื่อนไฟล์ทกันมาเรื่อยๆ สุดท้ายได้วันเดินทางในกลางเดือน ธ.ค. 64 ทำให้ก่อนจะเดินทางจริงๆเพื่อนร่วมทริปติดธุระต่างๆบ้าง ไม่สบายบ้าง เลยทำให้เหลือเพื่อนร่วมทริปกันแค่ 2 สาว โดยเราเคยจองตั๋วขาไปและกลับคนละสายการบินเพราะในตอนเริ่มทริปแต่ละเจ้าเสนอราคาที่คุ้มค่าต่างกัน
ขาไปเราเดินทางด้วย Lion Air Flight 6.00 น. โดยใน boarding pass คือขึ้นเครื่อง 05.15 ทำให้เราต้องมาถึงสนามบินก่อนตี 4
และตามแผนเราจะถึงสนามบินนครศรีธรรมราชเวลา 7.20 แต่เรามาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย
รับรถของเค้าเตอร์ AVIS แล้วออกเดินทางไปหาอะไรรองท้องกันค่ะ

เราเลือกที่จะกินข้าวเช้ารองท้องกันที่ โกปี๊ สาขาคิวคูตอน เพราะอยู่ใกล้สนามบิน และมาถึงนครฯ รู้สึกว่าต้องร้านนี้สิ

ทานอาหารอิ่มก็ตรงไปไหว้ตา(ไอ้)ไข่ที่วัดเจดีย์กันก่อนเลยค่ะ ที่เลือกวัดนี้ก่อนเพราะยิ่งสายคนยิ่งเยอะจะจอดรถยากและกลัวรถจะติด

ก่อนถึงวัด เราแวะซื้อของไหว้ไอ้ไข่ก่อนถึงตัววัด ซึ่งจะมีร้านขายเรื่อยๆตลอดทาง เลือกเอาตามพรหมลิขิตเลยค่ะ อิอิ
จอดรถเสร็จ เราเดินตรงเอาของไหว้มาตั้งที่หน้ารูปของไอ้ไข่ และเดินไปไหว้ขอพร

ตอนนี้ที่วัดเอารูปปั้นไอ้ไข่ที่ปกติจะอยู่ในอุโบสถมาตั้งไว้ด้านนอก และไม่มีแผ่นทองคำเปลวให้แปะ ทำให้ทำได้แค่ไหว้ขอพรอยู่ด้านหน้าจุดไหว้ และเมื่อไหว้เสร็จแล้วก็เดินไปลาชุดของไหว้ โดยหากใครเอารูปปั้นไก่ไปถวายทางเจ้าหน้าที่แนะนำว่าให้เอาออกไปปล่อย (ซึ่งเราก็เอาไปตั้งด้านนอกก่อนไปจุดประทัด)

เสร็จพิธี เราเอาประทัดไปจุดด้านหลังใกล้ๆลานจอดรถ ให้เจ้าหน้าที่จุดให้ ทำบุญตามกำลัง และเดินทางต่อ
เราไปกันต่อที่วัดยางใหญ่ เพราะเมื่อมาแล้วก็ลองไปไหว้ตาพรานบุญ โบสต์สีชมพู กันซะหน่อย ก่อนเข้าตัวเมืองไปทานข้าวเที่ยง
เดินทางประมาณ 31 กม. หรือประมาณ 45 นาที (เผื่อรถติดเล็กๆ) ก็ถึงวัดยางใหญ่ เราเข้ามาซื้อธูปเทียนเพื่อไหว้พระ ต่อด้วยไหว้และถวายเครื่องบูชาตาพรานบุญซึ่งทางวัดมีจำหน่าย

เน้นลงรูปนะคะ เนื่องจากข้อมูลต่างๆประกอบอาจจะไม่แน่น แถมกลัวให้ข้อมูลผิดๆถูกๆค่ะ ตามประสาคนชอบเที่ยวตัวแม่แต่ไม่เป๊ะปัง
เอาล่ะค่ะ เมื่อไหว้พระขอพรกันมาพอสมควรก็เริ่มหิวกันสุดๆแล้ว และเราตั้งใจจะตรงเข้าตัวเมืองเพื่อไปไหว้พระธาตุต่อ เราก็เลยแพลนมาร้านขนมจีนเส้นสดฯ  ที่ร้านขนมจีนเมืองคอน ริมคลอง
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 43 กม. (ประมาณเกือบชั่วโมงค่ะ) ก็มาถึงร้านแบบฝนเพิ่งหยุด วันนี้สงสัยมาสายมูฯ เลยโชคดีมากๆที่ไปไหนก็ไม่ค่อยร้อน ไม่เปียก และไหว้พระและทำกิจกรรมได้แบบชิลๆเลย

อิ่ม อร่อย ให้เยอะ ไม่แพง บริการน่ารัก บรรยากาศดี ห้องน้ำสะอาด เอาใจไปเลยค่ะร้านนี้ สรุปสั่งมาเยอะเกิน ทานกันไม่หมด และเริ่มง่วง ประกอบกับคิดว่าฝนน่าจะมาหนัก เราเลยออกเดินทางเข้าเมืองกันค่ะ
ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีหรือประมาณ 8 กม. ก็มาถึงวัดพระมหาธาตุฯ นครศรีธรรมราช
เราเดินไปไหว้พระ ทำบุญ ถวายผ้าฯ ตรงหน้าพระธาตุเสร็จ เราก็เดินไปไหว้และขอพรองค์จตุคามรามเทพ 

เรามีเวลาเหลือเล็กน้อย เลยแวะซื้อของฝากแถวๆวัด
และด้วยความง่วงระดับนึงที่นอนแทบไม่หลับก่อนจะมาถึงสนามบินก่อนตี4 เลยคิดว่าจะหาร้านกาแฟสั่งและขอตากแอร์เล็กๆ
เสิร์ชเจอร้านนี้ค่ะ ร้านกินขะหนม อยู่ห่างวัดพระธาตุแค่ 2.4 กม. และคิดว่าทั้งเวลาและกระเพาะ เราคงแวะร้านจริงจังกว่านี้ไม่ได้

มัวแต่ถ่ายรูปกันเพลินค่ะ เลยลืมถ่ายบรรยากาศร้าน ร้านนี้ใช้ได้ค่ะ ร้านสวย บรรยากาศดี เมนูดูน่ากิน แต่เรา2คนไม่ไหวกันแล้ว และดูเวลาแล้วน่าจะต้องรีบบึ่งไปสนามบินเพื่อเวะเติมน้ำมันก่อนคืนรถ และรอไฟล์ทกลับกทม.กันค่ะ
ใช้เวลามาถึงสนามบิน 20 นาทีค่ะ เราซื้อของฝากที่สนามบินและคืนรถ

ขากลับ เราบินกับ AirAsia 18.35 และจะถึงดอนเมือง 19.50 น. ซึ่งกัปตันขับนิ่มมาก ถึงสนามบินก่อนเวลาสักพัก
เรากลับถึงบ้านกันด้วยความเพลีย แต่รู้สึกสนุกและรู้สึกว่าความมูฯ ในวันนี้ของเราจะช่วยบางอย่างกับเราได้
และก็จริง อย่างน้อย ความรู้สึกมั่นใจเล็กๆ ความที่หัวไม่ต้องจดจ่อกับงานที่ทำหรือภาระต่างๆ เพราะต้องดูเส้นทาง ขับรถ และเลือกเพลงที่ชอบเปิดตลอดเส้นทาง มันทำให้เราได้ชาร์จพลังเล็กๆ ให้สมองพร้อมรับอะไรใหม่ๆ 
และการได้กล่าวอวยพรสาธุส่งบุญถึงครอบครัว คนรอบข้าง (รวมถึงคนอ่านกระทู้นี้ด้วย) หวังให้ทุกคนจะมีสุขภาพแข็งแรงตลอดปี 2022 และปีต่อๆไป 
ก็เป็นทริปที่มีความสุขมากๆค่ะ
วันเดียวก็เที่ยวไกลๆได้นะคะ