วัดเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช หรือที่ใครๆต่างก็รู้จักกันดีเพราะมีคุณไข่ (ไอ้ไข่) ให้โชค ผู้คนต่างก็ขอพรแล้วได้จริง เลยต้องมากราบไหว้แก้บน ถวายสิ่งของให้ตามที่เคยพูดเคยขอไว้ แต่สำหรับเรา (ผู้เขียนและแฟน) ที่ได้มากราบไหว้ แก้บนในครั้งนี้ไม่ได้มาแก้ให้ตัวเองนะคะ แต่เรามาแก้บนให้แม่สามีค่ะ เพราะท่านบนไว้แล้วบอกว่าถ้าได้จะให้ลูกให้หลานไปแก้ จึงเป็นเหตุให้ได้เขียนรีวิวนี้ขึ้นมาหวังเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่กำลังหาข้อมูลกันนะคะ

เริ่มจากการไม่รู้อะไรเลยกันดีกว่า เพราะยังไม่เคยไปเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราชมาก่อนเลยต้องเปิดแผนที่ประเทศไทยดู
รวมถึงปักหมุดระยะทางจาก กทม.- นครศรีฯ แม่เจ้าหลายร้อยกิโลฯ เลยตัดสินใจนั่งเครื่องบินแบบไปเช้า-เย็นกลับ

อย่างที่บอกว่าเป็นการมาเพื่อแก้บนแทนแม่สามีเพราะฉะนั้นงานนี้ก็ถือว่ามาฟรีได้ทั้งทำภาระกิจและเที่ยวด้วยในตัว อิอิ พอดีเป็นคนชอบวางแผนแบบรัดกุมอยู่แล้วงานนี้จึงมีงานจองทุกอย่างไว้พร้อมก่อนออกเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตั๋วเครื่องบิน กฏระเบียบต่างๆในช่วงโควิดระบาดและรวมถึงเรื่องรถเช่า (มีแจกแจงค่าใช้จ่ายอยู่ท้ายรีวิวนะจ๊ะ)

08.05 น. ดอนเมือง-นครศรีฯ ใช้เวลาบิน 1 ชม.นิดๆเองค่ะ โชคดีมากที่เที่ยวนี้ไม่ดีเลย์ เนื่องจากว่าได้จองรถเช่าพร้อมคนขับไว้แล้ว
พอเครื่องจอดปุ๊บพี่เขาก็รีบโทรมาหาเราปั๊บเลย ดีงามมาก
09.30 น. หลังจากลงเครื่อง เจอพี่คนขับแล้วพวกเราก็มุ่งหน้ามายังวัดเจดีย์กันเลยแบบไม่มีแวะทานข้าวเช้าเพราะเราได้กินรองท้องมาแล้วที่สนามบิน
ได้ของตามที่ต้องการแล้วก็เข้าวัดกันเลย คือจะบอกว่าวัดกว้างและใหญ่มาก นี่แค่นั่งอยู่ในรถนะคะยังไม่ได้ไปถึงข้างในวัด
มีธูปขายด้วย ขอเสี่ยงดวงกับเขาหน่อยละกันเผื่อจะมีโชคลาภบ้าง
ภาพด้านล่างนี้คือทางเข้าวัดนะคะ ถ่ายรูปจากในรถเพราะตื่นตามากพี่ไก่แต่ละตัวคือสวยงามระยิบระยับเชียว พี่โชเฟอร์บอกว่า
ถ้าไก่ที่เขาเอามาถวายตัวไหนสวยๆแพงๆจะได้ตั้งโชว์แบบนี้ สืบราคามาแล้วแต่ละตัวนั้นไม่ธรรมดาเลยนะ เลขหกหลักก็มี

ไก่เงิน ไก่ทอง ถูกตั้งเรียงรายอย่างสวยงาม พร้อมกับป้ายแขวนสีน้ำเงินคือชื่อของคนที่นำมาถวาย

เนื่องจากว่าช่วงนี้มีโควิดวัดจึงดูเงียบสงบกว่าช่วงเวลาปกติ พี่โชเฟอร์บอกว่าปกติเนี่ยะคนมาแก้บนกันเยอะมาก ลานจอดรถที่ว่ากว้างนี้คือแคบไปเลย
คนที่พาลูกค้าหรือลูกทัวร์มาได้แค่ขับรถเข้ามาส่งแล้วต้องออกไปหาที่จอดรถข้างนอกเพราะลานจอดรถเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวจอด แต่วันนี้ทุกอย่างโล่ง

พี่โชเฟอร์มาส่งเราที่ลานจอดรถด้านหลังวัด แล้วเราสองคนก็เดินเข้ามาในวัดตามป้ายบอกทางมาเรื่อยๆ
จนมาเจอจุดถวายสิ่งของแก้บน พร้อมกับมีรูปไอ้ไข่และคาถาบูชา

เราก็ได้จัดแจงถวายและบอกกล่าวตามคำที่แม่สามีฝากมาเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการมาแก้บนให้ใช้ะธูป 1 ดอก
ส่วนการขอพรนั้นให้ใช้ธูป 3 ดอกค่ะ (งานนี้พอจบจาก 1 ดอกก็มี 3 ดอกตามมาด้วยแนะ อิอิ)

บรรยากาศของเช้านี้ก็ตามภาพเลยค่ะ ถ่ายรูปไม่ติดคนเลยเพราะคนมาน้อยมาก เท่าที่ถามคือช่วงนี้ก็มีผู้คนทยอยมากันเรื่อยๆแต่น้อยกว่าปกติ
เสร็จจากการทำปะทัดไปถวายแล้ว เราก็ถือปะทัดออกมาเพื่อนำไปจุดยังจุดที่เขาจุดปะทัด
ซึ่งตรงนั้นก็มีพี่เจ้าหน้าที่ของทางวัดเขาบริการอยู่ เราก็ให้สินน้ำใจเขาไป หรือถ้าใคร่จะจุดเองก็ได้
โดยปกติเห็นพี่เขาบอกว่าจุดทุก 30 นาที ถ้าเวลาที่เรามานั้นยังไม่ใช่ก็ต้องรอ แต่พอดีแม่สามีกำชับมาว่า “อย่าลืมถ่ายคลิปจุดปะทัดมาให้แม่ด้วยนะ”
พี่เขาก็เลยจัดให้ น่ารักที่สุด ปล.อย่าลืมสินน้ำใจให้พี่ๆเขาด้วยนะคะ

เสร็จพิธีแล้วมาลุ้นโชคกันหน่อย..มีรางวัลรออยู่เพียบสำหรับขาออกจากวัด เชิญหยิบจับแล้วจ่ายตังค์กันได้เลยจ้า
ก่อนที่จะออกจากวัดพี่โชเฟอร์ใจดีก็พาเราไปดูลานปล่อยไก่ ซึ่งเป็นที่ดินที่ทางเจ้าอาวาสได้ซื้อมาเพื่อ
เป็นจุดปล่อยไก่ในการแก้บนโดยเฉพาะ คือไก่เยอะมาก

10.40 น. จบจากลานไก่พวกเราจะมุ่งหน้าเข้าในเมืองกันละนะ ใช้เวลากับที่วัดนี้ประมาณชั่วโมงกว่าๆได้กับการแก้บน
ไหว้พระ ทำบุญ ซื้อล๊อตเตอรี่ ภาคบ่ายนี้เราจะว๊าปไปที่ไหนกันได้บ้างในเวลาอันน้อยนิด ตามมาดูกันต่อเลยค่า

11.30 น.เข้ามาถึงตัวเมืองนคร เราขอให้พี่โชเฟอร์แนะนำร้านอาหารเด็ดๆเพราะท้องร้องจ๊อกๆแล้ว
พี่เขาก็เลยพามาร้าน “ขนมจีนเมืองคอน” ซึ่งมีครบทั้งของคาว ของหวาน อาหาร กับข้าว ขนมจีน

ภายในร้านดูเรียบง่าย สะอาดตา กลิ่นอาหารโชยมาแล้วท้องเอ๋ย..เราเลือกทานข้าวสวยกับอาหาร 3 อย่างตามภาพ คือบอกเลยว่าโอเคมาก รสชาติอร่อย แล้วที่ชอบมากคือมีผักให้เป็นถาดเลย เด็ดสุดก็คงจะเป็นผักบุ้งลวกราดด้วยน้ำกะทิ อันนี้แปลกตาเพราะเพิ่งเคยทานครั้งแรก แต่ที่ไม่ตกใจเพราะ
พี่โชเฟอร์เล่าให้ฟังแล้วว่าทางใต้จะทานแบบนี้กันเพราะเขามีกะทิเยอะนั่นเองจ้า
ร้านโล่ง กว้าง ลมโกรกดีมาก ไม่แออัด มีโต๊ะเยอะเลย คาดว่าถ้าเป็นช่วงเวลาปกติคนคงแน่นร้านแน่ๆเลย

12.00 น. ท้องอิ่มแล้วก็มาลุยกันต่อกับเวลาที่ยังมีเหลืออยู่ ปักหมุดวัดพระธาตุหรือชื่อเต็มวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก
จากร้านขนมจีนเมืองคอนมาถึงวัดพระธาตุนี้ก็แป๊บเดียวเองค่ะเพราะพี่โชเฟอรืเขาชำนาญเส้นทาง เราก็เลยหายห่วง

ด้วยเวลาอันจำกัด เราสองคนก็รีบมุ่งหน้าไปยังทางเข้าเพื่อจะบูชาดอกไม้ ธูปเทียน เพื่อไปกราบไหว้
หลังจากนั้นก็เดินชมด้านในไปหนึ่งรอบ เสร็จแล้วก็เดินออกมาด้วยคอนเซ็ปทริปโฉบ

ยังค่ะ ยังไม่จบทริป อีกหนึ่งสถานที่สำคัญของจังหวัดที่ไม่ควรพลาดนั่นคือศาลหลักเมืองค่ะ เราสองคนก็ไม่รีรอที่จะเข้าไปกราบไหว้
ซึ่งสถานที่แต่ละจุดนี้ถ้าเราต้องเช่ารถขับเองบอกเลยว่าอาจจะทำเวลาได้ไม่ดีแน่ๆเพราะเราไม่ชินทาง แต่พอได้รถพร้อมคนขับแบบนี้คือสะดวก

จริงๆศาลหลักเมืองเป็นจุดสุดท้ายละที่เราจะมาไหว้ แล้วก็คิดว่าคงเข้าสนามบินเลยเพราะเราก็ถือว่าโอเคแล้วกับวันนี้
แต่พอพี่โชเฟอร์ขับรถผ่านร้านโกปิ๊ พี่เขาก็บอกว่าร้านนี้อร่อย ด้วยความปากไวของเราเลยรีบสวนกลับ “แวะเลยพี่”
แค่นั้นแหละ พี่เขาก็รีบเลี้ยวเข้าร้านได้ทันเวลา สมปราถนาของเราเลย


บรรยากาศของร้าน โกปิ๊ สาขาศาลากลาง คือน่ารักมาก ร้านน่านั่ง น่าถ่ายรูปเพราะมีแต่มุมสวยๆแบบโบราณ

มาแล้วเมนูที่พี่เขาแนะนำ ชานม..ชิมแล้วชอบเลย รับรู้ได้ถึงความเป็นใบชา ส่วนกลิ่นนั้นก็หอมชวนให้หลงไหลมาก ไม่ผิดหวังจริงๆที่ตัดสินใจแวะ


ใจจริงอยากจะทานโรตีด้วยแต่เขามีขายรอบเย็น เราก็เลยจัดขนมจีบหมูกับขนมจีบกุ้งมาแทน

มุมของฝากก็มีทั้งชาและกาแฟ

13.30 น. กลับจริงๆละรอบนี้ ออกจากร้านโกปิ๊ สาขาศาลากลางแล้วพี่โชเฟอร์ก็พามุ่งหน้าไปยังสนามบินกันเลย
รวมๆแล้วก็ถือว่าทำเวลาได้ดีมาก เพราะนอกจากจะได้ไปแก้บนแล้วเรายังได้ทานอาหารอร่อย ไหว้พระ ทำบุญ

ค่าเสียหายที่ร้านโกปิ๊ของเราสองคนคือคุ้มค่าคุ้มราคามากๆเลยค่ะ

เที่ยวบินขากลับก็มาถึงสนามบินดอนเมืองแบบตรงเวลาเป๊ะ ถือว่าเป็นการเดินทางที่โชคดีทั้งไปและกลับกันเลยทีเดียว

ส่วนสรุปค่าใช้จ่ายขอไปแปะไว้ที่คอมมเม้นต์แล้วกันนะคะ พอดีตอนนี้จะครบ 10,000 ตัวอักษรที่พันทิปแล้วค่ะ >>
[CR] [รีวิว] One day trip แก้บนไอ้ไข่ วัดเจดีย์ นครศรีธรรมราช
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้