สวัสดีชาวพันทิปครับ...ทริปล่องใต้ก่อนโควิดรอบ 3 ระบาดเดินทางมาถึงจังหวัดสุดท้ายแล้วนะครับ ผมไม่เคยไปจังหวัดนครศรีธรรมราชมาก่อนนี่ก็เป็นครั้งแรกเลยทำการบ้านเยอะหน่อย เห็นว่าที่เที่ยวเยอะจริงเวลาแค่ 2-3 วันคงเก็บไม่หมดเอาเป็นว่าเที่ยวเท่าที่ได้แล้วกันเก็บไว้สำหรับคราวหน้าบ้าง
กระทู้นี้รวดเดียวจบเหมือนเดิมนะครับ เหมาะกับการนั่งอ่านหลังอาหารเที่ยงเพราะจะหลับสบาย...นอกเรื่องพอแล้วไปกันเลยครับ
ไปจังหวัดเขาก็ต้องไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดก่อน ไปที่แรกที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดคู่บ้านคู่เมืองนครศรีธรรมราช วัดนี้มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่ามีอายุกว่าพันปี โดยเฉพาะฐานรากของพระบรมธาตุที่มีความเกี่ยวข้องกับอาณาจักรศรีวิชัย
จุดเด่นของวัดคงเป็นพระบรมธาตุเจดีย์ เป็นทรงระฆังคว่ำ ยอดเจดีย์เป็นทองคำและมีของมีค่าที่ผู้มีจิตรศรัทธานำมาถวาย รอบนอกของวัดมีคนบริการกล้องให้ส่องยอดเจดีย์ด้วยนะครับ ส่วนเจดีย์บริวารมีทั้งหมด 149 องค์เป็นเจดีย์ที่ลูกหลานสร้างไว้บรรจุอัฐิของผู้เสียชีวิต ไม่แน่ใจว่าเป็นแนวเดียวกับเจดีย์ที่อยู่ตามป่าช้าของวัดโดยทั่วไปหรือเปล่า เพราะผมก็ไม่เคยเห็นเจดีย์ที่สร้างล้อมเจดีย์ประธานแบบนี้
ด้านนอกของวัดมีตลาดขายของที่ระลึกเล็กๆที่มีของพื้นเมืองรวมถึงของอื่นๆจำหน่ายอยู่ ขนมอย่างหนึ่งที่มีจำหน่ายคือ เม็ดมะม่วงหิมพานต์กวนกับน้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลโตนดเรียกว่า “หัวครกหราน้ำผึ้ง” วางบนใบมะม่วงหิมพานต์ ใบมะม่วงที่รองไว้ทานไม่ได้นะครับ ส่วนที่เรียกว่าน้ำผึ้งเพราะภาษาใต้โบราณเรียกสิ่งที่ให้ความหวานว่าน้ำผึ้ง ส่วนรสชาติก็หวานเลยครับ เม็ดมะม่วงออกแนวหนึบติดฟันไม่กรอบ อารมณ์เหมือนถั่วตัดแต่ไม่แห้งและแข็งขนาดนั้น...ตอนที่ซื้อถามแม่ค้าว่ามี “มังคุดคัด” หรือเปล่าที่เป็นมังคุดเสียบไม้ แม่ค้าตอบกลับแบบเรียบๆว่า “ไม่ใช่ฤดูมันจ๊ะหนู” จบข่าว
เลยจากวัดพระมหาธาตุมาประมาณ 2 กม.ก็แวะไหว้ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชเสียหน่อย ผมว่าเป็นศาลหลักเมืองที่สวยงามโดดเด่นทีเดียว อาคารสีขาว 5 หลังสะท้อนแดดเห็นแต่ไกล
อาคารตรงกลางเป็นศิลปะศรีวิชัย เรียกว่าทรงเหมชาลา ภายในประดิษฐานเสาหลักเมือง วันที่ผมไปภายในมีทำพิธีอะไรสักอย่างอยู่ เลยไม่ได้ถ่ายภาพข้างในมา ส่วนอาคารหลังเล็กกว่าที่อยู่ตรงมุมทั้ง 4 เรียกว่าศาลาจตุโลกเทพ ประกอบไปด้วย ศาลทรงเมือง พระเสื้อเมือง ศาลพรบันดาลเมือง ศาลพระพรหมเมือง
องค์เสาหลักเมืองเป็นไม้ตะเคียนทอง ส่วนบนของเสาเป็นรูปจตุคามรามเทพ พอรู้เรื่องนี้เลยหาข้อมูลต่อได้ความว่านครศรีธรรมราชเป็นต้นกำเนิดของเหรียณจตุคามรามเทพที่คนนิยมสักการะกันอยู่ช่วงหนึ่ง
เดินจากศาลหลักเมืองไปหน่อยเป็นแนวกำแพงเมือง แต่ไม่ใช่ของเดิมทั้งหมดเห็นว่ามีการซ่อมแซมบูรณะอยู่เรื่อยๆ ตามประวัติบอกว่า สมเด็จพระราเมศวรแห่งกรุงศรีอยุธยาตีล้านนาแล้วต้อนผู้คนมาที่นี่(มาไกลจัง) ชาวล้านนาจึงเอาแบบอย่างกำแพงเมืองเชียงใหม่มาบูรณะที่นี่ จากนั้นก็ปรับปรุงบูรณะมาอีกหลายครั้ง เช่นการก่ออิฐแบบโปรตุเกส ส่วนกำแพงเมืองแบบในปัจจุบันได้อิทธิพลมาจากช่างชาวฝรั่งเศส
ก่อนจะไปเช็คอินโรงแรม ระหว่างทางก็ดันหิวซะเห็นข้างทางมีขายหอยทอดรถจอดซื้อกันหลายคันเลยแวะทานเสียหน่อย ชื่อร้านแม่เล็กเพชรบุรีแต่น่าจะอยู่ที่นครศรีฯมานานแล้วเพราะบอกเป็นเจ้าเก่า
ราคาอาหารเริ่มต้นที่ 15 บาท แต่ปริมาณก็ตามราคานะครับไม่ได้เยอะมากถ้าคนกินเก่งนี่จานเดียวเอาไม่อยู่แน่นอน รสชาติใช้ได้ครับผัดไทยหวานนำเครื่องที่ใส่มาให้ก็พอประมาณ ส่วนหอยทอดแป้งกรอบดีปริมาณหอยไม่เยอะนัก โดยรวมก็ถือว่าพอได้ครับ...แต่ไม่อิ่มอ่ะ
แวะทานอะไรหนักๆหน่อยที่ร้าน “โกปี๊” นี่แล้วกัน ร้านนี้เป็นร้านดังที่มีสาขาอยู่ในนครศรีธรรมราชหลายสาขาเลยครับ ประวัติร้านก็ประมาณว่าเจ้าของเป็นชาวจีนเดิน แบกเสื่อผืนหมอนใบไปสิงค์โปร์ทำงานแบกหามอยู่ที่ท่าเรือ บังเอิญแบกหามกาแฟใส่รถบรรทุกเจ้าของโรงงานคั่วกาแฟสนทนาถูกคอเลยชวนไปทำงานด้วยเป็นคนงานคั่วกาแฟ
เวลาผ่านไปท่านได้เดินทางมาที่นครศรีธรรมราชเข้าทำงานในโรงงานเหมืองแร่ของฝรั่งเพราะมีความรู้เรื่องภาษาอังกฤษอยู่บ้าง ทำงานเป็นกุ๊กทำอาหาร พอสงครามโลกครั้งที่ 2 นายฝรั่งกลับประเทศไปท่านเลยไปเปิดร้านกาแฟเองชื่อ “กาแฟตังหนำ” และโด่งดังขึ้นจนเปิดโรงคั่วกาแฟเอง
เจ้าของร้านโกปี๊ปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 3 แล้วครับคอยดูแลกิจการให้เติบโตต่อไป
ในร้านเป็นแบบเรียบง่าย อารมณ์ร้านสภากาแฟแต่ใหญ่กว่ามากมีทั้งห้องแบบเปิดโล่งกับห้องติดเครื่องปรับอากาศ เป็นร้านที่นั่งแบบสบายๆไม่มีพิธีรีตองอะไรเยอะแยะ แต่มีมุมเก๋ๆอยู่หลายมุมเหมือนกันครับใครชอบถ่ายรูปหามุมได้ไม่ยาก
สั่งมาเต็มโต๊ะเหมือนเมื่อกี้ไม่ได้ทานอะไรมา ประกอบไปด้วยขาหมู ข้าวมัสมั่นไก่ บักกุ๊ดเต๋ ซาลาเปา อิ่มแน่นอน เนื้อขาหมูค่อนข้างนุ่ม ไม่เป็นเสี้ยน รสชาติเค็มนำ โดยรวมไม่ได้ต่างจากขาหมูทั่วๆไป ที่ชอบคือบักกุ๊ดเต๋ หอมกลิ่นเครื่องเทศมากๆแต่ถ้าคนไม่ชอบอาจจะรู้สึกว่าฉุนเกินไป เนื้อกระดูกหมูร่อนดีพอสมควร ซดน้ำซุบชุ่มคอดีจริงๆ ซาลาเปาที่แปลกหน่อยเป็นซาลาเปาชาโคลชาไทย ไม่รู้สึกถึงชาโคลเท่าไหร่ แต่ชาไทยนี่ได้เต็มๆ รวมๆมันก็เหมือนกินหมั่นโถวจิ้มชาไทย รวมๆมื้อนี้รสชาติกลางๆเน้นทานง่าย อาหารหลากหลายดีครับ
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
หากชอบการรีวิวของผม ไปดูรีวิวที่ผมทำไว้ในช่องทางอื่นๆได้นะครับ แนะนำ คอมเม้นท์ตามสบายครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------
Youtube:
https://www.youtube.com/channel/UC6Zil4A2qZK5-GcNPFI3Lcg
Website:
https://www.gate1terminal1.com/
Instagram:
https://www.instagram.com/gate1_terminal1
Facebook:
https://www.facebook.com/followmeonearth/
[CR] รีวิว...นครศรีธรรมราช ไหว้พระขอพร ทานของอร่อยแล้วไปนอนริมทะเล
สวัสดีชาวพันทิปครับ...ทริปล่องใต้ก่อนโควิดรอบ 3 ระบาดเดินทางมาถึงจังหวัดสุดท้ายแล้วนะครับ ผมไม่เคยไปจังหวัดนครศรีธรรมราชมาก่อนนี่ก็เป็นครั้งแรกเลยทำการบ้านเยอะหน่อย เห็นว่าที่เที่ยวเยอะจริงเวลาแค่ 2-3 วันคงเก็บไม่หมดเอาเป็นว่าเที่ยวเท่าที่ได้แล้วกันเก็บไว้สำหรับคราวหน้าบ้าง
กระทู้นี้รวดเดียวจบเหมือนเดิมนะครับ เหมาะกับการนั่งอ่านหลังอาหารเที่ยงเพราะจะหลับสบาย...นอกเรื่องพอแล้วไปกันเลยครับ
ไปจังหวัดเขาก็ต้องไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดก่อน ไปที่แรกที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดคู่บ้านคู่เมืองนครศรีธรรมราช วัดนี้มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่ามีอายุกว่าพันปี โดยเฉพาะฐานรากของพระบรมธาตุที่มีความเกี่ยวข้องกับอาณาจักรศรีวิชัย
จุดเด่นของวัดคงเป็นพระบรมธาตุเจดีย์ เป็นทรงระฆังคว่ำ ยอดเจดีย์เป็นทองคำและมีของมีค่าที่ผู้มีจิตรศรัทธานำมาถวาย รอบนอกของวัดมีคนบริการกล้องให้ส่องยอดเจดีย์ด้วยนะครับ ส่วนเจดีย์บริวารมีทั้งหมด 149 องค์เป็นเจดีย์ที่ลูกหลานสร้างไว้บรรจุอัฐิของผู้เสียชีวิต ไม่แน่ใจว่าเป็นแนวเดียวกับเจดีย์ที่อยู่ตามป่าช้าของวัดโดยทั่วไปหรือเปล่า เพราะผมก็ไม่เคยเห็นเจดีย์ที่สร้างล้อมเจดีย์ประธานแบบนี้
ด้านนอกของวัดมีตลาดขายของที่ระลึกเล็กๆที่มีของพื้นเมืองรวมถึงของอื่นๆจำหน่ายอยู่ ขนมอย่างหนึ่งที่มีจำหน่ายคือ เม็ดมะม่วงหิมพานต์กวนกับน้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลโตนดเรียกว่า “หัวครกหราน้ำผึ้ง” วางบนใบมะม่วงหิมพานต์ ใบมะม่วงที่รองไว้ทานไม่ได้นะครับ ส่วนที่เรียกว่าน้ำผึ้งเพราะภาษาใต้โบราณเรียกสิ่งที่ให้ความหวานว่าน้ำผึ้ง ส่วนรสชาติก็หวานเลยครับ เม็ดมะม่วงออกแนวหนึบติดฟันไม่กรอบ อารมณ์เหมือนถั่วตัดแต่ไม่แห้งและแข็งขนาดนั้น...ตอนที่ซื้อถามแม่ค้าว่ามี “มังคุดคัด” หรือเปล่าที่เป็นมังคุดเสียบไม้ แม่ค้าตอบกลับแบบเรียบๆว่า “ไม่ใช่ฤดูมันจ๊ะหนู” จบข่าว
เลยจากวัดพระมหาธาตุมาประมาณ 2 กม.ก็แวะไหว้ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชเสียหน่อย ผมว่าเป็นศาลหลักเมืองที่สวยงามโดดเด่นทีเดียว อาคารสีขาว 5 หลังสะท้อนแดดเห็นแต่ไกล
อาคารตรงกลางเป็นศิลปะศรีวิชัย เรียกว่าทรงเหมชาลา ภายในประดิษฐานเสาหลักเมือง วันที่ผมไปภายในมีทำพิธีอะไรสักอย่างอยู่ เลยไม่ได้ถ่ายภาพข้างในมา ส่วนอาคารหลังเล็กกว่าที่อยู่ตรงมุมทั้ง 4 เรียกว่าศาลาจตุโลกเทพ ประกอบไปด้วย ศาลทรงเมือง พระเสื้อเมือง ศาลพรบันดาลเมือง ศาลพระพรหมเมือง
องค์เสาหลักเมืองเป็นไม้ตะเคียนทอง ส่วนบนของเสาเป็นรูปจตุคามรามเทพ พอรู้เรื่องนี้เลยหาข้อมูลต่อได้ความว่านครศรีธรรมราชเป็นต้นกำเนิดของเหรียณจตุคามรามเทพที่คนนิยมสักการะกันอยู่ช่วงหนึ่ง
เดินจากศาลหลักเมืองไปหน่อยเป็นแนวกำแพงเมือง แต่ไม่ใช่ของเดิมทั้งหมดเห็นว่ามีการซ่อมแซมบูรณะอยู่เรื่อยๆ ตามประวัติบอกว่า สมเด็จพระราเมศวรแห่งกรุงศรีอยุธยาตีล้านนาแล้วต้อนผู้คนมาที่นี่(มาไกลจัง) ชาวล้านนาจึงเอาแบบอย่างกำแพงเมืองเชียงใหม่มาบูรณะที่นี่ จากนั้นก็ปรับปรุงบูรณะมาอีกหลายครั้ง เช่นการก่ออิฐแบบโปรตุเกส ส่วนกำแพงเมืองแบบในปัจจุบันได้อิทธิพลมาจากช่างชาวฝรั่งเศส
ก่อนจะไปเช็คอินโรงแรม ระหว่างทางก็ดันหิวซะเห็นข้างทางมีขายหอยทอดรถจอดซื้อกันหลายคันเลยแวะทานเสียหน่อย ชื่อร้านแม่เล็กเพชรบุรีแต่น่าจะอยู่ที่นครศรีฯมานานแล้วเพราะบอกเป็นเจ้าเก่า
ราคาอาหารเริ่มต้นที่ 15 บาท แต่ปริมาณก็ตามราคานะครับไม่ได้เยอะมากถ้าคนกินเก่งนี่จานเดียวเอาไม่อยู่แน่นอน รสชาติใช้ได้ครับผัดไทยหวานนำเครื่องที่ใส่มาให้ก็พอประมาณ ส่วนหอยทอดแป้งกรอบดีปริมาณหอยไม่เยอะนัก โดยรวมก็ถือว่าพอได้ครับ...แต่ไม่อิ่มอ่ะ
แวะทานอะไรหนักๆหน่อยที่ร้าน “โกปี๊” นี่แล้วกัน ร้านนี้เป็นร้านดังที่มีสาขาอยู่ในนครศรีธรรมราชหลายสาขาเลยครับ ประวัติร้านก็ประมาณว่าเจ้าของเป็นชาวจีนเดิน แบกเสื่อผืนหมอนใบไปสิงค์โปร์ทำงานแบกหามอยู่ที่ท่าเรือ บังเอิญแบกหามกาแฟใส่รถบรรทุกเจ้าของโรงงานคั่วกาแฟสนทนาถูกคอเลยชวนไปทำงานด้วยเป็นคนงานคั่วกาแฟ
เวลาผ่านไปท่านได้เดินทางมาที่นครศรีธรรมราชเข้าทำงานในโรงงานเหมืองแร่ของฝรั่งเพราะมีความรู้เรื่องภาษาอังกฤษอยู่บ้าง ทำงานเป็นกุ๊กทำอาหาร พอสงครามโลกครั้งที่ 2 นายฝรั่งกลับประเทศไปท่านเลยไปเปิดร้านกาแฟเองชื่อ “กาแฟตังหนำ” และโด่งดังขึ้นจนเปิดโรงคั่วกาแฟเอง
เจ้าของร้านโกปี๊ปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 3 แล้วครับคอยดูแลกิจการให้เติบโตต่อไป
ในร้านเป็นแบบเรียบง่าย อารมณ์ร้านสภากาแฟแต่ใหญ่กว่ามากมีทั้งห้องแบบเปิดโล่งกับห้องติดเครื่องปรับอากาศ เป็นร้านที่นั่งแบบสบายๆไม่มีพิธีรีตองอะไรเยอะแยะ แต่มีมุมเก๋ๆอยู่หลายมุมเหมือนกันครับใครชอบถ่ายรูปหามุมได้ไม่ยาก
สั่งมาเต็มโต๊ะเหมือนเมื่อกี้ไม่ได้ทานอะไรมา ประกอบไปด้วยขาหมู ข้าวมัสมั่นไก่ บักกุ๊ดเต๋ ซาลาเปา อิ่มแน่นอน เนื้อขาหมูค่อนข้างนุ่ม ไม่เป็นเสี้ยน รสชาติเค็มนำ โดยรวมไม่ได้ต่างจากขาหมูทั่วๆไป ที่ชอบคือบักกุ๊ดเต๋ หอมกลิ่นเครื่องเทศมากๆแต่ถ้าคนไม่ชอบอาจจะรู้สึกว่าฉุนเกินไป เนื้อกระดูกหมูร่อนดีพอสมควร ซดน้ำซุบชุ่มคอดีจริงๆ ซาลาเปาที่แปลกหน่อยเป็นซาลาเปาชาโคลชาไทย ไม่รู้สึกถึงชาโคลเท่าไหร่ แต่ชาไทยนี่ได้เต็มๆ รวมๆมันก็เหมือนกินหมั่นโถวจิ้มชาไทย รวมๆมื้อนี้รสชาติกลางๆเน้นทานง่าย อาหารหลากหลายดีครับ
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
หากชอบการรีวิวของผม ไปดูรีวิวที่ผมทำไว้ในช่องทางอื่นๆได้นะครับ แนะนำ คอมเม้นท์ตามสบายครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UC6Zil4A2qZK5-GcNPFI3Lcg
Website: https://www.gate1terminal1.com/
Instagram: https://www.instagram.com/gate1_terminal1
Facebook: https://www.facebook.com/followmeonearth/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น