หัวหน้าผู้ฝึกสอน มีความสำคัญอย่างไรต่อวงการลูกหนังไทย?
“ผู้ฝึกสอน” คือ ผู้ที่มีหน้าที่ในการกำหนดทิศทางการเล่น รวมถึงคำแนะนำต่าง ๆ ให้กับนักกีฬา หรือเป็น ผู้กำหนดยุทธศาสตร์และวิธีการเล่นของนักกีฬาให้เป็นไปตามเป้าหมาย
ปัจจุบันผู้ที่จะมาทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนในแต่ละระดับได้จะต้องมีไลเซนส์ ตามข้อกำหนดของฝ่ายจัดการแข่งขันของแต่ละทัวร์นาเมนต์ อาทิ การแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพภายในประเทศไทย จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของ บริษัทไทย ลีก จำกัด
ส่วน ทัวร์นาเมนต์ ในระดับนานาชาติจะยึด กฎระเบียบของ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) หรือ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า)
ตลอด 5 ปี ที่ผ่านมา สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายใต้การบริหารงานของ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เดินหน้าพัฒนา ยกระดับบุคลากรผู้ฝึกสอนฟุตบอล ระดับต่างๆ โดยการเปิดคอร์สการอบรมหลักสูตร ขั้นพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง เป้าหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพและปริมาณผู้ฝึกสอนในระดับต่างๆ เข้าสู่ระบบฟุตบอลไทย ให้มีการพัฒนานักกีฬา อย่างถูกต้องมั่นคง และยั่งยืน
ในปี 2565 ฝ่ายอบรมผู้ฝึกสอน สมาคมฯ มีแผนที่จะเปิดคอร์สอบรมผู้ฝึกสอน หลักสูตรต่างๆ ดังต่อไปนี้
#G Diploma จำนวน 24 คอร์ส ซึ่งคาดว่าจะผลิตผู้ฝึกสอน เข้าสู่ระบบเพิ่มอีก จำนวน 720 คน ปัจจุบันมีผู้ฝึกสอนทังสิ้น 2,246 คน โดยเมื่อผ่านการอบรมแล้ว จะสามารถทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี
#C Diploma จำนวน 12 คอร์ส ซึ่งคาดว่าจะยกระดับผู้ฝึกสอน จากระดับ #G Diploma ได้เพิ่มอีกจำนวน 288 คน ปัจจุบันมีผู้ฝึกสอนทั้งสิ้น 1,168 คน โดยเมื่อผ่านการอบรมแล้ว จะสามารถทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี และผู้ช่วยผู้ฝึกสอนในระดับไทยลีก 2-3
#B Diploma จำนวน 6 คอร์ส ซึ่งคาดว่าจะยกระดับผู้ฝึกสอน จากระดับ #C Diploma ได้เพิ่มอีกจำนวน 144 คน ปัจจุบันมีผู้ฝึกสอนทังสิ้น 196 คน โดยเมื่อผ่านการอบรมแล้ว จะสามารถทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนเยาวชนทุกรุ่นอายุ และหัวหน้าผู้ฝึกสอนระดับไทยลีก 2-3 ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนในระดับไทยลีก 1
#A Diploma จำนวน 3 คอร์ส ซึ่งคาดว่าจะยกระดับผู้ฝึกสอน จากระดับ #B Diploma ได้เพิ่มอีกจำนวน 72 คน ปัจจุบันมีผู้ฝึกสอนทังสิ้น 121 คน โดยเมื่อผ่านการอบรมแล้ว จะสามารถทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนระดับไทยลีก 1 และ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนฟุตบอลในระดับนานาชาติ
#Goalkeeping Level 1 จำนวน 3 คอร์ส ซึ่งคาดว่าจะยกระดับผู้ฝึกสอน จากระดับ #C Diploma ได้เพิ่มอีกจำนวน 72 คน ปัจจุบันมีผู้ฝึกสอนทังสิ้น 85 คน โดยเมื่อผ่านการอบรมแล้ว จะสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตูระดับเยาวชนและฟุตบอลภายในประเทศ
#Goalkeeping Level 2 จำนวน 1 คอร์ส ซึ่งคาดว่าจะยกระดับผู้ฝึกสอน จากระดับ #Goalkeeping Level 1 ได้เพิ่มอีกจำนวน 24 คน ปัจจุบันมีผู้ฝึกสอนทั้งสิ้น 8 คน โดยเมื่อผ่านการอบรมแล้ว จะสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตูในระดับนานาชาติ
#Condition Level 1 จำนวน 1 คอร์ส ซึ่งนับเป็นคอร์สแรกที่จะจัดขึ้นในประเทศไทย และคาดว่าจะสร้างผู้ฝึกสอน Fitness Level 1 จากระดับ B Diploma ได้เพิ่มอีกจำนวน 24 คน โดยเมื่อผ่านการอบรมแล้ว จะสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนด้านฟิตเนสในฟุตบอลภายในประเทศ
การอบรมดังกล่าว เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ ในการเข้าร่วมโปรเจคต์ AFC Coaching Convention ที่จำเป็นต้องเลื่อนจากปี 2564 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมอบรมผู้ฝึกสอนในระดับต่างๆ สามารถติดตามประกาศรับสมัครผู้เข้าร่วมอบรม ได้ที่
http://fathailand.org/ และ
https://www.facebook.com/CoachingThailand หรือ เบอร์โทร. 065-8155859
อนึ่ง ตลอดช่วงที่ผ่านมา ทางฝ่ายอบรมผู้ฝึกสอนสมาคมฯ มีเป้าหมายที่จะพัฒนารูปแบบการอบรม โดยมีการหารือแนวทาง ที่ปรับให้เข้ากับสถานการณ์คือ การอบรมหลักสูตร G Diploma ในรูปแบบออนไลน์ Online Course ซึ่งได้มีการนำร่อง ใช้ระบบต่างๆกับเจ้าหน้าที่สมาคมฯ และไทยลีก ไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่คอร์สแบบปกติที่จัดอบรม แบบ On-site ก็ยังคงมีอยู่
#FAThailand #Coacheducation
เพจFair
น่าเสียดายที่ปีนี้ไม่มีระดับโปรเลย และดูเหมือนจำนวนคอร์สน่าจะน้อยไปหน่อย หวังว่าจะมีสปอนเซอร์ใจดีมาช่วยสนับสนุนให้เกิดคอร์สอบรมได้เยอะๆ
“หัวหน้าผู้ฝึกสอน” กับความแข็งแกร่งของรากฐานของฟุตบอลไทย ปี 2565
“ผู้ฝึกสอน” คือ ผู้ที่มีหน้าที่ในการกำหนดทิศทางการเล่น รวมถึงคำแนะนำต่าง ๆ ให้กับนักกีฬา หรือเป็น ผู้กำหนดยุทธศาสตร์และวิธีการเล่นของนักกีฬาให้เป็นไปตามเป้าหมาย
ปัจจุบันผู้ที่จะมาทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนในแต่ละระดับได้จะต้องมีไลเซนส์ ตามข้อกำหนดของฝ่ายจัดการแข่งขันของแต่ละทัวร์นาเมนต์ อาทิ การแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพภายในประเทศไทย จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของ บริษัทไทย ลีก จำกัด
ส่วน ทัวร์นาเมนต์ ในระดับนานาชาติจะยึด กฎระเบียบของ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) หรือ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า)
ตลอด 5 ปี ที่ผ่านมา สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายใต้การบริหารงานของ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เดินหน้าพัฒนา ยกระดับบุคลากรผู้ฝึกสอนฟุตบอล ระดับต่างๆ โดยการเปิดคอร์สการอบรมหลักสูตร ขั้นพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง เป้าหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพและปริมาณผู้ฝึกสอนในระดับต่างๆ เข้าสู่ระบบฟุตบอลไทย ให้มีการพัฒนานักกีฬา อย่างถูกต้องมั่นคง และยั่งยืน
ในปี 2565 ฝ่ายอบรมผู้ฝึกสอน สมาคมฯ มีแผนที่จะเปิดคอร์สอบรมผู้ฝึกสอน หลักสูตรต่างๆ ดังต่อไปนี้
#G Diploma จำนวน 24 คอร์ส ซึ่งคาดว่าจะผลิตผู้ฝึกสอน เข้าสู่ระบบเพิ่มอีก จำนวน 720 คน ปัจจุบันมีผู้ฝึกสอนทังสิ้น 2,246 คน โดยเมื่อผ่านการอบรมแล้ว จะสามารถทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี
#C Diploma จำนวน 12 คอร์ส ซึ่งคาดว่าจะยกระดับผู้ฝึกสอน จากระดับ #G Diploma ได้เพิ่มอีกจำนวน 288 คน ปัจจุบันมีผู้ฝึกสอนทั้งสิ้น 1,168 คน โดยเมื่อผ่านการอบรมแล้ว จะสามารถทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี และผู้ช่วยผู้ฝึกสอนในระดับไทยลีก 2-3
#B Diploma จำนวน 6 คอร์ส ซึ่งคาดว่าจะยกระดับผู้ฝึกสอน จากระดับ #C Diploma ได้เพิ่มอีกจำนวน 144 คน ปัจจุบันมีผู้ฝึกสอนทังสิ้น 196 คน โดยเมื่อผ่านการอบรมแล้ว จะสามารถทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนเยาวชนทุกรุ่นอายุ และหัวหน้าผู้ฝึกสอนระดับไทยลีก 2-3 ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนในระดับไทยลีก 1
#A Diploma จำนวน 3 คอร์ส ซึ่งคาดว่าจะยกระดับผู้ฝึกสอน จากระดับ #B Diploma ได้เพิ่มอีกจำนวน 72 คน ปัจจุบันมีผู้ฝึกสอนทังสิ้น 121 คน โดยเมื่อผ่านการอบรมแล้ว จะสามารถทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนระดับไทยลีก 1 และ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนฟุตบอลในระดับนานาชาติ
#Goalkeeping Level 1 จำนวน 3 คอร์ส ซึ่งคาดว่าจะยกระดับผู้ฝึกสอน จากระดับ #C Diploma ได้เพิ่มอีกจำนวน 72 คน ปัจจุบันมีผู้ฝึกสอนทังสิ้น 85 คน โดยเมื่อผ่านการอบรมแล้ว จะสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตูระดับเยาวชนและฟุตบอลภายในประเทศ
#Goalkeeping Level 2 จำนวน 1 คอร์ส ซึ่งคาดว่าจะยกระดับผู้ฝึกสอน จากระดับ #Goalkeeping Level 1 ได้เพิ่มอีกจำนวน 24 คน ปัจจุบันมีผู้ฝึกสอนทั้งสิ้น 8 คน โดยเมื่อผ่านการอบรมแล้ว จะสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตูในระดับนานาชาติ
#Condition Level 1 จำนวน 1 คอร์ส ซึ่งนับเป็นคอร์สแรกที่จะจัดขึ้นในประเทศไทย และคาดว่าจะสร้างผู้ฝึกสอน Fitness Level 1 จากระดับ B Diploma ได้เพิ่มอีกจำนวน 24 คน โดยเมื่อผ่านการอบรมแล้ว จะสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนด้านฟิตเนสในฟุตบอลภายในประเทศ
การอบรมดังกล่าว เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ ในการเข้าร่วมโปรเจคต์ AFC Coaching Convention ที่จำเป็นต้องเลื่อนจากปี 2564 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมอบรมผู้ฝึกสอนในระดับต่างๆ สามารถติดตามประกาศรับสมัครผู้เข้าร่วมอบรม ได้ที่ http://fathailand.org/ และ https://www.facebook.com/CoachingThailand หรือ เบอร์โทร. 065-8155859
อนึ่ง ตลอดช่วงที่ผ่านมา ทางฝ่ายอบรมผู้ฝึกสอนสมาคมฯ มีเป้าหมายที่จะพัฒนารูปแบบการอบรม โดยมีการหารือแนวทาง ที่ปรับให้เข้ากับสถานการณ์คือ การอบรมหลักสูตร G Diploma ในรูปแบบออนไลน์ Online Course ซึ่งได้มีการนำร่อง ใช้ระบบต่างๆกับเจ้าหน้าที่สมาคมฯ และไทยลีก ไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่คอร์สแบบปกติที่จัดอบรม แบบ On-site ก็ยังคงมีอยู่
#FAThailand #Coacheducation
เพจFair
น่าเสียดายที่ปีนี้ไม่มีระดับโปรเลย และดูเหมือนจำนวนคอร์สน่าจะน้อยไปหน่อย หวังว่าจะมีสปอนเซอร์ใจดีมาช่วยสนับสนุนให้เกิดคอร์สอบรมได้เยอะๆ