-------------------------
โซล คี เฮือน นักเตะระดับตำนานของทีมชาติเกาหลีใต้ เผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจเข้าร่วมการอบรมผู้ฝึกสอน หลักสูตร AFC 'Pro' Diploma Coaching Course ที่ประเทศไทย
อดีตแนวรุกที่เคยค้าแข้งในประเทศอังกฤษ กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน, เรดดิ้ง และ ฟูแล่ม เป็น 1 ใน 21 ผู้ฝึกสอน ที่เข้าร่วมอบรมโค้ช โปร ไลเซนส์ รุ่นที่สองของประเทศไทย โดยนอกจากตัวเขาแล้วยังมีผู้ฝึกสอนจากประเทศ ญี่ปุ่น, เวียดนาม มาเลเซีย เข้าร่วมอบรมด้วย
"สาเหตุที่ผมเข้าร่วมการอบรมเป็นเพราะผมกำลังมองหางานใหม่ ที่ใหญ่ขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือตัวผมต้องมีโปร ไลเซนส์ และเนื่องจากการอบรมโปร ไลเซนส์ ที่เกาหลีใต้ ณ ตอนนี้ มันไม่มี ทำให้ผมต้องหาทางที่จะเข้าอบรม ผมก็เลยลองตัดสินใจติดต่อไปที่เอเอฟซี ซึ่งเขาก็แนะนำคอร์ส ที่ประเทศไทยมา" อดีตผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมชาติเกาหลีใต้ ในฟุตบอลโลก 2018 กล่าวเริ่ม
"หลังจากนั้นผมก็ติดต่อโดยตรงมาหา วิทยากร ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ลิม คิม ชอน หัวหน้าฝ่ายอบรมของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และก็ทำให้ผมได้มาเรียน"
"การอบรมนี้ ก็เพิ่งเป็นช่วงแรก ผมก็ยังไม่รู้ว่ามันยังเป็นอย่างไร ระยะทางในการอบรมก็อีกยาวไกล แต่ผมเชื่อว่ามันจะเป็นช่วงเวลาที่ดีในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคนอื่นๆ ที่เข้าร่วมอบรมด้วยกัน เพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆ และนำไปพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น"
"สำหรับสภาพบรรยากาศ ถือว่าดีมาก ไม่หนาว ไม่ร้อนเกินไป สถานที่ต่างๆก็ถือว่ายอดเยี่ยม ทั้งในส่วนของสนามฝึกซ้อม โรงแรมที่พัก รวมถึงห้องประชุมต่างๆ มันดีกว่าที่ผมคิดไว้เยอะมาก ทุกอย่างมันดีจริงๆ รวมถึงอาหารด้วย"
"หากผมได้โปร ไลเซนส์ ผมก็หวังที่จะได้งานที่ยกระดับตัวเองขึ้นไป ส่วนเรื่องทำงานในไทย มันก็มีโอกาส ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ อนาคตไม่มีใครรู้หรอก" อดีตแข้งโสมขาวชุดอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2002 กล่าวปิดท้าย
การอบรมหลักสูตรดังกล่าว ถือเป็นหลักสูตร สูงสุด โดยผู้ที่ผ่านหลักสูตรนี้ จะสามารถทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ อย่างฟุตบอลโลก หรือ ฟุตบอลชิงแชมป์ระดับทวีปเป็นต้น รวมถึงตำแหน่งต่างๆ อาทิ ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคของสโมสร และ ทีมชาติ โดยจะใช้เวลาในการอบรม แบ่งเป็น 4 ช่วง
ช่วงแรก 27 วัน อบรมสองหัวข้อใหญ่คือ
1. ฟิตเนส
2. การฝึกซ้อมในภาคสนาม และ ทฤษฏี
ช่วงที่สอง 23 วัน โดยเป็นการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเก็บเกี่ยวข้อมูลจากประเทศที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จในกีฬา
ฟุตบอล ทั้งจากสโมสร และ ทีมชาติ
ช่วงที่สาม เป็นช่วงระยะเวลาทำงานในรอบ 1 ปี หลังผ่าน 2 ช่วงแรก โดยจะมีการทำรายงานการทำหน้าที่ตลอด 1 ปี ในช่วงเวลาดังกล่าว
ช่วงที่สี่ 30 วัน จะเป็นช่วงเก็บงานทั้งหมด เพื่อมานำเสนอ และทำข้อสอบ
โดยทั้งสี่ช่วงมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 500,000 บาท
https://www.facebook.com/1537015869952132/posts/2247338378919874/
ตำนานทีมชาติเกาหลีใต้ เผยสาเหตุเลือกอบรมโค้ช โปร ไลเซนส์ ที่ประเทศไทย
โซล คี เฮือน นักเตะระดับตำนานของทีมชาติเกาหลีใต้ เผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจเข้าร่วมการอบรมผู้ฝึกสอน หลักสูตร AFC 'Pro' Diploma Coaching Course ที่ประเทศไทย
อดีตแนวรุกที่เคยค้าแข้งในประเทศอังกฤษ กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน, เรดดิ้ง และ ฟูแล่ม เป็น 1 ใน 21 ผู้ฝึกสอน ที่เข้าร่วมอบรมโค้ช โปร ไลเซนส์ รุ่นที่สองของประเทศไทย โดยนอกจากตัวเขาแล้วยังมีผู้ฝึกสอนจากประเทศ ญี่ปุ่น, เวียดนาม มาเลเซีย เข้าร่วมอบรมด้วย
"สาเหตุที่ผมเข้าร่วมการอบรมเป็นเพราะผมกำลังมองหางานใหม่ ที่ใหญ่ขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือตัวผมต้องมีโปร ไลเซนส์ และเนื่องจากการอบรมโปร ไลเซนส์ ที่เกาหลีใต้ ณ ตอนนี้ มันไม่มี ทำให้ผมต้องหาทางที่จะเข้าอบรม ผมก็เลยลองตัดสินใจติดต่อไปที่เอเอฟซี ซึ่งเขาก็แนะนำคอร์ส ที่ประเทศไทยมา" อดีตผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมชาติเกาหลีใต้ ในฟุตบอลโลก 2018 กล่าวเริ่ม
"หลังจากนั้นผมก็ติดต่อโดยตรงมาหา วิทยากร ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ลิม คิม ชอน หัวหน้าฝ่ายอบรมของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และก็ทำให้ผมได้มาเรียน"
"การอบรมนี้ ก็เพิ่งเป็นช่วงแรก ผมก็ยังไม่รู้ว่ามันยังเป็นอย่างไร ระยะทางในการอบรมก็อีกยาวไกล แต่ผมเชื่อว่ามันจะเป็นช่วงเวลาที่ดีในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคนอื่นๆ ที่เข้าร่วมอบรมด้วยกัน เพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆ และนำไปพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น"
"สำหรับสภาพบรรยากาศ ถือว่าดีมาก ไม่หนาว ไม่ร้อนเกินไป สถานที่ต่างๆก็ถือว่ายอดเยี่ยม ทั้งในส่วนของสนามฝึกซ้อม โรงแรมที่พัก รวมถึงห้องประชุมต่างๆ มันดีกว่าที่ผมคิดไว้เยอะมาก ทุกอย่างมันดีจริงๆ รวมถึงอาหารด้วย"
"หากผมได้โปร ไลเซนส์ ผมก็หวังที่จะได้งานที่ยกระดับตัวเองขึ้นไป ส่วนเรื่องทำงานในไทย มันก็มีโอกาส ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ อนาคตไม่มีใครรู้หรอก" อดีตแข้งโสมขาวชุดอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2002 กล่าวปิดท้าย
การอบรมหลักสูตรดังกล่าว ถือเป็นหลักสูตร สูงสุด โดยผู้ที่ผ่านหลักสูตรนี้ จะสามารถทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ อย่างฟุตบอลโลก หรือ ฟุตบอลชิงแชมป์ระดับทวีปเป็นต้น รวมถึงตำแหน่งต่างๆ อาทิ ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคของสโมสร และ ทีมชาติ โดยจะใช้เวลาในการอบรม แบ่งเป็น 4 ช่วง
ช่วงแรก 27 วัน อบรมสองหัวข้อใหญ่คือ
1. ฟิตเนส
2. การฝึกซ้อมในภาคสนาม และ ทฤษฏี
ช่วงที่สอง 23 วัน โดยเป็นการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเก็บเกี่ยวข้อมูลจากประเทศที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จในกีฬา
ฟุตบอล ทั้งจากสโมสร และ ทีมชาติ
ช่วงที่สาม เป็นช่วงระยะเวลาทำงานในรอบ 1 ปี หลังผ่าน 2 ช่วงแรก โดยจะมีการทำรายงานการทำหน้าที่ตลอด 1 ปี ในช่วงเวลาดังกล่าว
ช่วงที่สี่ 30 วัน จะเป็นช่วงเก็บงานทั้งหมด เพื่อมานำเสนอ และทำข้อสอบ
โดยทั้งสี่ช่วงมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 500,000 บาท
https://www.facebook.com/1537015869952132/posts/2247338378919874/