ตอนนี้เราอายุกำลังจะเข้า30 สถาพการเงินครอบครัวเราไม่ดีมาตลอดตั้งแต่เกิด เราต้องช่วยงานที่บ้านมาแต่เล็กจนอายุ18ไปทำงานกรุงเทพทำงานโรงงานได้1ปีรายได้แค่พอใช้และส่งบ้านได้แค่บางเดือนเลยกลับมาเรียนต่อ2ปีโดยทำงานพาสทาม ส่งตัวเองเรียน จบมาทำงานอีก3ปีแต่รู้สึกว่าไม่พอใช้หนี้ครอบครัว ได้แค่ส่งให้แม่กินเดือนละ8-9พันซึ่งเราต้องทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน พอสิ้นปีมาปวดหัวกับหนี้ครอบครัว เลยตัดสินใจไปทำงานต่างประเทศ4ปี เราสามารถจ่ายหนี้นอกระบบหลายแสน หนี้ครอบครัวได้หมดแล้ว เหลือแค่นี้ธนาคารของครอบครัวกับหนี้กยศของตัวเอง กลับมาทำงานที่ไทยแถวบ้านอีก2ปีจนหนี้ธนาคารของครอบครัวเหลือน้อยประมาณ3แสน พอเขาใกล้30เริ่มอยากสร้างอะไรเป็นของตัวเองบ้าง เราไม่มีรถ ไม่มีบ้าน มีแต่มอไซค์ผ่อนหมดแล้วไว้ไปทำงาน รู้สึกเหนื่อยท้อเลยมีความคิดที่อยากจะให้น้องชายมาดูแลหนี้สินครอบครัวต่อบ้างน้องไม่มีหนี้กยศ เพราะไม่กู้มีแค่หนี้มอไซค์แสนกว่าบาทซึ่งโอนเข้าหนี้ครอบครัว เราเคยคิดว่าจะให้น้องเครียร์ต่อเพราะเหลือยอดน้อยแล้ว แต่น้องไม่เครียร์มีแต่บวกยอดทุกปีที่ไม่เครียร์ยอดดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น4-6หมื่น พอเพิ่มเป็นต้นดอกก็จะเพิ่มมาเรื่อยๆ ตอนนี้กังวลว่าคิดผิดไหมที่ปล่อยให้น้องจัดการตอนนี้กำลังคิดว่าปล่อยไปแบบนี้แล้วให้เขาจัดการเอง รึจะให้แฟนช่วยจัดการตรงนี้ให้จบเราก็สงสารแฟนทำงานเหนื่อยแต่ต้องมาดันเราเป็นภาระ3-4ปีนี้เรามีแฟนช่วยค่าใช้จ่ายด้วย ไม่รู้จะตัดสินใจแบบไหน แม่ รึ แฟน ใจนึงก็ส่งสารแฟนแล้วเริ่มแก่แล้วยังไม่เริ่มสร้างครอบครัวกันสักอย่างอนาคตลูกลำบากแน่ถ้ายังไม่เริ่มถ้าจะปล่อยที่เหลือให้แม่กับน้องดูแล้วเขาไม่ทำอะไรกันเลยทบต้นทบดอกกู้เพิ่มไปเรื่ิอย เริ่มเครียดมากแล้วปีนี้ร่างกายก็เริ่มไม่แข็งแรงเหมือนเก่าทำงานเหนื่อยหน่อยก็เป็นลมทุกวัน ถึงจะดูค่อยข้างจะเห็นแก่ตัวแต่ตอนนี้30แล้วนะยังไม่ดีขึ้นสักอย่างมีแต่บวกขึ้นตอนนี้จะเอายังไงดี
จะเอาตัวรอดคนเดียวรึจะแบกครอบครัวไว้ดี