เราจ้างเทรนเนอร์มาได้ 3 เดือนแล้วค่ะ เวทเทรนนิ่ง 3 วัน ต่อสัปดาห์ ตารางออกกำลังก็ เวท 1 ชม. เดินเร็วฮาร์ตเรทประมาณ 120-140 ครึ่ง ชม
เรามีปัญหาหัวเข่าเสื่อมเลยไม่สามารถจะวิ่งได้
เทรนเนอร์ให้กิน 1500 cal แต่เราก็กินเกินบ้าง 1700-1800 บางทีก็ 2000
ดื่มน้ำ 3 ลิตรทุกวัน
ส่วนตัวเรารู้สึกว่าปัจจุบันเรากินโอเค ไม่ขนม ไม่น้ำหวาน ไม่ชอบกินมานานแล้ว
แต่ที่อ้วนน่าจะสะสมมานานและเรากิน นอนไม่เป็นเวลา บางวันทำงานลากยาวๆไปกินมื้อเดียวแน่นๆ และติดดื่มมาหลายปี
ตอนนี้ไม่ดื่มหนักมา 3 ปี นานๆจะดื่มสัก 2 แก้ว นานที่ว่านี่คือหลักเดือน
ตอนนี้พยายามปรับมากิน 4 มื้อได้ประมาณ 6 เดือน
สูง 156 หนัก 78 อายุ 36
เดือนแรกของการออกกำลังการ เราเริ่มต้นที่ น้ำหนัก 77.7 มวลกล้ามเนื้อ 25.9 bodyfat 36.8%
ออกครบ 1 เดือน น้ำหนัก 78.7 มวลกล้ามเนื้อ 26.7 bodyfat 35.7%
ออกครบ 2 เดือน น้ำหนัก 78.1 มวลกล้ามเนื้ัอ 24.5 bodyfat 40.5%
ออกครบ 3 เดือน น้ำหนัก 78.3 มวลกล้ามเนื้อ 22.7 bodyfat 45.0% T_T
ตั้งแต่ออกกำลังกายเรากินอาหารของทางยิมจัดให้ แพงมาก T_T ตอนนี้หมดคอร์สกับทางยิมแล้ว
เทรนเนอร์ดุว่าเราต้องไปแอบกินขนมหวานๆ น้ำหวานแน่ๆ ถึงไม่ลด แต่สาบาน 100% เราไม่กินเลยค่ะ เพราะตั้งใจลดมากครั้งนี้
เครื่องดื่ม 0% แคลอรี่ เรากิน อาทิตย์ละ 2 วันที่เป็นวันหยุดงานของเรา อาทิตย์ละ 1 ขวดเล็ก 250ml
ตามความคิดของเรานะคะ
เราคิดว่าเราออกกำลังกายหนักปานกลาง นาฬิกาแจ้งแคลอรี่บอกเราเผาประมาณ 450 เวท+คาดิโอ 1.30 ชม. อาทิตย์ละ 3 วัน
แต่เทรนเนอร์ให้เรากินน้อยกว่า BMR
เราเคยอ่านว่าต้องกินให้เยอะกว่านี้ แต่เราก็ไม่แน่ใจเพราะคิดว่าเสียเงินจ้างเขาแล้ว
ก็ลองทำตามที่เขาบอกจะได้ประสิทธิภาพสูงสุด
แต่ผลลัพธ์ ............
ตอนนี้เหมือนไปไม่ถูก กินก็รู้สึกไม่อิ่ม กินเฮลท์ตี้ทุกอย่างแต่ก็ยังไม่ลดแถมดูอ้วนกว่าเดิมนิดๆด้วย
เรายังคิดจะออกกำลังกายเหมือนเดิมค่ะตอนนี้เล่นเป็นทุกส่วนแล้ว
แต่อยากขอแนวทางการกินหน่อยค่ะ ไม่รีบลดค่ะเพราะรู้ว่ามันไม่ยั่งยืน ขอความกรุณาแนะนำหน่อยนะค่ะ
----- อัพเดท -----
กลับมาอัพเดทนะคะ 9/02
หลังจากวันที่มาโพสต์เดือนที่แล้ว ก็ยังออกกำลังกายเหมือนเดิม ยังจ้างเทรนเนอร์ดูแลการเวท- 3 วัน/สัปดาห์ เวท 1 ชม. เดิน ครึ่งชม.
กินอาหารจากยิมเหมือนเดิมแต่เปลี่ยนมากินข้าวยิม 4วัน/สัปดาห์ 3 มื้อ เวย์ 1 มื้อหลังเวทเสร็จ
อีก 3 วัน อยากกินเอง อยากไปกินข้าวกับเพื่อน/กับสามีนอกบ้านบ้าง ไม่อยากนับแคลอรี่อะไรมากกะเอาว่าไม่เกิน 1800
ดูแลไม่ให้ข้าวเยอะเกิน ไม่ขนม เน้นต้ม นึ่ง ยำ ส่วนเมนุทอด/ผัด ก็อาจจะ 1-2 มื้อ/อาทิตย์
และวันไหนที่งานหนัก เดินเยอะ ก็เพิ่มข้าวเพิ่มเนื้อ แต่ก็ดูแลไม่ให้เกิน 100 กรัมต่อมื้อ ( มีไปกินพิซซ่า 1 วัน ในรอบ 2 เดือน 55 )
แต่ที่เพิ่มขึ้นมาคือ เพิ่ม คาดิโอ 1 ชม. อีก 3 วัน
ในวันพักไม่ทำอะไรเลย 1 วัน และเลื่อนเวลาเข้านอนตอนนี้เข้านอนประมาณ 10.30pm
จากน้ำหนักเดือนที่แล้ววันที่ 16 ม.ค.
น้ำหนัก 78.3 มวลกล้ามเนื้อ 22.7 bodyfat 45.0%
ล่าสุดวัดเมื่อเช้า
น้ำหนัก 77.2 มวลกล้ามเนื้อ 24.1 bodyfat 41.4%
เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงตรงรูปร่างที่ใส่เสื้อผ้าสบายขึ้น รูปร่างเริ่มเปลี่ยนไป สะโพก ก้น ยกขึ้นชัดเจน
ไหล่ แขน เริ่มมีกล้ามเนื้อรางๆ แขนย้วยน้อยลงมาก เทียบกับรูปถ่ายวันแรกที่เข้ายิม
ในส่วนที่มีไขมันส่วนกินอย่างรอบต้นขา หน้าท้องที่เมื่อก่อนพอกำๆดูไขมันจะแข็งๆมาก ตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าจับแล้วบางลง
สุขภาพโดยรวมรู้สึก เหนื่อยน้อยลงมากๆหากเทียบกับเดือนแรกที่เริ่มออกกำลังกาย นอนหลับสนิทดีขึ้นมาก
คิดว่าคงมาถูกทางแล้วจะพยายามทำต่อไปค่ะ
อาจจะเครียดมากเกินไปในเดือนแรกๆเลยท้อแท้ ตอนที่เริ่มไปยิมก็เป็นช่วงจังหวะที่งานรุมมากๆด้วย เครียดx2
ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำเลยนะคะ จะพยายามดูแลสุขภาพไปเรื่อยๆค่ะ
ออกกำลังกายมา 3 เดือน น้ำหนักไม่ลด แถมแฟตขึ้นอีก
เรามีปัญหาหัวเข่าเสื่อมเลยไม่สามารถจะวิ่งได้
เทรนเนอร์ให้กิน 1500 cal แต่เราก็กินเกินบ้าง 1700-1800 บางทีก็ 2000
ดื่มน้ำ 3 ลิตรทุกวัน
ส่วนตัวเรารู้สึกว่าปัจจุบันเรากินโอเค ไม่ขนม ไม่น้ำหวาน ไม่ชอบกินมานานแล้ว
แต่ที่อ้วนน่าจะสะสมมานานและเรากิน นอนไม่เป็นเวลา บางวันทำงานลากยาวๆไปกินมื้อเดียวแน่นๆ และติดดื่มมาหลายปี
ตอนนี้ไม่ดื่มหนักมา 3 ปี นานๆจะดื่มสัก 2 แก้ว นานที่ว่านี่คือหลักเดือน
ตอนนี้พยายามปรับมากิน 4 มื้อได้ประมาณ 6 เดือน
สูง 156 หนัก 78 อายุ 36
เดือนแรกของการออกกำลังการ เราเริ่มต้นที่ น้ำหนัก 77.7 มวลกล้ามเนื้อ 25.9 bodyfat 36.8%
ออกครบ 1 เดือน น้ำหนัก 78.7 มวลกล้ามเนื้อ 26.7 bodyfat 35.7%
ออกครบ 2 เดือน น้ำหนัก 78.1 มวลกล้ามเนื้ัอ 24.5 bodyfat 40.5%
ออกครบ 3 เดือน น้ำหนัก 78.3 มวลกล้ามเนื้อ 22.7 bodyfat 45.0% T_T
ตั้งแต่ออกกำลังกายเรากินอาหารของทางยิมจัดให้ แพงมาก T_T ตอนนี้หมดคอร์สกับทางยิมแล้ว
เทรนเนอร์ดุว่าเราต้องไปแอบกินขนมหวานๆ น้ำหวานแน่ๆ ถึงไม่ลด แต่สาบาน 100% เราไม่กินเลยค่ะ เพราะตั้งใจลดมากครั้งนี้
เครื่องดื่ม 0% แคลอรี่ เรากิน อาทิตย์ละ 2 วันที่เป็นวันหยุดงานของเรา อาทิตย์ละ 1 ขวดเล็ก 250ml
ตามความคิดของเรานะคะ
เราคิดว่าเราออกกำลังกายหนักปานกลาง นาฬิกาแจ้งแคลอรี่บอกเราเผาประมาณ 450 เวท+คาดิโอ 1.30 ชม. อาทิตย์ละ 3 วัน
แต่เทรนเนอร์ให้เรากินน้อยกว่า BMR
เราเคยอ่านว่าต้องกินให้เยอะกว่านี้ แต่เราก็ไม่แน่ใจเพราะคิดว่าเสียเงินจ้างเขาแล้ว
ก็ลองทำตามที่เขาบอกจะได้ประสิทธิภาพสูงสุด
แต่ผลลัพธ์ ............
ตอนนี้เหมือนไปไม่ถูก กินก็รู้สึกไม่อิ่ม กินเฮลท์ตี้ทุกอย่างแต่ก็ยังไม่ลดแถมดูอ้วนกว่าเดิมนิดๆด้วย
เรายังคิดจะออกกำลังกายเหมือนเดิมค่ะตอนนี้เล่นเป็นทุกส่วนแล้ว
แต่อยากขอแนวทางการกินหน่อยค่ะ ไม่รีบลดค่ะเพราะรู้ว่ามันไม่ยั่งยืน ขอความกรุณาแนะนำหน่อยนะค่ะ
----- อัพเดท -----
กลับมาอัพเดทนะคะ 9/02
หลังจากวันที่มาโพสต์เดือนที่แล้ว ก็ยังออกกำลังกายเหมือนเดิม ยังจ้างเทรนเนอร์ดูแลการเวท- 3 วัน/สัปดาห์ เวท 1 ชม. เดิน ครึ่งชม.
กินอาหารจากยิมเหมือนเดิมแต่เปลี่ยนมากินข้าวยิม 4วัน/สัปดาห์ 3 มื้อ เวย์ 1 มื้อหลังเวทเสร็จ
อีก 3 วัน อยากกินเอง อยากไปกินข้าวกับเพื่อน/กับสามีนอกบ้านบ้าง ไม่อยากนับแคลอรี่อะไรมากกะเอาว่าไม่เกิน 1800
ดูแลไม่ให้ข้าวเยอะเกิน ไม่ขนม เน้นต้ม นึ่ง ยำ ส่วนเมนุทอด/ผัด ก็อาจจะ 1-2 มื้อ/อาทิตย์
และวันไหนที่งานหนัก เดินเยอะ ก็เพิ่มข้าวเพิ่มเนื้อ แต่ก็ดูแลไม่ให้เกิน 100 กรัมต่อมื้อ ( มีไปกินพิซซ่า 1 วัน ในรอบ 2 เดือน 55 )
แต่ที่เพิ่มขึ้นมาคือ เพิ่ม คาดิโอ 1 ชม. อีก 3 วัน
ในวันพักไม่ทำอะไรเลย 1 วัน และเลื่อนเวลาเข้านอนตอนนี้เข้านอนประมาณ 10.30pm
จากน้ำหนักเดือนที่แล้ววันที่ 16 ม.ค.
น้ำหนัก 78.3 มวลกล้ามเนื้อ 22.7 bodyfat 45.0%
ล่าสุดวัดเมื่อเช้า
น้ำหนัก 77.2 มวลกล้ามเนื้อ 24.1 bodyfat 41.4%
เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงตรงรูปร่างที่ใส่เสื้อผ้าสบายขึ้น รูปร่างเริ่มเปลี่ยนไป สะโพก ก้น ยกขึ้นชัดเจน
ไหล่ แขน เริ่มมีกล้ามเนื้อรางๆ แขนย้วยน้อยลงมาก เทียบกับรูปถ่ายวันแรกที่เข้ายิม
ในส่วนที่มีไขมันส่วนกินอย่างรอบต้นขา หน้าท้องที่เมื่อก่อนพอกำๆดูไขมันจะแข็งๆมาก ตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าจับแล้วบางลง
สุขภาพโดยรวมรู้สึก เหนื่อยน้อยลงมากๆหากเทียบกับเดือนแรกที่เริ่มออกกำลังกาย นอนหลับสนิทดีขึ้นมาก
คิดว่าคงมาถูกทางแล้วจะพยายามทำต่อไปค่ะ
อาจจะเครียดมากเกินไปในเดือนแรกๆเลยท้อแท้ ตอนที่เริ่มไปยิมก็เป็นช่วงจังหวะที่งานรุมมากๆด้วย เครียดx2
ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำเลยนะคะ จะพยายามดูแลสุขภาพไปเรื่อยๆค่ะ