ในตอนที่คุณหย่ากันความสัมพันธ์กับลูกคุณจบด้วยหรือป่าว?

สวัสดีครับ กระทู้นี้แค่อยากมาเล่าเรื่องของตัวเองแล้วก็ขอกำลังใจเล็กๆน้อยๆให้ตัวเองมีกำลังใจมากขึ้นหน่อยครับ

ก็เริ่มเลยนะครับ ผมก็อายุครบ 22 ปี ไปเมื่อวานนี้ครับ เป็นวันเกิดที่เหมือนเดิมในทุกๆปี ตั้งแต่พ่อและแม่ของผมหย่ากันตั้งแต่ผมอายุ 15 ซึ่งไร้ของขวัญและคำอวยพรมาของเค้า2คนมา 7 ปีแล้ว พ่อและแม่ของผมแต่งงานใหม่ และมีลูกใหม่ทั้งคู่ ส่วนผมอยู่กับอากงและอาม่าครับ ท่านเป็นคนส่งเสียผมตั้งแต่อายุ15 จนตอนนี้ผมกำลังจะจบปริญญาตรีแล้ว พ่อและแม่ไม่เคยส่งเงินหรือส่งเสียอะไรเลยแม้แต่ค่าเล่าเรียนตั้งแต่หย่ากันไป ในวันแม่หรือวันพ่อ 7ปีมาแล้ว ผมก็ได้ไหว้แต่อากงและอาม่า สำหรับพ่อก็ยังมีโอกาสเจอบ้าง เพราะกลับมาเยี่ยมอากงกับอาม่า ส่วนแม่ผมเจอครั้งสุดท้ายก็ตอนคุณอาเสีย ร่วม4ปีแล้ว ที่ผ่านมานี้ทั้งคู่ไม่เคยส่งข้อความหาผม หรือ โทรหาเพราะคิดถึงลูกเลยสักครั้งเดียว ที่พิมว่าโทรหาเพราะคิดถึงไม่เคยเลยเพราะ ทุกครั้งที่โทร ก็จะถามถึงแค่อาม่าหรืออากง ว่าทำอะไรอยู่โทรไม่รับ หรือ หรือเวลาแม่โทรก็จะถามถึงพ่อ ว่าพ่อมาหาบ้างหรือป่าว หรือพ่อให้เงินใช้มั้ย ลูกคนใหม่เค้าน่ารักหรือป่าว แต่ไม่เคยถามผมเลยสักครั้งเดียว ว่าทำอะไรอยู่ เรียนเป็นยังไงบ้าง เกรดดีมั้ย กินข้าวหรือยัง ผมเป็นคนขี้น้อยใจครับ เวลารู้สึกไม่สบายใจ เครียดเรื่องเรียน หรือคิดงานคิดการบ้านไม่ออก ผมจะชอบนั่งเงียบๆหลับตาอยู่ในห้อง เพื่อให้อารมณ์หรือความรู้สึกดีขึ้น ในสายตาของญาติที่มาทานข้าวเวลาเทศกาลตอนปีใหม่ หรือตรุษจีน ผมถูกมองเป็นเด็กที่เก็บตัว ที่ไม่ค่อยชอบทานข้าวร่วมโต๊ะที่มีญาติหลายๆคน ผมรู้สึกว่าผมน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง ว่าทำไมคนอื่นมีพ่อมีแม่ มากันเป็นครอบครัวแต่ทำไมผมตัวคนเดียว แต่อากงอาม่าก็ยังเข้าใจความรู้สึกข้างในของผม ถ้าอะไรที่ทำให้ผมอึดอัดใจท่าน2คน จะไม่พยายามหรือพาผมเข้าไปเด็ดขาด ท่านจะถามทุกครั้งว่า ผมโอเครมั้ย อยากไปมั้ย ถ้าไม่อยากก็ไม่เป็นไรนะลูก ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้คนหลายคนอาจจะมีคำถามในใจว่า อากงกับอาม่า ก็เลี้ยงดีไม่ไช่หรอ แต่ทำไมถึงมาน้อยใจแบบนี้ ไช่ครับเลี้ยงดีมากๆ ชีวิตผมดีกว่าตอนที่ผมอยู่กับพ่อและแม่เยอะมาก มีรถขับ อยากไปไหนก็ได้ไป อยากกินอะไรก็ได้กิน เงินทองไม่เคยเดือดร้อน แต่ในใจของผม ผมก็แค่อยากได้ความรัก ความหวังดี ความเป็นห่วงจากคนที่ทำให้ผมเกิดมาบ้าง คุณจะรู้บ้างมั้ยว่าการที่คุณทอดทิ้งคนคนนึงให้เติมโตโดยไร้คำยินดี หรือคำชม หรือคำอวยพรที่มันไม่เคยออกจากปากพวกคุณเลย มันเป็นบาดแผลในใจเค้าแค่ไหน

เรื่องของผมก็มีประมาณนี้ครับ ถ้าใครอ่านจบก็ขอบคุณมากๆเลย ส่วนหัวข้อที่ผมถามว่า การที่คุณหย่ากันความสัมพันธ์ของคุณกับลูกจบด้วยหรือป่าว ผมก็ยังอยากรู้จากทุกคนอยู่นะครับ ว่ามีใครทำแบบนี้ หรือเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในชีวิตของพวกคุณบ้าง

ขอบคุณครับ

เพิ่มเติม ขอบคุณทุกๆคนมากนะครับ ไม่คิดว่าจะมีคนเข้ามาตอบกระทู้ของผมมากมายขนาดนี้ ผมอ่านของทุกคนเลย ได้เห็นหลายๆมุมมอง สำหรับอากง อาม่า ผมก็รักท่านมากๆครับ ไม่ใช่จะโหยหาดราม่ากับสิ่งที่ขาดไป แต่แค่เนื้อความข้างบนมันเป็นแผลในใจของผมในวัย22ปี ที่บางอารมณ์เหนื่อย หรือท้อ ก็อยากจะพิมอยากจะระบายออกมาบ้างครับ และสื่อให้ทุกๆคนเห็นภาพของผมที่มีต่อพ่อกับแม่ ขอบคุณทุกๆคนครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ไม่เคยแนะนำใครแบบนี้เลย แต่สำหรับคุณ
พ่อกับแม่ ให้ตัดไปจากชีวิตได้เลยครับ เขาไม่สมควรเป็นพ่อหรือแม่คุณ

ดังนั้นไม่ต้องไปอยากได้รับความรักจากเขา นั่นมันแค่คนแปลกหน้า ที่แค่บังเอิญทำให้เราเกิดมา
และไม่ต้องไปรักเขาด้วย เขาไม่มีค่าอะไรให้เราไปรักเลย

คนที่ต้องรัก และให้ความรักกับเราเสมอมาคือ อากง กับ อาม่า
รักท่าน กตัญญูต่อท่านให้มากๆ

คุณแค่มีปมในใจ
วันใดที่คุณสลัดปมนี้ทิ้งไปได้ คุณจะมีความสุขมากๆ
อย่าไปอยากได้ความรักจากคนที่ไม่คู่ควรแบบนั้น
ความคิดเห็นที่ 16
เล่าเป็นประสบการณ์ของเราเองก็แล้วกันนะคะ
พ่อกับแม่เราเลิกกันช่วงที่เราอยู่ประถม แล้วเราก็อยู่กับอาม่า อากงเหมือนกันค่ะ
ตั้งแต่ทั้งคู่เลิกกันเรียกได้ว่าพ่อเราไม่เคยติดต่อเราเองเลย นอกจากเราติดต่อเขาไปก่อน
บางทีไม่ได้ติดต่อกันเลยนานหลายปี ตั้งแต่ป๊ากับแม่เลิกกันเราเจอหน้าเขาไม่เกิน 5 ครั้ง
ส่วนแม่ยังมีติดต่ออยู่บ้าง เพราะว่าเราอยู่กับอาม่า อากง(ตายาย)

ถามว่าเราเคยมีความคิดเหมือนเจ้าของกระทู้หรือเปล่า เราก็เคยคิดค่ะ
ได้เห็นแม่มีแฟนใหม่ ป๊าก็มีครอบครัวใหม่ แล้วเขาดูรักลูกๆ มาก เราก็ได้แต่สงสัยว่าแล้วเราล่ะ อยู่ตรงไหนในชีวิตของพวกเขา
จนช่วงที่เราเรียนปี 4 จู่ๆ ป๊าก็ติดต่อมาหาเราก่อนเป็นครั้งแรก
บอกว่าป๊าเป็นโรคหัวใจ จำเป็นต้องผ่าตัด ป๊าจะมาผ่าตัดที่ไทย ทำนัดโรงพยาบาลอะไรเรียบร้อย แค่โทรมาบอกเราว่าจะมาถึงวันไหน
ตอนนั้นเราก็งงๆ ว่าทำไมป๊าต้องมาผ่าตัดที่ไทย รักษาตัวที่โน่นการแพทย์ดีกว่าไทยด้วยซ้ำ(ป๊าเราเป็นชาวต่างชาติค่ะ)
ป๊าบินมาคนเดียว จะมีน้องชายป๊าตามมาทีหลัง เราไปรับป๊าที่สนามบินแล้วพาไปส่งโรงพยาบาล
แล้วก็อยู่ด้วยจนก่อนผ่าตัดแม่ก็มาช่วยดูป๊าอีกคน เพราะที่ไทยป๊าไม่มีญาติหรือคนรู้จักเลย
จนป๊าผ่าตัดเสร็จกลับประเทศไปแล้ว แม่เราถึงเอาจดหมายที่ป๊าเขียนไว้มาให้ดู
มันเป็นจดหมายที่ป๊าเขียนถึงอา บอกเรื่องมรดกแล้วก็ฝากฝังให้ช่วยดูแลเราด้วย
แล้วเราก็ได้รู้ตอนนั้นเองว่าที่ป๊าเลือกจะมาผ่าตัดที่ไทยก็เพราะเป็นห่วงเรา
และลึกๆ เราก็เชื่อว่าเขารู้สึกผิด อาจจะเพราะเราเป็นลูกคนเดียวที่ป๊าไม่เคยดูแล
แต่เขาไม่เคยคิดถึงมันมาก่อนจนถึงจุดๆ นั้นที่เขาคิดว่าเขามีโอกาสเสียชีวิต เขาถึงได้เสียใจกับเวลาที่ผ่านมา
จะถามว่าเขารักเราไหม ถึงตอนนี้เราก็ยังตอบคำถามนี้ได้ไม่เต็มปาก
ความสัมพันธ์ของเรากับทั้งคู่เลยออกแนวรับรู้ว่าเป็นพ่อ-แม่ แต่ความผูกพันธ์ทางใจน้อยมากๆ
สิ่งแน่นอนที่เรารู้คืออาม่า อากงเรารักเราแน่ๆ เราก็เลยเลิกถามคำถามที่ว่าป๊ากับแม่รักเราหรือเปล่ากับตัวเองไปแล้ว
อาม่า อากงเราเสียไปแล้วด้วยค่ะ อากงเสียตอนเราเรียนจบ อาม่าก็ตามอากงไปหลังจากนั้นไม่นาน
ตอนนี้เราก็แค่อยากใช้ชีวิตให้ดี ให้สมกับที่อาม่าอากงรัก และดูแลเราตลอด
ถึงเราจะไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของพ่อ แม่ ลูก มันมีอยู่จริงไหม แต่ที่เรารู้ได้คือ อาม่าอากงรักหลานคนนี้มาก
สิ่งที่ทั้งคู่ทำให้เรา มันยังประทับอยู่ในความทรงจำให้ได้อุ่นๆ ในใจเสมอ และเราก็เชื่อ ว่าอาม่า อากงของเจ้าของกระทู้ก็รักคุณเช่นเดียวกัน
//กอดส่งพลังใจให้นะคะ
ความคิดเห็นที่ 3
แคร์คนที่รักคุณก็พอครับ
คนที่ไม่แคร์จะไปแคร์เค้าทำไม
เป็นผมเอาเวลาที่นั่งน้อยใจไปดูแลอากงอาม่าเยอะๆ
พาไปเที่ยว ไปกินข้าว คิดว่าเป็นพ่อเป็นแม่ไปเลย
คนอื่นก็คิดแค่ว่าเป็นญาติ แค่นั้น เผลอตัดออกไปจากชีวิตไปเลย
อย่าเอาทุกเรื่องมาใส่หัวเลย คุณบังคับใครมารักคุณไม่ได้หรอก
ความคิดเห็นที่ 13
บาง comment ก็แรงไปนะคะ น้องเค้าแค่อยากจะอยากหาที่พึงพึ่งทางใจบ้าง
อากง อาม่ารัก แต่มันก็มีส่วนลึก ๆ ในใจที่เป็นคำถามถึงความรักจากพ่อแม่ ไม่แปลกเพราะน้องอายุยังน้อย
การน้อยใจ และได้ระบายออกดีแล้วค่ะ แต่การมาโพสในที่สาธารณะ อ่านบาง comment อาจจะทำให้รู้สึกแย่ลง

พี่ขอปลอบใจว่า อะไรที่แก้ไม่ได้ก็อย่ามาทำให้เราเป็นทุกข์ค่ะ น้องตั้งใจเรียน ดูแลอากงอาม่า และในอนาคตน้องสร้างครอบครัวที่ดี
น้องจะไม่นึกถึง พ่อแม่ อีกเลยค่ะ เพราะน้องจะได้รับความรักจากคนที่รักน้องอย่างแท้จริง

อย่าท้อแท้ อย่าคาดหวัง ทำในสิ่งที่ดี รักตัวเอง รักคนที่เค้ารักเรา เราไม่สามารให้คนทั้งโลกรักเราได้ และก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดใครได้ด้วย
ขอให้น้องเดินไปในแนวทางที่ถูกต้อง และมีชีวิตที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ
ความคิดเห็นที่ 55
ผมได้อ่านความคิดเห็นหลายๆคนแล้ว ก็ขอบคุณมากๆครับ แล้วก็ยอมรับคำแนะนำทุกอย่างเลย ส่วนเรื่องที่พี่ๆมีคำถามผมก็จะมาตอบในนี้นะครับ
1. อายุก็ 22 แล้วจะมานั่งดราม่าทำไม ชีวิตมีอะไรให้ทำอีกเยอะ สำหรับผม การใช้ชีวิตก็ดำเนินไปปกตินี่แหละครับ ไม่ได้ทำตัวเป็นปัญหาหรืออะไรมากมายแค่เป็นผู้ชายคนนึง ที่มีบาดแผลในใจ เกิดคำถามกับตัวเองมากมาย แต่ก็ได้แต่เก็บเอาไว้ แล้วก็พยายามทำให้ชีวิตตัวเองไปในทางที่ดี ไม่ให้คนอื่นหรือใครมาว่า หรือตำหนิเอาได้
2. จากที่ผมพิมในเนื้อเรื่องข้างบน หลายๆคนมอง ว่าอากง อาม่า ก็เลี้ยงดีหนิ จะมานั่งน้อยใจทำไม ถ้าใครได้อ่าน ก็ตามข้างบนเลยครับ ผมแค่มีความน้อยใจ ที่อยากจะได้ความรัก ความเป็นห่วง ความหวังดี จากคนที่ทำให้ผมเกิดมาบ้าง
3. 15ปีแรก อยู่มายังไงก่อนที่พ่อและแม่จะหย่ากัน เมื่อก่อนก็อยู่ในบ้านอากงอาม่านี่แหละครับ แต่รายได้ ก็ถูกแบ่งเป็นกงสี หลังจากหย่ากัน พ่อ
และแม่ก็เลือกที่จะออกจากกงสีไป
4. ในเนื้อเรื่องไม่พูดถึงอากงอาม่าเลย คนที่ควรใส่ใจต้องเป็นท่าน2คนมากกว่านะ ผมใส่ใจครับ แล้วก็รักท่าน2คนมากๆเหมือนกัน แต่ที่ไม่ค่อยพิม
อะไรในส่วนนี้ ผมคิดแค่ว่ามันไม่ใช่ปัญหาในชีวิต ภาพที่อยากจะสื่อให้ทุกคนเห็นคือภาพของผมที่มีความรู้สึกต่อพ่อและแม่

ท้ายที่สุดนี้ก็ขอบคุณทุกคนครับ ขอบคุณมากๆเลย ได้กำลังใจจากพี่ๆหลายคนเลย หลังจากที่ตั้งกระทู้ไป ข้างในมันเหมือนโล่งๆครับ ถึงจะไม่ได้ตะโกนออกมาเป็นคำพูดแต่ผมก็เหมือนยกภูเขาออกจากอกมาได้ ขอบคุณทุกๆคนครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่