(รายละเอียด + บ่นด้วยนิดหน่อยค่ะ)
เป็นเด็กจบใหม่ค่ะ งานแรกที่ทำเป็นพนักงาน outsource เงินเดือน 10000 มีค่าคอมเดือนหนึ่งประมาณ 2000 - 4500 ไม่รวมหักค่าภาษี/ค่าประกันสังคม ไม่มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานค่ะ เข้ากันได้ทุกคน ต้องยอมรับเลยว่าพนักงานของเขาเป็นมิตรมากและทุกคนก็ไม่มีใครที่ไม่ดีกับเรา ตอนจะออกมาเขาก็ให้คำปรึกษาอย่างดีเลยค่ะ ที่ออกส่วนหนึ่งมาจากลักษณะงานที่เป็นงานผลิตเอกสารแบบวนลูปเลย ไม่มีอะไรอย่างอื่นนอกเหนือจากพิมพ์งาน (ไม่ตรงสายที่เรียนมา) งานเยอะมากทำล่วงเวลาตลอด เลิกงานตามเวลาแทบนับครั้งได้(ไม่ถึงสิบ) ปกติเลิกหกครึ่งถึงทุ่มกว่าๆ เลย ช่วงสิ้นเดือนนี้เลิกสามทุ่มขึ้นไปตลอด ไม่มีเงินโอทีเลยด้วย ให้มาทำวันหยุดก็ไม่มีเงินค่าทำงานวันหยุด (ทีแรกนึกว่าเป็นเด็กใหม่ยังไม่ผ่านโปรเลยไม่ได้สวัสดิการส่วนนี้ แต่พี่ทำมาก่อนก็ไม่ได้เหมือนกัน เพราะบริษัทบอกว่าได้ค่าคอมที่นับงานเป็นชิ้นๆ อยู่แล้ว) แถมเวลาพักแทบไม่มี ไม่เคยได้ลงไปกินข้าวกลางวันต้องซื้อข้าวมาแต่เช้าแล้วกินที่โต๊ะ ช่วงเที่ยงถ้างานไม่หมดก็ต้องทำต่อกินไปด้วยทำไปด้วยเลย มีพี่คนนึงงานล้นมากและต้องรับทำของคนที่หยุดวันนั้นไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลยก็มี ตรงนี้ยอมรับว่าอึดอัดมากที่ไม่มีเวลาให้พักหายใจแม้กระทั่งช่วงกินข้าวแล้วพนักงานของบริษัทนั้นเขาลงไปกินข้าวซื้อน้ำซื้อกาแฟมากิน ยิ่งช่วงสิ้นเดือนงานยิงยาวตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงสามทุ่มได้กินแค่ข้าวกลางวัน กาแฟหมดตั้งแต่สิบโมง ตอนเย็นก็คือนั่งทำงานเป็นผักเลย 
สรุปคือ เราคิดว่าเงินที่ได้มันไม่คุ้มค่าเหนื่อยและรู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบเรื่องสวัสดิการก็เลยออก และบางทีงานที่ต้องเลิกช้าไม่ใช่เพราะเราทำช้าแต่มันเป็นระบบงานของบริษัทเขาที่ออกงานช้าแล้วทำให้มันช้าทั้งระบบ 

แต่จะตอบแบบนี้ก็กลัวจะกลายเป็นว่าเป็นพวกคิดลบที่เอาเรื่องเสียๆ ที่ทำงานเดิมมาพูดต่อ ภาพลักษณ์เราต่อคนสัมภาษณ์ก็คงไม่ดี เลยอยากขอปรึกษาพี่ๆ ที่มีประสบการณ์ค่ะว่าควรตอบประมาณไหนถึงจะปลอดภัย 

เคยสัมภาษณ์ที่นึงแล้วหยิบประโยคในเน็ตสวยๆ เลยประมาณว่า "งานที่ทำไม่สามารถต่อยอดไปถึงแผนอาชีพที่วางไว้ในอนาคตได้" แต่ก็ถูกย้อนกลับว่างานตำแหน่งนี้ก็ทำเอกสารเยอะนะ แล้วจะโอเคกับงานเหรอ? ถึงจะหาทางแถต่อได้แต่ก็ยอมรับว่าตะกุกตะกัก กลัวจะเจอคำถามต่อพีคๆ แล้วจะตอบกลับไม่ได้เลยมาขอคำปรึกษาก่อนค่ะ