รับคำท้าฯ
ตอนที่ 44
ปริมาเดินดูแปลงสตรอว์เบอร์รี่ หลังจากปิ่นขวัญได้เล่าให้ฟังว่า รีสอร์ตสวนชายฟ้าบนเขาแห่งนี้ มีการปลูกผักไร้สารพิษด้วย จึงติดต่อขอเยี่ยมชมสวนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักเลย เธอสนใจอยากนำไปขาย ได้ชิมแล้วรสชาติดี อร่อยกว่าปลูกแบบใส่สารเคมีเสียอีก แม้ว่าจะลูกเล็กกว่าก็ตาม ก่อนหน้านี้เคยสั่งซื้อแบบมีตำหนิไม่สวยกระดำกระด่างไปทาน แต่รสชาตินั้นเกินคาด อร่อยมากทานแล้วสดชื่น วันนี้เธอมาทานถึงที่สวนเลย
เจ้าของสวนชายฟ้าได้เล่าให้ฟังว่า เขาปลูกแบบอินทรีย์ คือไม่ใช้ทั้งปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง ไม่ใช่การปลูกแบบปลอดสารพิษ เพราะการปลูกแบบปลอดสารพิษนั้นยังใช้ทั้งยาฆ่าแมลงและปุ๋ยเคมีอยู่เพียงแต่เว้นระยะการเก็บเกี่ยวในระยะปลอดภัยเท่านั้น ที่น่าทึ่งที่สุดคือ สวนชายฟ้าล้อมรอบด้วยการปลูกแบบเคมี แต่เจ้าของสวนกลับมีอุดมการณ์ที่จะปลูกแบบอินทรีย์เพียงผู้เดียวได้ สวนที่อยู่ล้อมรอบนั้นเป็นเครือญาติกัน ซึ่งต้องเว้นระยะกันชน 1-8 เมตร เพื่อป้องกันการแพร่สารปนเปื้อน สารเคมี จากพื้นที่โดยรอบด้วย หรือที่มีการฉีดพ่นมาจากฟาร์มหรือแปลงอื่นไม่ให้ฟุ้งมากับอากาศ สวนแห่งนี้จึงปลูกกล้วย ต้นไผ่ น้ำเต้า แฟกและต้นยอ เป็นแนวกันชนล้อมรอบสวนทุกด้าน
ปฏิการมองปรามกับปิ่นขวัญกำลังคุยกับเจ้าของสวนอยู่ไม่ไกล หนุ่มหน้าหวานหันไปมองหวานใจที่เดินอยู่ข้าง กาย ตอนนี้กำลังทาน และถ่ายรูปคู่กับสตรอว์เบอร์รี่อย่างยิ้มแย้มมีความสุขเชียว จนริมฝีปากจิ้มลิ้มของเธอนั้นกลายเป็นสีแดงแล้ว ยิ่งมองก็ยิ่งหลงรักเธอ
“กินด้วยดิ” หนุ่มจอมกวนเอื้อมมือไปหยิบสตรอว์เบอรี่ในกล่องพลาสติกใสในมือของเธอ
ปริมาหมุนตัวหลบ
“นายก็ไปซื้อสิ!”
“ก็...อยากกินกับปริมนี่...” หนุ่มหน้าหวานทำหน้างอ ทำเสียงอ้อนเชียว
“กับคนอื่นยังเรียกกินได้เลย กับฉันไม่เคยเรียก ต้องให้แย่งกินทุกที ไร้น้ำใจชะมัด” ชายหนุ่มตัดพ้อเดินงอนไปดูแปลงสตรอว์เบอร์รี่
หญิงสาวหันไปมองคนขี้งอน แล้วเดินตามไป
“อ่ะให้ลูกหนึ่ง” เธอยื่นลูกสตรอว์เบอร์รี่สีแดงส่งให้คนหน้าตึง
“ลูกเดียวเองเหรอ” เขาหันมามองด้วยสายตาอ้อนวอน แล้วยื่นปากมางับสตรอว์เบอร์รี่ในมือเธอ
คนถือสตรอว์เบอร์รี่รีบดึงมือหนี สีหน้าอมยิ้มตลอดเวลามีความสุขได้แกล้งคน เขาจึงงับได้แต่อากาศธาตุ คนขี้แกล้งอดหัวเราะไม่ได้ อีกฝ่ายยังไม่ยอมแพ้ยื่นหน้ามาอ้าปากรอจะงับสตรอว์เบอร์รี่ให้ได้ แต่เธอก็แกล้งยื่นมือหนีทุกที ทำให้เขาอ้าปากรอเก้อ ไม่ได้กินสตรอว์เบอร์รี่เสียที หนุ่มผมยาวทนไม่ไหวเลยจับมือคนขี้แกล้งมาจ่อที่ปากก่อนจะงับสตรอว์เบอร์รี่เข้าปากจนได้
ปริมาจะใช้มืออีกข้างหยิกเขาก็ไม่ได้ เพราะถือกล่องสตรอว์เบอร์รี่อยู่ ให้ตายสิ! กล้าจับมือเธอได้ไง! เมื่อมือไม่ว่างจึงเอาเท้ากระแทกเท้าของเขาแทน แล้วรีบดึงมือตนเองออกจากมือของชายหนุ่มทันทีแล้วเดินหนี
“โอ๊ย!” หนุ่มจอมกวนร้องเสียงหลง อ้าปากค้าง หน้าตาเหยเก พลางขยับฝ่าเท้าไปมาให้คลายความเจ็บ
“เซลฟี่ด้วยกันหน่อยดิ” เขาเอียงตัวและยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ ใบหน้าของหญิงสาว
เจ้าของสวนบ้านไร่ทะเลฝันยกลูกสตรอว์เบอรี่ขึ้นมาคั่นกลางระหว่างใบหน้าขาวใสของหนุ่มหน้าหวานที่เอียงเข้ามาใกล้เธอ ด้านหน้าของทั้งคู่เป็นแปลงสตรอว์เบอรี่ ด้านหลังเป็นขุนเขาและท้องฟ้าสีครามของยามเย็น เมื่อกดถ่ายรูปแล้ว เขายื่นโทรศัพท์มาให้คนข้างตัวดู เธอยื่นหน้ามามองอย่างสนใจ
“สวยมาก” หนุ่มนักดนตรีกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูของหวานใจในอนาคต
คนฟังหันไปมองหน้าชายหนุ่ม พบสายตาหวานกำลังจ้องมองมานิ่งงันจนเธอทำอะไรไม่ถูก
“ฉันหมายถึงท้องฟ้านะ” หนุ่มจอมกวนแกล้งเย้าสาวชาวสวนเล่น
ปริมารู้สึกเสียอาการเล็กน้อย ก่อนจะรีบยิ้มกลบเกลื่อน แล้วจ้องมองใบหน้าของหนุ่มหน้าหวาน
“วันนี้นายหล่อมาก....”
“จริงเหรอ” ชายหนุ่มทำหน้าเขินอายที่เธอมาชมกันต่อหน้าต่อตา
“หล่อยังไม่เสร็จ” เธอประชดใส่เอาคืนแล้วสะบัดหน้าเดินหนี
“แต่ก็หล่อใช่มั้ยล่ะ!” เขาเดินตามไปโวยวายด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม จะชมเขาตรง ๆ ก็ไม่ได้ ทำไมน่ารักขนาดนี้
หนุ่มผมยาวเดินเข้าไปแกล้งกระทบไหล่สาวชาวสวน เขาอยากร้องเพลงชอบที่เธอเป็นเธอขึ้นมา เนื้อร้องของเพลงนี้โดนใจเขาเหลือเกิน
มีคนเคยบอกกับเธอหรือยังว่าเธอน่ารัก ว่าเธอสวยเกินใครทั้งหมดเลย ช่างถูกใจฉันเหลือเกิน
ช่างน่ามอง บอกได้ไหมบ้านอยู่หนแห่งใด
* หรือว่าเจ้าเป็นดาวจากเมืองเหนือ หรืออีหล่าคำแพงแดนอีสาน
คนสวยของเมืองภาคกลาง หรือสาวงามของเมืองใต้
ยอมรับตรง ๆ เลยว่าชอบเธอคนนี้ ชอบที่เธอเป็นเธอ ชอบเวลาเธอยิ้ม
รู้ไหมเวลาที่เธอจ้องตา ฉันเขินจริง ๆ เธอทำให้ใครคนนึงหลงรักเธอ
ขอถามตรง ๆ เลยขอจีบเธอได้ไหม ถ้าเธอไม่ว่าอะไร ก็ยิ้มให้กันสักนิดนึง
ได้โปรดอย่าเพิ่งมองผ่าน ไปสนคนอื่น เพราะใจทั้งใจของคน ๆ นี้มันยกให้เธอเป็นที่หนึ่ง
ชอบจริง ๆ เจ้าเอย รักจริงๆหล่าเอ้ย จะอู้จะอี้จะเว้าเช่นไร
ชอบจริง ๆ เธอเอ้ย รักจริง ๆ สาวเห้อ ต้องพูดพันพรือเธอจึงเข้าใจ
Solo
(ซ้ำ * )
ชอบจริง ๆ เจ้าเอย รักจริง ๆ หล่าเอ้ย จะอู้จะอี้จะเว้าเช่นไร
ชอบจริง ๆ เธอเอ้ย รักจริง ๆ สาวเห้อ ต้องพูดพันพรือเธอจึงเข้าใจ
ชอบจริง ๆ เจ้าเอย รักจริง ๆ หล่าเอ้ย จะอู้จะอี้จะเว้าเช่นไร
ชอบจริง ๆ เธอเอ้ย รักจริง ๆ สาวเห้อ ต้องพูดพันพรือเธอจึงเข้าใจ
หญิงสาวหันมามองด้วยความตะลึงงัน เวลาเขาร้องเพลงนั้นน่ารักมาก ทั้งสีหน้า แววตา ท่าทาง รอยยิ้มของเขาราวกับสะกดเธอให้นิ่งมองอย่างลืมตัวทุกครั้ง ยิ่งเป็นเพลงนี้ที่เขาร้องจีบเธอ ยิ่งให้ทำตัวไม่ถูกเลย รู้สึกว่าหัวใจมันแปล๊บอีกแล้ว เหมือนใบหน้านั้นร้อนผ่าวไปหมด
หนุ่มหน้าหวานสบตาเธอนิ่ง ค่อย ๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้อย่างไม่รู้ตัว สายตาจ้องมองที่ริมฝีปากสวยของเธอ เหมือนมีพลังดึงดูดบางอย่าง
เสียงโทรศัพท์ของปฏิการดังขึ้น หนุ่มนักดนตรีสะดุ้ง!
ปริมารีบผลักอกชายหนุ่มอย่างแรงอย่างตกใจสุดขีด แล้วรีบถอยตัวออกห่าง เธอปล่อยให้เขาเข้ามาใกล้เธอขนาดนี้ได้อย่างไร จนเกือบถูกเขา.... รีบเดินหนีทันที รู้สึกว่า หัวใจตัวเองเต้นแรงมาก ใบหน้าร้อนผ่าวไปหมด
โอ๊ย! โอ๊ย! โอ๊ย! เธอเป็นอะไรไปเนี่ย!! รับตัวเองไม่ได้! รู้สึกเสียหน้า เสียฟอร์มอย่างมาก
‘โทรอะไรมาตอนนี้เนี่ย!!’ ปฏิการรู้สึกหัวเสียไม่น้อย ก่อนจะจำใจกดรับโทรศัพท์
“ปณตโทรมาบอกว่า คุณษาปวดท้องมาก ปริมไปดูหน่อยได้รึเปล่า” เขาเดินไปบอกปริมาหลังจากวางสาย
“ได้สิ พาคุณษาไปพักที่บ้านพักของฝ่ายหญิงก่อน” ปริมาตอบโดยไม่กล้ามองหน้าเขาแม้แต่น้อย
ทั้งคู่จึงรีบไปบอกปรามกับปิ่นขวัญว่า ขอกลับก่อน
สาวชาวสวนมองพิธีกรสาวนอนขดตัวเป็นกุ้งอยู่บนเตียงในบ้านพัก สองมือกุมท้องน้อยอยู่ ใบหน้านั้นซีดเซียว ได้ถามไถ่อาการแล้ว แค่ปวดรอบเดือนไม่ได้เป็นอะไรมาก หันไปมองกาน้ำร้อนไฟฟ้ากำลังเริ่มเดือดแล้ว ครู่หนึ่งไฟที่กาน้ำร้อนเปลี่ยนสี เธอตักขิงผงใส่แก้วเซรามิคสีขาวก่อนกดน้ำร้อนใส่ลงไปพอประมาณ แล้วยกช้อนคันเล็กคนน้ำร้อนและขิงผงให้ละลาย
“ได้ขวดใส่น้ำร้อนมาหรือยัง” เธอเดินออกไปถามปฏิการที่รออยู่หน้าบ้านพัก
ปณตกลับมาพร้อมกับขวดแก้วตามที่ปริมาร้องขอ เธอนำขวดไปเติมน้ำเย็นไว้ แล้วค่อย ๆ กดน้ำร้อนเติมลงไป จับดูขวดแก้วมีความร้อนพอประมาณ นำไปให้คนป่วยที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียง
“คุณษาเอาขวดประคบไว้ที่บริเวณที่ปวดค่ะ” เธอยกขวดวางไว้บนท้องน้อยของคนป่วย โดยเอาผ้าขนหนูรองไว้
รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ ตอนที่ 44 ชอบที่เธอเป็นเธอ
ตอนที่ 44
ปริมาเดินดูแปลงสตรอว์เบอร์รี่ หลังจากปิ่นขวัญได้เล่าให้ฟังว่า รีสอร์ตสวนชายฟ้าบนเขาแห่งนี้ มีการปลูกผักไร้สารพิษด้วย จึงติดต่อขอเยี่ยมชมสวนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักเลย เธอสนใจอยากนำไปขาย ได้ชิมแล้วรสชาติดี อร่อยกว่าปลูกแบบใส่สารเคมีเสียอีก แม้ว่าจะลูกเล็กกว่าก็ตาม ก่อนหน้านี้เคยสั่งซื้อแบบมีตำหนิไม่สวยกระดำกระด่างไปทาน แต่รสชาตินั้นเกินคาด อร่อยมากทานแล้วสดชื่น วันนี้เธอมาทานถึงที่สวนเลย
เจ้าของสวนชายฟ้าได้เล่าให้ฟังว่า เขาปลูกแบบอินทรีย์ คือไม่ใช้ทั้งปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง ไม่ใช่การปลูกแบบปลอดสารพิษ เพราะการปลูกแบบปลอดสารพิษนั้นยังใช้ทั้งยาฆ่าแมลงและปุ๋ยเคมีอยู่เพียงแต่เว้นระยะการเก็บเกี่ยวในระยะปลอดภัยเท่านั้น ที่น่าทึ่งที่สุดคือ สวนชายฟ้าล้อมรอบด้วยการปลูกแบบเคมี แต่เจ้าของสวนกลับมีอุดมการณ์ที่จะปลูกแบบอินทรีย์เพียงผู้เดียวได้ สวนที่อยู่ล้อมรอบนั้นเป็นเครือญาติกัน ซึ่งต้องเว้นระยะกันชน 1-8 เมตร เพื่อป้องกันการแพร่สารปนเปื้อน สารเคมี จากพื้นที่โดยรอบด้วย หรือที่มีการฉีดพ่นมาจากฟาร์มหรือแปลงอื่นไม่ให้ฟุ้งมากับอากาศ สวนแห่งนี้จึงปลูกกล้วย ต้นไผ่ น้ำเต้า แฟกและต้นยอ เป็นแนวกันชนล้อมรอบสวนทุกด้าน
ปฏิการมองปรามกับปิ่นขวัญกำลังคุยกับเจ้าของสวนอยู่ไม่ไกล หนุ่มหน้าหวานหันไปมองหวานใจที่เดินอยู่ข้าง กาย ตอนนี้กำลังทาน และถ่ายรูปคู่กับสตรอว์เบอร์รี่อย่างยิ้มแย้มมีความสุขเชียว จนริมฝีปากจิ้มลิ้มของเธอนั้นกลายเป็นสีแดงแล้ว ยิ่งมองก็ยิ่งหลงรักเธอ
“กินด้วยดิ” หนุ่มจอมกวนเอื้อมมือไปหยิบสตรอว์เบอรี่ในกล่องพลาสติกใสในมือของเธอ
ปริมาหมุนตัวหลบ
“นายก็ไปซื้อสิ!”
“ก็...อยากกินกับปริมนี่...” หนุ่มหน้าหวานทำหน้างอ ทำเสียงอ้อนเชียว
“กับคนอื่นยังเรียกกินได้เลย กับฉันไม่เคยเรียก ต้องให้แย่งกินทุกที ไร้น้ำใจชะมัด” ชายหนุ่มตัดพ้อเดินงอนไปดูแปลงสตรอว์เบอร์รี่
หญิงสาวหันไปมองคนขี้งอน แล้วเดินตามไป
“อ่ะให้ลูกหนึ่ง” เธอยื่นลูกสตรอว์เบอร์รี่สีแดงส่งให้คนหน้าตึง
“ลูกเดียวเองเหรอ” เขาหันมามองด้วยสายตาอ้อนวอน แล้วยื่นปากมางับสตรอว์เบอร์รี่ในมือเธอ
คนถือสตรอว์เบอร์รี่รีบดึงมือหนี สีหน้าอมยิ้มตลอดเวลามีความสุขได้แกล้งคน เขาจึงงับได้แต่อากาศธาตุ คนขี้แกล้งอดหัวเราะไม่ได้ อีกฝ่ายยังไม่ยอมแพ้ยื่นหน้ามาอ้าปากรอจะงับสตรอว์เบอร์รี่ให้ได้ แต่เธอก็แกล้งยื่นมือหนีทุกที ทำให้เขาอ้าปากรอเก้อ ไม่ได้กินสตรอว์เบอร์รี่เสียที หนุ่มผมยาวทนไม่ไหวเลยจับมือคนขี้แกล้งมาจ่อที่ปากก่อนจะงับสตรอว์เบอร์รี่เข้าปากจนได้
ปริมาจะใช้มืออีกข้างหยิกเขาก็ไม่ได้ เพราะถือกล่องสตรอว์เบอร์รี่อยู่ ให้ตายสิ! กล้าจับมือเธอได้ไง! เมื่อมือไม่ว่างจึงเอาเท้ากระแทกเท้าของเขาแทน แล้วรีบดึงมือตนเองออกจากมือของชายหนุ่มทันทีแล้วเดินหนี
“โอ๊ย!” หนุ่มจอมกวนร้องเสียงหลง อ้าปากค้าง หน้าตาเหยเก พลางขยับฝ่าเท้าไปมาให้คลายความเจ็บ
“เซลฟี่ด้วยกันหน่อยดิ” เขาเอียงตัวและยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ ใบหน้าของหญิงสาว
เจ้าของสวนบ้านไร่ทะเลฝันยกลูกสตรอว์เบอรี่ขึ้นมาคั่นกลางระหว่างใบหน้าขาวใสของหนุ่มหน้าหวานที่เอียงเข้ามาใกล้เธอ ด้านหน้าของทั้งคู่เป็นแปลงสตรอว์เบอรี่ ด้านหลังเป็นขุนเขาและท้องฟ้าสีครามของยามเย็น เมื่อกดถ่ายรูปแล้ว เขายื่นโทรศัพท์มาให้คนข้างตัวดู เธอยื่นหน้ามามองอย่างสนใจ
“สวยมาก” หนุ่มนักดนตรีกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูของหวานใจในอนาคต
คนฟังหันไปมองหน้าชายหนุ่ม พบสายตาหวานกำลังจ้องมองมานิ่งงันจนเธอทำอะไรไม่ถูก
“ฉันหมายถึงท้องฟ้านะ” หนุ่มจอมกวนแกล้งเย้าสาวชาวสวนเล่น
ปริมารู้สึกเสียอาการเล็กน้อย ก่อนจะรีบยิ้มกลบเกลื่อน แล้วจ้องมองใบหน้าของหนุ่มหน้าหวาน
“วันนี้นายหล่อมาก....”
“จริงเหรอ” ชายหนุ่มทำหน้าเขินอายที่เธอมาชมกันต่อหน้าต่อตา
“หล่อยังไม่เสร็จ” เธอประชดใส่เอาคืนแล้วสะบัดหน้าเดินหนี
“แต่ก็หล่อใช่มั้ยล่ะ!” เขาเดินตามไปโวยวายด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม จะชมเขาตรง ๆ ก็ไม่ได้ ทำไมน่ารักขนาดนี้
หนุ่มผมยาวเดินเข้าไปแกล้งกระทบไหล่สาวชาวสวน เขาอยากร้องเพลงชอบที่เธอเป็นเธอขึ้นมา เนื้อร้องของเพลงนี้โดนใจเขาเหลือเกิน
มีคนเคยบอกกับเธอหรือยังว่าเธอน่ารัก ว่าเธอสวยเกินใครทั้งหมดเลย ช่างถูกใจฉันเหลือเกิน
ช่างน่ามอง บอกได้ไหมบ้านอยู่หนแห่งใด
* หรือว่าเจ้าเป็นดาวจากเมืองเหนือ หรืออีหล่าคำแพงแดนอีสาน
คนสวยของเมืองภาคกลาง หรือสาวงามของเมืองใต้
ยอมรับตรง ๆ เลยว่าชอบเธอคนนี้ ชอบที่เธอเป็นเธอ ชอบเวลาเธอยิ้ม
รู้ไหมเวลาที่เธอจ้องตา ฉันเขินจริง ๆ เธอทำให้ใครคนนึงหลงรักเธอ
ขอถามตรง ๆ เลยขอจีบเธอได้ไหม ถ้าเธอไม่ว่าอะไร ก็ยิ้มให้กันสักนิดนึง
ได้โปรดอย่าเพิ่งมองผ่าน ไปสนคนอื่น เพราะใจทั้งใจของคน ๆ นี้มันยกให้เธอเป็นที่หนึ่ง
ชอบจริง ๆ เจ้าเอย รักจริงๆหล่าเอ้ย จะอู้จะอี้จะเว้าเช่นไร
ชอบจริง ๆ เธอเอ้ย รักจริง ๆ สาวเห้อ ต้องพูดพันพรือเธอจึงเข้าใจ
Solo
(ซ้ำ * )
ชอบจริง ๆ เจ้าเอย รักจริง ๆ หล่าเอ้ย จะอู้จะอี้จะเว้าเช่นไร
ชอบจริง ๆ เธอเอ้ย รักจริง ๆ สาวเห้อ ต้องพูดพันพรือเธอจึงเข้าใจ
ชอบจริง ๆ เจ้าเอย รักจริง ๆ หล่าเอ้ย จะอู้จะอี้จะเว้าเช่นไร
ชอบจริง ๆ เธอเอ้ย รักจริง ๆ สาวเห้อ ต้องพูดพันพรือเธอจึงเข้าใจ
หญิงสาวหันมามองด้วยความตะลึงงัน เวลาเขาร้องเพลงนั้นน่ารักมาก ทั้งสีหน้า แววตา ท่าทาง รอยยิ้มของเขาราวกับสะกดเธอให้นิ่งมองอย่างลืมตัวทุกครั้ง ยิ่งเป็นเพลงนี้ที่เขาร้องจีบเธอ ยิ่งให้ทำตัวไม่ถูกเลย รู้สึกว่าหัวใจมันแปล๊บอีกแล้ว เหมือนใบหน้านั้นร้อนผ่าวไปหมด
หนุ่มหน้าหวานสบตาเธอนิ่ง ค่อย ๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้อย่างไม่รู้ตัว สายตาจ้องมองที่ริมฝีปากสวยของเธอ เหมือนมีพลังดึงดูดบางอย่าง
เสียงโทรศัพท์ของปฏิการดังขึ้น หนุ่มนักดนตรีสะดุ้ง!
ปริมารีบผลักอกชายหนุ่มอย่างแรงอย่างตกใจสุดขีด แล้วรีบถอยตัวออกห่าง เธอปล่อยให้เขาเข้ามาใกล้เธอขนาดนี้ได้อย่างไร จนเกือบถูกเขา.... รีบเดินหนีทันที รู้สึกว่า หัวใจตัวเองเต้นแรงมาก ใบหน้าร้อนผ่าวไปหมด
โอ๊ย! โอ๊ย! โอ๊ย! เธอเป็นอะไรไปเนี่ย!! รับตัวเองไม่ได้! รู้สึกเสียหน้า เสียฟอร์มอย่างมาก
‘โทรอะไรมาตอนนี้เนี่ย!!’ ปฏิการรู้สึกหัวเสียไม่น้อย ก่อนจะจำใจกดรับโทรศัพท์
“ปณตโทรมาบอกว่า คุณษาปวดท้องมาก ปริมไปดูหน่อยได้รึเปล่า” เขาเดินไปบอกปริมาหลังจากวางสาย
“ได้สิ พาคุณษาไปพักที่บ้านพักของฝ่ายหญิงก่อน” ปริมาตอบโดยไม่กล้ามองหน้าเขาแม้แต่น้อย
ทั้งคู่จึงรีบไปบอกปรามกับปิ่นขวัญว่า ขอกลับก่อน
สาวชาวสวนมองพิธีกรสาวนอนขดตัวเป็นกุ้งอยู่บนเตียงในบ้านพัก สองมือกุมท้องน้อยอยู่ ใบหน้านั้นซีดเซียว ได้ถามไถ่อาการแล้ว แค่ปวดรอบเดือนไม่ได้เป็นอะไรมาก หันไปมองกาน้ำร้อนไฟฟ้ากำลังเริ่มเดือดแล้ว ครู่หนึ่งไฟที่กาน้ำร้อนเปลี่ยนสี เธอตักขิงผงใส่แก้วเซรามิคสีขาวก่อนกดน้ำร้อนใส่ลงไปพอประมาณ แล้วยกช้อนคันเล็กคนน้ำร้อนและขิงผงให้ละลาย
“ได้ขวดใส่น้ำร้อนมาหรือยัง” เธอเดินออกไปถามปฏิการที่รออยู่หน้าบ้านพัก
ปณตกลับมาพร้อมกับขวดแก้วตามที่ปริมาร้องขอ เธอนำขวดไปเติมน้ำเย็นไว้ แล้วค่อย ๆ กดน้ำร้อนเติมลงไป จับดูขวดแก้วมีความร้อนพอประมาณ นำไปให้คนป่วยที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียง
“คุณษาเอาขวดประคบไว้ที่บริเวณที่ปวดค่ะ” เธอยกขวดวางไว้บนท้องน้อยของคนป่วย โดยเอาผ้าขนหนูรองไว้