คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 18
กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 13 มกราคม 2565 เวลา 11.30 น.
https://www.facebook.com/470988516420706/videos/990238691909652/
แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ณ กระทรวงสาธารณสุข
13 มกราคม 2565
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2565
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/483815189903477
จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. - 12 ม.ค. 2565)
รวม 107,771,259 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 12 มกราคม 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 499,355 โดส
เข็มที่ 1 : 49,703 ราย
เข็มที่ 2 : 116,093 ราย
เข็มที่ 3 : 333,559 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 51,642,575 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 47,172,252 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 8,956,432 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/483805376571125
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ขอเชิญลงทะเบียนรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดmRNA เข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 สำหรับประชาชนทั่วไป (โดยจะได้รับวัคซีน Pfizer หรือ Moderna ขึ้นกับวัคซีนที่ได้รับการจัดสรร)
สามารถลงทะเบียนและอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สแกน QR Code หรือ https://chulabooster.kcmh.or.th โดยผู้ที่ผ่านการลงทะเบียนรับสิทธิ์ ขอให้ท่านบันทึกหน้าจอไว้เป็นหลักฐาน และสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนตามวันและเวลาที่ได้ลงทะเบียนไว้เท่านั้น ณ คลินิกบริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชั้น 13 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์
ที่มา : โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/483766683241661
รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2565 จำนวน 14 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/483821916569471
โรคโควิด 19 เป็นโรคประจำถิ่นได้ หากทุกภาคส่วนและประชาชนร่วมมือกัน
ขณะนี้สถานการณ์โรคโควิด 19 ของประเทศไทยเริ่มทรงตัว หลังจากมีการติดเชื้อสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นได้ภายในปี 2565 โดยพิจารณาจาก 3 ปัจจัย คือ
1. เชื้อโรคมีความรุนแรงลดลงซึ่งสอดคล้องกับการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ Omicron ในขณะนี้ ที่เชื้อมีความรุนแรงลดลง เห็นได้จากแม้จะมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก แต่จำนวนผู้ป่วยอาการหนัก ใส่เครื่องช่วยหายใจ และผู้เสียชีวิตมีทิศทางลดลง
2. ประชาชนมีภูมิคุ้มกันต่อโรคมากขึ้น
3. ระบบบริหารจัดการ การดูแลรักษา ที่มีประสิทธิภาพ และควบคุมการระบาดได้ดี
ทั้งนี้ การที่โรคโควิด 19 จะเข้าสู่โรคประจำถิ่นได้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงสาธารณสุขจะพยายามชะลอการระบาดของโรค พร้อมไปกับการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ให้กับประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน จึงขอให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนและผู้ที่ถึงกำหนดรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ติดต่อขอรับวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้าน หรือตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนด และขอให้ยังคงเคร่งครัดมาตรการป้องกันส่วนบุคคล ใส่หน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง ล้างมือ หลีกเลี่ยงสถานที่เสี่ยง ตรวจคัดกรองด้วย ATK เมื่อมีความเสี่ยง ส่วนสถานประกอบการต้องเข้มการปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/483823593235970
Q&A คลายข้อข้องใจ
Q : เกณฑ์ส่งต่อผู้ป่วยจาก Home Isolation/Community Isolation
เข้ารักษาใน รพ. มีอาการอย่างไร ?
A : จะส่งต่อผู้ป่วยโควิดหากมีอาการตามเกณฑ์ ดังนี้
1) ไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส นานกว่า 24 ชั่วโมง
2) Oxygen saturation < 94%
3) หายใจมากกว่า 25 ครั้งต่อนาทีในผู้ใหญ่
4) กลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย 608
5) ผู้ป่วยเด็กมีอาการข้อ 1 หรือ 2 หายใจลำบาก ซึมลง หรือทานน้อยลง
ที่มา : กรมการแพทย์
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/483821303236199
หยุดก่อน
• เดินทางไปต่างประเทศ
• เดินทางข้ามจังหวัด
• นัดพบปะ กินเลี้ยงสังสรรค์
หยุดพฤติกรรมเสี่ยง เลี่ยงแพร่-รับเชื้อโควิด
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/483824966569166
Q&A คลายข้อข้องใจ
Q : กทม. จะเปิด รพ.สนาม เพิ่มหรือไม่ ?
A : ยังไม่มีการเปิด รพ.สนาม เพิ่มขึ้น
เนื่องจาก รพ.สนาม ที่ให้บริการในปัจจุบันยังเพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วยโควิด
** ขอให้ประชาชนมั่นใจ กทม.สามารถรองรับสถานการณ์หากมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/483874223230907
3 ปัจจัยช่วยสร้าง
3 ทางเลือกที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
เมื่ออยู่ในพื้นที่การแพร่กระจายของโควิด
ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/483875569897439
สถานการณ์โควิดต่างประเทศ
• ฟิลิปปินส์ ประกาศห้ามประชาชนที่ไม่ฉีดวัคซีนเข้าใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะในกรุงมะลิลา หลังจากประธานาธิบดีโรดริโก ดูเดอร์เต มีคำสั่งให้ใช้มาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการเดินทางเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผู้ที่เข้าใช้บริการจะต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนก่อนที่จะขึ้นรถประจำทาง, รถไฟ และรถยนต์ประเภทอื่นๆ ในระบบขนส่งสาธารณะในกรุงมะนิลานโยบาย "ไม่ฉีดวัคซีน ไม่มีสิทธิ์ขึ้นรถ" (No Vaccination, No Ride) เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทำสถิติสูงสุดในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
• WHO เปิดเผยว่า โควิด-19 สายพันธุ์ Omiron อาจก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยจนเสียชีวิตได้ในกลุ่มคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว นายแพทย์ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินของ WHO กล่าวว่า คนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนมีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะป่วยหนักและเสียชีวิตจาก Omiron
ที่มา : ศบค.
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/483884999896496
คำแนะนำการฉีดวัคซีนโควิด
ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/483879336563729
สถาบันบำราศนราดูร ประชาสัมพันธ์เรื่องวัคซีน COVID-19 เข็มที่ 3 เงื่อนไขผู้ที่มีสิทธิ์ในการลงทะเบียนสำหรับท่านที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มที่สถาบันบำราศนราดูรเท่านั้น
http://bamras.ddc.moph.go.th/covid/
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1855391181313759&id=470988516420706
ฉีดวัคซีนโควิด "นักเรียน" คืบหน้ากว่า 83% เตรียมแผนฉีดวัคซีน "เด็กเล็ก" 5.2 ล้านคน เร่งสำรวจความยินยอมผู้ปกครองเดือน ม.ค.นี้
ปัจจุบันภาพรวมของนักเรียนช่วงอายุ 12 ปีขึ้นไป ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ม.ค. 65) พบว่า มีจำนวนนักเรียนผู้ประสงค์ฉีด 4,317,337 คน จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 5,148,710 คน (83.85%)
แบ่งเป็นนักเรียนที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 1 จำนวน 4,102,827 คน (95.03%) และเข็ม 2 จำนวน 3,040,726 คน (70.43%)
ล่าสุด รัฐบาลมีแผนการจัดสรรวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 5 - 11 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจตัวเลข และความยินยอมของผู้ปกครองในระบบของกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งกระทรวงอื่น ๆ มีจำนวนนักเรียนราว 5.2 ล้านคน
คาดว่าจะเปิดลงทะเบียน แจ้งความประสงค์รับวัคซีนช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนม.ค. โดยรูปแบบการฉีดนั้น ใช้แนวทางเดิมที่ฉีดให้กับเด็กอายุ 12 - 18 ปี
เพื่อรองรับกับการระบาดของ “โอมิครอน” และนักเรียนที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วสามารถกลับเข้ามาเรียนที่โรงเรียนได้โดยเร็วที่สุด
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/50445
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/296343192528419
https://www.facebook.com/470988516420706/videos/990238691909652/
แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ณ กระทรวงสาธารณสุข
13 มกราคม 2565
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2565
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/483815189903477
จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. - 12 ม.ค. 2565)
รวม 107,771,259 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 12 มกราคม 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 499,355 โดส
เข็มที่ 1 : 49,703 ราย
เข็มที่ 2 : 116,093 ราย
เข็มที่ 3 : 333,559 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 51,642,575 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 47,172,252 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 8,956,432 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/483805376571125
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ขอเชิญลงทะเบียนรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดmRNA เข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 สำหรับประชาชนทั่วไป (โดยจะได้รับวัคซีน Pfizer หรือ Moderna ขึ้นกับวัคซีนที่ได้รับการจัดสรร)
สามารถลงทะเบียนและอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สแกน QR Code หรือ https://chulabooster.kcmh.or.th โดยผู้ที่ผ่านการลงทะเบียนรับสิทธิ์ ขอให้ท่านบันทึกหน้าจอไว้เป็นหลักฐาน และสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนตามวันและเวลาที่ได้ลงทะเบียนไว้เท่านั้น ณ คลินิกบริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชั้น 13 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์
ที่มา : โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/483766683241661
รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2565 จำนวน 14 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/483821916569471
โรคโควิด 19 เป็นโรคประจำถิ่นได้ หากทุกภาคส่วนและประชาชนร่วมมือกัน
ขณะนี้สถานการณ์โรคโควิด 19 ของประเทศไทยเริ่มทรงตัว หลังจากมีการติดเชื้อสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นได้ภายในปี 2565 โดยพิจารณาจาก 3 ปัจจัย คือ
1. เชื้อโรคมีความรุนแรงลดลงซึ่งสอดคล้องกับการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ Omicron ในขณะนี้ ที่เชื้อมีความรุนแรงลดลง เห็นได้จากแม้จะมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก แต่จำนวนผู้ป่วยอาการหนัก ใส่เครื่องช่วยหายใจ และผู้เสียชีวิตมีทิศทางลดลง
2. ประชาชนมีภูมิคุ้มกันต่อโรคมากขึ้น
3. ระบบบริหารจัดการ การดูแลรักษา ที่มีประสิทธิภาพ และควบคุมการระบาดได้ดี
ทั้งนี้ การที่โรคโควิด 19 จะเข้าสู่โรคประจำถิ่นได้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงสาธารณสุขจะพยายามชะลอการระบาดของโรค พร้อมไปกับการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ให้กับประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน จึงขอให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนและผู้ที่ถึงกำหนดรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ติดต่อขอรับวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้าน หรือตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนด และขอให้ยังคงเคร่งครัดมาตรการป้องกันส่วนบุคคล ใส่หน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง ล้างมือ หลีกเลี่ยงสถานที่เสี่ยง ตรวจคัดกรองด้วย ATK เมื่อมีความเสี่ยง ส่วนสถานประกอบการต้องเข้มการปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/483823593235970
Q&A คลายข้อข้องใจ
Q : เกณฑ์ส่งต่อผู้ป่วยจาก Home Isolation/Community Isolation
เข้ารักษาใน รพ. มีอาการอย่างไร ?
A : จะส่งต่อผู้ป่วยโควิดหากมีอาการตามเกณฑ์ ดังนี้
1) ไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส นานกว่า 24 ชั่วโมง
2) Oxygen saturation < 94%
3) หายใจมากกว่า 25 ครั้งต่อนาทีในผู้ใหญ่
4) กลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย 608
5) ผู้ป่วยเด็กมีอาการข้อ 1 หรือ 2 หายใจลำบาก ซึมลง หรือทานน้อยลง
ที่มา : กรมการแพทย์
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/483821303236199
หยุดก่อน
• เดินทางไปต่างประเทศ
• เดินทางข้ามจังหวัด
• นัดพบปะ กินเลี้ยงสังสรรค์
หยุดพฤติกรรมเสี่ยง เลี่ยงแพร่-รับเชื้อโควิด
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/483824966569166
Q&A คลายข้อข้องใจ
Q : กทม. จะเปิด รพ.สนาม เพิ่มหรือไม่ ?
A : ยังไม่มีการเปิด รพ.สนาม เพิ่มขึ้น
เนื่องจาก รพ.สนาม ที่ให้บริการในปัจจุบันยังเพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วยโควิด
** ขอให้ประชาชนมั่นใจ กทม.สามารถรองรับสถานการณ์หากมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/483874223230907
3 ปัจจัยช่วยสร้าง
3 ทางเลือกที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
เมื่ออยู่ในพื้นที่การแพร่กระจายของโควิด
ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/483875569897439
สถานการณ์โควิดต่างประเทศ
• ฟิลิปปินส์ ประกาศห้ามประชาชนที่ไม่ฉีดวัคซีนเข้าใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะในกรุงมะลิลา หลังจากประธานาธิบดีโรดริโก ดูเดอร์เต มีคำสั่งให้ใช้มาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการเดินทางเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผู้ที่เข้าใช้บริการจะต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนก่อนที่จะขึ้นรถประจำทาง, รถไฟ และรถยนต์ประเภทอื่นๆ ในระบบขนส่งสาธารณะในกรุงมะนิลานโยบาย "ไม่ฉีดวัคซีน ไม่มีสิทธิ์ขึ้นรถ" (No Vaccination, No Ride) เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทำสถิติสูงสุดในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
• WHO เปิดเผยว่า โควิด-19 สายพันธุ์ Omiron อาจก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยจนเสียชีวิตได้ในกลุ่มคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว นายแพทย์ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินของ WHO กล่าวว่า คนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนมีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะป่วยหนักและเสียชีวิตจาก Omiron
ที่มา : ศบค.
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/483884999896496
คำแนะนำการฉีดวัคซีนโควิด
ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/483879336563729
สถาบันบำราศนราดูร ประชาสัมพันธ์เรื่องวัคซีน COVID-19 เข็มที่ 3 เงื่อนไขผู้ที่มีสิทธิ์ในการลงทะเบียนสำหรับท่านที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มที่สถาบันบำราศนราดูรเท่านั้น
http://bamras.ddc.moph.go.th/covid/
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1855391181313759&id=470988516420706
ฉีดวัคซีนโควิด "นักเรียน" คืบหน้ากว่า 83% เตรียมแผนฉีดวัคซีน "เด็กเล็ก" 5.2 ล้านคน เร่งสำรวจความยินยอมผู้ปกครองเดือน ม.ค.นี้
ปัจจุบันภาพรวมของนักเรียนช่วงอายุ 12 ปีขึ้นไป ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ม.ค. 65) พบว่า มีจำนวนนักเรียนผู้ประสงค์ฉีด 4,317,337 คน จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 5,148,710 คน (83.85%)
แบ่งเป็นนักเรียนที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 1 จำนวน 4,102,827 คน (95.03%) และเข็ม 2 จำนวน 3,040,726 คน (70.43%)
ล่าสุด รัฐบาลมีแผนการจัดสรรวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 5 - 11 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจตัวเลข และความยินยอมของผู้ปกครองในระบบของกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งกระทรวงอื่น ๆ มีจำนวนนักเรียนราว 5.2 ล้านคน
คาดว่าจะเปิดลงทะเบียน แจ้งความประสงค์รับวัคซีนช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนม.ค. โดยรูปแบบการฉีดนั้น ใช้แนวทางเดิมที่ฉีดให้กับเด็กอายุ 12 - 18 ปี
เพื่อรองรับกับการระบาดของ “โอมิครอน” และนักเรียนที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วสามารถกลับเข้ามาเรียนที่โรงเรียนได้โดยเร็วที่สุด
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/50445
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/296343192528419
แสดงความคิดเห็น
🧡มาลาริน🇹🇭13ม.ค.ไทยไม่ติดTop10 ป่วย8,167คน หายป่วย3,845คน ตาย14คน/โควิด77จว.ชลบุรีนำ/โอมิครอนระยะห่างไม่แรง/การตายต่ำ
https://siamrath.co.th/n/313159
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
https://www.bangkokbiznews.com/news/982338
https://travel.trueid.net/detail/EpwDxDy0Jd17
https://www.naewna.com/local/628340
https://www.sanook.com/news/8501922/
ติดตามข่าวโควิดกับกระทู้ของมาลารินและเพื่อนๆค่ะ
วิจัยพบโอมิครอนติดเร็ว แต่ระยะห่างไม่แรง อัตราการเสียชีวิตต่ำ
WHO บอกฉีดวัคซีนช่วยลดรุนแรงได้ค่ะ
ได้เข็ม3 มาแล้ว เป็นไฟเซอร์ เจ็บตรงรอยเข็มปัก นอนตะแคงข้างฉีดไม่ได้ เป็นไข้เล็กน้อย หายดีในวันที่2 สบายๆค่ะ
อย่านอนใจไปฉีดกันนะคะ มัวช้าจะกลายเป็นว่าแย่งกันฉีด เข้ากลุ่มทุกเรื่องจะต้องใช้ใบรับรองการฉีดเป็นใบผ่านทางค่ะ
ต้องเห็นใจหน่วยงานที่เขาเคร่งครัดเพราะโอมิครอนติดเชื้อเร็วกว่าเดลต้า ครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว
.....💓💓