กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 7 ธันวาคม 2564 เวลา 13.00 น.


แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ณ กระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 7 ธันวาคม 2564


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้























รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันอังคารที่ 7 ธันวาคม 2564
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/460980255520304


จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. - 6 ธ.ค. 2564)
รวม 95,616,058 โดส ใน 77 จังหวัด

ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 6 ธันวาคม 2564
ยอดฉีดทั่วประเทศ 178,314 โดส

เข็มที่ 1 : 85,617 ราย
เข็มที่ 2 : 53,747 ราย
เข็มที่ 3 : 38,950 ราย

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 49,308,940 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 42,527,505 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 3,779,613 ราย

แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/460958835522446


กทม. คุมเข้มมาตรการป้องกันโควิด รร. ในสังกัด หลังเปิดเรียนแบบ On-Site

นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ภายหลังการเปิดเรียนแบบ On-Site ของโรงเรียนมัธยม สังกัด กทม. ภาคเรียนที่ 2/2564 กรุงเทพมหานคร ได้เน้นย้ำเรื่องการกำกับติดตาม ตรวจสอบมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด รณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจและเน้นย้ำนักเรียนในโรงเรียนที่เปิดเรียนแบบ On-Site ให้เข้มงวดในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 แบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) และปฏิบัติตามข้อกำหนด 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) รวมทั้งแนวทาง 7 มาตรการเข้ม สำหรับสถานศึกษา ดังนี้ 1. สถานศึกษาประเมินความพร้อมเปิดเรียนผ่าน TSC+ และรายงานการติดตามการประเมินผลผ่าน MOECOVID 2. ทำกิจกรรมร่วมกันในรูปแบบ Small Bubble จัดนักเรียนเว้นระยะห่างในห้องเรียนหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมข้ามกลุ่มกัน 3. จัดระบบการให้บริการอาหารตามหลักสุขาภิบาลอาหารและหลักโภชนาการ 4. จัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน ได้แก่ การระบายอากาศภายในอาคาร การทำความสะอาด คุณภาพน้ำอุปโภคบริโภค และการจัดการขยะ 5. จัดให้มี School Isolation แผนเผชิญเหตุ และมีข้อซักซ้อมอย่างเคร่งครัด 6. ควบคุมดูแลการเดินทางเข้าและออกจากสถานศึกษา (Seal Route) ทั้งกรณีรถรับ - ส่ง นักเรียน รถส่วนบุคคล และรถโดยสารสาธารณะ และ 7. จัดให้มี School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษา

ในส่วนของสำนักงานเขต จะมีคณะกรรมการการตรวจประเมินความพร้อมพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ระดับสำนักงานเขต กำกับให้โรงเรียนในสังกัดดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ภายใต้มาตรการ Sandbox : Safety Zone in School อย่างต่อเนื่องตลอดภาคการศึกษา ทั้งนี้ สำนักการศึกษา ได้จัดหาชุดตรวจ ATK เพื่อตรวจคัดกรองให้แก่นักเรียน ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา กทม. และผู้ที่เกี่ยวข้องที่ปฏิบัติงานในโรงเรียน โดยตรวจคัดกรอง     100 % ในวันเปิดภาคเรียน จำนวน 109 โรงเรียน ซึ่งจัดการเรียนในระดับมัธยมศึกษา โดยสุ่มตรวจนักเรียน 15% ของนักเรียนทั้งหมดแต่ละโรงเรียนตามความเหมาะสมทุกสัปดาห์ ในเบื้องต้น หากพบว่าบุคคลใดหากมีอาการไม่สบายให้หยุดอยู่ที่บ้านทันที หากมีประวัติเสี่ยงสูงหรือสงสัยว่าตนเองติดเชื้อให้ไปตรวจหาเชื้อด้วยวิธี ATK หรือ RT-PCR หากไม่พบเชื้อควรพักอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายดีจึงมาโรงเรียน พร้อมประชาสัมพันธ์ส่งเสริมให้ผู้ปกครองตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK ซึ่งโรงเรียนจะรายงานผลตรวจผ่านระบบ BEMIS (Bangkok Education Management lnformation System) และใช้กลุ่ม LINE ผู้บริหาร 109 โรงเรียน เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารและติดตามผล

ที่มา  กรุงเทพมหานคร
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/460931865525143


รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันอังคารที่ 7 ธันวาคม 2564 จำนวน 31 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/460990985519231


ข้อมูล The New York Times
รายงานว่า พบโควิดสายพันธุ์ Omicron 54 ประเทศทั่วโลก (ข้อมูลวันที่ 7 ธ.ค. 64)
- ทวีปแอฟริกา 4 ประเทศ
- ติดเชื้อในประเทศ 15 ประเทศ
- จากผู้เดินทางเข้าประเทศ 35 ประเทศ
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/461074808844182


• อังกฤษพบผู้ติดเชื้อโควิด สายพันธุ์ Omicron เพิ่มขึ้น 86 ราย ในวันเดียว ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศซึ่งรวมถึงเด็กที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ตรวจหาเชื้อโควิด ก่อนเดินทาง 48 ชั่วโมง

สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UKHSA) เปิดเผยว่า อังกฤษพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron เพิ่ม 86 ราย ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั้งหมดอยู่ที่ 246 ราย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron ทั้งหมดอยู่ที่ 160 ราย จึงเท่ากับว่า อังกฤษพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเกิน 50% ในวันเดียว ส่วนยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ทั้งหมดเมื่อนับรวมสายพันธุ์อื่นอยู่ที่ 43,992 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศซึ่งรวมถึงเด็กที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป จะต้องทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนออกเดินทาง 48 ชั่วโมง

• ญี่ปุ่น สั่งระงับไม่ให้ชาวต่างชาติทั่วโลกเดินทางเข้าประเทศ
เพื่อสกัดกั้นการระบาดของโควิด สายพันธุ์ Omicron

รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศห้ามชาวต่างชาติจากทุกประเทศทั่วโลกเดินทางเข้าญี่ปุ่น เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron โดยญี่ปุ่นได้นำมาตรการควบคุมพรมแดนกลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากเพิ่งผ่อนปรนต่อนักธุรกิจ, นักเรียน นักศึกษา และแรงงานต่างชาติไปเมื่อไม่นานมานี้เพื่อคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron

ที่มา ศบค.
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/461076878843975


สธ. แนะนำ สมาชิกในครอบครัวควรสร้างแรงจูงใจในการเชิญชวนฉีดวัคซีน และยึดมั่นมาตรการ
V - Vaccine (ฉีดวัคซีนให้ครบ)
U - Universal Prevention (ป้องกันตัวเองตลอดเวลา)
C - Covid Free Setting (ผู้ให้บริการพร้อมตรวจ ATK ทุกสัปดาห์)
A - ATK (Antigen Test Kit) (พร้อมตรวจเสมอ เมื่อใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ)

ที่มา กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/461121412172855


ขนส่งสาธารณะ คุมเข้มมาตรการป้องกันโควิด

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หลังจากกระทรวงสาธารณสุขตรวจพบผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน รายแรกของไทย ได้กำชับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะการขนส่งสาธารณะทุกประเภทอย่างเข้มงวด รวมทั้งจัดให้มีการเว้นระยะห่าง และการปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล พร้อมทั้งติดตามการประกาศข้อแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะทางรัฐบาล คณะแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ ได้มีการศึกษาและติดตามสถานการณ์ของสายพันธุ์ “โอไมครอน” มาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มาตรการคัดกรองผู้เดินทางมาจากต่างประเทศยังคงเป็นไปตามข้อกำหนดอย่างเข้มข้น ขอให้ประชาชนไม่ควรประมาท โดยเฉพาะเมื่อเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/7289902581035199


รมช.สธ.ยืนยันมาตรการยังพร้อมรับมือโควิด-19 เผยกลุ่มเสี่ยงสูง พนง.โรงแรม 17 คน พบติดเชื้อ 1 รอผลตรวจสายพันธ์ใด เร่งสอบสวนโรค

นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยกรณีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron ชาวสหรัฐอเมริกา รายแรกที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยว่า ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการพิเศษเข้ามาดูแล ขณะที่กลุ่มผู้เสี่ยงสูง 17 รายนั้น การตรวจมีผลเป็นลบ 16 ราย ส่วน 1 รายที่เป็นพนักงานโรงแรม ที่มีผลเป็นบวกนั้น ขณะนี้ได้เข้าสู่กระบวนการกักตัวและดำเนินการสอบสวนโรคที่สถาบันบำราศนราดูลแล้ว พนักงานคนดังกล่าวได้เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้ต้องสอบสวนโรคว่าเป็นการติดเชื้อมาจากที่ใด ส่วนการจะระบุสายพันธุ์ว่าเป็นสายพันธุ์โอมิครอนหรือไม่ ต้องใช้ระยะเวลา 3-4 วัน ตรวจเชิงลึกเพื่อค้นหาจีโนมที่จะระบุสายพันธุ์ของไวรัส

“เชื่อมั่นว่า มาตรการด้านสาธารณสุขของประเทศไทยยังคงเพียงพอต่อการรับมือการระบาด หากมีการติดเชื้อไม่ถึงร้อยละห้า หรืออัตราการเสียชีวิตไม่ถึงร้อยละสอง ของจำนวนประชากรแล้วนั้น ยืนยันว่าระบบสาธารณสุขของไทยยังรับมือไหว ซึ่งได้รายงานสถานการณ์ให้นายกฯ รับทราบตลอดเวลาและจะมีการประเมินสถานการณ์การรับมือเป็นระยะต่อไป” รมช.สธ. ย้ำ
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/7289894257702698