Lockheed Martin เข้ามอบข้อมูลการจัดหา F-35 ให้ทอ.ไทยเรียบร้อยแล้ว!
…ทำอย่างไรถึงจะซื้อ F-35 ได้ในราคาถูก! …
จากกรณีที่ผู้บัญชาการทหารอากาศออกมาพูดเกี่ยวกับแนวความติดที่จะซื้อเครื่องบินรบ แบบ F-35 “Lightning II” จาก บริษัท Lockheed Martin สหรัฐอเมริกา เป็นครั้งที่ 2 เมื่อตอนปีใหม่นี้นั้น มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมาก
โดยเฉพาะในโลกโซเชี่ยล บางคนแสดงความคิดเห็นว่าเป็นไปได้ยากเพราะมีราคาแพง ถึงแม้ว่าราคาจะลดลงมากในปัจจุบัน, ผบ.ทอ.พูดไม่หมดเรื่องราคา, หรือผบ.ทอ.มีข้อมูลไม่เพียงพอ, ขั้นตอนการจัดซื้อต้องผ่านหลายด่านอาจไม่ผ่านความเห็นชอบ, ทอ.ไม่อธิบายในรายละเอียด ประชาชนอาจไม่เข้าใจไม่สนับสนุน อะไรทำนองนี้ ซึ่งบางอย่างก็ไม่เป็นจริงอย่างที่กล่าวมา แต่ทำไมไม่คิดทางออกหรือมีวิธีว่าจะทำอย่างไรที่กองทัพอากาศไทยจะมี F-35 ในราคาที่จับต้องได้
…"Battlefield Defense" จะขอนำเสนออีกแง่มุมหนึ่งให้เป็นข้อคิดในมุมบวก ... เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2564 บริษัท Lockheed Martin ได้เข้าพบผู้บัญชาการทหารอากาศ เกี่ยวกับเรื่องที่ทอ.มีความสนใจในการจัดหา F-35 พร้อมรับฟังสิ่งที่ทอ.ต้องการทราบรายละเอียดต่างๆ และต่อมาในปลายเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา บริษัท Lockheed Martin ได้เข้าพบผู้บัญชาการทหารอากาศอีกครั้ง โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่และผู้ที่เกี่ยวข้องของกองทัพอากาศร่วมประชุมปรึกษาหารือกัน ซึ่งครั้งนี้ บริษัท Lockheed Martin ได้นำข้อมูลรายละเอียดของการจัดซื้อ F-35 มามอบให้กับทอ.ไทยเพื่อเป็นข้อมูลทั้งหมด อันแสดงให้เห็นว่าทอ.มีข้อมูลเรียบร้อยแล้ว แต่ที่ไม่ได้ออกมาบอกทั้งหมดเพราะอยู่ในขั้นตอนการศึกษาและกระบวนการดำเนินการที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งขั้นตอนต่อมาก็คือทอ.จะต้องตั้งคณะกรรมการในส่วนที่เกี่ยวข้องในการจัดซื้อจัดหา รวบรวมรายละเอียดพร้อมทั้งประสานไปยัง JUSMAG ประจำประเทศไทย เนื่องจากคงต้องซื้อผ่านโครงการ FMS และเสนอไปยังกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เพื่อการส่งต่อไปยังรัฐบาลสหรัฐฯและสภาครองเกรสในการเห็นชอบที่จะขาย F-35 ให้ไทยได้หรือไม่ (การซื้อผ่าน FMS ไม่ได้หมายความว่าจะมีราคาสูงกว่าการซื้อโดยตรงจากผู้ผลิตเสมอไป เนื่องจากมีค่าบริหารจัดการ) ซึ่งขั้นตอนส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯนั้น อาจมีการเจรจาถึงความช่วยเหลือระหว่างไทยกับสหรัฐฯซึ่งเป็นมิตรประเทศกัน เนื่องจากปัจจุบันสหรัฐฯได้เห็นความสำคัญถึงความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิค และประเทศไทยเป็นมหามิตรกับสหรัฐฯมาช้านานโดยเฉพาะด้านการทหารที่มีความแนบแน่นมาตลอด จะเห็นได้จากมีการพบปะกันของผู้นำทางทหารระดับสูงของทั้ง 2 ประเทศตลอดมา รวมถึงประเทศไทยยังเป็นศูนย์กลางในอาเชี่ยน ที่สหรัฐฯให้ความสำคัญเป็นอย่างมากด้วยในปัจจุบัน ซึ่งการซื้อ F-35 โดย FMS นั้น รัฐบาลไทยต้องจ่ายเงินให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ แล้วรัฐบาลสหรัฐฯจึงจะไปจ่ายให้ บริษัท Lockheed Martin อีกทอดหนึ่ง ถ้าสหรัฐฯช่วยเหลือไทย เราก็อาจซื้อ F-35 ได้ราคาถูกลง เพราะส่วนต่างนั้นรัฐบาลสหรัฐฯจะเป็นผู้จ่ายให้บริษัท Lockheed Martin เอง นอกจากนี้การฝึกบิน การใช้งานและการซ่อมบำรุง ตลอดจนฝึกทางยุทธวิธี นักบินและจนท.ฝ่ายการช่างของทอ.ไทย ก็ต้องไปฝึกกับทอ.สหรัฐฯ ซึ่งผู้ที่ซื้อ F-35 ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้ทอ.สหรัฐฯด้วย แต่ถ้าเราได้รับการช่วยเหลือ ค่าใช้จ่ายตรงนี้เราก็จะประหยัดไปได้อีกเยอะทีเดียว ส่วนที่มีคนเรียกร้องจะให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อที่จะให้สอดคล้องกับความแนวความคิดในการจัดซื้ออาวุธของกระทรวงกลาโหมนั้น ก็ต้องมามองถึงความจริงว่าไทยเราไม่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการของ F-35 และที่สำคัญเราซื้อจำนวนน้อยแถมขอลดราคาลงอีก จะเอาอะไรไปต่อรองกันล่ะ แค่เขาขายให้ก็ดีแล้ว อีกทั้งการที่เรามีเครื่องบินรบที่ทันสมัยในยุคที่ 5 ที่มีเทคโนโลยีสเตลท์นั้น เราก็ได้เทคโนโลยีขั้นสูงเหล่านี้มาอยู่แล้ว ถ้ามีก็คุ้มแล้ว จะไปเรียกร้องอะไรอีก ถึงเขาให้เรามีส่วนร่วมสร้างชิ้นส่วนหรืออื่นๆ ที่เป็นการสร้างงานในประเทศ เราจะมีเงินลงทุนมั๊ย มันไม่คุ้มกัน เพราะเราไม่ได้ซื้อจำนวนมากพอ ...แต่เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องระดับยความว่าต้องเป็นการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สำคัญยิ่ง เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและการป้องกันประเทศโดยรวม ในขณะที่รอบบ้านเรา ประเทศต่างๆก็เริ่มเสริมกำลังรบแสนยานุภาพทางอากาศมากขึ้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องก้าวให้ทันละต้องให้ล้ำหน้าไปอีกก้าวหนึ่ง รัฐบาลต้องให้การสนับสนุนเป็นแม่งานในการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ใช่ให้กองทัพอากาศดำเนินการจัดหาตามลำพังเหมือนการซื้ออาวุธโดยทั่วๆไป ที่สำคัญกระทรวงกลาโหม, สภาผู้แทนราษฏรทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต้องร่วมกันไฟเขียว รวมถึงประชาชนตลอดจนสื่อมวลชนต้องเข้าใจและให้การสนับสนุนอีกทางหนึ่งด้วย การจัดหา F-35 จึงจะประสบความสำเร็จ
...ที่คนมองว่าโครงการนี้มีราคาแพงต้องใช้เงินงบประมาณจำนวนมาก ทางออกที่ดี ก็คือทอ.ควรจัดหาทีละน้อยๆเครื่องเช่นครั้งละ 4 เครื่อง และมีอ็อปชั่นจัดหาเพิ่มเติมในภายหลัง ซึ่งมีบางประเทศเขาก็ทำกัน ก็จะทำให้กองทัพอากาศสามารถบริหารจัดการใช้เงินงบประมาณของตนเองได้อย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพ ...ขอให้อดใจรอสักหน่อย เมื่อทุกอย่างได้ข้อยุติ กองทัพอากาศคงออกมาแถลงอย่างเป็นทางการถึงการจัดซื้อ F-35 ให้พวกเราชาวไทยได้รับรู้ข้อมูลที่แท้จริงกันอย่างแน่นอน ...ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลเชิงบวกที่เราอยากจะแสดงให้เห็นในอีกแง่มุมหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นไปได้ครับ
ที่มา : Battlefield Defense magazine (“สมรภูมิ”)
ทำอย่างไรถึงจะซื้อ F-35 ได้ในราคาถูก!
…ทำอย่างไรถึงจะซื้อ F-35 ได้ในราคาถูก! …
จากกรณีที่ผู้บัญชาการทหารอากาศออกมาพูดเกี่ยวกับแนวความติดที่จะซื้อเครื่องบินรบ แบบ F-35 “Lightning II” จาก บริษัท Lockheed Martin สหรัฐอเมริกา เป็นครั้งที่ 2 เมื่อตอนปีใหม่นี้นั้น มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมาก โดยเฉพาะในโลกโซเชี่ยล บางคนแสดงความคิดเห็นว่าเป็นไปได้ยากเพราะมีราคาแพง ถึงแม้ว่าราคาจะลดลงมากในปัจจุบัน, ผบ.ทอ.พูดไม่หมดเรื่องราคา, หรือผบ.ทอ.มีข้อมูลไม่เพียงพอ, ขั้นตอนการจัดซื้อต้องผ่านหลายด่านอาจไม่ผ่านความเห็นชอบ, ทอ.ไม่อธิบายในรายละเอียด ประชาชนอาจไม่เข้าใจไม่สนับสนุน อะไรทำนองนี้ ซึ่งบางอย่างก็ไม่เป็นจริงอย่างที่กล่าวมา แต่ทำไมไม่คิดทางออกหรือมีวิธีว่าจะทำอย่างไรที่กองทัพอากาศไทยจะมี F-35 ในราคาที่จับต้องได้
…"Battlefield Defense" จะขอนำเสนออีกแง่มุมหนึ่งให้เป็นข้อคิดในมุมบวก ... เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2564 บริษัท Lockheed Martin ได้เข้าพบผู้บัญชาการทหารอากาศ เกี่ยวกับเรื่องที่ทอ.มีความสนใจในการจัดหา F-35 พร้อมรับฟังสิ่งที่ทอ.ต้องการทราบรายละเอียดต่างๆ และต่อมาในปลายเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา บริษัท Lockheed Martin ได้เข้าพบผู้บัญชาการทหารอากาศอีกครั้ง โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่และผู้ที่เกี่ยวข้องของกองทัพอากาศร่วมประชุมปรึกษาหารือกัน ซึ่งครั้งนี้ บริษัท Lockheed Martin ได้นำข้อมูลรายละเอียดของการจัดซื้อ F-35 มามอบให้กับทอ.ไทยเพื่อเป็นข้อมูลทั้งหมด อันแสดงให้เห็นว่าทอ.มีข้อมูลเรียบร้อยแล้ว แต่ที่ไม่ได้ออกมาบอกทั้งหมดเพราะอยู่ในขั้นตอนการศึกษาและกระบวนการดำเนินการที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งขั้นตอนต่อมาก็คือทอ.จะต้องตั้งคณะกรรมการในส่วนที่เกี่ยวข้องในการจัดซื้อจัดหา รวบรวมรายละเอียดพร้อมทั้งประสานไปยัง JUSMAG ประจำประเทศไทย เนื่องจากคงต้องซื้อผ่านโครงการ FMS และเสนอไปยังกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เพื่อการส่งต่อไปยังรัฐบาลสหรัฐฯและสภาครองเกรสในการเห็นชอบที่จะขาย F-35 ให้ไทยได้หรือไม่ (การซื้อผ่าน FMS ไม่ได้หมายความว่าจะมีราคาสูงกว่าการซื้อโดยตรงจากผู้ผลิตเสมอไป เนื่องจากมีค่าบริหารจัดการ) ซึ่งขั้นตอนส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯนั้น อาจมีการเจรจาถึงความช่วยเหลือระหว่างไทยกับสหรัฐฯซึ่งเป็นมิตรประเทศกัน เนื่องจากปัจจุบันสหรัฐฯได้เห็นความสำคัญถึงความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิค และประเทศไทยเป็นมหามิตรกับสหรัฐฯมาช้านานโดยเฉพาะด้านการทหารที่มีความแนบแน่นมาตลอด จะเห็นได้จากมีการพบปะกันของผู้นำทางทหารระดับสูงของทั้ง 2 ประเทศตลอดมา รวมถึงประเทศไทยยังเป็นศูนย์กลางในอาเชี่ยน ที่สหรัฐฯให้ความสำคัญเป็นอย่างมากด้วยในปัจจุบัน ซึ่งการซื้อ F-35 โดย FMS นั้น รัฐบาลไทยต้องจ่ายเงินให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ แล้วรัฐบาลสหรัฐฯจึงจะไปจ่ายให้ บริษัท Lockheed Martin อีกทอดหนึ่ง ถ้าสหรัฐฯช่วยเหลือไทย เราก็อาจซื้อ F-35 ได้ราคาถูกลง เพราะส่วนต่างนั้นรัฐบาลสหรัฐฯจะเป็นผู้จ่ายให้บริษัท Lockheed Martin เอง นอกจากนี้การฝึกบิน การใช้งานและการซ่อมบำรุง ตลอดจนฝึกทางยุทธวิธี นักบินและจนท.ฝ่ายการช่างของทอ.ไทย ก็ต้องไปฝึกกับทอ.สหรัฐฯ ซึ่งผู้ที่ซื้อ F-35 ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้ทอ.สหรัฐฯด้วย แต่ถ้าเราได้รับการช่วยเหลือ ค่าใช้จ่ายตรงนี้เราก็จะประหยัดไปได้อีกเยอะทีเดียว ส่วนที่มีคนเรียกร้องจะให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อที่จะให้สอดคล้องกับความแนวความคิดในการจัดซื้ออาวุธของกระทรวงกลาโหมนั้น ก็ต้องมามองถึงความจริงว่าไทยเราไม่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการของ F-35 และที่สำคัญเราซื้อจำนวนน้อยแถมขอลดราคาลงอีก จะเอาอะไรไปต่อรองกันล่ะ แค่เขาขายให้ก็ดีแล้ว อีกทั้งการที่เรามีเครื่องบินรบที่ทันสมัยในยุคที่ 5 ที่มีเทคโนโลยีสเตลท์นั้น เราก็ได้เทคโนโลยีขั้นสูงเหล่านี้มาอยู่แล้ว ถ้ามีก็คุ้มแล้ว จะไปเรียกร้องอะไรอีก ถึงเขาให้เรามีส่วนร่วมสร้างชิ้นส่วนหรืออื่นๆ ที่เป็นการสร้างงานในประเทศ เราจะมีเงินลงทุนมั๊ย มันไม่คุ้มกัน เพราะเราไม่ได้ซื้อจำนวนมากพอ ...แต่เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องระดับยความว่าต้องเป็นการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สำคัญยิ่ง เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและการป้องกันประเทศโดยรวม ในขณะที่รอบบ้านเรา ประเทศต่างๆก็เริ่มเสริมกำลังรบแสนยานุภาพทางอากาศมากขึ้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องก้าวให้ทันละต้องให้ล้ำหน้าไปอีกก้าวหนึ่ง รัฐบาลต้องให้การสนับสนุนเป็นแม่งานในการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ใช่ให้กองทัพอากาศดำเนินการจัดหาตามลำพังเหมือนการซื้ออาวุธโดยทั่วๆไป ที่สำคัญกระทรวงกลาโหม, สภาผู้แทนราษฏรทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต้องร่วมกันไฟเขียว รวมถึงประชาชนตลอดจนสื่อมวลชนต้องเข้าใจและให้การสนับสนุนอีกทางหนึ่งด้วย การจัดหา F-35 จึงจะประสบความสำเร็จ
...ที่คนมองว่าโครงการนี้มีราคาแพงต้องใช้เงินงบประมาณจำนวนมาก ทางออกที่ดี ก็คือทอ.ควรจัดหาทีละน้อยๆเครื่องเช่นครั้งละ 4 เครื่อง และมีอ็อปชั่นจัดหาเพิ่มเติมในภายหลัง ซึ่งมีบางประเทศเขาก็ทำกัน ก็จะทำให้กองทัพอากาศสามารถบริหารจัดการใช้เงินงบประมาณของตนเองได้อย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพ ...ขอให้อดใจรอสักหน่อย เมื่อทุกอย่างได้ข้อยุติ กองทัพอากาศคงออกมาแถลงอย่างเป็นทางการถึงการจัดซื้อ F-35 ให้พวกเราชาวไทยได้รับรู้ข้อมูลที่แท้จริงกันอย่างแน่นอน ...ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลเชิงบวกที่เราอยากจะแสดงให้เห็นในอีกแง่มุมหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นไปได้ครับ
ที่มา : Battlefield Defense magazine (“สมรภูมิ”)