ลูกรักประเทศแรกในอาเซียน! กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกามีมติอนุมัติการขายขีปนาวุธอากาศสู่อากาศระยะกลางขั้นสูง AIM-120C-8 (AMRAAM) จำนวน 54 ลูก มูลค่า 133 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับสิงคโปร์ภายใต้โครงการการขายทางทหารให้กับต่างประเทศ (FMS)
สัญญาการขายขีปนาวุธซึ่งพัฒนาโดย RTX (เดิมชื่อ Raytheon) ดำเนินการภายใต้โครงการการขายทางทหารให้กับต่างประเทศ (FMS)
นอกเหนือจากขีปนาวุธ AIM-120C-8 จำนวน 54 ลูก สัญญานี้ยังรวมถึงส่วนนำวิถีสำหรับขีปนาวุธเหล่านี้ด้วย ตามแถลงการณ์ที่ออกโดยสำนักงานความร่วมมือด้านความปลอดภัยการป้องกันประเทศสหรัฐฯ (DSCA) เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2024
มีรายงานว่า AIM-120D AMRAAM มีพิสัยการบินสูงสุด 160 กม. และมีความเร็วถึง Mach 4
“ข้อเสนอการขายขีปนาวุธอากาศสู่อากาศเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ และวัตถุประสงค์ด้านความมั่นคงแห่งชาติด้วยการเสริมสร้างความมั่นคงให้กับพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญต่อเสถียรภาพทางการเมืองและการพัฒนาเศรษฐกิจในเอเชีย” DSCA กล่าว
แม้ว่า DSCA จะไม่ได้ระบุว่าเครื่องบินรุ่นใดที่จะใช้ขีปนาวุธดังกล่าว แต่กองทัพอากาศสิงคโปร์มีเครื่องบินรบ F-15SG ใช้งานอยู่ และยังสั่งซื้อเครื่องบินรบ F-35B จำนวน 12 ลำอีกด้วย
คาดว่าขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ AIM-120C-8 (AMRAAM) ขั้นสูงเหล่านี้จะถูกนำไปใช้โดยเครื่องบินรบ F-35B ของสิงคโปร์ในอนาคตซึ่งมีกำหนดส่งมอบในปี 2026 และเครื่องบินรบ F-15SG ที่มีอยู่
ปัจจุบัน สิงคโปร์มีเครื่องบินรบ F-15SG จำนวน 40 ลำ ซึ่งเริ่มจัดหาเป็นระยะๆ ตั้งแต่ปี 2548 เครื่องบินเหล่านี้ใช้งานโดยฝูงบินที่ 142 และ 149 ของกองทัพอากาศสาธารณรัฐสิงคโปร์
ในปี 2019 สิงคโปร์ได้ประกาศซื้อเครื่องบินรบ F-35 จำนวน 4 ลำ มูลค่าประมาณ 2.75 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามแถลงการณ์ของรัฐบาลสหรัฐฯ
ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 สิงคโปร์ประกาศซื้อเครื่องบินรบ F-35B รุ่นที่ 5 เพิ่มเติมจาก Lockheed Martin จำนวน 8 ลำ ส่งผลให้กองทัพอากาศสาธารณรัฐสิงคโปร์ (RSAF) มีเครื่องบินรบรุ่นที่ 5 รวมทั้งหมด 12 ลำ
อ้างอิง
1.
https://www.janes.com/osint-insights/defence-news/weapons/us-approves-possible-aim-120c-8-sale-to-singapore
2.
https://thedefensepost.com/2024/09/11/us-amraam-missiles-singapore/
3.
https://bulgarianmilitary.com/2024/09/10/singapore-decided-to-acquire-54-of-the-us-aim-120c-8-amraams/
ขีปนาวุธไฮเทค! สหรัฐฯ อนุมัติการขาย AIM-120C-8 ให้กับสิงคโปร์ ประเทศแรกในอาเซียน
สัญญาการขายขีปนาวุธซึ่งพัฒนาโดย RTX (เดิมชื่อ Raytheon) ดำเนินการภายใต้โครงการการขายทางทหารให้กับต่างประเทศ (FMS)
นอกเหนือจากขีปนาวุธ AIM-120C-8 จำนวน 54 ลูก สัญญานี้ยังรวมถึงส่วนนำวิถีสำหรับขีปนาวุธเหล่านี้ด้วย ตามแถลงการณ์ที่ออกโดยสำนักงานความร่วมมือด้านความปลอดภัยการป้องกันประเทศสหรัฐฯ (DSCA) เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2024
มีรายงานว่า AIM-120D AMRAAM มีพิสัยการบินสูงสุด 160 กม. และมีความเร็วถึง Mach 4
“ข้อเสนอการขายขีปนาวุธอากาศสู่อากาศเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ และวัตถุประสงค์ด้านความมั่นคงแห่งชาติด้วยการเสริมสร้างความมั่นคงให้กับพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญต่อเสถียรภาพทางการเมืองและการพัฒนาเศรษฐกิจในเอเชีย” DSCA กล่าว
แม้ว่า DSCA จะไม่ได้ระบุว่าเครื่องบินรุ่นใดที่จะใช้ขีปนาวุธดังกล่าว แต่กองทัพอากาศสิงคโปร์มีเครื่องบินรบ F-15SG ใช้งานอยู่ และยังสั่งซื้อเครื่องบินรบ F-35B จำนวน 12 ลำอีกด้วย
คาดว่าขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ AIM-120C-8 (AMRAAM) ขั้นสูงเหล่านี้จะถูกนำไปใช้โดยเครื่องบินรบ F-35B ของสิงคโปร์ในอนาคตซึ่งมีกำหนดส่งมอบในปี 2026 และเครื่องบินรบ F-15SG ที่มีอยู่
ปัจจุบัน สิงคโปร์มีเครื่องบินรบ F-15SG จำนวน 40 ลำ ซึ่งเริ่มจัดหาเป็นระยะๆ ตั้งแต่ปี 2548 เครื่องบินเหล่านี้ใช้งานโดยฝูงบินที่ 142 และ 149 ของกองทัพอากาศสาธารณรัฐสิงคโปร์
ในปี 2019 สิงคโปร์ได้ประกาศซื้อเครื่องบินรบ F-35 จำนวน 4 ลำ มูลค่าประมาณ 2.75 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามแถลงการณ์ของรัฐบาลสหรัฐฯ
ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 สิงคโปร์ประกาศซื้อเครื่องบินรบ F-35B รุ่นที่ 5 เพิ่มเติมจาก Lockheed Martin จำนวน 8 ลำ ส่งผลให้กองทัพอากาศสาธารณรัฐสิงคโปร์ (RSAF) มีเครื่องบินรบรุ่นที่ 5 รวมทั้งหมด 12 ลำ
อ้างอิง
1. https://www.janes.com/osint-insights/defence-news/weapons/us-approves-possible-aim-120c-8-sale-to-singapore
2. https://thedefensepost.com/2024/09/11/us-amraam-missiles-singapore/
3. https://bulgarianmilitary.com/2024/09/10/singapore-decided-to-acquire-54-of-the-us-aim-120c-8-amraams/