= สำหรับ คนที่คิดว่า Omicron ไม่รุนแรง รบกวนลองเข้ามาตอบคำถามผมหน่อยครับ =

ผมมีคำถามชวนให้คิด 
1. มีอะไรทำให้เรามั่นใจหรอครับว่า มันจะไม่กลายพันธุ์อีก
เพราะเรารู้อยู่แล้วว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้เชื้อกลายพันธุ์ คือ ปริมาณผู้ติดเชื้อ
ยิ่งติดเชื้อเยอะ เชื้อยิ่งแบ่งตัว ก็ยิ่งมีโอกาสกลายพันธุ์สูงขึ้น
ถ้าต้องกลายพันธุ์เพื่อความอยู่รอด ก็ต้องเป็นกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ ที่ภูมิเดิมเอาไม่อยู่ถึงจะแพร่พันธุ์ต่อได้
และถ้ามันกลายพันธุ์แล้วไปในทางที่เลวลง คือ รุนแรงมากขึ้น แต่ยังคงความสามรถแพร่เชื้อไว้เท่าเดิม
เราจะทำอย่างไรต่อครับ

2. จากรายงานของสธ. เดลต้ายังตรวจพบอยู่ตลอด
แม้ว่าจะเริ่มลดลง แม้กระทั่งใน UK ที่ตอนนี้ Omicron ครองส่วนแบ่งไปถึง 90-95%
ยังพบ Delta 3-5% Delta ไม่ได้กระจอกเหมือน Alpha ที่จะสูญพันธุไป
ดังนั้นถ้าท่านติดเชื้อโควิด ท่านรู้ได้อย่างไร ว่าท่านจะติด Omicron
ในความจริงแล้ว ท่านไม่สามารถเลือกติดเชื้อเฉพาะ Omicron ได้
ท่านมีโอกาสติดเชื้อได้ทั้ง Delta และ Omicron
เหมือนกล่องสุ่ม ซึ่งไม่รู้เปิดมาแล้วจะเจออะไร

ถ้าเกิดเปิดเจอเดลต้าก็แค่อาจจะป่วยหนักหรือเสียชีวิตเท่านั้นเอง
ท่านพร้อมที่จะเปิดกล่องสุ่มนี้ไหม ? ในเมื่อชีวิตไม่ได้เริ่มใหม่ง่ายเหมือนเล่นเกมส์
ถ้าโชคดี สุ่มติด Omicron ป่วยอาจจะไม่หนัก แต่ก็ยังมีอาการ Long Covid ได้
ซึ่งกว่าจะหาย อาจจะนานเป็นเดือน หรือ  ปี

3.  ถ้ารัฐบาล คิดว่า Omicron ไม่รุนแรง  รัฐบาลก็ควรเปิด ระบบ Test and go ให้ Eu เข้ามาได้ตามเดิมเลย
เพราะเชื้อใน Europe ตอนนี้ ส่วนใหญ่โดยเฉพาะ Uk เป็น Omicron แล้ว
นทท. จ่อคิวเข้า Test and Go เป็นหลักแสน คน เลย ค่าใช้จ่าย/คน ใน 1 ทริป ประมาณ 5-8 หมื่นบาท
ถ้ามาครบหมด ประเทศได้รายได้ อีกเป็นหมื่นล้าน แค่ภายใน 3 เดือน
ถ้างั้นเปิดรับนทท. แล้ว เอาเงินจากการท่องเที่ยวมาชดเชยภาคส่วนอื่นๆ ที่ต้องเสียหายจาก covid สิครับ
ยกเลิก Test and Go ทำไม ถ้าคิดว่า Omicron เป็นเชื้อดี ทำให้มี Herd Immunity

4. ในความจริง Omicron มีแนวโน้มที่ก่อโรครุนแรงลดลง ทั้งจากข้อมูลจาก US + UK + South africa
- ป่วยหนัก ลดลงจากเดลต้า ประมาณ 50 % (100 คน จะป่วยหนัก 2-3 คน )
- เสียชีวิตลดลง จากเดลต้า  60-70% อัตราเสียชีวิต ประมาณ 0.2 - 0.4 %
แต่ไข้หวัดใหญ่เดิม เสียชีวิต แค่ 0.01-0.1% เท่านั้นนะครับ
Omicron รุนแรงกว่า ไข้หวัดใหญ่เดิม ประมาณ 2-40 เท่านะครับ
แต่แพร่ง่ายกว่าไข้หวัดใหญ่เดิม มากๆๆ ก. ไก่ล้านตัว

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ 
       จากเดิม ติดเชื้อ 100 คน ป่วยหนัก 5 คน ตาย 2 คน
      กลายเป็น  ติดเชื้อ 100 คน ป่วยหนัก 2 คน ตาย 0.4 คน
แต่ จากข้อมูลใน South Africa โอกาสติดเชื้อในภาพรวม สูงขึ้น 4-5 เท่า
ดังนั้นจึงกลายเป็นว่า ติดเชื้อ 500 คน ป่วยหนัก 10 ตาย 2 คน

ประเทศอื่นๆในยุโรป กราฟผู้เสียชีวิตต่อ 1ล้านคน
กำลังพุ่งขึ้นนะครับ และเริ่มมีแนวโน้มที่จะสูงกว่าเดลต้าแล้วนะครับ

กราฟ จำนวนผู้เสียชีวิตใน ฝรั่งเศศ +Italy แซง Delta แล้วนะครับ
ถ้าในภาพสเกลใหญ่ขึ้น มึคุณหมอท่านนึงบอกว่า เด่วก็ได้รับเชื้อกันหมด

 ถ้าเอาแค่ติด 70% ของปชช ทั้งประเทศไทย  ==> 50 ล้านคน
* ป่วยหนัก 2% ของ 50 ล้าน  = 1 ล้านคน  จะหาเตียงICUจากไหนให้เพียงพอ *
* ตาย 0.4% ของ 50 ล้าน      =  1-2 แสนคน ใน 2 เดือน*
ความเสียหาย ระดับนี้ รับไหวใช่ไหมครับ

อันนี้คนทั้งประเทศกำลังจะเชื่อแนวคิดนี้  โดยที่ US + UK นั้น
 - ยังไม่ถึง Peak สุด
 - มีเตียง ICU หมอ และเวชภัณฑ์ ต่อประชากรมากกว่าเรา
 - US+UK มี ยา Paxlovid ซึ่งความรุนแรง ลดไปอีก 70-80% ของป่วยหนัก 2 % 
ทำให้ ผู้ป่วยหนัก น่าจะเหลือ 0.04 % อัตราตาย 0.01 ซึ่งเท่ากับไข้หวัดใหญ่เดิม

ดูกราฟ US+UK + Israel ประเทศที่มี Paxlovid ใช้
เทียบกับ France + Spain + Italy +Canada ที่ไม่มี Paxlovidแต่ยังมี Remdesivir
ยอดผู้เสียชีวิต กลุ่มหลัง พุ่งสูงกว่า กลุ่มแรกชัดเจน
ถึงแม้กระนั้นยอด Admit ใน US พุ่งสูงสุดใน รอบ 4 เดือน

ในขณะที่ เรามีแค่ฟ้าทะลายโจร กับ Favipiravir
Remdesivir มี แต่ไม่มาก ต้องสั่งจาก India ซึ่งถ้า India ระบาดอีกรอบ
มีโอกาสที่ยาจะไม่เพียงพอ จะหาจากที่ไหนมาเพิ่มได้อีก

อย่าลืมนะครับ นอกจาก กรุงเทพ+ปริมณฑล +จังหวัดท่องเที่ยว ที่ฉีดวัคซีน ครบ 2เข็ม เกิน 80-90% แล้ว
ส่วนอื่นของประเทศ ยังฉีด Vaccine ครบ 2 เข็ม ไม่ถึง 70% เลย

มีโอกาสที่เคสหนักเราจะมีมากกว่า ทาง US+Uk เยอะ
เอาอะไรมามั่นใจว่า ถ้า Omicron ระบาดหนักมาก แล้วไทยเราจะเอาอยู่

ขอบคุณครับ

ปล. อ่าน บทความข้อมูลงานวิจัยเกี่ยวกับ
ข้อมูลความรุนแรงของ Omicron ภาษาไทย ได้ที่
https://www.blockdit.com/posts/61d199e281eb2149c9678e9c
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่