สวัสดีค่ะ กระทู้นี้ขออนุญาตมาเล่าประสบการณ์ส่วนตัว เกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ แบบดูดสูญญากาศ อายุครรภ์ 8 weeks ของเราเอง เพื่อเป็นแนวทาง หรือความเข้าใจเบื้องต้น ให้กับผู้ที่กำลังอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเรานะคะ
ปัจจุบันที่ตั้งกระทู้ เราผ่านการทำมาแล้ว เป็นเวลา 7 วันค่ะ ขอเริ่มไปเป็นลำดับ เลยนะคะ
1.
รู้แล้วว่าตั้งครรภ์ปรึกษาใครก่อนดี
ลำดับที่ 1 : แฟน(พ่อของลูก)
เราบอกแฟนเราเป็นคนแรกค่ะ และคุยกันด้วยเหตุผล ถามตนเอง และแฟน ว่า ณ ตอนนี้ เราพร้มจริงๆแล้วหรือยัง สำหรับการมีลูก และต้องเลี้ยงลูกของเราได้อย่างดี โดยไม่เป็นภาระให้กับครอบครัว เราปรึกษากันสองคนอยู่นาน ปรึกษากันไปร้องไห้กันไป
คำตอบที่ได้ คือ ยังไม่พร้อม ด้วยอายุ หน้าที่การงาน ความถูกต้องตามประเพณี(ตามที่ครอบครัวคาดหวัง)
ลำดับที่ 2 : พ่อแม่(ของทั้งสองครอบครัว)
เราตัดสินใจบอกกับพ่อแม่ของเราและของแฟนค่ะ ลำบากใจมากๆ เพราะรู้มันอาจจะทำให้ท่านเสียใจ
แต่เราอธิบาย และพร้อมกับบอกเหตุผลว่าทำไมเราถึง ต้องการที่จะยุติการตั้งครรภ์ บอกทั้งหมดที่คิดค่ะ และรอรับฟังความเห็นของเค้า ขอข้ามเรื่องความเห็นของพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายนะคะ แต่สรุปว่า ท่านอนุญาตให้เราทำได้ค่ะ
ลำดับ 3 : ปรึกษาปัญหาท้องไม่พร้อม 1663
เราโทรไป เพื่อขอข้อมูล ในการยุติการตั้งครรภ์แบบถูกกฏหมายค่ะ เจ้าหน้าที่จะสอบถามข้อมูลเบื้องต้นของเรา คำนวณอายุครรภ์ และถามเหตุผล ว่าเหตุใดจึงไม่พร้อมที่จะมีบุตร เมื่อเราตอบคำถามเค้าครบถ้วน ก็จะมีการให้ข้อมูลโดยการสอบถามที่พักของเรา เพื่อหาสถานที่ใกล้ที่สุดที่เราสามารถเข้ารับบริการให้ค่ะ (ชื่อสถานที่ให้บริการ,เวลาทำการ,เบอร์ติดต่อ)
ลำดับ 4 : โทรเช็คกับสถานที่ให้บริการ
เช้าวันรุ่งขึ้นเราก็โทรไปที่คลีนิกค่ะ สอบถามว่าขั้นตอนของการทำนั้นต้องทำอะไร อย่างไรบ้าง เจ้าหน้าสอบถามเบื้องต้นเกี่ยวกับ อายุครรภ์ อย่างเดียว และบอกสิ่งที่ต้องนำมาในวันที่เข้าไปค่ะ ได้แก่ เงินสด5000บาท, บัตรประชาชน, ผู้ติดตาม
2.
ยุติการตั้งครรภ์
เราไปถึงคลีนิกตั้งแต่เช้า มีการตรวจคัดกรองโควิดเบื้องต้น
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะให้ใบมากรอก ประวัติส่วนตัว และรอเรียกเพื่อวัดความดันค่ะ
วัดความดันเสร็จ นั่งรอเพื่อ พบหมออัลตร้าซาวด์ เพื่อดูอายุครรภ์ และองค์ประกอบต่างๆ หมอก็คุยมีพูดคุยว่า เราควรจะต้องยุติการตั้งครรภ์แบบไหน มี 2 แบบ คือ ทานยา และ ดูดสูญญากาศ ค่ะ
ของเรา อายุครรภ์ 8 weeks หมอแนะนำให้ทำแบบดูดสูญญากาศ แล้วก็จะถามคำถามเชิงจิตวิทยา เล็กน้อย ว่าทำไมถึงตัดสินใจทำ เชิงเหมือนดูสภาพจิตใจเราด้วยค่ะ ว่าพร้อมมั้ย มีใครบีบบังคับมาทำหรือไม่ เราก็คุยเสร็จ ออกมานั่งรอ ชำระเงิน และเก็บของทั้งหมดเข้าล็อคเกอร์ รอเรียกคิว
ถึงคิวแล้ว พี่เจ้าหน้าที่ก็เรียกขึ้นไป ชั้น2 ขั้นตอน คือ รับผ้าถุง ถอดกางเกง และ กางเกงใน ออก นั่งรอเรียก
เราเป็นคิวแรก เข้าไปในห้องโล่งๆ มีเตียงขาหยั่ง 1 เตียง
เหมือนในละครมากๆ ใจเรากลัวแบบ หัวใจเต้นจนจะเป็นลม
มีคุณหมอ 1 ท่าน พี่ผู้ช่วยคุณหมออีก 2 ท่าน
เข้าไปถึง พี่ผู้ช่วยก็บอกให้ขึ้นเตียงเลยค่ะ เราก็บอกพี่เค้าว่า เหมือนจะเป็นลมค่ะ พี่เค้าก็ให้หายใจเข้าลึกๆ สักพัก พยายามผ่อนคลาย คุณหมอก็มา และเริ่มทำเลย โดยไม่ส่งสัญญาณบอกใดๆ
ระยะวลาทำ ประมาณ 10 นาที คุณหมอจะใส่เครื่องมือเข้าไป แต่นอกนั้นเราไม่เห็นจริงๆค่ะ รู้สึกอีกทีคือได้ยินเสียงเหมือน ปั๊มๆดูดๆ นานนนนมากสำหรับเรา
แต่เจ็บปวดทรมาณ ปานขาดใจ มือเราเย็น เหงื่อเราแตกทั้งหน้า เพราะมันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอธิบายถึงความเจ็บปวดครั้งนี้จริงๆค่ะ
มันเจ็บ ปวดเหมือนปวดท้องประจำเดือน แต่ปวดมากกว่าเป็นแสนล้านเท่า เราร้องเจ็บปวดแบบมีเสียงค่ะ พี่ผู้ช่วยได้แต่เดินมาลูบหัวแล้วบอกว่า จะเสร็จแล้ว ให้อดทนนะ คือคำนั้นจากพี่ผู้ช่วยทำให้เราดีขึ้นจริงๆนะ และก็ขอให้เราอย่าร้องเพราะจะทำให้คนที่รอทำอยู่ กลัวค่ะ
พอทำเสร็จ เราเหมือนคนจะเป็นลมค่ะ ไม่มีแรง มือชา เย็นทั้งตัว แต่เหงื่อแตกทั้งหน้า พี่พยาบาลจะให้เราจับผ้าอนามัยไว้ที่ตรงนั้น และพยุงเราไปพักที่เตียงนอกห้อง โดยการนอนคว่ำ
ตอนนั้นคือเราหูอื้อ มือสั่น เหมือนจะวูบค่ะ ละเค้าจะมีกระโถนให้ข้างๆ เผื่อคนอยากอาเจียน เรารู้สึกกลัวตัวเองจะเป็นอะไรไป เพราะตรงที่นอนพักไม่มีผู้ดูแลอยู่เลย เลยฮึบ! แล้วพาตัวเองเปลี่ยนชุด เดินมาเอาของ และออกมาข้างนอกก่อนค่ะ สิ่งแรกที่ทำคือโทรบอกแม่ว่าผ่านไปด้วยดี แต่ก็ร้องไห้ใส่แม่ไปเลยว่าเจ็บมาก หลังจากนั้นก็นั่งรถกลับบ้าน
ระหว่างทาง เอาแต่ร้องไห้ แต่ความเจ็บมันไม่มีแล้วค่ะ จิตตกล้วนๆ กับนึกถึงช่วงเวลาที่กำลังทำ ทำให้ร้องไห้ได้เป็น 2-3 ชั่วโมง ยังดีมีแฟนคอยปลอบใจอยู่ข้างๆ
หลังจากนั้นคือใช้ชีวิตได้ปกติในวันนั้นเลยค่ะ ไม่เจ็บ แค่ตึงๆท้องน้อย เลือดก็ออกน้อยมาก พอผ่านมา 2 วัน เท่านั้นล่ะค่ะ ปวดท้องมาก เหมือนมดลูกบีบตุบๆ ปวดบิดๆ มีเลือดออกคล้ายประจำเดือนแต่ไม่ใช่ เป็นอย่างนี้อยู่เกือบอาทิตย์ เดี๋ยวเป็นเดี๋ยวหาย
ตอนนี้ผ่านมา 8 วันแล้วว ยังปลอดภัยดีนะคะทุกคน จบการเล่าประสบการณ์วันที่คิดว่าป็นเรื่องที่เสียใจที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ค่ะ
3.
ส่งท้าย
สำหรับใครที่กำลังต้องตัดสินใจ หรือเผชิญปัญหานี้ ขอให้คิดให้ดีค่ะ พ่อแม่ต้องบอก แฟนต้องคุย อย่ากลัวที่จะพูดเลยนะคะ อย่างน้อยเค้าจะช่วยให้เราหาทางออกที่ดีที่สุดได้แน่นอนค่ะ และขอให้ ใช้เวลาตัดสินใจ อย่ารีบร้อน เหตุผลดีพอมั้ย ชั่งน้ำหนักค่ะ
ขนาดเราเองที่ว่าตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ตอนนี้เหมือนต้องมานั่งจิตตกคนเดียว รู้สึกผิด รู้สึกคิดถึง รู้สึกเสียใจ มันคิดอยู่ในใจลึกๆตลอดเวลา
คำว่าพร้อมของทุกคนไม่เหมือนกัน ดังนั้น จงตั้งอยู่บนความเป็นจริงและปัจจุบันค่ะ ถ้าต้องทำ จงเอาเรื่องนี้เป็นแรงผลักดันให้ตัวเองเดินหน้าต่อ เพื่อมีวันที่สามารถมีลูกน้อยได้ อย่างมีความสุขนะคะ
และฝากอีกเรื่องค่ะ เราก็ไม่คิดว่าสิ่งที่ทำลงไปจะเป็นเรื่อง บาปกรรม ตามติดนะคะ สักวันนึงเราจะเป็นพ่อแม่ที่ดีของลูก เลี้ยงดูเค้าให้ดี ทุกวันนี้ก่อนนอน สวดมนต์อุทิศส่วนกุศลทุกคืน และมีอะไรดีๆก็จะนึกถึง
ปล. ทุกคนอันนี้เรามาเล่าประสบการณ์ให้ฟังเฉยๆน้า ขออย่าได้มีการดราม่าเลยน้า ขอเลย ขอบคุณมากๆนะคะ
ประสบการณ์ การยุติการตั้งครรภ์ แบบดูดสูญญากาศ อายุครรภ์ 8 weeks
ปัจจุบันที่ตั้งกระทู้ เราผ่านการทำมาแล้ว เป็นเวลา 7 วันค่ะ ขอเริ่มไปเป็นลำดับ เลยนะคะ
1. รู้แล้วว่าตั้งครรภ์ปรึกษาใครก่อนดี
ลำดับที่ 1 : แฟน(พ่อของลูก)
เราบอกแฟนเราเป็นคนแรกค่ะ และคุยกันด้วยเหตุผล ถามตนเอง และแฟน ว่า ณ ตอนนี้ เราพร้มจริงๆแล้วหรือยัง สำหรับการมีลูก และต้องเลี้ยงลูกของเราได้อย่างดี โดยไม่เป็นภาระให้กับครอบครัว เราปรึกษากันสองคนอยู่นาน ปรึกษากันไปร้องไห้กันไป
คำตอบที่ได้ คือ ยังไม่พร้อม ด้วยอายุ หน้าที่การงาน ความถูกต้องตามประเพณี(ตามที่ครอบครัวคาดหวัง)
ลำดับที่ 2 : พ่อแม่(ของทั้งสองครอบครัว)
เราตัดสินใจบอกกับพ่อแม่ของเราและของแฟนค่ะ ลำบากใจมากๆ เพราะรู้มันอาจจะทำให้ท่านเสียใจ
แต่เราอธิบาย และพร้อมกับบอกเหตุผลว่าทำไมเราถึง ต้องการที่จะยุติการตั้งครรภ์ บอกทั้งหมดที่คิดค่ะ และรอรับฟังความเห็นของเค้า ขอข้ามเรื่องความเห็นของพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายนะคะ แต่สรุปว่า ท่านอนุญาตให้เราทำได้ค่ะ
ลำดับ 3 : ปรึกษาปัญหาท้องไม่พร้อม 1663
เราโทรไป เพื่อขอข้อมูล ในการยุติการตั้งครรภ์แบบถูกกฏหมายค่ะ เจ้าหน้าที่จะสอบถามข้อมูลเบื้องต้นของเรา คำนวณอายุครรภ์ และถามเหตุผล ว่าเหตุใดจึงไม่พร้อมที่จะมีบุตร เมื่อเราตอบคำถามเค้าครบถ้วน ก็จะมีการให้ข้อมูลโดยการสอบถามที่พักของเรา เพื่อหาสถานที่ใกล้ที่สุดที่เราสามารถเข้ารับบริการให้ค่ะ (ชื่อสถานที่ให้บริการ,เวลาทำการ,เบอร์ติดต่อ)
ลำดับ 4 : โทรเช็คกับสถานที่ให้บริการ
เช้าวันรุ่งขึ้นเราก็โทรไปที่คลีนิกค่ะ สอบถามว่าขั้นตอนของการทำนั้นต้องทำอะไร อย่างไรบ้าง เจ้าหน้าสอบถามเบื้องต้นเกี่ยวกับ อายุครรภ์ อย่างเดียว และบอกสิ่งที่ต้องนำมาในวันที่เข้าไปค่ะ ได้แก่ เงินสด5000บาท, บัตรประชาชน, ผู้ติดตาม
2.ยุติการตั้งครรภ์
เราไปถึงคลีนิกตั้งแต่เช้า มีการตรวจคัดกรองโควิดเบื้องต้น
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะให้ใบมากรอก ประวัติส่วนตัว และรอเรียกเพื่อวัดความดันค่ะ
วัดความดันเสร็จ นั่งรอเพื่อ พบหมออัลตร้าซาวด์ เพื่อดูอายุครรภ์ และองค์ประกอบต่างๆ หมอก็คุยมีพูดคุยว่า เราควรจะต้องยุติการตั้งครรภ์แบบไหน มี 2 แบบ คือ ทานยา และ ดูดสูญญากาศ ค่ะ
ของเรา อายุครรภ์ 8 weeks หมอแนะนำให้ทำแบบดูดสูญญากาศ แล้วก็จะถามคำถามเชิงจิตวิทยา เล็กน้อย ว่าทำไมถึงตัดสินใจทำ เชิงเหมือนดูสภาพจิตใจเราด้วยค่ะ ว่าพร้อมมั้ย มีใครบีบบังคับมาทำหรือไม่ เราก็คุยเสร็จ ออกมานั่งรอ ชำระเงิน และเก็บของทั้งหมดเข้าล็อคเกอร์ รอเรียกคิว
ถึงคิวแล้ว พี่เจ้าหน้าที่ก็เรียกขึ้นไป ชั้น2 ขั้นตอน คือ รับผ้าถุง ถอดกางเกง และ กางเกงใน ออก นั่งรอเรียก
เราเป็นคิวแรก เข้าไปในห้องโล่งๆ มีเตียงขาหยั่ง 1 เตียง
เหมือนในละครมากๆ ใจเรากลัวแบบ หัวใจเต้นจนจะเป็นลม
มีคุณหมอ 1 ท่าน พี่ผู้ช่วยคุณหมออีก 2 ท่าน
เข้าไปถึง พี่ผู้ช่วยก็บอกให้ขึ้นเตียงเลยค่ะ เราก็บอกพี่เค้าว่า เหมือนจะเป็นลมค่ะ พี่เค้าก็ให้หายใจเข้าลึกๆ สักพัก พยายามผ่อนคลาย คุณหมอก็มา และเริ่มทำเลย โดยไม่ส่งสัญญาณบอกใดๆ
ระยะวลาทำ ประมาณ 10 นาที คุณหมอจะใส่เครื่องมือเข้าไป แต่นอกนั้นเราไม่เห็นจริงๆค่ะ รู้สึกอีกทีคือได้ยินเสียงเหมือน ปั๊มๆดูดๆ นานนนนมากสำหรับเรา
แต่เจ็บปวดทรมาณ ปานขาดใจ มือเราเย็น เหงื่อเราแตกทั้งหน้า เพราะมันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอธิบายถึงความเจ็บปวดครั้งนี้จริงๆค่ะ
มันเจ็บ ปวดเหมือนปวดท้องประจำเดือน แต่ปวดมากกว่าเป็นแสนล้านเท่า เราร้องเจ็บปวดแบบมีเสียงค่ะ พี่ผู้ช่วยได้แต่เดินมาลูบหัวแล้วบอกว่า จะเสร็จแล้ว ให้อดทนนะ คือคำนั้นจากพี่ผู้ช่วยทำให้เราดีขึ้นจริงๆนะ และก็ขอให้เราอย่าร้องเพราะจะทำให้คนที่รอทำอยู่ กลัวค่ะ
พอทำเสร็จ เราเหมือนคนจะเป็นลมค่ะ ไม่มีแรง มือชา เย็นทั้งตัว แต่เหงื่อแตกทั้งหน้า พี่พยาบาลจะให้เราจับผ้าอนามัยไว้ที่ตรงนั้น และพยุงเราไปพักที่เตียงนอกห้อง โดยการนอนคว่ำ
ตอนนั้นคือเราหูอื้อ มือสั่น เหมือนจะวูบค่ะ ละเค้าจะมีกระโถนให้ข้างๆ เผื่อคนอยากอาเจียน เรารู้สึกกลัวตัวเองจะเป็นอะไรไป เพราะตรงที่นอนพักไม่มีผู้ดูแลอยู่เลย เลยฮึบ! แล้วพาตัวเองเปลี่ยนชุด เดินมาเอาของ และออกมาข้างนอกก่อนค่ะ สิ่งแรกที่ทำคือโทรบอกแม่ว่าผ่านไปด้วยดี แต่ก็ร้องไห้ใส่แม่ไปเลยว่าเจ็บมาก หลังจากนั้นก็นั่งรถกลับบ้าน
ระหว่างทาง เอาแต่ร้องไห้ แต่ความเจ็บมันไม่มีแล้วค่ะ จิตตกล้วนๆ กับนึกถึงช่วงเวลาที่กำลังทำ ทำให้ร้องไห้ได้เป็น 2-3 ชั่วโมง ยังดีมีแฟนคอยปลอบใจอยู่ข้างๆ
หลังจากนั้นคือใช้ชีวิตได้ปกติในวันนั้นเลยค่ะ ไม่เจ็บ แค่ตึงๆท้องน้อย เลือดก็ออกน้อยมาก พอผ่านมา 2 วัน เท่านั้นล่ะค่ะ ปวดท้องมาก เหมือนมดลูกบีบตุบๆ ปวดบิดๆ มีเลือดออกคล้ายประจำเดือนแต่ไม่ใช่ เป็นอย่างนี้อยู่เกือบอาทิตย์ เดี๋ยวเป็นเดี๋ยวหาย
ตอนนี้ผ่านมา 8 วันแล้วว ยังปลอดภัยดีนะคะทุกคน จบการเล่าประสบการณ์วันที่คิดว่าป็นเรื่องที่เสียใจที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ค่ะ
3.ส่งท้าย
สำหรับใครที่กำลังต้องตัดสินใจ หรือเผชิญปัญหานี้ ขอให้คิดให้ดีค่ะ พ่อแม่ต้องบอก แฟนต้องคุย อย่ากลัวที่จะพูดเลยนะคะ อย่างน้อยเค้าจะช่วยให้เราหาทางออกที่ดีที่สุดได้แน่นอนค่ะ และขอให้ ใช้เวลาตัดสินใจ อย่ารีบร้อน เหตุผลดีพอมั้ย ชั่งน้ำหนักค่ะ
ขนาดเราเองที่ว่าตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ตอนนี้เหมือนต้องมานั่งจิตตกคนเดียว รู้สึกผิด รู้สึกคิดถึง รู้สึกเสียใจ มันคิดอยู่ในใจลึกๆตลอดเวลา
คำว่าพร้อมของทุกคนไม่เหมือนกัน ดังนั้น จงตั้งอยู่บนความเป็นจริงและปัจจุบันค่ะ ถ้าต้องทำ จงเอาเรื่องนี้เป็นแรงผลักดันให้ตัวเองเดินหน้าต่อ เพื่อมีวันที่สามารถมีลูกน้อยได้ อย่างมีความสุขนะคะ
และฝากอีกเรื่องค่ะ เราก็ไม่คิดว่าสิ่งที่ทำลงไปจะเป็นเรื่อง บาปกรรม ตามติดนะคะ สักวันนึงเราจะเป็นพ่อแม่ที่ดีของลูก เลี้ยงดูเค้าให้ดี ทุกวันนี้ก่อนนอน สวดมนต์อุทิศส่วนกุศลทุกคืน และมีอะไรดีๆก็จะนึกถึง
ปล. ทุกคนอันนี้เรามาเล่าประสบการณ์ให้ฟังเฉยๆน้า ขออย่าได้มีการดราม่าเลยน้า ขอเลย ขอบคุณมากๆนะคะ