สวัสดีนะคะ กระทู้แรกในชีวิตเลย คงจะยาวหน่อยเพราะอยากพูดหลายอย่าง ทั้งสิ่งที่อยู่ในใจ ความรู้สึกต่างๆ ขอบอกก่อนว่า กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อแชร์ บอกเล่าชีวิต และแนะนำวิธีที่ถูกต้องและปลอดภัย สำหรับคนที่ไม่พร้อมมีลูกจริงๆ ที่สำคัญเป็นการกระทำที่อยู่ภายใต้กฎหมายค่ะ
ก่อนจะเริ่มอ่านอย่างจริงจังต่อจากนี้ไปนะคะ หลายคน หลายความคิดเราเข้าใจดี บางคนอาจจะอคติ มองเราในแง่ลบไปแล้ว เพราะก็คงรู้ว่าเราจะเล่าเรื่องการทำแท้ง หวังเป็นอย่างยิ่งนะคะ อยากให้ทุกคนที่อ่านถึงตรงนี้ ช่วยเปิดใจก่อนนิดนึง ตอนที่อ่านอยู่ อย่าพึ่งเอาความรู้สึกของตัวเองใส่ลงไป อยากให้รับฟังสิ่งที่เราจะสื่อออกไป โดยที่ไม่ใช้อารมณ์ตัวเองก่อน เพียงเพราะว่าไม่เห็นด้วยกับเรา อยากให้ทุกคนรับฟังสิ่งที่อยากจะเล่าก่อน เราว่าบางคนน่าจะได้อะไรบ้างจากตรงนี้ แล้วหลังจากนั้น อยากชี้แนะหรือเพิ่มเติมตรงไหน ที่คิดต่างไปจากเรา เรายินดีรับฟังและเปิดใจเสมอค่ะ ถ้าใครที่อ่านอยู่ และรับฟังเราตรงนี้ ขอบคุณมากเลยนะคะ หวังว่าจะไม่เข้ามาด่าเรา โดยที่อ่านเพียงแค่ชื่อกระทู้นะคะ
ก่อนเข้าเรื่องนะคะ อยากบอกสาวๆทั้งหลายที่ตั้งครรภ์ โดยที่ไม่มีความพร้อมความสามารถที่จะเลี้ยงเค้าได้ เช่นเรา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหนก็ตาม ทั้งพลาด โดนข่มขืน หรือเหตุผลอื่น อยากบอกว่า ชีวิตคุณ ร่างกายคุณ ตัดสินใจให้ดีนะคะ เพราะมันคือทั้งชีวิต ทั้งอนาคตของคุณเอง ยอมรับว่าสังคมสมัยนี้ โดยเฉพาะคนไทยเอง บอกตามตรงว่ายังเป็นเรื่องที่ยังไม่เป็นที่ยอมรับ ยิ่งเป็นชาวพุทธเอง ก็ยิ่งต้องมีเรื่องศีลธรรมมาเกี่ยวข้อง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องมองในเรื่องชีวิตความเป็นจริงด้วย อนาคตคุณจะเป็นยังไง คุณเลือกเองได้อยู่แล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเลี้ยงลูกต้องใช้เงิน ใช้เวลาชีวิตเป็นอย่างมาก คุณไม่ต้องให้คนอื่นมาตัดสิน เค้าไม่ได้มาช่วยเลี้ยง หรือให้ข้าวให้เงินคุณเลี้ยงลูกเลยด้วยซำ้
ดีกว่าจำใจเลี้ยงแบบอดอยาก ไม่มีความสุข และโตมาเป็นภาระของสังคม เพียงเพราะเราไม่มีความพร้อมในการซับพอร์ตลูก ให้เติบโตมาอย่างดีได้ (ถ้าใครจะว่าเรามันก็ภาระสังคม ไม่เป็นไรค่ะ เพราะตัวเราก็พร้อมยอมรับความผิดพลาดของตัวเองในเรื่องนี้ พลาดแล้วพลาดเลย ใส่ถุงตอนนี้ก็ไม่ทันค่ะ ในเมื่อมันคือความผิดพลาดไปแล้ว เราต้องหาทางออก และเราเลือกใช้วิธีนี้ในการรับผิดชอบตัวเอง และต่อสังคมด้วย)
เราอยากให้วิธีนี้ เป็นทางเลือกสุดท้ายของทุกคนแล้วจริงๆ ถ้าการมีอยู่ของลูก ไม่ใช่ความสุขของคุณในตอนนี้ การตัดสินใจเลือกใช้วิธีนี้ คงเป็นทางออกที่ดีและปลอดภัยที่สุดแล้ว
ที่สำคัญ ในเมื่อเลือกทำแล้ว ต้องให้มันเป็นบทเรียนของความผิดพลาดครั้งใหญ่ ให้มันคอยยํ้าเตือนตัวเราในอนาคต เราบอกกับตัวเองซำ้ๆๆ ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วในชีวิตนี้ ต้องมีอนาคตที่ดีกว่านี้ให้ได้ ต้องให้ลูกเกิดมาท่ามกลางความรักและความพร้อม ถ้าถึงตอนนั้นค่อยมีลูกนะ บอกตัวเองมาตลอด เพราะตอนรู้ว่าตัวเองท้อง เหมือนโลกเราหยุดหมุนเลย และด้วยอายุเรา รู้ตัวมากๆว่าไม่มีความพร้อมแน่ๆ และเราไม่พร้อมแลกอนาคตตัวเอง เราไม่มีความสุข แล้วเราจะเลี้ยงเค้าออกมายังไงให้มีความสุขได้ ในเมื่อเราเองยังไม่มีเลยแม้แต่น้อย เราอยากให้เค้าเติบโตมาอย่างดีและต้องดีกว่าตัวเราในตอนนี้ด้วย เค้าเกิดมาไม่ผิดเลย เราผิดเองทั้งหมด ขอโทษที่ไม่พร้อม และยังไม่มีทางพร้อมเลยจริงๆนะลูก ขอโทษพ่อกับแม่ ท่านไม่รับรู้อะไร หนูขอเก็บไว้เองไปจนตายเลยนะคะ แต่หนูตัดสินใจดีแล้ว คิดไตร่ตรองแล้ว หนูขอเลือกอนาคตหนูเองนะคะ
และพอมาเจอวันนี้ ตอนนี้ ก็ยิ่งตอกยํ้าว่าสิ่งที่เราได้เลือกทำไป ดีที่สุดสำหรับตอนนั้นและอนาคตข้างหน้าแล้วจริงๆ รอยยิ้มของพ่อแม่ในตอนนี้ ไม่อยากให้หายไปไหนเลย ไว้มายิ้มกว้างๆด้วยกันในวันที่หนูรับปริญญานะคะ อีกนิดเดียวนะ และหนูขอสัญญากับตัวเองว่าจะใช้ชีวิตต่อจากนี้ให้ดี และมีค่าที่สุด เพื่อเค้าทั้งสองคน พ่อแม่ที่รักหนูที่สุด และเพื่อชีวิตข้างหน้าของหนูกับครอบครัวในอนาคตด้วย
ยาวมาก ไม่รู้จะมีใครตั้งใจอ่านบ้าง เรื่องความรู้สึกในใจไปแล้ว มาเรื่องของข้อมูลการทำเลยนะคะ ก่อนอื่นต้องบอกว่า การยุติการตั้งครรภ์ อยู่ภายใต้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา305 โดยคนที่อายุตำ่กว่า15ปี ต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองก่อน โดยมีคลีนิคที่ให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือใช้ชื่อว่าเครือข่ายอาสา RSA โดยจะให้บริการสำหรับอายุครรภ์ที่ไม่เกิน12สัปดาห์เท่านั้น แต่ถ้ามีอายุครรภ์12-24สัปดาห์แล้ว จะต้องไปใช้บริการในโรงพยาบาลแทน เนื่องจากอายุครรภ์ที่ต่างกัน ใช้วิธีทำคนละวิธีนะคะ และอายุครรภ์ที่มาก ที่ไม่ใช่แค่ก้อนเลือด แต่เป็นตัวเด็กแล้ว คุณหมอไม่แนะนำนะคะ เพราะอันตรายมากค่ะ ควรปรึกษาคุณหมอจะดีกว่าคะ
จุดประสงค์ที่มาเล่า คือไม่อยากให้เกิดการทำแท้งเถื่อน สั่งยาออนไลน์มากินเอง กินยาขับเลือดเอง เพราะอันตรายมากๆ ถึงแก่ชีวิตได้เลย ยังไงก็ควรอยู่ภายใต้การดูแลของหมอที่เชี่ยวชาญนะคะ เลือกทางที่ปลอดภัยต่อตัวเอง ดีกว่าไปหาซื้อยาตามตลาดทั่วไป ซึ่งมันอันตรายมากค่ะ มีหลายคนเข้าไม่ถึงข้อมูล หรือไม่รู้ว่ามีวิธีการที่ปลอดภัยกว่าการใช้ยาที่ขายออนไลน์
ไม่มีหมอหรือเภสัชที่ไหนขายยาทำแท้งออนไลน์หรอกนะคะ เราไม่อยากให้คุณผู้หญิงจนทางออก จนต้องเลือกใช้วิธีนั้น เราหวังว่าประสบการณ์ วิธีการที่เราจะแชร์ จะเป็นประโยชน์ต่อคนที่ยังไม่รู้ คนที่หมดหนทาง จนต้องใช้วิธีทำร้ายตัวเอง จะเรียกว่าชี้แนะ ก็ไม่ผิดนะคะ แต่เรามั่นใจว่าชี้ทางที่ปลอดภัยและถูกกฎหมาย ถ้าการชี้แนะในครั้งนี้ สามารถช่วยคนที่ไร้ที่พึ่ง ไร้กำลังใจและหนทางจริงๆ ถ้ามันช่วยให้เค้าไม่เลือกวิธีที่ทำร้ายตัวเค้าเอง เรายินดีแชร์ค่ะ เพราะตอนเราหาข้อมูลเองคนเดียว รู้สึกเคว้งมาก เราจะทำยังไงเป็นอย่างแรก จะอันตรายมั้ย เจ็บมากมั้ย ทำเสร็จเป็นยังไง กลัวไปหมด ตอนนั้นไม่มีหนทางว่ามันจะออกมาดีเลย เกิดความกังวลเพราะความไม่รู้ ไม่อยากให้คนอื่นเป็นแบบเรา เลยเลือกที่จะออกมาแชร์ประสบการณ์ค่ะ
เอาล่ะ ได้เวลาเข้าสู่เรื่องราว และวิธีการในการทำซักทีนะคะ ว่ามันเป็นยังไง? ตอนรู้ตัวว่าท้องทำอะไรเป็นอย่างแรก? ขอเล่าความผิดพลาด และบทเรียนในครั้งนี้หน่อยนะคะ
ก่อนอื่น เราประจำเดือนมาไม่ปกตินะคะ บางครั้งมาๆขาดๆ มาไม่เป็นเวลา และเคยขาดไปนาน2เดือน ขาดบ่อยด้วย แต่ตอนนั้นยังไม่มีแฟน เลยไม่มีความกังวลเรื่องท้อง เราก็ปล่อยไปจนกว่ามันจะมาเอง แต่ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ มีแฟนค่ะ คนแรกในชีวิต (แหะๆ แฟนคนแรกตอนเกือบจะจบมหาลัยอยู่แล้ว) นั่นแหละค่ะ เป็นแฟนคนแรก เราคิดน้อยไป ป้องกันไม่ดีพอ ก็เลยพลาดจนทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา ข้ามรายละเอียดตรงนี้ไปดีกว่า เล่าไปคงไม่ได้อะไร แหะๆ
พอรู้ว่าท้องนะคะ คือเราประจำเดือนไม่ปกติอยู่แล้ว เดือนแรกไม่มา ก็ยังไม่เอะใจอะไร แต่พอผ่านไป2เดือน ครั้งนี้มองว่าไม่ปกติแล้ว เพราะมันมีเรื่องอย่างว่าเกิดขึ้นมาแล้ว เลยกังวลค่ะ แต่ก่อนมั่นใจเพราะไม่มีแฟน แต่ตอนนี้ไม่ใช่ละ คิดไปเยอะมาก จะจริงมั้ย ท้องจริงหรอ กังวลไปหมด ไม่กล้าแม้แต่ซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจเลยตอนนั้น แต่สุดท้าย ปล่อยไว้ไม่ได้ละ ต้องรู้ตัวให้ไวที่สุด ต้องหาทางออกให้ดีก่อนที่จะสายไป หรือถ้าไม่มาก็จะได้เลิกกังวลซักที แต่ก็ นั่นแหละค่ะ ท้อง!
ก่อนหาข้อมูล นอนเครียดไป3วัน กักตัวเองในห้อง ไม่มีความกล้าที่จะเจอหน้าพ่อแม่ด้วยซำ้ และไม่บอกใครทั้งนั้น นอกจากแฟน เพราะเราอยากรู้ว่าเค้าจะคิดยังไง สรุปอึกอักทั้งคู่ เค้าเหมือนจะไม่เชื่อ ถามตลอดว่ามันเป็นครั้งแรกเลยนะ ติดจริงๆหรอ ไม่รู้ในหัวเค้าคิดอะไรอีกบ้าง แต่ดูจากสีหน้า คงกังวลไม่ต่างจากเราหรอก ยังดีที่ไม่ปฏิเสธว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง การตัดสินใจร่วมกันในครั้งนี้ ไตร่ตรองดีแล้ว เอาล่ะ หาข้อมูลต่อ
ตอนแรกนะคะ หาเจอแต่วิธีที่ไม่ปลอดภัย ยาเถื่อน ยาขับเลือด แต่ความรู้ตรงนี้เรามีอยู่แล้ว รู้ว่ามันไม่ปลอดภัย ไม่เคยคิดที่จะทำเลย จนนึกถึงเว็บไซต์นึงที่เคยได้ใบปลิวมาตอนเรียน เว็บนี้นะคะ เลิฟแคร์
https://www.lovecarestation.com/?gclid=CjwKCAjwoZWHBhBgEiwAiMN66Vi2mjoUpSIsSDznOgN5sfFiq4byxlwhAgZD9jra05CihkzTPX4HtxoCVBQQAvD_BwE
สำหรับปรึกษาปัญหาท้องไม่พร้อม มีคนพร้อมรับฟังเรื่องราวของเรา ถ้าอยากจะเล่าให้เค้าฟัง มีระบบคุยกับเจ้าหน้าที่ส่วนตัวด้วยนะคะ เป็นห้องแชทส่วนตัว ตอบโดยผู้ที่มีความรู้เรื่องนี้โดยเฉพาะ และไม่เปิดเผยข้อมูล ไม่มีการระบุตัวตน เล่าแบบไม่รู้ว่าเราเป็นใคร
แต่ห้องแชทส่วนตัว เปิดให้คุยเวลา 16.00-00.00น.
หลังจากปรึกษาเว็บไซต์นะคะ เค้ามีถามอายุครรภ์ เพื่อที่จะบอกได้ว่าควรใช้วิธีการไหน และบอกว่าควรไปทำที่คลีนิคไหน ไปยังไง ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เค้าแนะนำหมดค่ะ
*ถ้าอายุครรภ์น้อยกว่า9 สัปดาห์ จะใช้วิธีทานยานะคะ ไปรับยาที่คลีนิค เตรียมเงินให้พร้อม เว็บจะบอกว่าเตรียมไปกี่บาท ค่าอะไรบ้าง ทานยาภายใต้การควบคุมของหมอค่ะ
*ถ้าอายุครรภ์9-12 สัปดาห์ จะใช้วิธีการดูดโดยใช้กระบอกสุญญากาศค่ะ ซึ่งเราทำวิธีนี้ เดี๋ยวบอกว่าเค้าทำอะไรกับเราบ้างนะ ขอคั่นด้วยข้อมูลคลีนิคที่เปิดให้บริการก่อนนะคะ
ก่อนอื่นนะคะ หากคุยกับทางเว็บไซต์เลิฟแคร์แล้ว ไม่มีความพร้อมเรื่องเงิน เค้าจะแนะนำให้เราโทรไปสอบถามที่เบอร์ 1663 สำหรับคนที่ท้องไม่พร้อม สามารถปรึกษาที่เบอร์นี้ได้เหมือนกันค่ะ เค้าเป็นสายด่วนที่ทำงานร่วมกับมูลนิธิในเรื่องแบบนี้โดยเฉพาะ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.) ค่ะ เชื่อถือได้แน่นอนค่ะ
แต่เค้าจะช่วยยังไงเราไม่ทราบรายละเอียดนะคะ เพราะเราไม่ได้โทรไป เราไปคลีนิคที่เว็บไซต์บอกตั้งแต่แรก เพราะที่นั่นไปง่าย ไม่ไกลจากเรา เรากับแฟนรับผิดชอบร่วมกันเรื่องค่าใช้จ่าย เลยจ่ายได้ เราเลยไม่ทราบว่า 1663 ช่วยเหลือแบบใดบ้าง คนที่ไม่พร้อมเรื่องเงิน โทรสอบถามได้เลยนะคะ ไม่ต้องกังวลค่ะ เค้ามีทางออกที่ดีให้คุณแน่นอนค่ะ
อันนี้เป็นข้อมูลเครือข่ายอาสา RSA Thai นะคะ
มีข้อมูลหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ และรายชื่อคลีนิคต่างๆที่อยู่ในความดูแลของเครือนี้ และยังเปิดภายใต้กฎหมายที่ถูกต้อง ปลอดภัย และเชื่อถือได้แน่นอนค่ะ
https://www.rsathai.org/networkservice
โอเค มาถึงวิธีการ ว่าทำอะไรบ้างตอนไปที่คลีนิค และบอกอาการหลังทำแบบจริงๆแล้วนะคะ😂😂
พอได้ข้อมูลที่คุยกับเว็บเลิฟแคร์เรียบร้อยแล้ว คือคลีนิคที่เราไป เค้าเปิด8.00-14.00น. นะคะ เราไปตอนบ่าย เพราะตอนเช้าติดเรียนเลยไปได้เวลานั้น ของเราเดินทางโดยบีทีเอสนะคะ แล้วต้องเดินต่อไปอีก แต่ไม่ไกลมากค่ะ เราขอแนะนำคนที่จะไปคลีนิคนี้หน่อยนะคะ ขอเอ่ยซอยเลยละกัน เพราะข้อมูลคลีนิคที่ตั้งตรงนี้ สามารถหาได้อย่างเปิดเผยอยู่แล้ว ซอยสุขุมวิท12ค่ะ อยากบอกว่าอย่าไปกับคนที่ไม่รู้จัก หรือคนแปลกหน้านะคะ ทางที่ดีไปเองได้จะดีมากค่ะ ไปง่าย เปิดแมพเดินไปเองเลย ถ้ามาโดยบีทีเอส ลงทางออก2นะคะ เดินไปจะเจอป้ายชื่อซอย เลี้ยวเข้าไปได้เลยค่ะ ไม่ไกล ซอยไม่เปลี่ยวค่ะ ตรงนี้เป็นย่านดัง พี่วินหน้าซอยก็ไม่ต้องขึ้นจะดีมากค่ะ เพราะถ้าบอกเค้าว่าไปตรงคลีนิคนี้นะ เค้าจะมีท่าทีไม่อยากไป เพราะคนแถวนี้จะรู้ว่าไปทำอะไรค่ะ อย่างที่บอก ยังไม่เป็นที่ยอมรับขนาดนั้น เพราะฉะนั้นเดินไปเองคนเดียวเลยค่ะ ไม่ต้องกลัว
เล่าเยอะเหมือนกันเนอะ แต่เราอยากให้รายละเอียดนิดนึงค่ะ เราเข้าใจคนที่ไปไม่ถูก ไปครั้งแรก หรือไม่รู้จะทำตัวยังไง จะได้ไม่กังวลมากเท่าตอนเราไป
ต่อมาพอเดินไปถึง เดินเข้าไปเลยนะคะ จะเจอป้ายที่บอกว่าให้เดินขึ้นชั้น2เลย โดยชั้นหนึ่งมีเพียงคนขอเช็คบัตรประชาชนแค่นั้นค่ะ เราก็เดินขึ้นไปเลย
(คนที่ให้บริการที่คลีนิคนี้ ส่วนมากเป็นผู้หญิงวัยกลางคนทั้งนั้นเลยนะคะ เป็นผู้ช่วยคุณหมอ ส่วนคุณหมอที่ทำให้จริงๆเป็นผู้ชายค่ะ)
พอเข้าไปนะคะ เค้าจะรู้ว่าเรามาทำอะไร เพราะงั้นไม่ต้องเกร็งมากค่ะ ตั้งแต่เปิดประตูเข้าไป จะมีคนมา
บอกเราเลยว่าไปตรงไหน ยื่นบัตรประชาชนให้เค้าไป เค้าจะกรอกชื่อเรา ถามอายุครรภ์ เสร็จแล้วก็จะมีคนบอกให้ไปรอห้องอัลตราซาวน์ค่ะ เค้าจะตรวจดูความกว้างปากมดลูก (ถ้าเป็นวิธีใช้หลอดดูดแบบเรานะคะ)
มีต่อค่ะ
แชร์ประสบการณ์+ข้อมูลในการยุติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัยและถูกกฎหมาย
ก่อนจะเริ่มอ่านอย่างจริงจังต่อจากนี้ไปนะคะ หลายคน หลายความคิดเราเข้าใจดี บางคนอาจจะอคติ มองเราในแง่ลบไปแล้ว เพราะก็คงรู้ว่าเราจะเล่าเรื่องการทำแท้ง หวังเป็นอย่างยิ่งนะคะ อยากให้ทุกคนที่อ่านถึงตรงนี้ ช่วยเปิดใจก่อนนิดนึง ตอนที่อ่านอยู่ อย่าพึ่งเอาความรู้สึกของตัวเองใส่ลงไป อยากให้รับฟังสิ่งที่เราจะสื่อออกไป โดยที่ไม่ใช้อารมณ์ตัวเองก่อน เพียงเพราะว่าไม่เห็นด้วยกับเรา อยากให้ทุกคนรับฟังสิ่งที่อยากจะเล่าก่อน เราว่าบางคนน่าจะได้อะไรบ้างจากตรงนี้ แล้วหลังจากนั้น อยากชี้แนะหรือเพิ่มเติมตรงไหน ที่คิดต่างไปจากเรา เรายินดีรับฟังและเปิดใจเสมอค่ะ ถ้าใครที่อ่านอยู่ และรับฟังเราตรงนี้ ขอบคุณมากเลยนะคะ หวังว่าจะไม่เข้ามาด่าเรา โดยที่อ่านเพียงแค่ชื่อกระทู้นะคะ
ก่อนเข้าเรื่องนะคะ อยากบอกสาวๆทั้งหลายที่ตั้งครรภ์ โดยที่ไม่มีความพร้อมความสามารถที่จะเลี้ยงเค้าได้ เช่นเรา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหนก็ตาม ทั้งพลาด โดนข่มขืน หรือเหตุผลอื่น อยากบอกว่า ชีวิตคุณ ร่างกายคุณ ตัดสินใจให้ดีนะคะ เพราะมันคือทั้งชีวิต ทั้งอนาคตของคุณเอง ยอมรับว่าสังคมสมัยนี้ โดยเฉพาะคนไทยเอง บอกตามตรงว่ายังเป็นเรื่องที่ยังไม่เป็นที่ยอมรับ ยิ่งเป็นชาวพุทธเอง ก็ยิ่งต้องมีเรื่องศีลธรรมมาเกี่ยวข้อง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องมองในเรื่องชีวิตความเป็นจริงด้วย อนาคตคุณจะเป็นยังไง คุณเลือกเองได้อยู่แล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเลี้ยงลูกต้องใช้เงิน ใช้เวลาชีวิตเป็นอย่างมาก คุณไม่ต้องให้คนอื่นมาตัดสิน เค้าไม่ได้มาช่วยเลี้ยง หรือให้ข้าวให้เงินคุณเลี้ยงลูกเลยด้วยซำ้
ดีกว่าจำใจเลี้ยงแบบอดอยาก ไม่มีความสุข และโตมาเป็นภาระของสังคม เพียงเพราะเราไม่มีความพร้อมในการซับพอร์ตลูก ให้เติบโตมาอย่างดีได้ (ถ้าใครจะว่าเรามันก็ภาระสังคม ไม่เป็นไรค่ะ เพราะตัวเราก็พร้อมยอมรับความผิดพลาดของตัวเองในเรื่องนี้ พลาดแล้วพลาดเลย ใส่ถุงตอนนี้ก็ไม่ทันค่ะ ในเมื่อมันคือความผิดพลาดไปแล้ว เราต้องหาทางออก และเราเลือกใช้วิธีนี้ในการรับผิดชอบตัวเอง และต่อสังคมด้วย)
เราอยากให้วิธีนี้ เป็นทางเลือกสุดท้ายของทุกคนแล้วจริงๆ ถ้าการมีอยู่ของลูก ไม่ใช่ความสุขของคุณในตอนนี้ การตัดสินใจเลือกใช้วิธีนี้ คงเป็นทางออกที่ดีและปลอดภัยที่สุดแล้ว
ที่สำคัญ ในเมื่อเลือกทำแล้ว ต้องให้มันเป็นบทเรียนของความผิดพลาดครั้งใหญ่ ให้มันคอยยํ้าเตือนตัวเราในอนาคต เราบอกกับตัวเองซำ้ๆๆ ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วในชีวิตนี้ ต้องมีอนาคตที่ดีกว่านี้ให้ได้ ต้องให้ลูกเกิดมาท่ามกลางความรักและความพร้อม ถ้าถึงตอนนั้นค่อยมีลูกนะ บอกตัวเองมาตลอด เพราะตอนรู้ว่าตัวเองท้อง เหมือนโลกเราหยุดหมุนเลย และด้วยอายุเรา รู้ตัวมากๆว่าไม่มีความพร้อมแน่ๆ และเราไม่พร้อมแลกอนาคตตัวเอง เราไม่มีความสุข แล้วเราจะเลี้ยงเค้าออกมายังไงให้มีความสุขได้ ในเมื่อเราเองยังไม่มีเลยแม้แต่น้อย เราอยากให้เค้าเติบโตมาอย่างดีและต้องดีกว่าตัวเราในตอนนี้ด้วย เค้าเกิดมาไม่ผิดเลย เราผิดเองทั้งหมด ขอโทษที่ไม่พร้อม และยังไม่มีทางพร้อมเลยจริงๆนะลูก ขอโทษพ่อกับแม่ ท่านไม่รับรู้อะไร หนูขอเก็บไว้เองไปจนตายเลยนะคะ แต่หนูตัดสินใจดีแล้ว คิดไตร่ตรองแล้ว หนูขอเลือกอนาคตหนูเองนะคะ
และพอมาเจอวันนี้ ตอนนี้ ก็ยิ่งตอกยํ้าว่าสิ่งที่เราได้เลือกทำไป ดีที่สุดสำหรับตอนนั้นและอนาคตข้างหน้าแล้วจริงๆ รอยยิ้มของพ่อแม่ในตอนนี้ ไม่อยากให้หายไปไหนเลย ไว้มายิ้มกว้างๆด้วยกันในวันที่หนูรับปริญญานะคะ อีกนิดเดียวนะ และหนูขอสัญญากับตัวเองว่าจะใช้ชีวิตต่อจากนี้ให้ดี และมีค่าที่สุด เพื่อเค้าทั้งสองคน พ่อแม่ที่รักหนูที่สุด และเพื่อชีวิตข้างหน้าของหนูกับครอบครัวในอนาคตด้วย
ยาวมาก ไม่รู้จะมีใครตั้งใจอ่านบ้าง เรื่องความรู้สึกในใจไปแล้ว มาเรื่องของข้อมูลการทำเลยนะคะ ก่อนอื่นต้องบอกว่า การยุติการตั้งครรภ์ อยู่ภายใต้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา305 โดยคนที่อายุตำ่กว่า15ปี ต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองก่อน โดยมีคลีนิคที่ให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือใช้ชื่อว่าเครือข่ายอาสา RSA โดยจะให้บริการสำหรับอายุครรภ์ที่ไม่เกิน12สัปดาห์เท่านั้น แต่ถ้ามีอายุครรภ์12-24สัปดาห์แล้ว จะต้องไปใช้บริการในโรงพยาบาลแทน เนื่องจากอายุครรภ์ที่ต่างกัน ใช้วิธีทำคนละวิธีนะคะ และอายุครรภ์ที่มาก ที่ไม่ใช่แค่ก้อนเลือด แต่เป็นตัวเด็กแล้ว คุณหมอไม่แนะนำนะคะ เพราะอันตรายมากค่ะ ควรปรึกษาคุณหมอจะดีกว่าคะ
จุดประสงค์ที่มาเล่า คือไม่อยากให้เกิดการทำแท้งเถื่อน สั่งยาออนไลน์มากินเอง กินยาขับเลือดเอง เพราะอันตรายมากๆ ถึงแก่ชีวิตได้เลย ยังไงก็ควรอยู่ภายใต้การดูแลของหมอที่เชี่ยวชาญนะคะ เลือกทางที่ปลอดภัยต่อตัวเอง ดีกว่าไปหาซื้อยาตามตลาดทั่วไป ซึ่งมันอันตรายมากค่ะ มีหลายคนเข้าไม่ถึงข้อมูล หรือไม่รู้ว่ามีวิธีการที่ปลอดภัยกว่าการใช้ยาที่ขายออนไลน์
ไม่มีหมอหรือเภสัชที่ไหนขายยาทำแท้งออนไลน์หรอกนะคะ เราไม่อยากให้คุณผู้หญิงจนทางออก จนต้องเลือกใช้วิธีนั้น เราหวังว่าประสบการณ์ วิธีการที่เราจะแชร์ จะเป็นประโยชน์ต่อคนที่ยังไม่รู้ คนที่หมดหนทาง จนต้องใช้วิธีทำร้ายตัวเอง จะเรียกว่าชี้แนะ ก็ไม่ผิดนะคะ แต่เรามั่นใจว่าชี้ทางที่ปลอดภัยและถูกกฎหมาย ถ้าการชี้แนะในครั้งนี้ สามารถช่วยคนที่ไร้ที่พึ่ง ไร้กำลังใจและหนทางจริงๆ ถ้ามันช่วยให้เค้าไม่เลือกวิธีที่ทำร้ายตัวเค้าเอง เรายินดีแชร์ค่ะ เพราะตอนเราหาข้อมูลเองคนเดียว รู้สึกเคว้งมาก เราจะทำยังไงเป็นอย่างแรก จะอันตรายมั้ย เจ็บมากมั้ย ทำเสร็จเป็นยังไง กลัวไปหมด ตอนนั้นไม่มีหนทางว่ามันจะออกมาดีเลย เกิดความกังวลเพราะความไม่รู้ ไม่อยากให้คนอื่นเป็นแบบเรา เลยเลือกที่จะออกมาแชร์ประสบการณ์ค่ะ
เอาล่ะ ได้เวลาเข้าสู่เรื่องราว และวิธีการในการทำซักทีนะคะ ว่ามันเป็นยังไง? ตอนรู้ตัวว่าท้องทำอะไรเป็นอย่างแรก? ขอเล่าความผิดพลาด และบทเรียนในครั้งนี้หน่อยนะคะ
ก่อนอื่น เราประจำเดือนมาไม่ปกตินะคะ บางครั้งมาๆขาดๆ มาไม่เป็นเวลา และเคยขาดไปนาน2เดือน ขาดบ่อยด้วย แต่ตอนนั้นยังไม่มีแฟน เลยไม่มีความกังวลเรื่องท้อง เราก็ปล่อยไปจนกว่ามันจะมาเอง แต่ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ มีแฟนค่ะ คนแรกในชีวิต (แหะๆ แฟนคนแรกตอนเกือบจะจบมหาลัยอยู่แล้ว) นั่นแหละค่ะ เป็นแฟนคนแรก เราคิดน้อยไป ป้องกันไม่ดีพอ ก็เลยพลาดจนทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา ข้ามรายละเอียดตรงนี้ไปดีกว่า เล่าไปคงไม่ได้อะไร แหะๆ
พอรู้ว่าท้องนะคะ คือเราประจำเดือนไม่ปกติอยู่แล้ว เดือนแรกไม่มา ก็ยังไม่เอะใจอะไร แต่พอผ่านไป2เดือน ครั้งนี้มองว่าไม่ปกติแล้ว เพราะมันมีเรื่องอย่างว่าเกิดขึ้นมาแล้ว เลยกังวลค่ะ แต่ก่อนมั่นใจเพราะไม่มีแฟน แต่ตอนนี้ไม่ใช่ละ คิดไปเยอะมาก จะจริงมั้ย ท้องจริงหรอ กังวลไปหมด ไม่กล้าแม้แต่ซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจเลยตอนนั้น แต่สุดท้าย ปล่อยไว้ไม่ได้ละ ต้องรู้ตัวให้ไวที่สุด ต้องหาทางออกให้ดีก่อนที่จะสายไป หรือถ้าไม่มาก็จะได้เลิกกังวลซักที แต่ก็ นั่นแหละค่ะ ท้อง!
ก่อนหาข้อมูล นอนเครียดไป3วัน กักตัวเองในห้อง ไม่มีความกล้าที่จะเจอหน้าพ่อแม่ด้วยซำ้ และไม่บอกใครทั้งนั้น นอกจากแฟน เพราะเราอยากรู้ว่าเค้าจะคิดยังไง สรุปอึกอักทั้งคู่ เค้าเหมือนจะไม่เชื่อ ถามตลอดว่ามันเป็นครั้งแรกเลยนะ ติดจริงๆหรอ ไม่รู้ในหัวเค้าคิดอะไรอีกบ้าง แต่ดูจากสีหน้า คงกังวลไม่ต่างจากเราหรอก ยังดีที่ไม่ปฏิเสธว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง การตัดสินใจร่วมกันในครั้งนี้ ไตร่ตรองดีแล้ว เอาล่ะ หาข้อมูลต่อ
ตอนแรกนะคะ หาเจอแต่วิธีที่ไม่ปลอดภัย ยาเถื่อน ยาขับเลือด แต่ความรู้ตรงนี้เรามีอยู่แล้ว รู้ว่ามันไม่ปลอดภัย ไม่เคยคิดที่จะทำเลย จนนึกถึงเว็บไซต์นึงที่เคยได้ใบปลิวมาตอนเรียน เว็บนี้นะคะ เลิฟแคร์
https://www.lovecarestation.com/?gclid=CjwKCAjwoZWHBhBgEiwAiMN66Vi2mjoUpSIsSDznOgN5sfFiq4byxlwhAgZD9jra05CihkzTPX4HtxoCVBQQAvD_BwE
สำหรับปรึกษาปัญหาท้องไม่พร้อม มีคนพร้อมรับฟังเรื่องราวของเรา ถ้าอยากจะเล่าให้เค้าฟัง มีระบบคุยกับเจ้าหน้าที่ส่วนตัวด้วยนะคะ เป็นห้องแชทส่วนตัว ตอบโดยผู้ที่มีความรู้เรื่องนี้โดยเฉพาะ และไม่เปิดเผยข้อมูล ไม่มีการระบุตัวตน เล่าแบบไม่รู้ว่าเราเป็นใคร
แต่ห้องแชทส่วนตัว เปิดให้คุยเวลา 16.00-00.00น.
หลังจากปรึกษาเว็บไซต์นะคะ เค้ามีถามอายุครรภ์ เพื่อที่จะบอกได้ว่าควรใช้วิธีการไหน และบอกว่าควรไปทำที่คลีนิคไหน ไปยังไง ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เค้าแนะนำหมดค่ะ
*ถ้าอายุครรภ์น้อยกว่า9 สัปดาห์ จะใช้วิธีทานยานะคะ ไปรับยาที่คลีนิค เตรียมเงินให้พร้อม เว็บจะบอกว่าเตรียมไปกี่บาท ค่าอะไรบ้าง ทานยาภายใต้การควบคุมของหมอค่ะ
*ถ้าอายุครรภ์9-12 สัปดาห์ จะใช้วิธีการดูดโดยใช้กระบอกสุญญากาศค่ะ ซึ่งเราทำวิธีนี้ เดี๋ยวบอกว่าเค้าทำอะไรกับเราบ้างนะ ขอคั่นด้วยข้อมูลคลีนิคที่เปิดให้บริการก่อนนะคะ
ก่อนอื่นนะคะ หากคุยกับทางเว็บไซต์เลิฟแคร์แล้ว ไม่มีความพร้อมเรื่องเงิน เค้าจะแนะนำให้เราโทรไปสอบถามที่เบอร์ 1663 สำหรับคนที่ท้องไม่พร้อม สามารถปรึกษาที่เบอร์นี้ได้เหมือนกันค่ะ เค้าเป็นสายด่วนที่ทำงานร่วมกับมูลนิธิในเรื่องแบบนี้โดยเฉพาะ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.) ค่ะ เชื่อถือได้แน่นอนค่ะ
แต่เค้าจะช่วยยังไงเราไม่ทราบรายละเอียดนะคะ เพราะเราไม่ได้โทรไป เราไปคลีนิคที่เว็บไซต์บอกตั้งแต่แรก เพราะที่นั่นไปง่าย ไม่ไกลจากเรา เรากับแฟนรับผิดชอบร่วมกันเรื่องค่าใช้จ่าย เลยจ่ายได้ เราเลยไม่ทราบว่า 1663 ช่วยเหลือแบบใดบ้าง คนที่ไม่พร้อมเรื่องเงิน โทรสอบถามได้เลยนะคะ ไม่ต้องกังวลค่ะ เค้ามีทางออกที่ดีให้คุณแน่นอนค่ะ
อันนี้เป็นข้อมูลเครือข่ายอาสา RSA Thai นะคะ
มีข้อมูลหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ และรายชื่อคลีนิคต่างๆที่อยู่ในความดูแลของเครือนี้ และยังเปิดภายใต้กฎหมายที่ถูกต้อง ปลอดภัย และเชื่อถือได้แน่นอนค่ะ
https://www.rsathai.org/networkservice
โอเค มาถึงวิธีการ ว่าทำอะไรบ้างตอนไปที่คลีนิค และบอกอาการหลังทำแบบจริงๆแล้วนะคะ😂😂
พอได้ข้อมูลที่คุยกับเว็บเลิฟแคร์เรียบร้อยแล้ว คือคลีนิคที่เราไป เค้าเปิด8.00-14.00น. นะคะ เราไปตอนบ่าย เพราะตอนเช้าติดเรียนเลยไปได้เวลานั้น ของเราเดินทางโดยบีทีเอสนะคะ แล้วต้องเดินต่อไปอีก แต่ไม่ไกลมากค่ะ เราขอแนะนำคนที่จะไปคลีนิคนี้หน่อยนะคะ ขอเอ่ยซอยเลยละกัน เพราะข้อมูลคลีนิคที่ตั้งตรงนี้ สามารถหาได้อย่างเปิดเผยอยู่แล้ว ซอยสุขุมวิท12ค่ะ อยากบอกว่าอย่าไปกับคนที่ไม่รู้จัก หรือคนแปลกหน้านะคะ ทางที่ดีไปเองได้จะดีมากค่ะ ไปง่าย เปิดแมพเดินไปเองเลย ถ้ามาโดยบีทีเอส ลงทางออก2นะคะ เดินไปจะเจอป้ายชื่อซอย เลี้ยวเข้าไปได้เลยค่ะ ไม่ไกล ซอยไม่เปลี่ยวค่ะ ตรงนี้เป็นย่านดัง พี่วินหน้าซอยก็ไม่ต้องขึ้นจะดีมากค่ะ เพราะถ้าบอกเค้าว่าไปตรงคลีนิคนี้นะ เค้าจะมีท่าทีไม่อยากไป เพราะคนแถวนี้จะรู้ว่าไปทำอะไรค่ะ อย่างที่บอก ยังไม่เป็นที่ยอมรับขนาดนั้น เพราะฉะนั้นเดินไปเองคนเดียวเลยค่ะ ไม่ต้องกลัว
เล่าเยอะเหมือนกันเนอะ แต่เราอยากให้รายละเอียดนิดนึงค่ะ เราเข้าใจคนที่ไปไม่ถูก ไปครั้งแรก หรือไม่รู้จะทำตัวยังไง จะได้ไม่กังวลมากเท่าตอนเราไป
ต่อมาพอเดินไปถึง เดินเข้าไปเลยนะคะ จะเจอป้ายที่บอกว่าให้เดินขึ้นชั้น2เลย โดยชั้นหนึ่งมีเพียงคนขอเช็คบัตรประชาชนแค่นั้นค่ะ เราก็เดินขึ้นไปเลย
(คนที่ให้บริการที่คลีนิคนี้ ส่วนมากเป็นผู้หญิงวัยกลางคนทั้งนั้นเลยนะคะ เป็นผู้ช่วยคุณหมอ ส่วนคุณหมอที่ทำให้จริงๆเป็นผู้ชายค่ะ)
พอเข้าไปนะคะ เค้าจะรู้ว่าเรามาทำอะไร เพราะงั้นไม่ต้องเกร็งมากค่ะ ตั้งแต่เปิดประตูเข้าไป จะมีคนมา
บอกเราเลยว่าไปตรงไหน ยื่นบัตรประชาชนให้เค้าไป เค้าจะกรอกชื่อเรา ถามอายุครรภ์ เสร็จแล้วก็จะมีคนบอกให้ไปรอห้องอัลตราซาวน์ค่ะ เค้าจะตรวจดูความกว้างปากมดลูก (ถ้าเป็นวิธีใช้หลอดดูดแบบเรานะคะ)
มีต่อค่ะ