เราถึง ณ สัทธา อุทยานไทย ก่อนฟ้าจะมืด ดูเหมือนจะราว 5 โมงเย็น เดินทางง่าย สามารถปักหมุดแล้วเปิดระบบนำทางได้ อยู่ห่างจากแยกบางแพไม่มาก ถนนเส้นนี้สามารถไปถึงอำเภอดำเนินสะดวก อัมพวา และจังหวัดสมุทรสงคราม ทะลุออกเส้นพระราม 2 ได้ครับ วันนั้นเราสวนกับหลวงตาบุญชื่นแถวๆ ก่อนเข้าเขตจังหวัดราชบุรี มีพุทธศาสนิกชนเฝ้ารอกราบท่านตลอดรายทาง เราถือว่าค่ำนี้เป็นนิมิตรหมายที่ดี ค่าเข้า 350 บาท ครอบคลุมทั้งการเข้าชมภาคกลางวันและภาคประดับไฟ (หลัง 6 โมงเย็น) รายละเอียดดูได้จากหน้าแฟนเพจ
เราซื้อบัตรรวมทั้งกลางวันและกลางคืน ก็จะได้บัตรมา 1 ใบ ใช้สแกนผ่านประตูเข้าไป และได้แถบผูกข้อมือเพื่อแสดงว่าเป็นแขกที่ซื้อตั๋วเข้าชมภาคกลางคืนด้วย จริงๆ สถานที่ของเขา 42 ไร่ ถือว่ากว้างขวางแต่ก็ไม่กว้างเกินกว่าจะเดินได้ทั่วแบบไม่เหนื่อยมาก ที่บริเวณอาคารทางเข้าหลักจะมีจุดให้เช่าชุดไทยเพื่อใส่ถ่ายรูปสวยๆ ให้เป็นไปตามธีมของอุทยาน เขาจัดสถานที่ไว้ได้อย่างสวยงาม สะอาด และน่าสนใจทุกโซน ไม่ผิดหวังหรอกครับถ้าตัดสินใจซื้อบัตรภาคกลางวันด้วย และถ้าไม่สะดวกภาคกลางคืน จะเข้าชมเฉพาะภาคกลางวันอย่างเดียวก็ยังถือว่า เอาไปโม้ัให้เพื่อนอิจฉาได้เหมือนกัน
.
โซนแรกจะเป็นโซนที่มีการประดับไฟไว้อย่างสวยงาม โดยจะเป็นการจำลองสถานที่สำคัญของประเทศ โดยเน้นเรื่องโบราณสถาน และความงดงามด้านศิลปกรรม
พระบรมรูปทรงม้า และอนุเสาวรีย์สำคัญของไทย
โบราณสถานและพระพุทธรูปตามรูปแบบศิลปะแบบอยุธยา
สุโขทัย
พระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิเพชรตามรูปแบบศิลปะล้านนา
พระพุทธรูปแบบสุโขทัยถูกประดิษฐานในอาคารที่เดาว่าน่าจะจินตนาการต่อมาจากส่วนของอาคารที่หลงเหลืออยู่ของวัดในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และภายในอาคารหลังนี้ (ภาพด้านบน) จะมีการแสดงแสงสีเสียงให้ชมเป็นรอบๆ ด้วย สำหรับพระพุทธรูปในศิลปะอยุธยา และล้านนา (พระพุทธสิหิงค์ จะถูกจัดให้ประดิษฐานกลางแจ้งภายในขอบเขตปรักหักพังของอาคาร ที่น่าจะจำลองมาอีกครั้งหนึ่ง
.
และอีกโซนที่น่าสนใจคือโซนหมู่เรือนไทยสี่ภาค เรานึกไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวฟาร์มจิมทอมสันที่นครราชสีมา ซึ่งมีการจัดแสดงเรือนสี่ภาคเช่นกัน แต่เรือนสี่ภาคของที่นี่ อาจเพราะอยู่ใกล้แหล่งไม้เก่า จึงทำให้เรือนแต่ละหลังถูกสร้างสรรให้เหมือนบ้านเรือนที่สามารถอาศัยได้อยู่จริง ทำจากไม้โบราณ โดยถ้าเราสังเกตุจากขนาดของแผ่นไม้กระดานปูพื้น ไม้แผ่นใหญ่กว้างเป็นเมตรขนาดนี้ ไม่สามารถหาที่เป็นไม้ใหม่ได้อีกแล้ว (บริเวณตั้งแต่แยกบางแพมุ่งหน้าดำเนินสะดวก จะมีร้านขายไม้เก่าหรือบ้านเก่าอยู่หลายร้าน คนที่รักไม่เก่าน่าจะชอบ)
.
เรือนไทยสี่ภาค
ภาคกลางคืน
วันนั้นเราเดินลึกเข้าไปถึงหมู่เรือนไทยสี่ภาค นักท่องเที่ยวไม่ค่อยมีเข้าไป ส่วนใหญ่จะรอชมไฟที่โซนหน้าเสียมากกว่า พื้นที่ค่อนข้างร่มคลึ้มไปด้วยต้นไม้ ทำให้เรารู้สึกว่า จริงๆแล้ว มาชมช่วงกลางวันก็น่าจะตื่นตาตื่นใจไปอีกแบบ พอใกล้ 6 โมงเย็นเราพากันเดินย้อนกลับมาเพื่อมุ่งหน้าไปโซนที่มีการประดับไฟ (ซึ่งมันสวนทางกับนักท่องเที่ยวท่านอื่น) และสวนทางกับทิศทางการเดินชมสถานที่ตามที่ทางอุทยานวางแผนไว้ หลายคนเช่าชุด ไม่ก็เตรียมชุดไทยกันมาเอง ต่างเพลิดเพลินกับการถ่ายรูป หลายคนถึงขนาดมีตากล้องส่วนตัว
.
ผมใช้กล้องของสมาร์ทโฟนถ่ายภาพครับ ไม่ได้หยิบขาตั้งกล้องไป (ซึ่งอุทยานเขาไม่อนุญาตให้ใช้ขาตั้งกล้องขนาดใหญ่ ยังไงต้องสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อน) ภาพอาจไม่ชัด และน้อยส์ค่อนข้างเยอะ แต่รวมๆ แล้วประทับใจมาก และคิดว่าคุ้มค่ากับเงิน 350 บาท ด้านในมีซุ้มขายอาหาร ราคาไม่แพง สะดวกทาน รสชาติอร่อย กิจกรรมของเขายังมีเรื่อยๆ ทุกวันพฤหัสฯ ถึงวันอาทิตย์ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก ที่จอดรถกว้างขวาง เดินกลางวันสบาย เดินกลางคืนก็ตื่นตาตื่นใจครับ
.
เราออกจาก ณ สัทธา ราวสองทุ่มนิดๆ ในขณะที่ยังคงเห็นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังสนุกสนานกับการชมไฟและถ่ายรูป อ่อ ด้านในมีห้องน้ำสะอาดหลายจุด ถ้าเข้าชมกลางวัน ก็มีร่มไม้ให้ร่มรื่น และมีอาคารจัดแสดงให้พอเข้าไปรับอากาศเย็นของเครื่องปรับอากาศได้ในกรณีที่อากาศร้อนอบอ้าว พนักงานบริการและแนะนำดีมีกระจายให้บริการอยู่หลายจุดครับ
-------------------
คุณหมูยอ
เดินทาง 16 ธันวาคม 2564
บันทึก 31 ธันวาคม 2564
------------------
[CR] สะพานโยงที่สนามจันทร์ และงานประดับไฟที่ ณ สัทธา อุทยานไทย ตอน 2 ณ สัทธา อุทยานไทย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้