JJNY : ป่วยใหม่3,037 เสียชีวิต25│ดร.อนันต์เตือนอย่าวางใจโอมิครอน│หมูเนื้อแดงพุ่งโลละ200│WHO เตือนสึนามิโควิดถล่มโลก

โควิดไทยวันนี้ ป่วยใหม่ 3,037 ราย เสียชีวิต 25 ราย หายป่วย 3,115 ราย
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3109873
 
 
โควิดไทยวันนี้ ป่วยใหม่ 3,037 ราย เสียชีวิต 25 ราย หายป่วย 3,115ราย
 
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม 2564 รวม 3,037 ราย จำแนกเป็น
 
ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 2,794 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 50 รายผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 81 รายผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 112 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,191,461 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
 
หายป่วยกลับบ้าน 3,115 ราย หายป่วยสะสม 2,137,827 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 33,399 ราย เสียชีวิต 25 ราย
 


ดร.อนันต์เตือนอย่าวางใจข้อมูลใหม่ ‘ติดโอมิครอน’ ต้านเดลตาได้ ชี้ตัวอย่างยังน้อย
https://www.tnnthailand.com/news/covid19/100717/
 
ดร.อนันต์อย่าเพิ่งวางใจหลังมีข้อมูลระบุติดโอมิครอนมีภูมิสู้เดลตาได้ ชี้ตัวอย่างยังน้อยเกินไปก่อนที่จะสรุปผล
 
วันนี้ ( 30 ธ.ค. 64 )ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ไบโอเทค โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
 
ตามข่าว...ข้อมูลจากแอฟริกาใต้บอกว่า ถ้าเราได้วัคซีนแล้วไปติดโอมิครอน ภูมิคุ้มกันต่อเดลตาจะสูงขึ้นจนสู้เดลตาได้ โอมิครอนจึงคล้ายๆเป็นวัคซีนจากธรรมชาติช่วยปราบเดลต้าไปในตัว...ข่าวดีครับ
 
แต่ ข้อมูลจากแอฟริกาใต้ยังมีตัวอย่างที่น้อยเกินไปก่อนจะสรุปใหญ่ขนาดนั้นครับ ทำไมผมถึงคิดอย่างนั้น ลองดูงานวิจัยชิ้นนี้จากทีมฮ่องกงนะครับ ที่เค้ามีผู้ป่วยโอมิครอน 2 คน ที่รับเชื้อเข้ามาตอนช่วงแรก (น่าจะเป็น 2 คน ที่อยู่ในโรงแรมตอนกักตัว แล้วพบว่าติดหากันได้ทางอากาศ และติดโอมิครอนตัวเดียวกัน) โดยคนแรก (OP1) ได้ ไฟเซอร์ ครบ 2 เข็ม ส่วนคนที่สอง (OP2) ได้ โมเดอร์นา ครบ 2 เข็ม คนแรกได้เข็มสองมานานกว่าคนที่ 2 ทีมวิจัยเก็บเลือดทั้ง 2 คน มาเปรียบเทียบกับ เลือดคนที่ได้วัคซีน Pfizer ครบ 2 เข็ม แล้ว ถามคำถามว่า ติดโอมิครอนไปแล้ว ภูมิที่ได้จากโอมิครอนยับยั้งไวรัสสายพันธุ์อื่นๆได้หรือไม่?
 
ผลการทดลองในกราฟด้านล่างน่าสนใจครับ OP1 คือ เคสแรก เหมือนจะถูกกระตุ้นจากโอมิครอนได้ดี เพราะภูมิหลังติดเชื้อสามารถยับยั้งไวรัสทุกสายพันธุ์ได้ดี กรณีเดลต้ายับยั้งดีกว่าคนปกติที่ได้วัคซีนถึง 9.58 เท่า แต่ถ้าดูใน OP2 ที่เห็นชัดคือภูมิต่อโอมิครอนที่ 17.61 เท่า เพราะการติดโอมิครอนย่อมทำให้เค้ามีภูมิต่อไวรัสชนิดนี้มากกว่าคนปกติตรงไปตรงมา... แต่ภูมิในร่างกายของเค้าต่อเดลตาสูงกว่าคนปกติแค่ 1.42 เท่า ซึ่งดูแล้วไม่แตกต่างจาก คนก่อนติดเชื้อครับ แบบนี้ก็แสดงว่าติดโอมิครอนแล้วภูมิต่อเดลต้าก็ไม่ต่างไปจากคนที่ไม่เคยติด?
 
ตัวอย่างงานวิจัยนี้ใช้ n=2 ก็สามารถเห็นความแตกต่างแบบ 50% ได้แล้วครับ ผลจากแอฟริกาใต้ก็ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ ยังมีความรู้สึกว่าข้อมูลยังไม่มากพอที่จะสรุปอะไรใหญ่ๆ มีตัวแปรหลายอย่างที่ยังไม่ได้ควบคุมให้ดีครับ...สำหรับผมงานวิจัยที่ออกมาจากแอฟริกาใต้น่าสนใจ แต่ไม่ถึงกับ อึ้ง!! เหมือนพาดหัวข่าว เพราะภูมิจากการติดเชื้อโอมิครอนยังไงก็กระตุ้นภูมิจากวัคซีนได้ไม่มากก็น้อยครับ ไม่แปลกใจอะไรครับ
 
https://www.facebook.com/anan.jongkaewwattana/posts/5154346207938593
 

 
หมูเนื้อแดงราคาพุ่งโลละ 200 รับปีใหม่! โวย “พาณิชย์” ไม่ช่วยแก้อาหารสัตว์แพง
https://www.thairath.co.th/business/economics/2276685

นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาเนื้อหมูแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 95-96 บาท และยังมีโอกาสขยับขึ้นไปเกิน กก.ละ 100 บาท โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน และภาคเหนือ ที่มีราคาสูงกว่าภาคกลางและกรุงเทพฯ ส่งผลให้ราคาเนื้อหมูหน้าเขียงจะเพิ่มเป็น กก.ละ 200 บาท โดยมีสาเหตุมาจากปริมาณหมูเป็นเข้าสู่ตลาดลดลง เพราะผู้เลี้ยงเลิกเลี้ยงจำนวนมากจากการขาดทุนสะสม ประกอบกับต้นทุนการเลี้ยงหมูยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากราคาอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น 30% 
 
“ราคาที่จำหน่ายนี้ เป็นราคาที่ผู้เลี้ยงพอจะคุ้มทุนบ้าง แต่ไม่ได้มีกำไรเหลือเยอะแยะ เพราะต้นทุนการเลี้ยงเพิ่มขึ้นทั้งหมด ที่ผ่านมาสมาคมขอให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยแก้ปัญหาอาหารสัตว์ราคาแพงไปแล้ว แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือเลย ดังนั้น จะมาขอคุมราคากับผู้เลี้ยงฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะผู้เลี้ยงก็ขาดทุนมานาน เชื่อว่าใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าราคามีโอกาสขึ้นได้อีก โดยเฉพาะภาคเหนือและอีสาน เพราะมีคนเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวเยอะทำให้ความต้องการบริโภคเพิ่ม แต่หลังจากนั้นราคาจะค่อยๆปรับลดลง แต่ก็ยังอยู่ในระดับสูง”

ด้านนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า เบื้องต้นได้ขอความร่วมมือให้ผู้เลี้ยงจำหน่ายให้กับผู้ค้ารายเดิมเป็นลำดับแรก อย่าเพิ่งขายให้กับผู้ซื้อขาจรที่เสนอราคาสูงกว่า และกรมปศุสัตว์จะประชุมเพื่อดูแลปัญหาปริมาณหมูที่เข้าสู่ตลาดลดลง อย่างไรก็ตาม กรมจะกำหนดมาตรการดูแลปริมาณและราคาที่เหมาะสมต่อไป.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่