สวัสดีค่า ไม่นานมานี้เราไปยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาเป็นครั้งแรกค่ะ ยื่นที่ญี่ปุ่น เนื่องจากปัจจุบันเราทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่นค่ะ ก่อนหน้าจะไปยื่นพยายามหาข้อมูล พบกระทู้การยื่นวีซ่าอเมริกาในญี่ปุ่นอยู่บ้าง แต่ยังไม่เคยเจอคนมาแชร์เคสที่เป็นผู้หญิงยื่นขอไปเที่ยวคนเดียว ไปเอง จ่ายเอง เคยเจอแบบไปกับครอบครัวกับสามีคนญี่ปุ่น หรือเป็นนักเรียน/นักศึกษาที่มีสปอนเซอร์ และมีจดหมายเชิญเท่านั้นค่ะ เลยขอมาแชร์ไว้ เผื่อมีคนกำลังหาข้อมูลค่ะ
ข้อมูลเบื้องต้น:
1. อายุ 31
2. โสด
3. มีวีซ่าทำงาน ไม่ใช่ถาวร (แต่เพิ่งต่อวีซ่าทำงานไปอีก 5 ปี)
4. อยู่ญี่ปุ่นมาแล้ว 5 ปี
5. ไม่มีคนรู้จักอยู่อเมริกา และไม่เคยไปหรือยื่นขอวีซ่าอเมริกามาก่อน
เอกสารที่ใช้ไม่ต่างกับที่ทุกคนยื่นค่ะ หลักๆ ที่ต้องมี คือ
1. DS-160
2. Passport ทั้งเล่มเก่า และใหม่ที่มีอายุเหลือ 6 เดือนขึ้นไป
3. สำเนาบัตร Resident Card (หรือบัตรประชาชนสำหรับคนต่างชาติ)
4. รูปถ่าย 1 ใบ
5. ใบยืนยันการนัดสัมภาษณ์
***ที่บังคับมีเท่านี้ค่ะ ข้างล่างนี้คือเราเตรียมเพิ่มไปเอง***
6. ใบรับรองการเสียภาษีจากเขต
7. ใบรับรองที่อยู่อาศัย (ไม่ใช่ทะเบียนบ้าน แค่รับรองว่าเรามีที่พักเป็นหลักแหล่งแน่นอนตามที่อยู่นี้)
8. ใบลาหยุด
9. ใบรับรองการทำงานระบุตำแหน่งและลักษณะสัญญาจ้าง (ของเราเป็นพนักงานประจำค่ะ)
10. สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน
11. แผนการท่องเที่ยว
12. ข้อมูลบริษัทจากหน้าโฮมเพจ พร้อมแนบนามบัตรตัวเองไว้ และ blog post จากบริษัทที่เพื่อนร่วมงานเขียนถึงเรา
13. ใบจองโรงแรม
เรานัดสัมภาษณ์ที่กงศุลโอซาก้าค่ะ จองคิวผ่านทางหน้าเว็บ ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นนัดล่วงหน้าประมาณ 2 วันก็ได้แล้วค่ะ
ไปถึงตามเวลา เจ้าหน้าที่ด้านหน้าตึกก็เช็คชื่อ ขอดูพาสปอร์ตกับให้ถอดแมสก์เพื่อดูหน้า แล้วให้เข้าไปแสกนกระเป๋า ของที่เอามา แต่เราฝากกระเป๋าไว้ที่ตู้ล็อคเกอร์ตรงสถานีรถไฟค่ะ เอาไปแค่เอกสาร กระเป๋าตังค์ และโทรศัพท์ เสร็จจากตรงนี้เรียบร้อยก็ไปที่ชั้น 3 ยื่นตรวจเอกสาร เจ้าหน้าที่คนญี่ปุ่นถามแค่ฉีดวัคซีนครบแล้ว 2 เข็มแล้วใช่ไหม และให้แสกนนิ้วมือเท่านั้นค่ะ จากนั้นก็ไปต่อแถวรอคิวสัมภาษณ์ได้เลย คิวไม่เยอะมากค่ะ เพราะน่าจะจำกัดจำนวนคนต่อวัน และเปิดช่องสัมภาษณ์แค่ช่องเดียว ดังนั้นทุกคนในวันนั้นได้สัมภาษณ์กับผู้สัมภาษณ์คนเดียวกันหมดค่ะ แต่เรายืนต่อแถวแค่สัก 10 นาทีก็ได้สัมภาษณ์แล้วค่ะ
พอถึงคิวเรา เดินเข้าไปเราก็ทักทายก่อนเลยค่ะ หลังจากนั้นผู้สัมภาษณ์ก็ถามเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า ขอดูบัตร Resident Card หน่อยได้ไหม เราก็หยิบให้ไปค่ะ หลังจากตรวจสอบบัตรแล้วก็ถามต่อว่าต้องการคุยเป็นภาษาอังกฤษหรือญี่ปุ่น เราก็เลยตอบเป็นภาษาญี่ปุ่นว่าขอเป็นภาษาอังกฤษค่ะ 5555
เราคิดว่าคนสัมภาษณ์ถามเราไม่เยอะค่ะ เป็นคำถามเบสิคทั่วไปที่หลายๆ คนน่าจะถูกถามเวลาสัมภาษณ์วีซ่าท่องเที่ยว
- ไปทำอะไร
- ไปนานเท่าไหร่
- ทำงานอะไร
- เงินเดือนเท่าไหร่
- ไปที่ไหน
- แต่งงานแล้วหรือยัง
- ไปไหนมาบ้างนอกจากไทยและญี่ปุ่น
- อยู่ญี่ปุ่นมานานเท่าไหร่แล้ว
-ทำงานที่บริษัทนี้มานานเท่าไหร่แล้ว
จากนั้นก็ให้แสกนนิ้วมือ แล้วบอกว่า Approved รอรับเล่มประมาณ 1 สัปดาห์ ไม่หยิบเอกสารอะไรจากแฟ้มออกมาดูเลยค่ะ และเราไม่ได้ยื่นสมัดบัญชีหรือ bank statement ใดๆ ค่ะ ผู้สัมภาษณ์ดูแค่จาก DS-160 ที่กรอกไปจากหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเดียวเลย เราเลยคิดว่าการกรอก DS-160 ให้ชัดเจน ครบถ้วน และตอบคำถามให้ตรงตามข้อมูลที่เรากรอกไป ตอบไม่ตะกุกตะกัก ชัดเจน คือสิ่งที่สำคัญที่สุดค่ะ
หลายๆ คนอาจจะคิดว่า เพราะเราอยู่ญี่ปุ่นยังไงก็น่าจะของ่ายกว่าคนที่อยู่ไทย เพราะยังไงก็ผ่านการแสกนจากการยื่นขอวีซ่าทำงานที่ญี่ปุ่นมาแล้วรอบนึง เพื่อนเราก็บอกมาแบบนั้น แต่ส่วนตัวเราว่าอาจจะมีส่วนนิดเดียว แค่นิดเดียวจริงๆ ค่ะ เพราะก่อนถึงคิวเรา มีผู้หญิงต่างชาติ จะไปเที่ยวคนเดียวเหมือนกัน ทำงานอยู่ญี่ปุ่นเหมือนกัน คำถามก็เหมือนๆ กันเลยค่ะ (ได้ยินเพราะห้องเล็กมาก และไม่มีช่องอื่นเปิดสัมภาษณ์เลย) แต่วีซ่าไม่ผ่านค่ะ เราที่ต่อแถวอยู่เห็นได้ใบสีขาวกลับมาพร้อมเอกสารทั้งหมดมานี่ก็ใจแป้วอยู่เหมือนกัน เพราะเคสเดียวกันเลย แอบเห็นในแฟ้มของคุณคนนั้นก็เตรียมเอกสารมาประมาณนึงเช่นกันค่ะ และตอนกดนัดสัมภาษณ์ เรากดนัดก่อนโอมิครอนเริ่มเข้ามา และก่อนญี่ปุ่นประกาศงดเที่ยวบินเข้าค่ะ แต่วันที่สัมภาษณ์ก็คือเริ่มเจอโอมิครอนในญี่ปุ่นเยอะขึ้น และเที่ยวบินก็ลดลง เลยกังวลเหมือนกันว่าขอไปเที่ยวช่วงนี้จะดูไม่สมเหตุสมผลหรือเปล่า ตัวเล่มถึงผู้สัมภาษณ์จะแจ้งว่าจะได้รับอีก 1 สัปดาห์ แต่ของเราใช้เวลา 3 วันนับจากวันจากวันสัมภาษณ์ก็ได้รับเล่มคืนทางไปรณีย์เรียบร้อยค่ะ
สรุปค่าใช้จ่าย:
-ค่าสมัครวีซ่า 19,200 เยน (180USD) *เรทเงิน 113 เยน
-ค่าส่งเล่มคืนหากวีซ่าอนุมัติ 2,980 เยน
-ค่าฝากกระเป๋าที่ล็อกเกอร์สถานีรถไฟ 400 เยน
ค่าส่งเก็บเงินล่วงหน้าตอนสมัคร หากไม่ผ่านคืนเงินทีหลัง
เราชำระค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทั้งค่าสมัครวีซ่าอละค่าจัดส่งค่ะ
ส่วนของเรามีประมาณเท่านี้ค่ะ เผื่อข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ หากมีคำถาม ถามได้นะคะ จะตอบเท่าที่รู้ค่ะ เพราะที่จริงเราก็เก็บข้อมูลจากการอ่านกระทู้ของหลายๆ คนเช่นกันค่ะ ต้องขอบคุณข้อมูลจากหลายๆ ท่านที่มาตั้งคำถามและท่านที่ตอบด้วยนะคะ ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถเสริมได้ค่ะ
ขอให้คนที่กำลังจะไปสัมภาษณ์โชคดีค่ะ
ยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา (B1/B2) ที่ญี่ปุ่น ช่วงโควิด (ธันวาคม 2021)
ข้อมูลเบื้องต้น:
1. อายุ 31
2. โสด
3. มีวีซ่าทำงาน ไม่ใช่ถาวร (แต่เพิ่งต่อวีซ่าทำงานไปอีก 5 ปี)
4. อยู่ญี่ปุ่นมาแล้ว 5 ปี
5. ไม่มีคนรู้จักอยู่อเมริกา และไม่เคยไปหรือยื่นขอวีซ่าอเมริกามาก่อน
เอกสารที่ใช้ไม่ต่างกับที่ทุกคนยื่นค่ะ หลักๆ ที่ต้องมี คือ
1. DS-160
2. Passport ทั้งเล่มเก่า และใหม่ที่มีอายุเหลือ 6 เดือนขึ้นไป
3. สำเนาบัตร Resident Card (หรือบัตรประชาชนสำหรับคนต่างชาติ)
4. รูปถ่าย 1 ใบ
5. ใบยืนยันการนัดสัมภาษณ์
***ที่บังคับมีเท่านี้ค่ะ ข้างล่างนี้คือเราเตรียมเพิ่มไปเอง***
6. ใบรับรองการเสียภาษีจากเขต
7. ใบรับรองที่อยู่อาศัย (ไม่ใช่ทะเบียนบ้าน แค่รับรองว่าเรามีที่พักเป็นหลักแหล่งแน่นอนตามที่อยู่นี้)
8. ใบลาหยุด
9. ใบรับรองการทำงานระบุตำแหน่งและลักษณะสัญญาจ้าง (ของเราเป็นพนักงานประจำค่ะ)
10. สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน
11. แผนการท่องเที่ยว
12. ข้อมูลบริษัทจากหน้าโฮมเพจ พร้อมแนบนามบัตรตัวเองไว้ และ blog post จากบริษัทที่เพื่อนร่วมงานเขียนถึงเรา
13. ใบจองโรงแรม
เรานัดสัมภาษณ์ที่กงศุลโอซาก้าค่ะ จองคิวผ่านทางหน้าเว็บ ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นนัดล่วงหน้าประมาณ 2 วันก็ได้แล้วค่ะ
ไปถึงตามเวลา เจ้าหน้าที่ด้านหน้าตึกก็เช็คชื่อ ขอดูพาสปอร์ตกับให้ถอดแมสก์เพื่อดูหน้า แล้วให้เข้าไปแสกนกระเป๋า ของที่เอามา แต่เราฝากกระเป๋าไว้ที่ตู้ล็อคเกอร์ตรงสถานีรถไฟค่ะ เอาไปแค่เอกสาร กระเป๋าตังค์ และโทรศัพท์ เสร็จจากตรงนี้เรียบร้อยก็ไปที่ชั้น 3 ยื่นตรวจเอกสาร เจ้าหน้าที่คนญี่ปุ่นถามแค่ฉีดวัคซีนครบแล้ว 2 เข็มแล้วใช่ไหม และให้แสกนนิ้วมือเท่านั้นค่ะ จากนั้นก็ไปต่อแถวรอคิวสัมภาษณ์ได้เลย คิวไม่เยอะมากค่ะ เพราะน่าจะจำกัดจำนวนคนต่อวัน และเปิดช่องสัมภาษณ์แค่ช่องเดียว ดังนั้นทุกคนในวันนั้นได้สัมภาษณ์กับผู้สัมภาษณ์คนเดียวกันหมดค่ะ แต่เรายืนต่อแถวแค่สัก 10 นาทีก็ได้สัมภาษณ์แล้วค่ะ
พอถึงคิวเรา เดินเข้าไปเราก็ทักทายก่อนเลยค่ะ หลังจากนั้นผู้สัมภาษณ์ก็ถามเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า ขอดูบัตร Resident Card หน่อยได้ไหม เราก็หยิบให้ไปค่ะ หลังจากตรวจสอบบัตรแล้วก็ถามต่อว่าต้องการคุยเป็นภาษาอังกฤษหรือญี่ปุ่น เราก็เลยตอบเป็นภาษาญี่ปุ่นว่าขอเป็นภาษาอังกฤษค่ะ 5555
เราคิดว่าคนสัมภาษณ์ถามเราไม่เยอะค่ะ เป็นคำถามเบสิคทั่วไปที่หลายๆ คนน่าจะถูกถามเวลาสัมภาษณ์วีซ่าท่องเที่ยว
- ไปทำอะไร
- ไปนานเท่าไหร่
- ทำงานอะไร
- เงินเดือนเท่าไหร่
- ไปที่ไหน
- แต่งงานแล้วหรือยัง
- ไปไหนมาบ้างนอกจากไทยและญี่ปุ่น
- อยู่ญี่ปุ่นมานานเท่าไหร่แล้ว
-ทำงานที่บริษัทนี้มานานเท่าไหร่แล้ว
จากนั้นก็ให้แสกนนิ้วมือ แล้วบอกว่า Approved รอรับเล่มประมาณ 1 สัปดาห์ ไม่หยิบเอกสารอะไรจากแฟ้มออกมาดูเลยค่ะ และเราไม่ได้ยื่นสมัดบัญชีหรือ bank statement ใดๆ ค่ะ ผู้สัมภาษณ์ดูแค่จาก DS-160 ที่กรอกไปจากหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเดียวเลย เราเลยคิดว่าการกรอก DS-160 ให้ชัดเจน ครบถ้วน และตอบคำถามให้ตรงตามข้อมูลที่เรากรอกไป ตอบไม่ตะกุกตะกัก ชัดเจน คือสิ่งที่สำคัญที่สุดค่ะ
หลายๆ คนอาจจะคิดว่า เพราะเราอยู่ญี่ปุ่นยังไงก็น่าจะของ่ายกว่าคนที่อยู่ไทย เพราะยังไงก็ผ่านการแสกนจากการยื่นขอวีซ่าทำงานที่ญี่ปุ่นมาแล้วรอบนึง เพื่อนเราก็บอกมาแบบนั้น แต่ส่วนตัวเราว่าอาจจะมีส่วนนิดเดียว แค่นิดเดียวจริงๆ ค่ะ เพราะก่อนถึงคิวเรา มีผู้หญิงต่างชาติ จะไปเที่ยวคนเดียวเหมือนกัน ทำงานอยู่ญี่ปุ่นเหมือนกัน คำถามก็เหมือนๆ กันเลยค่ะ (ได้ยินเพราะห้องเล็กมาก และไม่มีช่องอื่นเปิดสัมภาษณ์เลย) แต่วีซ่าไม่ผ่านค่ะ เราที่ต่อแถวอยู่เห็นได้ใบสีขาวกลับมาพร้อมเอกสารทั้งหมดมานี่ก็ใจแป้วอยู่เหมือนกัน เพราะเคสเดียวกันเลย แอบเห็นในแฟ้มของคุณคนนั้นก็เตรียมเอกสารมาประมาณนึงเช่นกันค่ะ และตอนกดนัดสัมภาษณ์ เรากดนัดก่อนโอมิครอนเริ่มเข้ามา และก่อนญี่ปุ่นประกาศงดเที่ยวบินเข้าค่ะ แต่วันที่สัมภาษณ์ก็คือเริ่มเจอโอมิครอนในญี่ปุ่นเยอะขึ้น และเที่ยวบินก็ลดลง เลยกังวลเหมือนกันว่าขอไปเที่ยวช่วงนี้จะดูไม่สมเหตุสมผลหรือเปล่า ตัวเล่มถึงผู้สัมภาษณ์จะแจ้งว่าจะได้รับอีก 1 สัปดาห์ แต่ของเราใช้เวลา 3 วันนับจากวันจากวันสัมภาษณ์ก็ได้รับเล่มคืนทางไปรณีย์เรียบร้อยค่ะ
สรุปค่าใช้จ่าย:
-ค่าสมัครวีซ่า 19,200 เยน (180USD) *เรทเงิน 113 เยน
-ค่าส่งเล่มคืนหากวีซ่าอนุมัติ 2,980 เยน
-ค่าฝากกระเป๋าที่ล็อกเกอร์สถานีรถไฟ 400 เยน
ค่าส่งเก็บเงินล่วงหน้าตอนสมัคร หากไม่ผ่านคืนเงินทีหลัง
เราชำระค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทั้งค่าสมัครวีซ่าอละค่าจัดส่งค่ะ
ส่วนของเรามีประมาณเท่านี้ค่ะ เผื่อข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ หากมีคำถาม ถามได้นะคะ จะตอบเท่าที่รู้ค่ะ เพราะที่จริงเราก็เก็บข้อมูลจากการอ่านกระทู้ของหลายๆ คนเช่นกันค่ะ ต้องขอบคุณข้อมูลจากหลายๆ ท่านที่มาตั้งคำถามและท่านที่ตอบด้วยนะคะ ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถเสริมได้ค่ะ
ขอให้คนที่กำลังจะไปสัมภาษณ์โชคดีค่ะ