สวัสดีสมาชิกชาวพันทิปทุกท่าน..
ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่าสิ่งที่กำลังจะเล่าต่อไปนี้ รายละเอียดบางอย่างยังอยู่ในขั้นตอนของศาล อาจเปิดเผยไม่ได้ทั้งหมด.
เรื่องมีอยู่ว่า..
เมื่อต้นปี 63 ผมและครอบครัวตัดสินใจเปิดกิจการในไทย(โดยผมอาศัยอยู่ในประเทศอเมริกา)
โดยได้จัดหาช่างตกแต่งภายในมาสองเจ้า โดยศึกษามาพอสมควรว่าการใช้ช่างคนเดียวในการตกแต่งอาคารพาณิชย์5ชั้นเป็นความเสี่ยง..
โดยช่างก่อนจะว่าจ้างก็ให้เซ็นเอกสารรับประกันผลงาน ระยะเวลา และจำนวนเงินแบบครบถ้วนสมบูรณ์ มีผลทางกฎหมายทุกอย่าง..
เมื่อเริ่มงานเป็นไปอย่างราบรื่นเพราะมีการจ่ายมัดจำการจ้างงานกว่า 50%ของราคาที่ตกลงกัน..
โดยเริ่มต้นจ้างผู้รับเหมาทั้งสองเจ้าไปพร้อมกัน โดยตกลงให้เริ่มทำงานคนละชั้น เพื่อดูผลงาน..
ผู้รับเหมา A ทำงานดีและรวดเร็วตามกำหนดเวลาที่กำหนดเสมอ เพราะมีช่างทำงานแบบจริงจัง ตลอด24ขั่วโมง..
ผู้รับเหมา b เริ่มงานเวลาเดียวกันแต่คนละชั้น คือทำงานช้ามาก โดยสังเกตุว่างานที่ทำไม่เป็นไปตามตกลง..และมีช่างสับเปลี่ยนเข้ามาทำงานไม่ซ้ำหน้าในทุกวัน..
สรุประยะเวลาที่กำหนด..ช่างA ทำงานเรียบร้อย และ ตรงตามเวลาทุกอย่าง แต่ติดที่ว่าค่าแรงของช่าง A สูงถึงสูงมากกว่าท้องตลาด..แต่ก็ยอมจ่ายเพราะทำงานได้ตามต้องการ
ในขณะที่ช่าง B ทำงานแบบชุ่ยมากอย่างเห็นได้ชัด..เช่นการเดินสายไฟในตัวอาคาร ใช้ท่อน้ำพีวีซีมาใส่สายไฟและติดอยู่ตามผนังด้านนอก ไฟหรี่ติดๆดับๆ..
มีการทักท้วงหลายครั้งเรื่องสเปกของและการทำงานที่ล่าช้า แถมมีการเบิกเงินเพิ่มเติมทุกครั้งที่เข้ามาทำงาน...
และจะมีการทำงานก็ต่อเมื่อเวลาที่เบิกเงินเท่านั้น..แต่เพียงวันสองวัน..และหายไปเป็นอาทิตย์และวนลูปมาเบิกตัง จับนู่นนี่นั้นนิดๆหน่อยๆแล้วก็หายไป..
สรุปแล้วเดือนหนึ่งผ่านไป..งานชั้น5 ที่รับผิดชอบโดนช่าง Aเรียบร้อย สวยงาม ดี ในขณะที่งานชั้น 4 ของช่าง B คือเสร็จเป็นจุดๆไม่ถึง 40%
ทางผมและครอบครัวจึงมีการเรียกผู้รับเหมาเขามาคุย และขอความคืบหน้าที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย...
ทางผู้รับเหมาให้เหตุผลว่าที่งานล่าช้าเพราะช่าง"ของเขา"บางส่วนติดงานที่รับซ้อนเอาไว้...
ผมกับครอบครัวก็เห้ย..แบบนี้ก็ได้หรา...
ที่นี่ทางผมเลยแจ้งเดทไลน์กับช่างBไปว่าควรเสร็จสิ้นในระยะเวลาเท่าไหร่..
เป็นที่มาของการเซ็นเอกสารฉบับที่สอง..
ในขณะนั้นทางช่าง A ก็ได้รับการมอยหมายให้ทำชั้น 1ต่อ เพราะงานชั้น5เรียบร้อย แล้ว..
เรื่องมันเกิดตรงนี้..โดยช่าง Bไม่พอใจที่ผมให้ช่าง Aทำงานต่อ..เพราะเขาคิดว่าผมจะจ้างงานเขาต่อ..ทุกชั้น โดยก่อนหน้านี้มีการพูดคุยตีราคากันคร่าวในการตกแต่งอาคารให้5ชั้น (โชคดีของผมที่ให้ทำแค่ชั้นเดียวก่อน)
ผมจึงบอกเขาไปว่าผมยังมีอีก2ชั้น คือชั้น2-3ที่รอทำอยู่..ช่างคนไหนทำงานเสร็จและเรียบร้อยดี..ผมก็จะจ้างเป็นงานๆไป..เป็นชั้นๆไป..
ตลอดเวลาผมจะได้รับรายงานจากช่าง Aเสมอว่า ไม่ทีมช่างของทาง ผู้รับเหมาBเข้ามาทำงานเลย..ซ้ำร้ายช่างBยังมาจ้างช่างของผู้รับเหมาAไปช่วยงานบางจุด..
และผู้รับเหมาAมีความรู้สึกว่า ผู้รัยเหมาB คือไม่มีความรู้เรื่องตกแต่ง..ออกแบบใดๆเลยด้วยซ้ำ..
ผมก็ฟังแต่ฟังหูไว้หูและให้โอกาสช่างBให้ทำงานของตัวเองให้จบ ;แล้วค่อยว่ากันว่าจะจ้างต่อหรือไม่...ในขณะที่ค่าจ้างกับงานสวนทางกันแบบดิ่งเห
ว..
หมายความว่ามีการเบิกเงินค่าว่าจ้างไปกว่า 80% ในขณะที่งานเสร็จไม่ถึง 50%แถมรายละเอียดคือบิดเบี้ยวไปหมด..เช่นสีที่ต้องการ วัสดุที่ต้องการ..
ทางผมและครอบครัวก็พยายามใจเย็นและจี้แก้ไปตามจุด..ที่ละจุด..หวังว่ามันจะจบ..
แต่...เรื่องมันเกิดหลังจากนี้..
ผมมีการว่าจ้างช่าง Bให้ตีระแนงฝ้า ไว้ซึ่งก็จบเสร็จสิ้นเรียบร้อย ยกเว้นไฟหรี่ที่ยังคงใช้งานไม่ได้..
วันหนึ่งผมได้รับโทรศัพท์จากช่าง A ว่าช่างที่มาตีระแนงฝ้า เข้ามาหน้างานเพื่อจะรื้อถอน ฝ้าออก...
ผมก็เห้ย..เกิดอะไรขึ้น..?!?
คุยกันไปคุยกันมาก็ได้ความว่า ผู้รับเหมาB ว่างจ้างช่างฝ้ามาจากกลุ่มรับเหมาอิสระ ในราคา 8000 รวมของ(โคตรถูกเลย) ในขณะที่เสนอราคามาที่ผม30,000บาท..
ไอ้เรื่องส่วนต่างราคาผมไม่ได้ติดใจอะไร..แต่ประเด็นคือฝ้ามันไม่ตรงตามสเปก..และดูไม่เหมือนที่ตกลงกันไว้..ซึ่งก็ไม่ติด..เรื่องราคา ขอแค่ให้มันจบ..
แต่..กลายเป็นว่าผู้รับเหมา B ไม่จ่ายเงินค่าฝ้าและค่าแรงที่ตกลงให้ช่างฝ้าที่มาทำงาน..เขาเลยจะมาถอดฝ้าของเขาออก...
เรื่องต่อจากนี้จะยิ่งอีรุงตุงนัง..น่าปวดหัวขึ้นเรื่อยๆ...ไว้มาต่อนะครับ 🙏🙏
เมื่อเราต้องสู้กับ18มงกุฎอย่างโดดเดี่ยวและยาวนาน
ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่าสิ่งที่กำลังจะเล่าต่อไปนี้ รายละเอียดบางอย่างยังอยู่ในขั้นตอนของศาล อาจเปิดเผยไม่ได้ทั้งหมด.
เรื่องมีอยู่ว่า..
เมื่อต้นปี 63 ผมและครอบครัวตัดสินใจเปิดกิจการในไทย(โดยผมอาศัยอยู่ในประเทศอเมริกา)
โดยได้จัดหาช่างตกแต่งภายในมาสองเจ้า โดยศึกษามาพอสมควรว่าการใช้ช่างคนเดียวในการตกแต่งอาคารพาณิชย์5ชั้นเป็นความเสี่ยง..
โดยช่างก่อนจะว่าจ้างก็ให้เซ็นเอกสารรับประกันผลงาน ระยะเวลา และจำนวนเงินแบบครบถ้วนสมบูรณ์ มีผลทางกฎหมายทุกอย่าง..
เมื่อเริ่มงานเป็นไปอย่างราบรื่นเพราะมีการจ่ายมัดจำการจ้างงานกว่า 50%ของราคาที่ตกลงกัน..
โดยเริ่มต้นจ้างผู้รับเหมาทั้งสองเจ้าไปพร้อมกัน โดยตกลงให้เริ่มทำงานคนละชั้น เพื่อดูผลงาน..
ผู้รับเหมา A ทำงานดีและรวดเร็วตามกำหนดเวลาที่กำหนดเสมอ เพราะมีช่างทำงานแบบจริงจัง ตลอด24ขั่วโมง..
ผู้รับเหมา b เริ่มงานเวลาเดียวกันแต่คนละชั้น คือทำงานช้ามาก โดยสังเกตุว่างานที่ทำไม่เป็นไปตามตกลง..และมีช่างสับเปลี่ยนเข้ามาทำงานไม่ซ้ำหน้าในทุกวัน..
สรุประยะเวลาที่กำหนด..ช่างA ทำงานเรียบร้อย และ ตรงตามเวลาทุกอย่าง แต่ติดที่ว่าค่าแรงของช่าง A สูงถึงสูงมากกว่าท้องตลาด..แต่ก็ยอมจ่ายเพราะทำงานได้ตามต้องการ
ในขณะที่ช่าง B ทำงานแบบชุ่ยมากอย่างเห็นได้ชัด..เช่นการเดินสายไฟในตัวอาคาร ใช้ท่อน้ำพีวีซีมาใส่สายไฟและติดอยู่ตามผนังด้านนอก ไฟหรี่ติดๆดับๆ..
มีการทักท้วงหลายครั้งเรื่องสเปกของและการทำงานที่ล่าช้า แถมมีการเบิกเงินเพิ่มเติมทุกครั้งที่เข้ามาทำงาน...
และจะมีการทำงานก็ต่อเมื่อเวลาที่เบิกเงินเท่านั้น..แต่เพียงวันสองวัน..และหายไปเป็นอาทิตย์และวนลูปมาเบิกตัง จับนู่นนี่นั้นนิดๆหน่อยๆแล้วก็หายไป..
สรุปแล้วเดือนหนึ่งผ่านไป..งานชั้น5 ที่รับผิดชอบโดนช่าง Aเรียบร้อย สวยงาม ดี ในขณะที่งานชั้น 4 ของช่าง B คือเสร็จเป็นจุดๆไม่ถึง 40%
ทางผมและครอบครัวจึงมีการเรียกผู้รับเหมาเขามาคุย และขอความคืบหน้าที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย...
ทางผู้รับเหมาให้เหตุผลว่าที่งานล่าช้าเพราะช่าง"ของเขา"บางส่วนติดงานที่รับซ้อนเอาไว้...
ผมกับครอบครัวก็เห้ย..แบบนี้ก็ได้หรา...
ที่นี่ทางผมเลยแจ้งเดทไลน์กับช่างBไปว่าควรเสร็จสิ้นในระยะเวลาเท่าไหร่..
เป็นที่มาของการเซ็นเอกสารฉบับที่สอง..
ในขณะนั้นทางช่าง A ก็ได้รับการมอยหมายให้ทำชั้น 1ต่อ เพราะงานชั้น5เรียบร้อย แล้ว..
เรื่องมันเกิดตรงนี้..โดยช่าง Bไม่พอใจที่ผมให้ช่าง Aทำงานต่อ..เพราะเขาคิดว่าผมจะจ้างงานเขาต่อ..ทุกชั้น โดยก่อนหน้านี้มีการพูดคุยตีราคากันคร่าวในการตกแต่งอาคารให้5ชั้น (โชคดีของผมที่ให้ทำแค่ชั้นเดียวก่อน)
ผมจึงบอกเขาไปว่าผมยังมีอีก2ชั้น คือชั้น2-3ที่รอทำอยู่..ช่างคนไหนทำงานเสร็จและเรียบร้อยดี..ผมก็จะจ้างเป็นงานๆไป..เป็นชั้นๆไป..
ตลอดเวลาผมจะได้รับรายงานจากช่าง Aเสมอว่า ไม่ทีมช่างของทาง ผู้รับเหมาBเข้ามาทำงานเลย..ซ้ำร้ายช่างBยังมาจ้างช่างของผู้รับเหมาAไปช่วยงานบางจุด..
และผู้รับเหมาAมีความรู้สึกว่า ผู้รัยเหมาB คือไม่มีความรู้เรื่องตกแต่ง..ออกแบบใดๆเลยด้วยซ้ำ..
ผมก็ฟังแต่ฟังหูไว้หูและให้โอกาสช่างBให้ทำงานของตัวเองให้จบ ;แล้วค่อยว่ากันว่าจะจ้างต่อหรือไม่...ในขณะที่ค่าจ้างกับงานสวนทางกันแบบดิ่งเห
ว..
หมายความว่ามีการเบิกเงินค่าว่าจ้างไปกว่า 80% ในขณะที่งานเสร็จไม่ถึง 50%แถมรายละเอียดคือบิดเบี้ยวไปหมด..เช่นสีที่ต้องการ วัสดุที่ต้องการ..
ทางผมและครอบครัวก็พยายามใจเย็นและจี้แก้ไปตามจุด..ที่ละจุด..หวังว่ามันจะจบ..
แต่...เรื่องมันเกิดหลังจากนี้..
ผมมีการว่าจ้างช่าง Bให้ตีระแนงฝ้า ไว้ซึ่งก็จบเสร็จสิ้นเรียบร้อย ยกเว้นไฟหรี่ที่ยังคงใช้งานไม่ได้..
วันหนึ่งผมได้รับโทรศัพท์จากช่าง A ว่าช่างที่มาตีระแนงฝ้า เข้ามาหน้างานเพื่อจะรื้อถอน ฝ้าออก...
ผมก็เห้ย..เกิดอะไรขึ้น..?!?
คุยกันไปคุยกันมาก็ได้ความว่า ผู้รับเหมาB ว่างจ้างช่างฝ้ามาจากกลุ่มรับเหมาอิสระ ในราคา 8000 รวมของ(โคตรถูกเลย) ในขณะที่เสนอราคามาที่ผม30,000บาท..
ไอ้เรื่องส่วนต่างราคาผมไม่ได้ติดใจอะไร..แต่ประเด็นคือฝ้ามันไม่ตรงตามสเปก..และดูไม่เหมือนที่ตกลงกันไว้..ซึ่งก็ไม่ติด..เรื่องราคา ขอแค่ให้มันจบ..
แต่..กลายเป็นว่าผู้รับเหมา B ไม่จ่ายเงินค่าฝ้าและค่าแรงที่ตกลงให้ช่างฝ้าที่มาทำงาน..เขาเลยจะมาถอดฝ้าของเขาออก...
เรื่องต่อจากนี้จะยิ่งอีรุงตุงนัง..น่าปวดหัวขึ้นเรื่อยๆ...ไว้มาต่อนะครับ 🙏🙏