รีวิว "การทำแท้ง" ครั้งแรกในชีวิต

สวัสดีค่ะ
ขอเกริ่นก่อนนะคะว่าเราโตมาในครอบครัวที่มีปัญหา
พ่อแม่หย่ากันตั้งแต่ก่อนเราเกิด
พอเราเกิดมา แม่ต้องเดินทางไกลเพื่อไปทำงานตลอด
จึงฝากให้ตายายเลี้ยงเรา แม่กลับมาเจอตอนพักงานเท่านั้น
เพราะฉะนั้น เราเข้าใจปมของเด็กที่ครอบครัวมีปัญหาค่ะ
รู้ดีว่าถ้าไม่พร้อมมีลูกแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
เราจึงเลือกทำแท้งเมื่อรู้ตัวว่าไม่พร้อมมีลูก
เพราะไม่ต้องการให้ลูกมีชีวิตลำบากแบบเราค่ะ

เอาล่ะ เกริ่นมานาน มาพูดเรื่องทำแท้งกันนะคะ
ก่อนทำแท้งเราใส่ห่วงคุมกำเนิดมาตั้งแต่ปี 2560
ก่อนหน้านั้นก็กินยาคุมกำเนิดมาตลอด เพราะไม่อยากท้อง
แต่เปลี่ยนมาใส่ห่วงแทนเพราะไม่ต้องลำบากกินยา
ไม่ต้องอารมณ์แปรปรวน/น้ำหนักขึ้นเพราะฮอร์โมนในยา
ทีนี้ ปีนี้ปี 2564 แปลว่าอีกไม่กี่เดือนห่วงอายุครบ 5 ปีแล้ว
เราเคยถาม รพ. หลายแห่งแล้วว่าควรเปลี่ยนห่วงเลยไหม
แล้วทุก รพ. ก็บอกว่าให้รอถึงวันหมดอายุค่อยมาเปลี่ยน
เราจึงยังไม่ได้เปลี่ยนห่วง

ต่อมา เมื่อสองวันก่อน (วันศุกร์)
เรานับได้ว่าขาดประจำเดือนมาแล้ว 2 เดือน
เลยชักรู้สึกว่าไม่ปกติแล้ว ไม่ควรขาดไปนานขนาดนี้
ตอนหมดเดือนแรกยังไม่เอะใจ คิดว่าอาจจะมาช้าเฉยๆ
แต่พอครบสองเดือนนี่ ไม่โอเคละ 
ก็เลยไปซื้อแท่งตรวจตั้งครรภ์มาตรวจ
และปรากฏว่าบนแท่งมี 2 แถบโผล่ขึ้นมา
เราก็ใจเสียละว่าท้องจริงๆ เหรอ ทั้งที่มีห่วงเนี่ยนะ
เราก็คุยกับแฟนว่าเอาไงดี 
แล้วก็ตกลงกันว่า ไปตรวจที่ รพ. หรือคลินิกสูติฯ ก่อน
ว่าท้องจริงหรือเปล่า ถ้าท้องก็ไปทำแท้งซะ
เพราะไม่มีใครพร้อมเลี้ยงลูก แค่ทำงานก็เหนื่อยมากแล้ว

เช้าวันถัดมา (วันเสาร์) 
เราโทรไปหา รพ. แห่งนึงในกรุงเทพ
ถามว่ามีบริการอัลตราซาวด์ตรวจการตั้งครรภ์หรือเปล่า
โอเปอเรเตอร์ รพ. บอกว่าไม่มี
ต้องมาวันธรรมดา เพราะหมอไม่เข้าเวรวันเสาร์-อาทิตย์
เราจึงโทรไปหาคลินิกสูติฯ แห่งนึงแทน
ทางคลินิกบอกว่าจองคิวได้เลย เราก็ตกลง
แล้วก็ออกเดินทางไปที่คลินิกนั้น
พอไปถึง ก็กรอกประวัติ ชั่งน้ำหนัก วัดความดันตามปกติ
เราก็ระบุด้วยว่าใส่ห่วงคุมกำเนิดนะ แต่ใกล้หมดอายุแล้ว
พนักงานที่นั่นก็บอกว่า มีโอกาสตั้งครรภ์ได้นะ
เพราะก่อนหน้านี้ก็มีลูกค้าที่ตั้งครรภ์ทั้งที่ใส่ห่วงเหมือนกัน
เราก็หวั่นใจละ แต่ก็นั่งรอคิวตามระเบียบ
รอสักพัก หมอก็ให้เข้าไป
ก็ได้นอนลงบนเตียง เลื่อนกางเกงลงมานิดนึง
แล้วหมอก็ทำการอัลตราซาวด์บริเวณท้องน้อย
แล้วก็ปรากฏว่า
.
.
.

มีตัวอ่อนอยู่จริงๆ



นี่คือภาพตัวอ่อนในท้องเรา
เพื่อการตรวจอย่างละเอียด หมอจึงให้เราไปเปลี่ยนชุด
เพื่อตรวจอัลตราซาวด์ภายในช่องคลอด
เราก็ได้เปลี่ยนไปใส่ผ้าถุง แล้วเข้ามานอนบนเตียงอีกครั้ง
หมอก็ใช้เครื่องถ่างขาง้างจิมิออกเล็กน้อย
แล้วสอดแท่งอัลตราซาวด์หน้าตาคล้ายๆ หลอดไฟเข้าไป
ก็เห็นภาพสามมิติ และได้ยินเสียงหัวใจเต้นด้วย
หมอบอกว่า จากหัวถึงก้นวัดได้ประมาณ 2 เซนติเมตร
มีอายุ 7 สัปดาห์ 5 วัน ก้อนกลมๆ นั่นคือถุงไข่แดง
แล้วทีนี้จะทำยังไงต่อ
เราก็บอกไปว่า คุยกับแฟนแล้วว่าจะไปเอาออก
หมอก็บอกว่าโอเค เดี๋ยวจะเขียนข้อมูลทางการแพทย์ให้
แล้วให้เราเอาไปยื่นที่ รพ. เอง เพราะที่คลินิกไม่รับทำแท้ง
เราจึงโทรไปถาม รพ. ที่โทรไปเมื่อเช้า
ว่ารับทำแท้งวันไหนบ้าง วันนี้เลยได้หรือเปล่า
โอเปอเรเตอร์ รพ. บอกว่ามาได้เลย
ทำแท้งได้ทุกวันภายในเวลา 8.00 - 19.00 น. 
เราก็โอเค ตัดสินใจว่าทำทุกอย่างให้จบในวันเดียวแหละ
ก่อนออกจากคลินิกก็เสียค่าตรวจไปทั้งสิ้น 1450 บาท
แล้วก็มุ่งหน้าไปที่ รพ. แห่งนั้น 

พอไปถึง รพ. ก็ลงเวชระเบียน ระบุว่ามาทำแท้ง
พยาบาลก็พาเข้าไปในแผนกเวชกรรมครอบครัว
แล้วพอเรายื่นใบข้อมูลทางการแพทย์จากคลินิกให้
พยาบาลก็บอกว่า ไม่ต้องใช้ เดี๋ยวอัลตราซาวด์ใหม่
ใช้ข้อมูลจากทาง รพ. เป็นหลัก
เราก็งงสิ
อ้าว ไหนโอเปอเรเตอร์บอกว่าไม่มีอัลตราซาวด์ไง
...สรุปว่าเราเสียตังไปฟรีๆ เพื่อไปตรวจที่คลินิก...อมยิ้ม42

เอาเถอะ ไหนๆ ก็มาแล้ว ต้องทำตามระเบียบนั่นแหละ
ก็นั่งรอคิว พอพยาบาลเรียกก็เข้าไปในห้องอัลตราซาวด์
ก็เหมือนเดิม พยาบาลบอกว่าตัวอ่อนขนาด 2 เซนติเมตร
อายุ 7 สัปดาห์ 5 วัน เหมือนที่หมอในคลินิกบอก
เสร็จแล้วก็ให้จ่ายค่าอัลตราซาวด์ 500 บาท 
แล้วให้นั่งรอด้านหน้า
ผ่านไปสักพัก พยาบาลก็มาเรียกให้ไปเซ็นเอกสาร
พวกใบยืนยันการรักษาอะไรทำนองนั้น
และต้องมีลายเซ็นทั้งของเราและแฟนเรา
มีการคัดสำเนาบัตรประชาชนของเราและแฟนเราด้วย
พอเซ็นเอกสารต่างๆ เรียบร้อย ก็นั่งรอ
แล้วพยาบาลก็เรียกไปตรวจภายในคร่าวๆ
ชั่งน้ำหนัก วัดความดันเสร็จ ก็ขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ถ่างขา
พยาบาลก็ทำการป้ายเนื้อเยื่อภายในจิมิออกมานิดนึง
เอาไปแปะไว้บนแผ่นสไลด์เล็กๆ แล้วนำไปส่องกล้อง
เพื่อดูว่าติดเชื้ออะไรอยู่หรือเปล่า
พอผลออกมาเรียบร้อย ไม่มีการติดเชื้อ 
ก็ได้ไปพบหมอที่จะทำหัตถการให้
พอบอกรายละเอียดทั้งหมดแล้ว
หมอก็บอกว่า ต้องเอาห่วงคุมกำเนิดอันนี้ออกไปด้วย
หลังจากทำแท้งประมาณ 2 เดือนค่อยว่ากันอีกที
ว่าจะใช้วิธีไหนคุมกำเนิดต่อ
เราก็โอเค 
จากนั้น พยาบาลก็ให้ออกมาจ่ายเงิน

ค่าหัตถการทำแท้ง 7500 บาท !!!

ใช่ ฟังไม่ผิด เจ็ดพันห้าร้อยบาทถ้วน !!!
เราอึ้งไปชั่วขณะ แต่ก็หันกลับไม่ได้แล้ว ก็จ่ายไป
จ่ายเงินเสร็จแล้ว พยาบาลก็พาเราไปเปลี่ยนชุด
และบอกแฟนเราว่า ให้รอประมาณ 3 ชั่วโมง
เพราะจะต้องใช้ยานอนหลับด้วย
ทำหัตถการน่ะแค่ 30 นาทีเสร็จ
แต่กว่าเราจะฟื้นน่ะ น่าจะ 1-2 ชั่วโมง 
แฟนก็เข้าใจ และไปหาที่นั่งรอเราข้างนอก รพ. 

ตอนที่เปลี่ยนชุด
จะมีเสื้อหนึ่งตัว ผ้าถุงหนึ่งผืน
และกางเกงในที่ทำจากแผ่นรองซับหนึ่งแผ่น
พยาบาลบอกว่าให้ใส่ไว้ เพราะตอนทำเสร็จจะมีเลือด
แล้วตอนกลับบ้านก็แปะผ้าอนามัยไว้บนกางเกงในแทน
เราก็พยักหน้าเข้าใจ
เปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว พยาบาลก็พาเข้าไปในห้องหัตถการ
ให้ขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ถ่างขา ถกผ้าถุงขึ้น
และถอดกางเกงในแผ่นรองซับลงมา
พยาบาลบอกว่าไม่ต้องกลัว เดี๋ยวจะให้ยานอนหลับก่อน
หลับแล้วถึงจะเอาห่วงออก+ดูดเอาตัวอ่อนออก
แล้วพยาบาลก็รัดข้อมือเรา เพื่อปักเข็มน้ำเกลือ
ในน้ำเกลือนั้นผสมยานอนหลับอยู่ 
ถือว่าพยาบาลที่นี่มือเบามาก เพราะเราไม่เจ็บเลย
ผ่านไปได้สักพัก ไม่ถึง 30 วินาที เราก็วูบไป
.
.
.

เราตื่นมาอีกครั้งบนเตียงในห้องพักฟื้น
เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นับจากตอนที่มาเปลี่ยนชุด
เราก็ถามพยาบาลที่เฝ้าอยู่ว่ากลับได้เลยหรือเปล่า
พยาบาลก็บอกว่า เปลี่ยนชุดแล้วก็มารับยาแล้วกลับได้เลย
ให้ถอดกางเกงในแผ่นรองซับทิ้งลงในถังขยะ
ส่วนผ้าอื่นๆ ทิ้งลงในตะกร้าผ้า 
เราก็พยักหน้าเข้าใจ แล้วเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ
ตอนที่ถอดแผ่นรองซับออกมาก็เห็นคราบเลือดหย่อมนึง
ถือว่าน้อยกว่าที่คิด ตอนแรกนึกว่าจะเต็มแผ่นงี้
พอทิ้งไปแล้ว นำผ้าอื่นๆ ใส่ตะกร้าแล้ว
ก็ใส่กางเกงในของเราที่แปะผ้าอนามัยไว้แล้ว
ใส่กางเกงและเสื้อเรียบร้อยก็ออกมาจากห้องน้ำ
พยาบาลก็พาไปเอาของที่เก็บไว้ในล็อกเกอร์
แล้วพยาบาลก็ให้ยา



คำแนะนำหลังการทำหัตถการ



... และห่วงคุมกำเนิดอันที่เราเคยใส่ ...



จริงๆ ก็อึ้งไปเลยว่าจะเก็บมาให้เราทำไม
แต่ก็นะ เผื่อเอาไปเป็นตัวอย่าง
ตอนปรึกษาการคุมกำเนิดครั้งหน้าละมั้ง
เอาล่ะ พอได้ข้าวของครบแล้ว พยาบาลก็ให้เรากลับได้
กระบวนการทำแท้งที่ รพ. ก็จบลงเพียงเท่านี้...

เป็นยังไงบ้างคะ
ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลยใช่ไหมคะ
ส่วนอาการหลังการทำแท้ง ก็ไม่มีอาการอะไรมากค่ะ
อย่างมากก็ปวดท้องนิดหน่อย คล้ายๆ ตอนมีประจำเดือน
แล้วก็มีเลือดออกมาเล็กน้อย น้อยกว่าปจด. ของเราซะอีก
คงอีกสักสองสามวันก็น่าจะทุเลาลงแล้วค่ะ

ขอขอบคุณที่รับฟังประสบการณ์ของเรานะคะ
ถ้ามีข้อสงสัย หรือมีความคิดเห็นอย่างไร
ก็คอมเมนต์หรือส่งข้อความมาได้เลยนะคะ
ยินดีรับฟังคอมเมนต์/ความคิดเห็นของทุกคนค่ะ
เราหวังว่าประสบการณ์ของเรา
จะมีประโยชน์สำหรับทุกคนนะคะ
สำหรับวันนี้ก็จบลงเท่านี้นะคะ สวัสดีค่ะ อมยิ้ม02
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่