JJNY : ติดเชื้อ3,132 เสียชีวิต28│“ไฟเซอร์”คาดโควิดอาจยืดเยื้อถึง2567│สหภาพรถไฟเบรกย้ายเดินรถทางไกล│เศรษฐาเทใจให้ชัชชาติ

ไทยป่วยโควิดใหม่วันนี้ 3,132 ราย เสียชีวิต 28 ราย
https://www.matichon.co.th/covid19/news_3092541
  
 
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 เผยแพร่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม 2564
รวม 3,132 ราย จำแนกเป็น
ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 2,974 ราย
ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 35 ราย
ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 93 ราย
ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 30 ราย
ผู้ป่วยสะสม 2,159,766 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
หายป่วยกลับบ้าน 3,278 ราย
หายป่วยสะสม 2,096,543 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
ผู้ป่วยกำลังรักษา 43,305 ราย
เสียชีวิต 28 ราย


 
“ไฟเซอร์” คาดโควิด-19 อาจระบาดยืดเยื้อจนถึงปี 2567
https://www.infoquest.co.th/2021/156448

ไฟเซอร์คาดการณ์ในวันศุกร์ (17 ธ.ค.) ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2567
 
นายไมเคิล โดลสเตน หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านวิทยาศาสตร์ของไฟเซอร์เปิดเผยกับบรรดานักลงทุนว่า ไฟเซอร์คาดว่า บางภูมิภาคจะยังคงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากจากการระบาดใหญ่ (Pandemic) ในปีหน้าหรือสองปีข้างหน้า ขณะที่ในประเทศอื่น ๆ นั้น โรคโควิด-19 จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) โดยมีอัตราการติดเชื้อต่ำและสามารถควบคุมได้ในช่วงระยะเวลาเดียวกันดังกล่าว
ไฟเซอร์คาดการณ์ว่า ภายในปี 2567 โรคโควิด-19 จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นทั่วโลก

“สิ่งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อใดและอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับวิวัฒนาการของโรค สังคมใช้วัคซีนและการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด และการกระจายวัคซีนอย่างเท่าเทียมไปยังสถานที่ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ” นายโดลสเตนกล่าว
 
“การเกิดขึ้นของไวรัสสายพันธุ์ใหม่อาจส่งผลให้การแพร่ระบาดใหญ่ยังคงดำเนินต่อไป” เขาระบุเสริม
 
การคาดการณ์ของไฟเซอร์มีขึ้น หลังจากที่มีการตรวจพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งมีการกลายพันธุ์มากกว่า 50 ครั้งเมื่อเทียบกับไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิม โดยได้ลดประสิทธิภาพของวัคซีนสองโดสในการป้องกันการติดเชื้อ และกระตุ้นให้เกิดความวิตกว่า ไวรัสโอมิครอนจะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก

ทั้งนี้ ก่อนตรวจพบสายพันธุ์โอมิครอนนั้น นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวคาดว่า การระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ในสหรัฐนั้น จะสิ้นสุดลงในปี 2565
                                

  
สหภาพรถไฟ ยื่นหนังสือ' ศักดิ์สยาม' เบรกย้ายเดินรถทางไกล ไปสถานีกลางบางซื่อ ชี้ยังไม่พร้อม
https://www.khaosod.co.th/economics/news_6787647

สหภาพรถไฟ ยื่นหนังสือ’ ศักดิ์สยาม’ เบรกย้ายเดินรถทางไกล ไปสถานีกลางบางซื่อ ชี้ความพร้อมไม่เพียงพอ ทำประชาชนจำนวนมกาได้รับผลกระทบ
 
วันที่ 17 ธ.ค.64 นายสราวุธ สราญวงศ์ รักษาการประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) เปิดเผยว่า ได้เข้ายื่นหนังสือถึง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม พิจารณาสั่งการให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ชะลอแผนงานการเปิดให้บริการรถไฟทางไกล(LD) จากสถานีกรุงเทพ(หัวลำโพง) ไปที่สถานีกลางบางซื่อ ในวันที่ 23 ธ.ค. 2564 ออกไปก่อนจนกว่าจะมีความพร้อมสมบูรณ์ เพื่อไม่ให้ประชาชนผู้ใช้บริการจำนวนมากได้รับผลกระทบความเดือดร้อนในการใช้บริการที่ไม่สะดวก และเป็นการปกป้องภาพลักษณ์ในการให้บริการของรฟท. ต่อไป
 
เนื่องจาก การเปลี่ยนแปลงสถานีต้นทาง – ปลายทาง ส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม และชีวิต ของประชาชนหรือชุมชน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 58 ต้องให้มีการศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนหรือชุมชน และรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนและชุมชนที่เกี่ยวข้องก่อน โดย ที่ผ่านมา รฟท. ยังไม่ได้ดำเนินการซึ่งอาจเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญได้
 
รวมทั้งในการเปลี่ยนแปลงให้ขบวนรถไฟโดยสารทางไกลย้ายต้นทางมาที่สถานีกลางบางซื่อ และเดินรถในเส้นทางของโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง นั้นขบวนรถในเส้นทางสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ ประชาชนผู้ใช้บริการจำนวนมากยังไม่ทราบว่า ขบวนรถไม่สามารถหยุดรับ – ส่ง ผู้โดยสารในสถานีรายทางของสายสีแดงได้ เนื่องจากระบบไม่ได้รองรับให้รถไฟจอดหยุดรับ – ส่ง ที่สถานีดังกล่าว ซึ่งแตกต่างกับเส้นทางเดิมที่สามารถหยุดรับ – ส่งผู้โดยสารได้ที่สถานีบางเขน และสถานีหลักสี่
 
ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้จะมีผู้โดยสารมาใช้บริการเป็นจำนวนมากใน การเดินทางกลับภูมิลำเนา หากดำเนินการตามแผนงานดังกล่าวกระทบเป็นวงกว้างกับผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก เนื่องจากการไม่ทราบข้อมูลและทำให้ไม่สามารถใช้บริการรถไฟได้
 
นายสราวุธ กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางยังส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงสภาพการจ้างของผู้ปฏิบัติงานซึ่งเป็นสมาชิก สร.รฟท. ในการเปลี่ยนแปลงสถานที่ทำงานของผู้ปฏิบัติงานซึ่งเป็นสภาพการจ้าง
 
เบื้องต้นทราบว่าสถานที่ทำงาน และพื้นที่ในการเตรียมความพร้อมในการตั้งริ้วขบวนรถ พื้นที่การเตรียมการดูแลซ่อมบำรุงขบวนรถยังไม่มีความพร้อมสมบูรณ์ และที่สำคัญยังไม่ได้มีการเจรจาตกลงกับสหภาพแรงงานฯ ซึ่งเข้าข่ายไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงสภาพการจ้าง ขัดกับพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2543 มาตรา 29 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่