สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (WWI) เป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายในประวัติศาสตร์ส่วนรวม เพื่อตอบแทนสันติภาพที่ไม่ยั่งยืน ผู้คนนับล้านได้เสียชีวิตอย่างน่าอนาถ
ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมามีเหตุการณ์ที่น่าสลดใจและกล้าหาญมากมายเกิดขึ้น แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่เป็นรูปแบบการทำสงครามแบบคลาสสิก มีบางกรณีที่ชะตากรรมของนักรบยังคงเป็นปริศนา

อย่างที่ทหารออสเตรเลีย 85 นายจากกองพันที่ 10 ของยุโรปอันเลื่องชื่อเดินเข้าไปในผืนป่า Celtic Wood ที่น่าขนลุกใน Flanders Fields ใกล้หมู่บ้าน Passchendaele เมื่อวันที่ 9 ต.ค.1917 แต่มีเพียงไม่กี่คนที่รอดชีวิตมาได้ จากรายงานระบุจำนวนผู้สูญหายอยู่ที่ 59 นาย 37 นายมีหมายเลขอย่างเป็นทางการ ที่เหลือหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ชะตากรรมของพวกเขายังคงเป็นหนึ่งในความลึกลับที่ใหญ่ที่สุดที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

มันถูกเรียกว่า " Mystery at Celtic Wood " ยังคงเป็นปริศนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และยังไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนเหล่านี้ หรือมีความจริงเกี่ยวกับเรื่องราวแปลก ๆ นี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ที่ตั้งของ Celtic Wood ในปัจจุบันไม่มีอยู่แล้วรวมถึงต้นไม้ก็ไม่มีหลงเหลือ แม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ แต่มันไม่เป็นที่รู้จักมากนักและหายไปกับหมอกแห่งกาลเวลา

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง การต่อสู้ครั้งเลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นใน West Flanders ของเบลเยียม โคลน เลือด และความตาย สามคำที่อธิบายความสยองขวัญของแนวรบด้านตะวันตกในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งได้ดีที่สุด การระดมยิงอย่างต่อเนื่องทำให้ภูมิประเทศถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ ทุ่งนาและทุ่งหญ้าที่ครั้งหนึ่งเคยอุดมสมบูรณ์ ถูกเปลี่ยนโดยสงคราม จนกลายเป็นขอบฟ้าที่มืดมิดของดวงจันทร์ที่เต็มไปด้วยหลุมอุกกาบาตและไร้ชีวิตใดๆ

การมาถึงของฤดูใบไม้ร่วงในเดือนตุลาคมที่ฝนตก ท้องฟ้ากลายเป็นสีเทาและฝนที่เทลงบนทุ่ง Flanders ที่ความตายครอบงำเปลี่ยนภูมิประเทศให้กลายเป็นแอ่งน้ำที่ไม่อาจข้ามได้ หมอกในตอนเช้าที่หนาทึบและความมืดดำสนิทในตอนกลางคืนกลืนกินภูมิประเทศ ทำให้การเคลื่อนไหวและการทำสงครามแทบเป็นไปไม่ได้  จากรายงานฉบับหนึ่งของเยอรมัน ช่วงเวลานี้อธิบายได้อย่างสมบูรณ์แบบถึงภูมิประเทศที่ยากลำบากที่หมู่บ้าน Poelcappelle และป่า Celtic Wood ในเบลเยียมได้รับ
 
การจู่โจมนี้เรียกว่า Celtic Wood of Flanders เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปฏิบัติการที่ใหญ่กว่าซึ่งปัจจุบันเป็นที่รู้จักในชื่อ Battle of Passchendaele หนึ่งในการต่อสู้ที่โหดร้ายและกินชีวิตมากที่สุดในสงครามทั้งหมด และสำหรับทหารของกองพันที่ 10 ของกองพลที่ 1 ของออสเตรเลีย มีแนวโน้มว่าคนเหล่านี้ได้รับเลือกให้ทำงานที่อันตรายนี้ด้วยเหตุผลจากชื่อเสียงที่น่าเกรงขามของพวกเขา

ชาวออสซี่จากกองพันที่ 10 มักถูกเรียกว่า "Terrible 10th" เป็นชื่อเล่นที่พวกเขาได้รับตลอดช่วงสงคราม โดยกองพันได้พิสูจน์ตัวเองในการสู้รบที่ดุร้าย
ในระหว่างยุทธการ Turkish Gallipoli campaign ซึ่งทหารหลายคนได้รับ Victoria's Crosses เป็นรางวัลสำหรับความกล้าหาญในสถานะทหารผ่านศึก
  
ทหารออสเตรเลียเหล่านี้มีความช่ำชองและแข็งแกร่งในการสู้รบ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานโจมตีตำแหน่งที่ Celtic Wood และในทุ่ง Flanders ที่เต็มไปด้วยโคลน พวกเขาต้องออกไปในความมืดก่อนรุ่งสางและเดินตรงข้ามดินแดนที่ไม่มีมนุษย์ไปยังสนามเพลาะของเยอรมันที่ Celtic Wood สิ่งที่พวกเขากำลังข้ามคือพื้นที่เปิดโล่งเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากผืนป่าได้ถูกทำลายไปแล้วจากการระเบิดด้วยปืนใหญ่อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่เหลืออยู่เป็นเพียงเศษตอไม้จำนวนน้อยเท่านั้น

มันเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ เพราะก่อนไปถึงสนามเพลาะของเยอรมันจริงๆ อีกฝั่งหนึ่งก็ต้องต่อสู้เป็นเวลาถึง 30 นาที ยังมีระเบิดที่ดังสนั่นเป็นระยะๆจากบังเกอร์ของเยอรมันเมื่อได้รับสัญญาณขณะถอยหนี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับปืนกลเยอรมันจำนวนมากและทหารที่ยึดที่มั่นอยู่

นายทหารนำของการโจมตีที่ Celtic Wood คือร้อยโท Frank Scott อายุ 22 ปีจากเมือง Gawler ออสเตรเลีย และคนของเขารวม 85 คนออกเผชิญชะตากรรมอย่างกล้าหาญ ไกลออกไปข้างหน้าประมาณ 180 เมตร (196 หลา) เป็นเป้าหมายสูงสุดของพวกเขา การจู่โจมอย่างรวดเร็วและแรงจะทำให้ชาวเยอรมันสับสน และจะทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายมากที่สุดในระหว่างนี้ แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น การจู่โจมที่มีเดิมพันสูงนี้ ภายหลังมีเพียง 14 คนเท่านั้นที่บาดเจ็บและสามารถกลับไปยังตำแหน่งเดิมพร้อมกับทหารฝ่ายสัมพันธมิตรได้ ส่วนที่เหลือไม่เคยมีใครกล่าวถึงอีกเลย

Charles Bean นักประวัติศาสตร์ชาวออสเตรเลียผู้มีชื่อเสียงได้เขียนไว้ในเชิงอรรถของหนังสือของเขาในปี 1917 เรื่อง “ประวัติศาสตร์อย่างเป็นทางการของออสเตรเลียในสงครามปี 1914-1918 ว่า “การหายไปนั้น ไม่เคยมีการกล่าวถึงอีกเลย ชื่อของพวกเขาก็ไม่อยู่ในรายชื่อนักโทษที่ได้รับในช่วงสงคราม และคณะกรรมาธิการหลุมฝังศพไม่พบร่องรอยของร่างกายหลังจากนั้น ”

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีหลายทฤษฎีที่พยายามจะอธิบายเรื่องนี้ แม้แต่บันทึกสงครามอย่างเป็นทางการยังระบุว่าเป็นเรื่องลึกลับ บางคนบอกว่าชายเหล่านี้ถูกจับและโดนสังหารหมู่โดยชาวเยอรมัน คำอธิบายนี้ไม่เป็นที่ยอมรับส่วนใหญ่เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าไม่มีบันทึกการโจมตีที่ Celtic Wood ในแหล่งข้อมูลของเยอรมัน แม้จะนำไปสู่การคิดที่ว่าอาจเป็นคำสั่งของเยอรมันในช่วงสงครามให้ซ่อนหลักฐานสังหารหมู่นี้ไว้ โดยนักวิชาการกล่าวว่ามีแรงจูงใจที่อาจเป็นไปได้สำหรับการลงโทษที่เลวร้ายจากความสูญเสียของพวกเขา แต่ทฤษฎีการสังหารหมู่ถูกละเลยไปนานแล้ว ไม่เคยมีการค้นพบหลุมศพจำนวนมากในพื้นที่ และไม่มีเบาะแสใดๆ ที่อาจชี้ให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

ในขณะที่การอธิบายความลึกลับมีเหตุผลมากขึ้น โดยอ้างหมอกหนาทึบทำให้การสื่อสารผิดพลาด ทั้งการรายงานและข้อผิดพลาดอื่นๆ ที่พบบ่อยในช่วงสงคราม ล้วนถูกนำมาใช้เป็นเหตุผลที่เป็นไปได้สำหรับการหายตัวไปของทหารออสเตรเลีย บางคนก็บอกว่าต้องโทษ ทุ่งรอบๆ ป่าที่ภูมิประเทศเป็นแอ่งน้ำ เมื่อกองพันที่ 10 เดินเข้าไปจึงหลงทาง ถึงกระนั้น แต่ทุกเรื่องนี้ดูห่างไกลจากความเป็นจริงมากจนไม่อาจสรุปได้

อย่างไรก็ตาม ยังมีทฤษฎีที่แตกต่างออกไปที่แปลก ทั้งสมจริงและเป็นไปไม่ได้ในเวลาเดียวกัน โดยเสนอว่าทหารถูกกำจัดด้วยระเบิดใกล้สนามเพลาะ
ที่ Celtic Wood ในห้วงสงคราม คำอธิบายนี้ระบุว่าการรวมกันของโคลนที่ไหลซึม เหนียว และลึก และการทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่องได้ทำลายร่างเหล่านั้นจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและฝังไว้ในชั้นโคลนด้านล่าง หากคิดตาม ทฤษฎีนี้ก็ไม่ไกลเกินความเป็นไปได้ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานสรุปอย่างเป็นทางการ

ในท้ายที่สุด การหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนี้ นอกจากการวิจัยอย่างละเอียด การย้อนรอยขั้นตอนและทฤษฎีมากมาย ยังไม่มีใครสามารถอธิบายได้อย่างแน่นอน ทุกวันนี้ แม้ซากของทหารที่ตกหล่นจะถูกขุดขึ้นมาทั่วประเทศเบลเยี่ยม และไม่ใช่ของกองพันที่ 10  แต่หากในอนาคตจะปรากฏขึ้น ไม่เพียงไขปริศนาที่หายไป ยังทำให้จิตวิญญาณของพวกเขาได้พักผ่อนอีกด้วย