ช้างในตำนานที่สง่างามที่สุดตัวหนึ่ง
ที่เดินอยู่บนพื้นโลกได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
แม้ว่าจะมีความสูงประมาณ 3 เมตร (9 ฟุต 107⁄64 นิ้ว)
และเป็น ช้างแอฟริกา ที่มีน้ำหนักโดยเฉลี่ย
ประมาณ 6,000 กิโลกรัม (13,227 ปอนด์)
ช้างแอฟริกามีงาทั้งตัวผู้และตัวเมีย
งาของตัวผู้จะมีความสั้นและหนากว่า
ขณะที่งาของตัวเมียจะเรียวยาวและบางกว่า
แต่พวกมันเป็นยักษ์ใหญ่ที่ค่อนข้างอ่อนโยน
ขึ้นชื่อในเรื่องความเอาใจใส่
และสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในครอบครัว
แต่น่าเสียดายที่น้อยคนนักจะได้เห็นพฤติกรรมนี้

รายงาน  Save the Elephants
ที่ทำการวิจัยระหว่างปี 2002 - 2011 โดย  Maisels et al
ได้ประมาณการว่า ประชากรช้างป่าโลกลดลง 62%
เพราะความต้องการงาช้างที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกไกล
เป็นสาเหตุสำคัญในการฆ่าช้างเพื่อเอางา




การที่จำนวนช้างลดลงมาตลอดในหลายปีที่ผ่านมา
หลายประเทศต่างพยายามอย่างมากในการอนุรักษ์ช้าง
Tsavo Trust และ Kenya Wildlife Service
เป็นเพียงไม่กี่แห่งจากอีกหลาย ๆ ประเทศ
ที่มีภารกิจหลักคือ การอนุรักษ์และจัดการสัตว์ป่าในภูมิภาคนี้
ทั้งสององค์กรนี้ได้ร่วมมือกับ Will Burrard Lucas ช่างภาพอังกฤษ
ในการถ่ายภาพสัตว์ป่าในธรรมชาติของ  Tsavo
โดยช่างภาพได้แบ่งปันเรื่องราวการเดินทาง
และการถ่ายภาพต่าง ๆ บน Blog ส่วนตัวของช่างภาพ
โดยให้รายละเอียดและเรื่องราวความพยายามต่าง ๆ นานา
แต่เรื่องราวที่โดดมากที่สุดคือ ราชินีช้างในตำนาน

“ ถ้ามีราชินีช้าง ก็คงต้องเป็นเธอแน่นอน "
คำชื่นชมของ Will Burrard Lucas




รหัสหมายเลข F_MU1 คือ ชื่อเรียกขานเธอ
ช้างตัวโตที่ไม่ธรรมดา เพราะมีงาสองข้างขนาดมหึมา
เธอเป็นหนึ่งในช้างเพียงไม่กี่เชือก
ที่รู้จักกันดีในเรื่องงาช้าง (งาช้างขนาดเติบ)
เพราะเป็นช้างประเภทหนึ่งที่มีคุณสมบัติทางพันธุกรรม
ทำให้มีงาขนาดมหึมาและมีขนาดใหญ่
ค่อนข้างหายากและต้องได้รับการดูแลอย่างดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากข้อเท็จจริงที่ว่า
นักล่าฆ่าช้างเพื่อเอางาเท่านั้น

“ F_MU1 ค่อนข้างผอมและมีอายุมาก
แต่เธอก็ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างสง่างาม
งาของเธอยาวมากจนขูดพื้นต่อหน้าเธอ
เธอเป็นเสมือนของที่ระลึกจากยุคอดีต

F_MU1 อยู่มานานกว่า 60 ปีแล้ว
เธอมีชีวิตที่ค่อนข้างสงบสุข และหลบเลี่ยงอันตราย
อารมณ์ของเธออ่อนโยนและสงบ
บางครั้งเธอก็เข้ามาใกล้ผมมากจนแทบสัมผัสได้
แต่โชคไม่ดีในตอนที่ ผมกำลังถ่ายภาพช้าง
ภัยแห้งแล้งอย่างต่อเนื่องมายาวนาน
ทำให้กลายเป็นเรื่องยากสำหรับช้างที่จะอยู่รอด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งช้างวัยเยาว์และผู้ใหญ่
เพราะอาหารมีน้อยและอาจมีส่วนสำคัญ
ที่ทำให้ราชินีช้างล้มลงในอีกสองสามสัปดาห์ต่อมา

ภาพถ่ายของ Will Burrard-Lucas
ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นว่างาช้างเฒ่า
ที่ดูสง่างามมีอายุยืนยาว กับความสงบสุขของเธอ
และเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความงดงามของชีวิต
ที่นักอนุรักษ์ทุกคนควรปกป้องไว้
ภาพถ่ายเหล่านี้จะอยู่ในหนังสือ
ชื่อ  Land of Giants

เรียบเรียง/ที่มา

https://bit.ly/31RM8BW
https://bit.ly/3yksU3A





ร.อ.สมหวัง สารสาส พ่อเลี้ยงไม้จังหวัดตาก
เห็นว่าญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2
มีเด็กโศกเศร้าเยอะมากเพราะกำพร้าพ่อแม่
อยากให้เด็กเห็นช้างจะได้คลายความโศกเศร้า
กอปรกับสวนสัตว์ญี่ปุ่นไม่มีช้างเหลืออีกเลย
จึงติดต่อสถานทูตญี่ปุ่นว่าจะนำลูกช้างเพศเมีย
ที่เลี้ยงไว้ที่บ้านชื่อ พังคชา อายุ 2 ปี
นำไปมอบให้ถึงที่ญี่ปุ่นด้วยทุนส่วนตัว
โดยนำใส่เรือบรรทุกไปขึ้นที่เมืองโกเบ ญี่ปุ่น

ตอนที่ฮานาโกะมาถึงสวนสัตว์ญี่ปุ่น
มีการประกวดตั้งชื่อช้างที่เด็กญี่ปุ่นชื่นชอบ
ทำให้มีคนหลายแสนคนมาเยี่ยมชมเธอ
จนเป็นเหตุการณ์ Elephant fever ในญี่ปุ่น
และมีการจัดงานวันเกิดให้เธอทุก ๆ ปี

ในปี 1956 ตอนกลางคืน
คนเมาญี่ปุ่นปืนรั้วเข้าไปในปางช้าง
ทำให้ฮานาโกะตกใจแล้วกระทืบคนเมาจนตาย
อีก 4 ปีต่อมา 
คนดูแลสัตว์รายหนึ่งก็ถูกกระทืบจนตาย
ทำให้ขาหน้าทั้งคู่ของเธอถูกตีตรวน
และให้เคลื่อนไหวอยู่แต่ในปางช้าง
เรื่องนี้ยิ่งทำให้เธอเครียดและน้ำหนักตัวลดลง

2 ปีต่อมา 
Yamakawa คนดูแลเธอได้ปลดโซ่ตรวนออก
แล้วดูแลเธออย่างใกล้ชิดในเขตปางช้าง
และเพิ่มพื้นที่ออกกำลังกายให้กับเธอ
ทำให้เธออารมณ์ดีขึ้น น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
และมีสุขภาพดีขึ้นกว่าเดิมมาก
Yamakawa ได้ดูแลเธอเป็นเวลานานกว่า 30 ปี
จนกระทั่งเกษียณอายุและกลายเป็นข่าวดัง

ในหน้าหนังสือพิมพ์และรายการโทรทัศน์
ในญี่ปุ่น ต่างรายงานข่าวว่า
ฮานาโกะ มีอายุ 68 ปีแล้ว 
เธอกลายเป็นช้างพังชรา
ขณะที่ช้างมีฟันเพียง 4 ซี่ตอนวัยเยาว์ 
และตอนโตเต็มที่จะมีฟัน 26 ซี่
แต่ตอนนี้ ฮานาโกะ เหลือฟันล่างเพียง 1 ซี่เท่านั้น
อาหารของเธอ เช่น กล้วย แอปเปิ้ล สตอร์เบอรึ่
จึงถูกสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อป้อนเธอ
เธอยังมีสัตว์แพทย์/ทีมงานดูแลเธอถึง 4 คน

ฮานาโกะมีแฟนคลับติดตามมากมายในญี่ปุ่น
แม้กระทั่งทุกวันนี้ เธอยังเป็นช้างยอดนิยมมาก
เวลาพวกเด็ก ๆ  มาเยี่ยมชมสวนสัตว์

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2559 
ฮานาโกะ ช้างไทยอายุ 69 ปี ได้เสียชีวิตลงแล้ว 
ณ สวนสัตว์อิโนะคะชิระ  สร้างความสะเทือนใจ
ต่อชาวไทยและชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก

เรียบเรียง/ที่มา

http://bit.ly/2L63rR6
http://bit.ly/2nPcsVy
https://bit.ly/30moDQE



เรื่องเล่าไร้สาระ

งาช้างที่นิยมมาทำเครื่องรางของขลัง
มักแกะเป็นรูปสิงห์ นัยว่า มีอำนาจบารมี
รูปเต่า นัยว่า มีอายุยืน ทำให้ศัตรูมึนงงลืมเลือน
เกจิอาจารย์ที่ดังเรื่องงาช้างแกะสลัก เช่น
หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก
อาจารย์เฮง ไพรวัลย์ (ฆราวาส)
บางชิ้นช่างฝีมือแกะแล้วนำมาให้ปลุกเสก
ส่วนเศษผงจากการแกะสลักนิยมนำไปผสม
เป็นส่วนหนึ่งของมวลสารสร้างพระเครื่อง

งาที่ใช้มีทั้งของตัวผู้ตัวเมีย
งาตัวเมียเรียก ขนาย มีน้อยมาก
ส่วนงาที่เชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ในตัว มี

งากำจัด งาช้างที่แตกหักตอนยังมีชีวิตอยู่
เกิดจากการที่ช้างมีอาการตกมันไล่อาละวาด
แล้วเอางามาแทงกับต้นไม้จนงาหักคาต้นไม้

งากำจาย/งากระเด็น ช้างสองตัวต่อสู้กัน
เพื่อแย่งกันเป็นจ่าฝูง/แย่งตัวเมียกัน
จนขิ้นส่วนงาเกิดการแตกหักกระจายหล่นพื้นดิน

ส่วนใหญ่พวกพรานป่า/ควาญช้าง
มักจะเป็นผู้พบเห็นแล้วนำกลับมาบูชา
ถือว่าเครื่องรางของขลัง ประเภททนสิทธิ์
มีดีในตัวมีความศักดิ์สิทธิ์ มีเทพปกปักรักษา
โดยไม่ต้องผ่านการปลุกเสกเลยก็ได้
แต่ถ้าได้นำไปให้ครูบาอาจารย์ปลุกเสกซ้ำอีก
ก็จะดีทุกด้านแล้วแต่พิษฐาน(อธิษฐาน)
เพราะเป็นของหายากและมีคุณค่าอย่างแรง
ทั้งยังปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดจาก
คุณไสย์ คุณผี คุณคนทำของใส่ได้

ของปลอมทำจากเขา/กระดูกสัตว์ กระดูกปลา
แร่ธาตุ ก้อนหิน แก้ว พลาสติค เรซิ่น ฯลฯ
มีปลอมมานานนับหลายสิบปีจนเป็นของเก่า
มืออาภัพส่องให้ตาหลุดก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเก๊
แบบคำจัดความ อาชีพใครอาชีพมัน

งาช้างดำ มีในพิพิธภัณฑ์จังหวัดน่าน

คชกุศ/ตะขอช้าง ไว้กำราบช้างตัวใหญ่กว่าคน
ถือเป็นเครื่องรางของขลัง  นัยอำนาจกำราบมาร

ช้างจะหวงงวง มากกว่า หวงงา
เพราะเป็นท่อสูบน้ำกิน ถ้าเกิดเสียหายมักจะตาย
เวลาสู้กัน ช้างมักจะเก็บงวงไว้ในปากเพื่อป้องกัน

ครั้งหนึ่ง มีสานุศิษย์หลวงปู่ดุลย์ อตุโล
คุยโม้อวด เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมูป่า ฟันจระเข้ งาช้าง
ถึงความศักดิ์สิทธิ์ประสบการณ์ที่เคยเจอ
แล้วถามหลวงปู่ดุลย์ว่า มีความเห็นเช่นใด
คำตอบหลวงปู่ ของสารพัดสัตว์ทั้งนั้น
ไม่เกี่ยวกับทางหลุดพ้นทางพุทธ